Bloomberg ได้ประมาณการต้นทุนของอุปกรณ์ต่างๆ ที่ใช้ในการทำ iPhone 5 รวมทั้งหมดแล้วมีต้นทุนประมาณ $270.1 หรือประมาณ 8,103 บาท (อัตราแลกเปลี่ยน 30 บาท) ซึ่งถ้าหากราคาต้นทุนเท่านี้จริง จะทำให้แอปเปิลมีกำไรถึง 56.4% หากวัดจากราคาขายของไอโฟนเครื่องเปล่าที่ $649

โดยชิ้นส่วนที่มีต้นทุนสูงสุดคือจอสัมผัสที่ราคา $49, แบตเตอรี $42, ค่าซอฟต์แวร์และประกันเครื่อง $35 ทั้งนี้ข้อมูลทั้งหมดเป็นเพียงการประมาณการ และขนาดของแรมก็มีเพียง 512 MB เท่านั้น

ที่มา - The Next Web

ที่งาน SIGGRAPH 2011 ทางกลุ่ม Khronos ผู้ดูแลมาตรฐาน OpenGL ประกาศออกสเปก OpenGL 4.2 อย่างเป็นทางการ โดยมีฟีเจอร์ด้านการประมวผล 3 มิติขั้นสูงหลายอย่างเพิ่มเข้ามา

OpenGL 4.2 จะใช้ได้กับ GPU ที่รองรับ OpenGL 4.0 หรือ Direct3D 11 สิ่งที่ต้องทำมีเพียงแค่การอัพเดตไดรเวอร์เท่านั้น

ค่ายเขียว NVIDIA ประกาศออกไดรเวอร์ที่เป็น OpenGL 4.2 อย่างรวดเร็ว (รายละเอียด) ส่วนค่ายเขียวอีกรายคือ AMD บอกว่าจะออกไดรเวอร์รุ่นเบต้าในเร็วๆ นี้

ทุกคนรู้ว่า RIM กำลังสร้างมือถือตระกูล BlackBerry ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ QNX (แบบเดียวกับ PlayBook) ซึ่งก็คงอีกสักพักว่าจะทำเสร็จ และระหว่างนี้ก็ออกมือถือสาย BlackBerry OS 7 มาขัดตาทัพไปก่อน

ล่าสุดเว็บไซต์ BGR ได้เผยข้อมูลของ BlackBerry Colt มือถือตัวแรกของ RIM ที่จะใช้ QNX ดังนี้

เหตุผลหนึ่งที่ทีวี 3 มิติไม่ได้รับความนิยม ก็คือต้องใช้แว่น 3 มิติที่มีราคาแพง และใช้ร่วมกันระหว่างค่ายไม่ได้

ผู้ผลิตทีวีรายใหญ่ 3 รายคือ Panasonic, Samsung, Sony และบริษัทด้าน 3 มิติอีกรายคือ XpanD ได้ประกาศจับมือสร้างมาตรฐานแว่น 3 มิติ (แบบ active glasses) ทั้งที่สื่อสารผ่านคลื่นวิทยุและคลื่นอินฟราเรด

โครงการนี้ชื่อว่า Full HD 3D Glasses Initiative ซึ่งมี XpanD เป็นผู้ผลักดันคนสำคัญ ผู้บริหารของ XpanD บอกว่ามาตรฐานนี้จะช่วยให้ร้านขายทีวีทำงานง่ายขึ้น จากเดิมที่ต้องมีแว่น 3 มิตินับ 15 รุ่นในสต๊อกเพื่อขายกับทีวีแต่ละยี่ห้อ

วงการเกมเกิดประเด็นร้อนขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อเกมสงครามที่ถูกจับตามองที่สุดในขณะนี้อย่าง Battlefield 3 ของค่าย EA ประกาศว่าจะไม่ลงระบบดาวน์โหลดที่ได้รับความนิยมสูงสุดอย่าง Steam (ของค่าย Valve)

EA ระบุว่าจะพยายามขาย Battlefield 3 ผ่านระบบดาวน์โหลดให้มากร้านที่สุดเท่าที่จะทำได้ (ถึงแม้ว่าจุดหลักจะอยู่ที่ Origin.com ซึ่งเป็นของบริษัทเอง) และตอนนี้มีจำนวนกว่า 100 ร้านแล้ว แต่กรณีของ Steam นั้นมีเงื่อนไขด้านการออกแพตช์และเนื้อหาเสริมที่ต่างออกไปจากค่ายอื่นๆ ซึ่งไม่ตรงกับความต้องการของ EA - FA Forum

