Tags:

เริ่มเลยนะครับ

ผมเรียนจบวิทยาการคอมพิวเตอร์จากมหาวิทยาลัยของรัฐแห่งหนึ่ง แต่ด้วยความที่ผมเป็นเด็กทุึนผลิตครู ผมจึงต้องมาบรรจุเป็นครูเพื่อใช้ทุน 5 ปี และด้วยความที่ผมเรียนมาด้านการเขียนโปรแกรม ผมจึงเบื่อการเป็นครู ซึ่งวันๆ มีงานเอกสารมากมาย ที่ไม่ใช่การสอน พี่ๆ ช่วยตอบคำถามผมต่อไปนี้หน่อยนะครับ

  1. เมื่อครบ 5 ปี ถ้าผมจะออกจากราชการไปเป็นโปรแกรมเมอร์ จะได้ไหมครับ(มีแนวทางไหนบ้าง)
  2. ถ้าช่วงที่ผมใช้ทุน 5 ปี ผมเรียนต่อโทไปด้วย แล้วไปสมัครงานจะได้หรือไม่ครับ
  3. การที่ผมเ็ป็นครูมาก่อน ผมควรจะเรียนโทสายไหน (วิศวะคอมฯหรือวิทยาการคอม) บริษัทเขาถึงจะยอมรับ (ถ้าพิจารณานอกเหนือจากฝีมือ)
  4. บริษัทต่างๆ เค้าจะรับคนที่มีประสบการณ์เป็นครูมาหรือเปล่าครับ
  5. ผมคิดถูกหรือไม่ที่จะออกราชการไปทำในสิ่งที่ตนเองชอบ

ขอบคุณพี่ๆ ทุกคนที่ช่วยตอบคำถามนะครับ
ถ้ามีอะไรเพิ่มเติมพี่ๆ ช่วยชี้แนะผมมาด้วยนะครับ
ขอบคุณครับ

Get latest news from Blognone
By: nuttin0011 on 2 August 2009 - 13:01 #117742

สวัสดีครับ ผมเป็นข้าราชการ ทำงานมา 4 ปีแล้ว เงินเดือน หมื่น นิดๆ แต่เงิน ธุรกิจส่วนตัวมหาศาล(มากกว่าเงินเดือนหลายเท่า ผมทำร้านคล้ายๆ 7/11 ครับ(ที่จริงคล้ายๆ จีฉ่อย มากกว่า เอิ๊กๆ)) ผมทำงานส่วนตัว part time และทำงานบริหารขององค์กรด้วยครับ

ความเห็นของผมคือ งานข้าราชการ(แปลตามตัว ข้า = ผู้รับใช้ ,ราช = ราชา, การ = กิจการ) คือ ผู้รับใช้กิจการของราชา มันเป็นความภาคภูมิใจอย่างหนึ่งและเป็นเกียรติของวงค์ตระกูลด้วย ผมไม่แนะนำให้ออกจากราชการมาทำงานโปรแกรมเมอร์เต็มตัวแต่ถ้าจะทำงานโปรแกรมเมอร์ของราชการจะมีอยู่ที่จังหวัดฝ่ายวางแผน เช่น ที่ สาธารสุขจังหวัด กรมที่ดินจังหวัด ฯลฯ ซึ่งช่วงนี้งานราชการเขาปฏิรูปค่อนข้างมาก มีการเก็บข้อมูลเข้าฐานข้อมูลของส่วนกลาง การป้อนข้อมูลออนไลน์ การวิเคราะห์ข้อมูลที่ได้รับมา ฯลฯ แต่ที่แนะนำให้ทำงานกับกระทรวงสาธารณสุข เพราะเป็นกระทรวงที่วุ่นวายมาก มีงานตลอด ไม่ได้พัก และผู้ใหญ่เก่ง

ก็แค่คำแนะนำนะครับ ผมไม่ได้สัมผัสงานโปรแกรมเมอร์เอกชนไม่อาจคอมเม้นได้ แต่ถ้าจะย้ายจากงาน ครู ไปเป็นโปรแกรมเมอร์ ต้องใช้เส้นพอสมควร เพราะตำแหน่งมันจะเต็ม อาจได้แบบยืมตัวทำงานไป 4-5 ปี ถึงได้บรรจุ

ส่วนวุติ ป ตรี สมัครได้ครับ

เรื่องเรียนโท ผมไม่ทราบครับ

ส่วนตัวผมชอบอาชีพครูนะ สอนเด็ก หลอกเด็ก เห็นเด็กทำหน้างงงง หนุกดี อิอิอิ

By: anu
Contributor
on 2 August 2009 - 14:18 #117754 Reply to:117742

...

