Tags:
Node Thumbnail

หน่วยงานด้านป้องกันการผูกขาดของ EU ซึ่งมีผลงานโดดเด่นมาแล้วในการปรับบริษัทไอทีอเมริกัน ไม่ว่าจะเป็นไมโครซอฟท์หรืออินเทล กำลังผลักดันกฎระเบียบใหม่ที่มีชื่อว่า Digital Agenda ซึ่งปรับนิยามของคำว่า "ผูกขาด" เสียใหม่ จากเดิมที่บอกว่าต้องเป็นเจ้าตลาด (dominant) กลายเป็นมีส่วนแบ่งในระดับที่มีนัยสำคัญ (significant) ก็ถือว่าผูกขาดแล้ว

กฎนี้กำหนดให้ EU เข้าไปแทรกแซงผู้เล่นที่มีส่วนแบ่งตลาดสูงๆ ให้เพิ่มความเข้ากันได้ (interoperability) สำหรับคู่แข่ง เพื่อสร้างการแข่งขัน

ถ้ากฎนี้สามารถออกได้สำเร็จ รายที่คาดว่าจะโดนแน่ๆ คือแอปเปิล ทั้งในกรณีของ Flash และ iTunes/Palm อันโด่งดัง ที่ผ่านมาทาง EU ไม่สามารถทำอะไรแอปเปิลได้เพราะแอปเปิลยังไม่อยู่ในสถานะที่ dominant แต่ถ้าเป็น significant ก็เข้าข่ายชัวร์ๆ

ที่มา - DailyTech

Get latest news from Blognone

Comments

By: icez
ContributoriPhoneAndroidRed Hat
on 6 July 2010 - 10:47 #189498

ข่าวต่อไป "Apple ฟ้องหน่วยงานป้องกันการผูกขาด ทำตัวผูกขาดการป้องกันการผูกขาดซะเอง"

By: KavkaZ
ContributorAndroidUbuntuWindows
on 6 July 2010 - 11:00 #189511 Reply to:189498
KavkaZ's picture

เหมือนทหารผูกขาดอาวุธสงคราม รัฐสภาผูกขาดการออกกฎหมายป่าวครับ


ลายเซ็นยาวเกินไปครับ

By: toandthen
WriterMEconomics
on 6 July 2010 - 15:43 #189602 Reply to:189498
toandthen's picture

พูดได้น่าคิดมากครับ = =

คราวนี้คำว่า Significant คงมานั่งตีความหมายในศาลกันมันส์


@TonsTweetings

By: boynoiz
AndroidSUSEUbuntuWindows
on 6 July 2010 - 10:50 #189502
boynoiz's picture

ชอบรูปข่าว โดนแอปเปิลล่ามโซ่ไว้ อิอิ

By: greendog
ContributoriPhoneAndroid
on 6 July 2010 - 10:55 #189507
greendog's picture

นี่อาจเป็นเหตุผลว่าทำไม Adobe จึงไม่ถอด iPhone packager ออกจากสายผลิตภัณฑ์ของตัวเองซักที ถ้าดำเนินการเป็นผล Adobe อาจเป็นรายต่อไป เพราะ Flash จะมีคุณสมบัติเป็น significant แทน :P

By: blacktop
iPhoneWindowsIn Love
on 6 July 2010 - 11:27 #189520 Reply to:189507
blacktop's picture

Flash จะเป็น significant ตรงไหนหรอครับ ผมนึกไม่ออก

By: greendog
ContributoriPhoneAndroid
on 6 July 2010 - 12:18 #189532 Reply to:189520
greendog's picture

เพราะมันจะกลายเป็นเทคโนโลยีที่เข้าถึงแพลตฟอร์ทส่วนใหญ่ได้มากที่สุดหน่ะครับ การที่ Apple กัน Flash ออกไปก็เหมือนกับเบรค Adobe ไม่ให้กระจายไปอยู่บนระบบปฏิบัติการมือถือใหญ่ๆ ได้ดีที่สุด (ตอนนี้กระจายไปบน Android และกำลังจะไป Windows Phone 7 และ Meego)

