กลุ่มอุตสาหกรรมดนตรีในสหรัฐฯ ได้เริ่มออกมาเคลื่อนไหวเรียกร้องต่อ Congress เพื่อขอส่วนแบ่งเพิ่มเติมจากร้านมัลติมีเดียออนไลน์อย่าง iTunes ของแอปเปิล
ตัวแทนของกลุ่มฯ ได้กล่าวว่า พวกเขามีสิทธิ์ที่จะได้รับส่วนแบ่งของรายได้จากภาพยนตร์และรายการทีวีที่มีเพลงประกอบจากเจ้าของลิขสิทธิ์เพลงต่างๆ รวมถึงค่าแสดงผลงานเมื่อผู้ใช้โหลดฟังตัวอย่างเพลง 30 วินาที
ทางกลุ่มผู้ผลิตอ้างว่า เมื่อผู้ใช้โหลดตัวอย่างเพลง 30 วินาทีเพื่อฟังใน iTunes ก่อนที่จะตัดสินใจซื้อ แอปเปิลควรจะต้องจ่ายค่านำเสนอผลงานเหล่านี้เช่นเดียวกับเวลาเพลงถูกเปิดในสถานที่สาธารณะอย่างวิทยุหรืองานแข่งกีฬา ซึ่งทางผู้ผลิตได้พยายามต่อรองมาระยะหนึ่งแล้วแต่ไม่เป็นผล จึงเริ่มการเคลื่อนไหวเพื่อขอความเป็นธรรมจาก Congress
David Israelite, CEO ของ National Music Publishers Association ได้กล่าวกับ CNET ว่าเวลาเราดูรายการทีวีผ่านเครือข่ายโทรทัศน์ต่างๆ จะต้องมีการจ่ายค่านำแสดงผลงาน (performance fee) ให้แก่ผู้ผลิตเพลงที่ถูกใช้ประกอบในรายการ ซึ่งในทางกลับกันเมื่อเราดาวน์โหลดรายการเหล่านี้ผ่าน iTunes กลับไม่มีการจ่ายค่านำแสดงผลงานให้กับเจ้าของลิขสิทธิ์เพลง ซึ่งเราต้องการให้กฎหมายระบุให้ชัดเจนว่าจะต้องมีค่าใช้จ่ายในส่วนนี้หรือไม่
ถึงกระนั้น Jonathan Potter, Executive Director ของ Digital Media Association ให้ความเห็นว่า ปัญหาใหญ่อยู่ที่การนิยามว่าการดาวน์โหลดถือเป็นการนำแสดงผลงานหรือไม่ ซึ่งมีประเด็นที่สำคัญว่าผลงานนั้นๆ ถูกนำเสนอสู่สาธารณะชนโดยกว้างในมุมที่ว่าใครก็ดาวน์โหลดไปได้ หรือเพียงแค่ใช้ดูโดยผู้ใช้ไม่กี่คนในบ้านหลังหนึ่ง โดยเสริมอีกด้วยว่า กลุ่มผู้ผลิตเพลงเลือกโจมตีแอปเปิลเพราะเห็นว่าแอปเปิลสามารถหาเงินได้เป็นกอบเป็นกำ แต่ก็อย่าลืมว่าทั้งแอปเปิลและบริการในลักษณะเดียวกันนี้ก็ได้สร้างรายได้ในส่วนแบ่งของการขายเพลงให้กับอุตสาหกรรมดนตรีอย่างเป็นกอบเป็นกำเช่นเดียวกัน
ก่อนหน้านี้แอปเปิลได้เจรจาต่อรองกับค่ายเพลงใหญ่ๆ เพื่อปลด DRM ออกจาก iTunes โดยแลกกับการให้ค่ายเพลงสามารถตั้งราคาเพลงได้ตั้งแต่ $0.69 - $1.29 และเคยมีกรณีพิพาทกับ NBC Universal ที่ไม่สามารถตกลงเรื่องส่วนแบ่งได้ กว่าที่จะตกลงได้ในอีกหนึ่งปีถัดมาด้วยการขายรายการทีวี HD ในราคา $2.99
ที่มา - AppleInsider, CNET
Get latest news from Blognone
Follow @twitterapi
Hiring! บริษัทที่น่าสนใจ
Blognone Jobs Premium
Cloudnone
- Kubernetes คืออะไร [Part 1] เกิดขึ้นมาอย่างไร? ทำไมต้องใช้มัน? | Cloudnone EP.14
- CI/CD ยังไงดี ตั้งเซิร์ฟเวอร์เอง vs เช่าคลาวด์ | Cloudnone EP.13
- รู้จักโน้ตบุ๊กบนคลาวด์ เช่าใช้งาน Jupyter Notebook ที่ไหนดี | Cloudnone Ep.12
- สรุปข่าวใหญ่ปี 23 และคาดการณ์เทรนด์ปี 24 ในวงการ Cloud | Cloudnone EP.11
- สรุปของใหม่และสาระสำคัญจาก AWS re:Invent 2023 | Cloudnone Special EP
Comments
เก็บเล็กเก็บน้อยจริงๆ... สุดท้ายคนหนีไปโหลดเถื่อนหมด
ได้คืบจะเอาศอก ได้ศอกจะเอาวา....งัดข้อกันหน่อยดีกว่า
ได้ฟังแค่ 30 วินาที มันยังจะเก็บเงินเลย....