กูเกิลออกอัพเดทแอพ Google+ สำหรับระบบปฏิบัติการ iOS วันนี้ โดยเพิ่มการรองรับ iPad และ iPod touch จากที่ก่อนหน้านี้รองรับเฉพาะบน iPhone

คุณสมบัติอื่นนอกจากนี้ก็มีการรองรับ iOS 5 และสามารถปรับแต่งส่วน Huddle ได้เพิ่มเติม อย่างไรก็ตามแอพดังกล่าวก็ยังไม่สามารถโหลดผ่าน iTunes Store ของไทยได้ครับ

ที่มา: GigaOM

Charlie Kindel ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งผู้จัดการทั่วไปในส่วนการพัฒนาระบบนิเวศให้ Windows Phone ประกาศผ่านบล็อกส่วนตัวว่าเขาได้ตัดสินใจลาออกจากไมโครซอฟท์แล้ว หลังจากทำงานกับที่นี่มา 21 ปี โดย Kindel จะออกไปตั้งบริษัทใหม่ซึ่งยังไม่เปิดเผยรายละเอียดในขณะนี้

Kindel กล่าวว่าแม้การลาออกนี้อาจทำให้เขาหยุดใช้ผลิตภัณฑ์ของไมโครซอฟท์ไปหลายตัวด้วยความจำเป็น แต่ไม่ใช่สำหรับ Windows Phone ที่ถือว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดเท่าที่ไมโครซอฟท์เคยผลิตมาแน่นอน

หลังจากที่ประเทศประสบปัญหาเพราะถูกคว่ำบาตรจาก UN เนื่องด้วยปัญหาอาวุธนิวเคลียร์ เกาหลีเหนือก็หันมาหาเงินเข้าประเทศด้วยวิธีการที่หลายคนคงคาดไม่ถึง นั่นก็คือการแฮกเกม ออนไลน์เพื่อหาเงินเข้าประเทศ

โดยเกาหลีเหนือใช้แฮกเกอร์กว่า 30 ชีวิตเขียนโปรแกรมเพื่อเจาะเข้าไปในเซิร์ฟเวอร์เกม และทำการปล่อยโปรแกรม (น่าจะเรียกได้ว่าบอท) เพื่อเล่นเกมแบบอัตโนมัติบนเซิร์ฟเวอร์ ซึ่งประเทศที่ถูกใช้เป็นฐานปฎิบัติการครั้งนี้ก็คือจีน (อาจจะเพราะ IP จากเกาหลีเหนือโดนแบน)

VMware ออก vSphere 5 มาเมื่อเดือนที่แล้ว เพียงไม่กีวันลูกค้าก็เริ่มโวยวายถึงระบบการนับไลเซนส์แบบใหม่ที่จำกัดแรมไว้เพียง 24-48GB ต่อไลเซนส์เท่านั้น จน VMware ต้องยอมถอยและออกมาเปลี่ยนราคาในที่สุด

เอเอ็มดีช่วงหลังแม้จะมีชิปเซ็ต, GPU, และซีพียู เป็นของตัวเองแล้วแต่สิ่งหนึ่งที่ขาดอยู่คือแรมที่ยังต้องอาศัยแบรนด์อื่นๆ อยู่ ล่าสุดเว็บของเอเอ็มดีก็ปรากฏสินค้า AMD Radeon™ Memory for Systems เป็น DIMM สำหรับเครื่องเดสก์ทอปและเซิร์ฟเวอร์ปรากฏขึ้นมาโดยไม่มีการประกาศล่วงหน้า

เอเอ็มดีระบุว่าแรมของเอเอ็มดีเองจะออกแบบมาสำหรับแพลตฟอร์มของตัวเองโดยเฉพาะ โดยแบ่งสินค้าออกเป็นสามตระกูลคือ Entertainment, ULTRA PRO Gaming, และ Enterprise ในหน้าสินค้าตอนนี้มีเฉพาะรุ่น 2GB เท่านั้น

ยังไม่ประกาศราคาแต่ตอนนี้คนสนใจยี่ห้อแรมกันเยอะพอให้เอเอ็มดีต้องลงมาสู้ในตลาดนี้เองเลยหรือ?