ที่ผมแสดงความเห็นว่า Flash จะเข้าข่าย significant คือมันจะกลายเป็นเทคโนโลยีที่มีข้อได้เปรียบอย่างมีนัยยะสำคัญ เพราะจะกลายเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ สำหรับการลงทุนพัฒนาแอพพลิเคชั่นบนมือถือครับ สำหรับด้านผู้ใช้งานทั่วไปคงไม่ได้รู้สึกแตกต่างอะไร

แต่สุดท้ายก็คงต้องเข้าสู่ยุคของ HTML5 หล่ะครับ แต่ Adobe ก็คงทำอะไรสักอย่างเพื่อให้เทคโนโลยีของตัวเองส่งต่อไปยังยุคต่อไปได้

By: mk
FounderAndroid
on 6 July 2010 - 12:38 #189538 Reply to:189532
mk's picture

ผมว่านับส่วนแบ่งตลาด RIA (เฉพาะ RIA) นี่ Flash ถือว่าเข้าข่าย dominant เสียด้วยซ้ำนะครับ (95%) เพราะคู่แข่งอย่าง Silverlight หรือ JavaFX (ยังมีใครสนไหมนี่?) แทบไม่มีส่วนแบ่งตลาดเลย

แต่โอเค ถ้านับกว้างกว่า RIA มันก็จะมีคู่แข่งอย่าง HTML5 เข้ามา ซึ่งมีน้ำหนักพอควร อาจลดน้ำหนักของ Flash ลงมาเหลือแค่ significant

เพียงแต่เรื่องการผูกขาดของ Flash มันไม่ค่อยมีปัญหา เพราะ Adobe ไม่ได้เป็น content provider เอง ทำให้ไม่กีดกันตัว Flash เท่าของแอปเปิล

  • ตัว SDK ก็โอเพนซอร์สอยู่แล้ว และเปิดให้ใช้ tool อะไรก็สร้าง Flash binary ได้ เช่น SWFTools
  • ตัวสเปกก็เปิดในโครงการ Open Screen Project
  • Adobe ไม่ได้กีดกัน Flash Player ตัวอื่น เช่น swfdec หรือ gnash

ถ้าจะโดนกรณีนี้จริงๆ (คือตัวเทคโนโลยี Flash) อย่างเก่ง Adobe ก็เปิดซอร์สของ Flash Player ออกมาบางส่วน (โดยอ้างว่าส่วนที่เหลือไม่ใช่ของตัวเอง) น่าจะเอาตัวรอดได้

ส่วนที่ Flash ผูกขาดมากกว่าคือส่วนของ content เช่น (สมมติ) YouTube อาจโดนสั่งว่าต้องให้บริการวิดีโอแบบอื่นนอกจาก Flash ด้วย ซึ่งตรงนี้คนโดนก็ไม่ใช่ Adobe อยู่ดี

By: Chiron
iPhoneSymbian
on 6 July 2010 - 13:23 #189563 Reply to:189538
Chiron's picture

JavaFX ดูดีจริงๆนะครับ
แต่มาช้ากว่า flash เยอะไปหน่อย
โดยส่วนตัวผมว่า Flash ง่ายกว่าเยอะครับ
FX นี่ดูแล้วงงๆ

ผมวางแผนจะใช้ JAVAFX เป็น UI ของ Desktop App
น่ะครับ สวยดี ไม่รู้จะดีรึปล่าว
ตอนนี้ทำแต่ DB app แถมใช้ delphi มาตลอด

By: pd2002 on 6 July 2010 - 11:39 #189527 Reply to:189507

นึกไม่ออกเหมือนกัน

By: mehn
iPhone
on 6 July 2010 - 10:55 #189508
mehn's picture

เห็นด้วยในแง่การเพิ่ม interoperability
ผู้บริโภคจะได้มีทางเลือกที่ไม่ต้องผูกติดกับสินค้าใดสินค้าหนึ่งมากเกินไป

