Tags:
Node Thumbnail

ในที่สุด Facebook ก็ยื่นเอกสาร Form S-1 กับกลต. สหรัฐเพื่อเตรียมการจดทะเบียนบริษัทเพื่อซื้อขายในตลาดหุ้นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ตรงตามข่าวลือก่อนหน้านี้ โดยในเอกสารระบุว่า Facebook ต้องการเพิ่มทุน 5 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งถือเป็นการระดมทุนมูลค่าสูงที่สุดในกลุ่มบริษัทเทคโนโลยี ถ้าเทียบกับกูเกิลแล้วตอนเข้าตลาดหุ้นในปี 2004 นั้นมีการเพิ่มทุน 1.9 พันล้านดอลลาร์

ในการนี้ซีอีโอ Mark Zuckerberg ได้ทำจดหมายชี้แจงกับผู้ถือหุ้นปัจจุบันระบุว่าหลังจากนี้ Facebook จะยังให้ความสำคัญกับการสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ไม่ได้มุ่งเน้นไปที่การสนใจแต่รายได้และกำไรอย่างเดียว เขายังกล่าวว่าที่ Facebook นั้น วัฒนธรรมองค์กรคือการอยู่กันอย่างแฮกเกอร์ กล่าวคือทุกคนจะพยายามค้นหาช่องโหว่และเข้าไปแก้ไขมันให้เร็วที่สุด การนำเสนอความคิดแล้วชี้ชวนคนอื่นไม่มีประโยชน์เท่ากับการคิดออกมาแล้วพิสูจน์ด้วยการทำให้ทุกคนเห็นนั่นคือสิ่งที่คนใน Facebook ทำกัน

Facebook จะใช้ตัวย่อในการซื้อขายคือ FB มี Morgan Stanley เป็นวาณิชธนกิจหลักในการจำหน่ายหุ้น ทั้งนี้ Facebook ยังไม่มีการประกาศออกแต่อย่างใดว่าจะจำหน่ายหุ้นเพิ่มทั้งหมดกี่หุ้น ทำให้ยังไม่สามารถคาดการณ์ราคาต่อหุ้นได้ รวมทั้งเอกสารยังไม่ระบุว่าจะนำหุ้นเข้าซื้อขายในตลาด NYSE หรือตลาด NASDAQ

ในเอกสาร S-1 ซึ่งต้องเปิดเผยข้อมูลผลประกอบการนั้นมีความน่าสนใจหลายอย่างเกี่ยวกับ Facebook ครับ

  • ปี 2011 Facebook มีรายได้ 3.7 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นมากกว่าเท่าตัวเทียบกับปี 2010 และห้าเท่าเทียบกับ 2009
  • กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 65% เป็น 1 พันล้านดอลลาร์ แต่ถ้าเทียบกับ 2009 เพิ่มขึ้นสี่เท่า
  • มีผู้เข้าชมเป็นประจำต่อเดือน 845 ล้านบัญชี และเป็นผู้ใช้งานทุกวัน 483 ล้านบัญชี
  • มีการกด Like และแสดงความเห็น 2.7 พันล้านครั้งต่อวัน
  • มีรูปถูกอัพโหลดขึ้นไปวันละ 250 ล้านรูป
  • รายได้ 85% มาจากโฆษณา ซึ่งเป็นอัตราส่วนที่น้อยลงเมื่อเทียบกับปี 2010 ที่คิดเป็น 95%
  • รายได้ส่วนใหม่ที่มีการเติบโตมากขึ้นคือการขายไอเท็มในเกม และ Facebook มองว่ายังมีโอกาสเติบโตอีกมาก
  • ซีอีโอ Zuckerberg ถือหุ้นอยู่ 28%
  • ซีโอโอ Sheryl Sandberg มีหุ้นอยู่ไม่ถึง 1%

ที่มา: Forbes และ WSJ

Get latest news from Blognone

Comments

By: b4lmung on 2 February 2012 - 08:02 #379463
b4lmung's picture

Sheryl Sandberg ไม่ใช่ COO เหรอครับ

By: arjin
WriteriPhoneWindows
on 2 February 2012 - 08:04 #379464 Reply to:379463
arjin's picture

แก้แล้วครับ

By: incredibles
iPhoneWindows PhoneAndroidUbuntu
on 2 February 2012 - 09:13 #379468

Mark zuckerberg เป็นคนที่มีแนวความคิดด้านการตลาดที่น่าสนใจมากๆ คือ ไม่สนใจเรื่องเงินมากไปกว่าทำยังไงก็ได้ให้ Facebook มีอยู่ตลอดไป