ที่มา - AMD

Charlie Wolf นักวิเคราะห์จาก Needham ออกบทประเมินว่า iPad จะยังคงเป็นแท็บเล็ตที่ครองส่วนแบ่งในตลาดสูงไปเรื่อยๆ โดยในสิ้นปี 2011 นี้ iPad จะมีส่วนแบ่งในตลาดราว 85% โดยจะมีส่วนแบ่งลดลงไปเรื่อยๆ เมื่อเวลาผ่านไป แต่ Wolf ก็ประเมินว่าแม้ถึงปี 2020 แล้ว iPad ก็จะยังครองส่วนแบ่งสูงถึง 60% ในตลาดรวม โดยมียอดส่งมอบในปีนั้นถึง 140 ล้านเครื่อง

บริษัทวิจัย VisionMobile ได้รับทุนจากโครงการ Webinos ของ EU ให้ศึกษารูปแบบการจัดองค์กรของโครงการโอเพนซอร์สชื่อดังจำนวน 8 โครงการ

ทาง Vision Mobile ได้พิจารณาปัจจัยต่างๆ หลายอย่าง เช่น สิทธิการเข้าถึงซอร์สโค้ด การกำหนดแนวทางโครงการ ชุมชนนักพัฒนา ฯลฯ แล้วจัดทำดัชนีความเปิดกว้างในการบริหารโครงการ (Open Governance Index) มีคะแนนเต็ม 100

ผลก็คือ Eclipse เป็นโครงการที่มีความ "เปิด" ตามดัชนี OGI มากที่สุดคือ 84% ส่วนโครงการที่ได้คะแนนต่ำสุดคือ Android 23%

คะแนนของทั้ง 8 โครงการ

หนังสือพิมพ์ Bangkok Post รายงานข่าวจากผู้ผลิตพีซีสองยี่ห้อในไทยคือ ASUS กับ Acer เรื่องกำหนดการขายโน้ตบุ๊กแบบ ultrabook เน้นบางเบาในประเทศไทย

คุณพรเทพ วัชรอำนวย จาก ASUS บอกว่าเราจะได้เห็นโน้ตบุ๊ก ASUS UX21 (หนาเพียง 17 ม.ม. - ข่าวเก่า) เริ่มขายประมาณเดือนพฤศจิกายนนี้ และน่าจะกระตุ้นตลาดโน้ตบุ๊กให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง

ชาว Blognone น่าจะมีบัญชี Google+ กันเกือบหมดแล้ว และน่าจะเริ่มคุยกันผ่าน Google+ กันไม่น้อย

อย่างไรก็ตาม ปัญหาก็คือ Google+ นั้นไม่มี vanity/pretty URL แบบ Twitter/Facebook บวกกับนโยบายให้ใช้ชื่อจริง ทำให้เวลาแอดกันไปมามักไม่ค่อยรู้ว่าใครเป็นใครกันแน่

เพื่อแก้ปัญหานี้ เราจึงมี Ask Blognone ตอนนี้มาช่วยเป็นสื่อกลางว่า user แถวนี้ใช้บัญชี Google+ อะไรกันบ้าง จะได้ตามไปแอดกันได้ถูก

กติกาเล็กน้อย

HTC ประกาศเข้าซื้อกิจการบริษัท Dashwire ในสหรัฐ คิดเป็นเงินมูลค่า 18.5 ล้านดอลลาร์ ซึ่ง Dashwire ทำธุรกิจด้านแบ็คอัพข้อมูลจากมือถือ และการซิงก์ข้อมูลต่างๆ ของสมาร์ทโฟน โดย Ford Davidson ผู้ก่อตั้งบริษัทเป็นอดีตพนักงานของไมโครซอฟท์

HTC มีบริการกลุ่มเมฆของตัวเองคือ HTCSense.com อยู่แล้ว และก็บอกชัดว่าจะนำเทคโนโลยีของ Dashwire ไปใช้กับ HTCSense.com

เว็บไซต์ VentureBeat วิเคราะห์ว่าการซื้อ Dashwire นอกจากจะได้คนและผลิตภัณฑ์มาเสริมทัพแล้ว HTC ยังจะได้ "สิทธิบัตร" เข้ามาเป็นอาวุธคุ้มกันกายจากการฟ้องร้องในอนาคตด้วย