By: mednoon on 6 July 2010 - 12:02 #189531

คำสั่งสวรรค์

By: JPorsh
iPhoneWindowsIn Love
on 6 July 2010 - 13:03 #189557 Reply to:189531
JPorsh's picture

โอ้ ... +1

By: John
iPhoneWindows PhoneAndroidSymbian
on 6 July 2010 - 15:42 #189600
John's picture

งานนี้ Flash ตายก่อนแอปเปิ้ลหรือเปล่า เพราะกินส่วนแบ่งตลาดเยอะกว่า

By: lancaster
Contributor
on 6 July 2010 - 16:28 #189624

เหมือนหลายคนยังไม่รู้ว่า มีส่วนแบ่งตลาดเยอะไม่ได้แปลว่าผูกขาด มันขึ้นอยู่การกีดกันคนอื่นต่างหาก

By: rabbitch on 6 July 2010 - 17:52 #189652 Reply to:189624

ใช่แล้วการผูกขาด ต้องมีส่วนแบ่งตลาดเยอะและกีดกันคนอื่นไปพร้อม ๆ กัน เพราะถ้ากีดกันคนอื่นแต่ส่วนแบ่งตลาดน้อยก็ผูกขาดไม่ได้

By: mk
FounderAndroid
on 6 July 2010 - 18:03 #189655 Reply to:189624
mk's picture

ก็ไม่เชิงครับ คือมันจะมีส่วนที่วัดด้วยส่วนแบ่งตลาดอยู่ด้วยเหมือนกัน

By: heart
ContributoriPhone
on 6 July 2010 - 18:34 #189664 Reply to:189655
heart's picture

ผูกขาดกับส่วนแบ่ง มันเ้ป็นปัจจัยต่อเนื่องกัน

โดยส่วนตัวผมว่ามันไม่ได้เป็นเรื่องเดียวกันนะครับ

สมมุติมีร้านส้มตำ 5 ร้าน แต่มีร้านนึง ที่คนกินมากเป็นพิเศษ แบบนี้ไม่ได้ถือว่าผูกขาด

แต่หากว่าวันนึง ร้านส้มตำบอกว่า ถ้าจะจอดรถบนถนนเส้นนี้ ต้องกินร้านชั้นเท่านั้น แบบนี้ก็เข้าข่ายผูกขาดไม่ใช่หรอครับ

By: mk
FounderAndroid
on 6 July 2010 - 21:57 #189710 Reply to:189664
mk's picture

อันนี้ออกตัวก่อนว่าผมก็ไม่แม่นนะครับ

คือตาม common sense แล้ว ตัว "พฤติกรรม" การผูกขาดก็เป็นแบบที่คุณว่ามานั่นล่ะครับ

แต่ในเชิงของกฎหมาย กฎระเบียบ หรือกระบวนการทางกฎหมายที่ต่อต้านการผูกขาด เค้าจะต้องดูส่วนแบ่งตลาดมาประกอบด้วย เช่น ถ้าผู้มีส่วนแบ่งตลาด 10% ทำการผูกขาด ก็จะไม่มีใครทำอะไร แต่ถ้าส่วนแบ่งตลาด "มากพอ" (significant ซึ่งแต่ละประเทศ แต่ละอุตสาหกรรมต้องไปนิยามเลขกันเอง) แล้วทำแบบเดิม กฎหมายต่อต้านการผูกขาดถึงจะสามารถบังคับใช้ได้น่ะครับ

By: rattananen
AndroidWindows
on 6 July 2010 - 19:27 #189670

ที Microsoft ยังโดนเรื่องIE ทั้งๆที่ไม่ได้ห้ามลง browser อื่นแท้ๆ
นี่ถ้า Apple ไม่โดนก็แปลก