เก็บกับ apple นี่ครับ ไม่ได้เก็บผู้ซื้อ (ยกเว้น apple จะมาเก็บเองอีกที อันนี้เริ่มน่าเกลียด)
ผมว่าจะเรียกร้องค่าธรรมเนียมส่วนนี้จาก apple ก็ไม่แปลก เพราะ 30 วินาที ก็มีส่วนที่อาจจะ
ทำให้ apple ขายเพลงได้
I'm a DS Lover ^^
:: DigiKin8 ::
Apple ขายเพลงได้ ส่วนแบ่งก็เข้ากระเป๋าค่ายเพลงอยู่ดี ปัญหาคืออุตสาหกรรมดนตรี เรียกร้องจากพ่อค้ามาเกินไปหรือเปล่า พ่อค้าพยายามหาทางขายของให้ได้เยอะๆจะได้ส่วนแบ่งกันมากๆ
สมัยก่อนที่จะเกิด iTunes music store อุตสาหกรรมเพลงย่ำแย่แค่ไหน เพราะทุกคนโหลดเพลงเถื่อนกันหมด กว่าจะฟันฝ่าตรงนั้นมาได้ ต้องขายเพลง+DRM เพื่อป้องกันลิขสิทธิ์ จนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้ การขายเพลงออนไลน์สร้างกำไรให้อุตสาหกรรมดนตรีมากจนยอมที่จะขาย เพลงแบบที่ไม่มี DRM โดยเริ่มจาก Amazon.com กับไฟล์ mp3 จนกระทั่งรายอื่นๆเข้าไปเจรจาเพื่อทำตาม
เรื่องระหว่างพ่อค้ารายใหญ่ กับอุตสาหกรรมดนตรี คงต้องงัดข้อกันอีกหลายยก
"Brand Apple is "Tool for creative minds" not "Tool for rich guy"
เห็นด้วยครับ Apple พยายามโฆษณาเพลงให้เจ้าของลิขสิทธิ์ แต่เจ้าของลิขสิทธิ์จะมาเก็บเงินค่าลิขสิทธิ์จากตัวที่ Apple ใช้โฆษณาให้ซะงั้น
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
ผมว่า apple เคี่ยวพอที่จะเปลี่ยนจากให้ทุกเพลงมีตัวอย่าง 30 วินาที เป็น optional ตามใจคนขาย (แต่ apple ไม่จ่าย)
... พร้อมกับย้ำทุกค่ายว่า เพลงใหนเอาออก เพลงนั้นอาจจะขายใด้น้อยลง ^^
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
คำไว่า "Congress" น่าจะเติม "สภา" ไว้ข้างหน้านะครับ (ถึงแม้ผู้อ่านจะเข้าใจก็ตามว่า "Congress" คืออะไร)
ThinkPad drivers and applications for Windows 7 RTM are available. Check out from this page.
เก็บแบบเหมารวมต่อเพลง หรือว่าจะเก็บแบบต่อการดาวน์โหลดเนี่ย
ไม่ให้ฟังโอกาสไม่ซื้อก็จะเพิ่มเอง จิตวิทยาผู้บริโภคมากๆ
พาจะฉุดให้ยอดขายใน iTunes ตกเอาง่ายๆ
ทำไปก็เข้าตัวทั้งสองทาง จ่ายเพิ่ม ยอดตก
คาดว่า Apple จะรอให้เอาไปฟ้องศาลกันเอง
ปกติร้านขายซีดีต้องจ่ายเงินไหม ถ้าเปิดเพลงให้ลูกค้าฟัง? ถ้าต้องจ่าย แอปเปิ้ลก็จ่าย ถ้าไม่ต้องจ่าย แล้วใยแอปเปิ้ลต้องจ่าย
---------- iPAtS
iPAtS
จ่ายสิ... ค่า cd ที่แกะมาเปิดให้ลูกค้าฟังไง
บ้านเรานี่ค่ายเพลงต้องส่งแผ่นตัวอย่างไปให้ร้านนะครับ ให้ฟรีแต่แผ่นจะพิมพ์ว่าห้ามจำหน่าย
LewCPE
lewcpe.com, @wasonliw
เห็นด้วยครับ
แปลกจัง ทำไมพ่อค้าต้องจ่ายค่าลองสินค้าให้แก่เจ้าของสินค้าที่จะขาย
ถ้าจะขายเพลงแล้วไม่ให้ลูกค้าลองฟังก่อน ผมว่าก็น่าจะขายได้น้อยลงนะ
USA นี่จะเอากำไรกันแปลกๆ
ผมเป็นแอปเปิ้ลจะยกเลิกใ้ห้ลองฟังออกไปเลย ยอดตก ก็ตกกันหมด
+1
แล้ว Youtube , imeem บลาๆๆๆ ก็ควรต้องเก็บด้วยสิ เพราะได้ฟังทั้งเพลง ++
เหนือใจกะพวก ชอนไชหากำไร
"Brand Apple is "Tool for creative minds" not "Tool for rich guy"
ผมมองว่าค่ายเพลงต้องจ่าย APPLE เพิ่มด้วยซ้ำไปเนื่องจาก APPLE ได้โปรโมทเพลงให้พวกเขาตั้ง 30 วินาทีไหนจะค่า bandwidth ไหนจะค่าจัดการอื่น ๆ อีกจิปาถะ ถ้ามองเรื่องของการโฆษณาแล้ว มีแต่ผู้ขายต้องจ่ายค่าโฆษณา ไม่เคยเห็นสถานีไหนต้องจ่ายค่าโฆษณาออกอากาศเองเลย
+1 เห็นด้วยๆ
+1 เห็นด้วยครับ Apple พยายามช่วยให้ทุกอย่างง่ายต่อการเสียเงินขนาดนี้... อย่างนี้ apple ขอเก็บค่า bandwidth สำหรับ load ตัวอย่างเพลง ในกรณีที่ user โหลดไปแล้วไม่ซื้อ ทางศิลปินจะยอมจ่ายมั๊ย?