แอปเปิลนั้นประกาศชัดเจนว่า iCloud จะมาแทน MobileMe และบริษัทได้เปิดเว็บ me.com/move เพื่อให้นักพัฒนาย้ายบัญชีของตัวเองไปยัง iCloud แล้ว

บริการนี้จะช่วยย้ายข้อมูลส่วนของอีเมล สมุดที่อยู่ ปฏิทิน จาก MobileMe ไปยัง iCloud ส่วนบริการตัวอื่นๆ ที่มีใน MobileMe แต่ไม่มีใน iCloud เช่น iWeb, iDisk, Photo Gallery จะใช้งานได้ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2012

แน่นอนว่าผู้ที่จะใช้ iCloud ได้จะต้องใช้ซอฟต์แวร์รุ่นใหม่ล่าสุดของแอปเปิลเท่านั้น ทั้ง iOS 5 และ Mac OS X Lion สำหรับผู้ใช้วินโดวส์ต้องติดตั้งซอฟต์แวร์ iCloud Control Panel เพิ่มกันเอง

RIM เริ่มทดสอบ BlackBerry App World 3.0 รุ่นเบต้า ของใหม่ในรุ่นนี้คือยกเครื่องส่วนติดต่อผู้ใช้ใหม่หมด หน้าตาจะคล้ายๆ กับ Android Market รุ่นบนมือถือในปัจจุบัน นั่นคือมีแบนเนอร์แสดงแอพแนะนำอยู่ด้านบน และหมวดหมู่แอพต่างๆ ด้านล่าง

ฟีเจอร์อื่นๆ ของ App World 3.0 ก็เหมือนกับหน้าร้านขายแอพของคู่แข่งทั่วไป เช่น การแชร์ผ่าน social network ต่างๆ หรือ ช่องค้นหาที่ช่วยให้หาแอพได้สะดวกตั้งแต่หน้าแรก

ผู้สนใจสามารถดาวน์โหลดได้จาก BlackBerry Beta Zone

ที่มา - Inside BlackBerry

เกมออนไลน์ยอดนิยม World of WarCraft เปิดเผยว่ายอดผู้เล่นเกมตกลงติดต่อกันเป็นไตรมาสที่สอง ซึ่งอาจแปลว่าถึงเวลา "ขาลง" ของเกมออนไลน์ที่นิยมที่สุดในโลกเกมนี้

World of WarCraft เปิดบริการมาตั้งแต่ปี 2004 และฮิตต่อเนื่องมาจนวันนี้ ตอนรุ่งเรืองที่สุดมีผู้เล่น 12 ล้านคน อย่างไรก็ตามรายได้จาก World of WarCraft ยังดีอยู่ โดยเพิ่มขึ้น 27% จากไตรมาสที่สองของปีที่แล้ว และตอนนี้ Blizzard มีสัดส่วนรายได้จากเกมออนไลน์ถึง 37%

Mike Morhaime ซีอีโอของ Blizzard บอกว่าเป็นเรื่องปกติที่มีคนเล่นลดลง และทีมงานนำลังพัฒนาภาคเสริมภาคใหม่ที่จะออกภายในปีนี้

เมื่อคืนที่ผ่านมานี้แอปเปิลได้ปล่อยให้นักพัฒนาดาวน์โหลด iOS 5 Beta 5 Build 9A5288d ไปทดสอบกันแล้ว โดยในคืนเดียวกันนี้ยังได้มีการปล่อยซอฟต์แวร์ต่าง ๆ ที่ต้องใช้ร่วมกับเบต้าตัวดังกล่าวอีก เช่น Xcode และ iTunes

สำหรับสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปในเบต้านี้ส่วนใหญ่จะเป็นการแก้บัก แต่มีผู้เข้าไปพบว่าแอปเปิลได้ซ่อนคุณสมบัติ Speech-to-Text หรือการ "พิมพ์ตามคำพูด" ไว้ โดยคุณสมบัตินี้มีพื้นฐานเป็นระบบ Speech Recognition ของบริษัท Nuance (กดเข้ามาอ่านต่อเพื่อดูภาพประกอบ)

นิตยสาร GQ ได้จัดอันดับ 15 อันดับแรกของคนดังใน Silicon Valley ที่แต่งตัวได้แย่ที่สุด