By: McKay
ContributorAndroidWindowsIn Love
on 4 August 2009 - 10:32 #117930 Reply to:117742
McKay's picture

แล้วสุดท้ายเด็กมีคุณภาพหรือไม่มีคุณภาพครับ


Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)

By: cwt
AndroidRed Hat
on 2 August 2009 - 13:17 #117743

เดี๋ยวนี้บริษัทต่างๆ ก็จะดูที่ฝีมือมากกว่าจบอะไรมา

เห็นใจครับเรื่องงานเอกสาร ผมก็เคยทำคล้ายๆ แบบนั้นมา แม้จะเป็นแค่ลูกจ้างชั่วคราวก็เถอะ ระบบราชการ(ครู/อาจารย์มัธยม) แทบไม่ได้ทำให้เราได้แสดงฝีมืออย่างเต็มที่เลย ถ้าไปเป็นอาจารย์ในภาควิชาคอมพิวเตอร์ตามมหาวิทยาลัยก็ว่าไปอย่าง

ถามใจตัวเองดีกว่าว่าต้องการเป็นข้าราชการหรือไม่ ตัดเรื่องภูมิใจไม่ภูมิใจออกไป เพราะบางอย่างที่เรารู้สึกภูมิใจ แต่จริงๆ แล้วเราก็ไม่อยากทำ ถ้าใจตัวเองไม่อยากทำงานราชการก็ออกมาตามฝันของตัวเองเถอะครับ

By: latesleeper
Android
on 2 August 2009 - 14:31 #117757

ถ้าสิ่งที่สำคัญ "กว่า" สำหรับชีวิตคุณคือ การก้าวไปข้างหน้า เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขอแนะนำให้เลือกคำตอบข้อ A.
ถ้าสิ่งที่สำคัญกว่า คือคำว่า ข้าฯ ของพระราชา ขอแนะนำให้เลือกคำตอบข้อ B.
ถ้าไม่ใช่สองข้อข้างบน แต่เป็น เงิน เงิน และเงินที่มากขึ้นเท่านั้น ขอแนะนำให้เลือกคำตอบข้อ C.

คำตอบสามข้อคิดเองได้เลยครับ

By: Wizard.
iPhoneAndroidUbuntuWindows
on 2 August 2009 - 15:47 #117761
Wizard.'s picture

ผมเป็นข้าราชการเพราะพ่อแม่ น้องชายผมเคยเป็นข้าราชการแต่ลาออกจากราชการไปแล้ว ตอนนี้เหลือผมเป็นข้าราชการคนเดียว

เหตุผลที่ผมไม่ลาออกตอนนี้คงเป็นเพราะพ่อแม่เท่านั้น ไม่งั้นคงไปไหนไปกันแล้ว

แต่ข้อดีของผมคือเป็นข้าราชการสังกัดกระทรวงสาธารณสุขที่ไม่ใช่ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด ที่มีตำแหน่งนักวิชาการคอมพิวเตอร์ที่เป็นข้าราชการได้ ดังนั้นตำแหน่งอื่นๆก็มาช่วยทำงานด้าน IT ได้(เมื่อก่อน) แต่ตำแหน่งแบบใหม่อาจจะทำให้การประเมินผลงานที่ทำ ประมาณว่าทำ IT ได้ดีแค่ไหน ก็ไม่มีผลต่อตำแหน่งการงานที่บรรจุจริง

ทางแก้... รับ job ครับ รับงานเขียนโปรแกรมที่อื่นมาทำนอกเวลา หรือ ถ้าที่ทำงานเค้าจะให้ทำก็ขอ OT (แม่ง) มันเลย... (ตีไปเลยว่างานนี้เอากี่ OT แต่แบบนี้จะได้น้อยกว่ารับ job ข้างนอก แต่ความจุดจิกของงานจะน้อยกว่าครับ)