By: rattananen
AndroidWindows
on 2 February 2012 - 13:19 #379584 Reply to:379468

แน่นอนครับก็เขาเป็น Programmer หนิวิธีคิดเลยต่างจากผู้บริหารส่วนใหญ่อย่างเห็นได้ชัด

By: bozzini
ContributoriPhone
on 2 February 2012 - 09:24 #379471

ควรใช้คำว่า "ระดมทุน" มากกว่าสำหรับการ IPO ครั้งแรก ส่วนคำว่า "เพิ่มทุน" มันเหมาะสมกับหุ้นอยู่ในตลาดมาแล้วต้องการเพิ่มทุนจากผู้ถือหุ้นเดิมเพื่อขยายกิจการ เป็นต้น

By: grenadin
iPhoneWindows PhoneAndroidWindows
on 2 February 2012 - 09:27 #379472
grenadin's picture

ชอบประโยคนี้ แฮะ "การนำเสนอความคิดแล้วชี้ชวนคนอื่นไม่มีประโยชน์เท่ากับการคิดออกมาแล้วพิสูจน์ด้วยการทำให้ทุกคนเห็นนั่นคือสิ่งที่คนใน Facebook ทำกัน" เอาข้อความก๊อปปี้ต่อมาพิมพ์ลงไปก็ถือเป็นการชี้ชวนนะเนี่ย 555

By: narasak
iPhoneAndroidUbuntu
on 2 February 2012 - 10:13 #379484 Reply to:379472

+1
blognone ก็ใช้นโยบายนี้เหมือนกัน ทันสมัยนะเนี่ย

By: ch.krich
iPhoneWindows PhoneAndroidBlackberry
on 2 February 2012 - 10:46 #379492 Reply to:379472
ch.krich's picture

นี่ละครับคือนิสัยพวกแฮคเกอร์ ถ้าจะบอกว่าตัวเองเจ๋ง ก็แสดงให้เห็นซะ (อาจจะแรงไปหน่อย แต่สรุปสั้นๆ คือ อย่าดีแต่ปาก)

By: giogio
Android
on 2 February 2012 - 11:35 #379506
giogio's picture

ระดมทุนตั้ง 5 BM$ นี่ เค้ากะจะเอาไปทำไรมั่งเนี่ย จินตนาการผลิตภัณฑ์ไม่ออกเลยแฮะ

By: touk
iPhoneSymbian
on 2 February 2012 - 11:53 #379512
touk's picture

Morgan Stanley <<<< ชื่อนี้เคยได้ยินมาจากหนังเรื่องไรน้าาา เกี่ยวพวกเศรษฐกิจอเมริกา หุหุ

By: Polwath
ContributoriPhoneWindows PhoneAndroid
on 2 February 2012 - 14:18 #379623 Reply to:379512
Polwath's picture

เป็นบริษัทที่ทำงานเรื่องสถิติด้านธุรกิจ กับการคาดการณ์แนวโน้มธุรกิจหรือเปล่าครับ


Get ready to work from now on.

By: touk
iPhoneSymbian
on 2 February 2012 - 14:56 #379638 Reply to:379623
touk's picture

ตามที่ดูมา คนพวกนี้ที่ทำให้เศรษฐกิจอเมริกาพัง

By: Jonathan_Job
WriteriPhoneUbuntuWindows
on 2 February 2012 - 15:42 #379650 Reply to:379623
Jonathan_Job's picture

หลักๆเป็น Investment Bank ครับ

By: Jonathan_Job
WriteriPhoneUbuntuWindows
on 2 February 2012 - 15:31 #379643 Reply to:379512
Jonathan_Job's picture

หนังแนวนี้น่าจะมี Inside Jobs, Too Big to Fail กับ Margin Call
ถ้าย้อนเก่าๆหน่อยก็มี Rouge Trader (แต่อันนั้นมัน Baring Bank)

ถ้าจะว่าไปแล้ว Citi กับ Goldman Sach น่าจะยิ่งกว่าครับ

By: ginhub
ContributoriPhoneWindows
on 2 February 2012 - 14:45 #379635

Morgan Stanley เป็น "วาณิชธนกิจ" เป็นที่ปรึกษาด้านการระดมทุน/นำบริษัทเข้าตลาดหุ้น (merchant banking) +รับซื้อหุ้นไว้เองด้วย (underwriter)

By: ginhub
ContributoriPhoneWindows
on 3 February 2012 - 01:01 #379934

กำไร 1 พันล้าน
แต่ market cap. คาดกันว่าจะ 1 แสนล้าน
นี่มัน P/E 100 เลยนะ เว่อค่อดๆ