อันดับที่ 1 ไม่ใช่ใครที่ไหน เขาคือ Mark Zuckerberg ผู้ร่วมก่อตั้งและ CEO ของ Facebook นั่นเอง ส่วนอันดับ 2 คือผู้ที่สวมเสื้อคอเต่าสีดำเป็นเอกลักษณ์ Steve Jobs จาก Apple ตามมาติดๆ ด้วย Bill Gates จาก Microsoft ในอันดับที่ 3 และ Tom Anderson จาก Myspace ในอันดับที่ 7

นอกจากนี้ยังมีอีกหลายคนดังที่เป็นผู้ร่วมก่อตั้งหรือ CEO ของบริษัทใหญ่ๆ เช่น Adobe, Sony Corp, HTC, LinkedIn และ Foursquare เป็นต้น

ไม่รู้ว่าเป็นที่น่าดีใจหรือเสียใจดีสำหรับ Google ที่ไม่มีบุคลากรติดอันดับเลย

ดูรูปการแต่งตัวของแต่ละอันดับได้จากที่มาครับ

วันนี้ตั้งแต่ช่วงเที่ยงหลายๆ คนอาจจะสังเกตเห็นว่า URL ของข่าวใน Blognone นั้นเปลี่ยนไปนะครับ เรื่องนี้ได้ประกาศใน Blognone Group มาหลายเดือนแล้วว่าจะเริ่มใส่ "post slug" ลงในทุกข่าวเพื่อผลทางด้านการค้นหานะครับ

ในแง่ของการใช้งาน URL เดิมทั้งหมดจะยังคงใช้งานได้ และ URL ใหม่จะทนทานต่อความเสียหายของ URL พอสมควร เนื่องจาก URL ภาษาไทยมีปัญหาเสียหายบ่อยเวลานำ URL ไปวางในเอกสารหรือเว็บต่างๆ

ใน Android นั้นปัญหาอย่างหนึ่งที่ถูกแก้ไปอย่างดีคือการทำงานร่วมกันระหว่างแอพพลิเคชั่นที่มีระบบ Intent ที่เป็นตัวเชื่อมระหว่างแอพพลิเคชั่นต่างๆ ได้เป็นอย่างดี เปิดโอกาสให้บริการใหม่ๆ สามารถให้บริการได้เช่นบริการอ่าน QR Code นั้นสามารถเขียนกันคนละแอพพลิเคชั่นจากนักพัฒนาที่ไม่เกี่ยวข้องกันแต่ให้บริการแทนกันได้ และวันนี้กูเกิลก็พยายามนำแนวคิดแบบเดียวกันให้มาอยู่ในเว็บ ในชื่อ Web Intents

กูเกิลยกตัวอย่างการแก้ไขรูปภาพ โดยเว็บฝากรูปดีๆ สักเว็บอาจจะไม่สามารถพัฒนาเว็บสำหรับแก้ไขรูปภาพได้ด้วยตัวเอง เว็บฝากรูปนั้นสามารถเรียก Intent สำหรับแก้ไขรูปภาพขึ้นมาลอยๆ โดยไม่รู้ว่าจะมีเว็บใดให้บริการแก้ไขรูปภาพบ้าง

แต่เดิมกูเกิลมีทั้งบริการ Google Dictionary และ Google Translate ซึ่งมีรูปแบบการแปลแบบทีละคำกับแปลได้ทั้งประโยคตามลำดับ แต่วันนี้ Google Dictionary ถูกปิดตัวลงแล้ว ใครใช้โปรแกรมแปลภาษาที่อิงกับ Google Dictionary ก็คงต้องตั้งค่าใหม่ให้เป็น Google Translate แทนแล้ว

ที่มา - Google Dictionary

HTTPS Everywhere เป็นส่วนเสริมของ Firefox ที่ช่วยให้เราเข้าเว็บผ่านโพรโตคอลเข้ารหัส HTTPS เพื่อความปลอดภัยที่ดีขึ้น ส่วนเสริมนี้ออกมาตั้งแต่ปีที่แล้ว (ข่าวเก่า)

โครงการ HTTPS Everywhere เป็นความร่วมมือของมูลนิธิ Electronic Frontier Foundation กับ Tor Project และมันเดินทางมาถึงรุ่น 1.0 แล้ว

การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในรุ่น 1.0 คือรองรับเว็บไซต์เพิ่มขึ้นอีกมาก (ตัวเลขของ EFF บอกว่ามากกว่า 1,000 เว็บไซต์) ผู้ที่ใช้ Firefox สามารถติดตั้งได้จากลิงก์แรกสุดของข่าวครับ

ที่มา - EFF