By: peterJ on 2 August 2009 - 17:55 #117767

:)
คุณได้รับราชการน่ะถือว่าเป็นการดีแล้ว เพราะการสอบคัดเลือกเข้ารับราชการแต่ละครั้งมีคนสมัครเป็นหมื่นๆ
ในส่วนที่มีหน่วยงานรับตรงน่ะไม่ต้องพูดถึง ยากที่คนทั่วไปจะไปแข่งขันกับบุคลากรภายในที่รอบรรจุอีกเป็นหางว่าว น่าจะเป็นการดีที่ทำให้คุณสามารถไปทำงานอดิเรกด้านต่างๆ ที่คุณสนใจโดยไม่ต้องกังวลว่าบริษัทที่คุณทำงานอยู่นั้นคุณจะอยู่ได้นานเท่าไหร่ในยุคที่มีมหาวิทยาลัยแทบจะมากกว่าจำนวนจังหวัดในประเทศ ผมเคยทำงานบริษัทแล้วจึงเข้ารับราชการ ระดับความเครียดในการทำงานต่างกันราวภูเขาเทียบกับกองกระดาษเอกสาร แม้ว่าการรับราชการ 10 ปีเงินเดือนจะไม่ได้มากเท่ากับตอนทำงานบริษัทตอนเริ่มทดลองงานแต่เครดิตดีกว่ากันเยอะ และมีเงินเก็บมากกว่าตอนทำงานบริษัทเสียอีก(หนี้ก็เยอะด้วย)

By: pexaj on 3 August 2009 - 07:39 #117816
pexaj's picture

เป็นข้าราชการ

กับเป็นในสิ่งที่ตนเองชอบ รัก

เอาสิ่งที่เป็นประโยชน์ส่วนรวมตั้ง

หาสิ่งที่เราคิดว่าดีกว่า มาลบ

ผมคิดว่า ยังไง การรับราชการก็ดีกว่า

แม้ไม่มากก็ตามเถอะ

By: ipangsu on 3 August 2009 - 08:20 #117817

ขอบคุณทุกท่านที่แบ่งปันประสบการณ์และให้ข้อคิดดีๆ นะครับ

ผมจะนำไปประกอบการตัดสินใจต่อไปครับ

ขอบคุณมากครับผม

By: mr.k on 3 August 2009 - 09:32 #117824

ผมว่าทำในสิ่งที่ชอบ และสิ่งที่เหมาะสมเป็นพอครับ

คุณชอบอะไร ทำในสิ่งนั้นคุณจะมีความสุขที่สุด

และถ้าคุณทำในสิ่งที่เหมาะสม จะไม่มีใครว่าคุณได้

หาจุดกลึ่งกลางระหว่างชอบและเหมาะสมให้เจอครับ

By: magicbank on 3 August 2009 - 10:03 #117825

ตามความเห็นผมนะครับ ไม่ใช่การแนะนำ

รักษางานข้าราชการเอาไว้ เพื่อเอาสวัสดิการ เอาเงินบำนานในอนาคต และอีกทาง ก็รับงาน freelance เพื่อทำงานที่ตัวเองรัก

ดูจะลงตัวกว่าน่ะครับ

By: Thaina
Windows
on 3 August 2009 - 10:39 #117828

โยกย้ายตัวเองไปสอนวิชาคอมพิวเตอร์โปรแกรมมิ่งครับ

By: vittee
AndroidRed HatUbuntuWindows
on 3 August 2009 - 11:08 #117831
vittee's picture

ผมว่าการได้รับราชการ ถือเป็นโอกาสอันดีนะครับ
ถ้าคุณคิดจะลาออกจากราชการไปเป็นโปรแกรมเมอร์ ก็เป็นลูกจ้างเค้านะครับ แถมไม่มั่ีนคงอีกต่างหาก
แนะนำให้รับราชการต่อไป แล้วพยายามหาช่องทางที่ได้ทำงานในด้านที่ตัวเองชอบ มันต้องมีบ้า่งแหละน่่า

By: Aphorist
AndroidUbuntuWindows
on 3 August 2009 - 19:51 #117882
Aphorist's picture

ส่วนตัวนะครับ ผมยังไม่จบตรีครับ แต่ใกล้จบแล้ว ผมไม่มีโอกาสได้เรียนตามภาคปกติ แต่ต้องทำงานแล้วเรียนเสาร์อาทิตย์ สนใจคอมพิวเตอร์และมีโอกาสได้ทำงานเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ รวมทั้งยังได้เคยเป็นครูอัตราจ้าง(เถื่อน เพราะไม่มีวุฒิ แต่สอน ม.ปลาย โดยใช้วุฒ ม.6)