"ได้คืบจะเอาศอก" จริงๆ
นี่ก็ขาย ringtone เพิ่มขึ้นมา หาทางสร้างเงินให้สุดๆ แล้ว หรือต้องให้ขาย cover art ด้วยอีก!
ต่อไปน่าจะขาย MV พร้อมระบบ subtitle ตัดเสียงร้องได้... เป็น karaoke ไปเลย
+1
---
Khajochi Blog : It's not a Bug ... It's a Feature
แฟนพันธุ์แท้สตีฟจ็อบส์ | MacThai.com
ผมว่า ไอ้เงินตรงนี้ คนที่ได้ไม่ใช่คนทำดนตรี ไม่ใช่คนคนฟังดนตรี แต่เป็นพวกบ.ค่ายเพลงต่าง ๆ
ศิลปินก็ตกยากเหมือนเดิม
กำลังคิดเหมือนกันครับ และนี่เป็นหนึ่งในไม่กี่ครั้งที่ผมอยู่ข้างแอปเปิ้ล ^^
เทคโนโลยีไม่ผิด คนใช้มันในทางที่ผิดนั่นแหละที่ผิด!?!
เทคโนโลยีไม่ผิด คนใช้มันในทางที่ผิดนั่นแหละที่ผิด!?!
+1 รอบนี้เชียร์ Apple ขาดใจ
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
จะเอาแบบ retail store ในไทยรึเปล่า มีค่าแรกเข้า ว่างๆเก็บค่าประชาสัมพันธ์ เอามาลดราคา
ไม่ยอมไปเรียกเก็บกะพวก imeem บ้างเลยล่ะ !
เจ้านั้นใหเฟังทั้งเลงนะ
= =
"Brand Apple is "Tool for creative minds" not "Tool for rich guy"
เหมือนเคยได้ยินว่า imeem ต้องยอมจ่ายเงินส่วนหนึ่งให้กับค่ายเพลงเหมือนกันนะครับ ซึ่งก็คงจะจริงไม่งั้นคงโดนฟ้องไปนานแล้ว
เพลงญี่ปุ่นผมเจอแต่ 30 วิ
คุ้นๆเหมือนเคยได้ยินว่าค่ายเพลงบ้านเราก็เคยเล่นหาเงินทำนองนี้อยู่เหมือนกัน ประมาณว่าเปิดเพลงทางวิทยุ ตามคำขอของผู้ฟัง ก้ต้องจ่ายค่าธรรมเนียม
พวกเล่นดนตรี หรือดีเจเปิดเพลงตามผับก็โดนนะ
ไม่รู้ตอนนี้เก็บได้จริงๆ หรือยกเลิกกันไปแล้ว?
\(@^_^@)/
M R T O M Y U M
ผมมองว่ามันต่างกันนะ
กรณีคลื่นวิทยุ เปิดเพลงแล้วเสียค่าลิขสิทธิ์ ก็ถูกต้องแล้ว
แต่อันนี้มันจะเหมือนกับว่า วิทยุ/ทีวี เปิดโฆษณาขายเพลง
ซึ่งจะมีตัวอย่างให้ฟังสั้นๆ
แล้ววิทยุ/ทีวี โดนเรียกเก็บเงิน
แล้วใครมันจะไปเปิดให้ล่ะฟะ
แต่ในประเด็นนี้ คนเปิด ดันเป็นผู้จัดจำหน่ายด้วย
แต่ผมก็มองว่าเกินไปแหละ มันจะเก็บอะไรกันนักหนา
ดูจะเรียกร้องมากเกินไปจริงๆ แถมแอปเปิ้ลถือไพ่เหนือกว่าด้วยสิ แค่จะไม่ให้ซะอย่าง ไม่ขายกับแอปเปิ้ลก็มีคนอยากขายเยอะแยะ เรียกร้องมากเกินไปอาจไม่ได้อะไรเลยก็ได้
Sora's Story