ผมมองเห็นบางอย่าง บางสิ่งที่ภาคการศึกษาขาดไป คือ บุคลากรที่มีความรู้ความสามารถด้านนี้ "หนี" ไปทำงาน แล้วเราจะคาดหวังให้เด็กในอนาคต เก่งในเรื่องนี้ได้สักแค่ไหนกันครับ นอกจากที่เด็กจะสนใจเรื่องนี้และค้นคว้าเองเป็นการส่วนตัว

อีกเรื่องคือ การบริหารงานของราชการ ก็เป็นอย่างนี้แหล่ะครับ ผมเคยแสดงความคิดเห็นไปแล้วกระทู้ไหนก็ไม่รู้จำไม่ได้แล้ว ว่า

ข้าราชการครู ที่ทำงานที่โรงเรียน ควรแบ่งแยกออกเป็น 3 ส่วนหลัก ๆ

  1. ส่วนการบริหาร ผมว่า ลงตัวดีแล้ว
  2. ส่วนผู้สอน ควรที่จะมีหน้าที่สอนอย่างเดียว งานเอกสารก็เพียงแต่เป็นเอกสารเกี่ยวกับการสอนของ และรายงานการสอนของตัวเองเท่านั้น เพื่อให้มุ่งนั้นพัฒนาการสอนของตัวเองให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด
  3. ส่วนผู้ปฏิบัติการ/นักการ ตรงนี้สำคัญครับผมคิดว่า การรับบุคลากรเข้ามาทำงาน ไม่จำเป็นเลยที่จะต้องมี วุฒิครู (วิชาชีพครู) กลุ่มนี้ ไม่ควรต้องได้สอน หรือถ้าจะได้สอนก็ควรเป็นการเชิญมาบรรยายในเรื่องที่ตัวเองถนัดซะมากกว่า กลุ่มนี้ควรรับตามความสามารถ โดยตรง เช่น งานพัสดุ งานการเงิน งาน ICT งานนักการ/ภารโรง โ้ค้ชกีฬา เป็นต้น

ความรู้สึกของผม ยังอยากจะเป็นครู เพื่อพัฒนาโครงข่ายการเรียนการสอนทางด้าน IT ซะด้วยซ้ำ

By: ipangsu on 4 August 2009 - 08:48 #117922 Reply to:117882

คุณ Aphorist พูดถูกครับ โรงเรียนควรแบ่งแยกงานตามที่คุณกล่าวมา แต่ก็ด้วยเหตุปัจจัยต่างๆ และเรื่องที่สำคัญก็คืองบประมาณ พอมีงบน้อยก็เลยต้องให้ครูมาช่วยงานด้านต่างๆ มากมาย อย่างเช่นผมเ็ป็นต้น เป็นครูคอมพิวเตอร์ ที่หาเวลา หาข้อมูล เพื่อเตรียมสอนได้น้อยมาก เดี๋ยวก็ต้องไปโน่นไปนี่(ตามคำสั่ง) ก็เข้าใจครับ ครูส่วนใหญ่คิดว่าเด็กรุ่นใหม่เก่งไปหมดทุกเรื่อง งานก็เลยเข้าทุกเรื่อง

ไม่อยากบ่นไปมากกว่านี้ แต่ก็ขอขอบคุณทุกๆ คำแนะนำครับ ต่อไปนี้ก็ตั้งหน้าตั้งตาทำงานอย่างเต็มที่ต่อไป...

By: Poet_guy on 4 August 2009 - 09:16 #117923
Poet_guy's picture

แถวบ้านผมไม่มีอาจารย์ที่เก่ง IT จริงๆจังๆ (ที่มีก็หนีไปทำงานอิสระกันหมด)

ต้องเอาอาจารย์ที่จบด้านอื่นมาสอนแทน

ผมเรียนภาษา HTML ตอนม.ต้นกับอาจารย์ที่จบด้านสังคมครับ(ทั้งโรงเรียนไม่มีจบคอมเลย)= ="

By: tanapatwk
AndroidRed HatWindows
on 4 August 2009 - 10:04 #117927

ผมเห็นด้วยกับความคิดเรื่องรับทำงานนอกนะครับ ส่วนจะลาออกนั้นขอให้คุณตัดสินใจเองอีกทีไม่ต้องรีบตัดสินใจนะครับ เพราะว่าที่จริงแล้วการทำงานบริษัทไม่ได้สวยหรูอย่างที่คิดครับ เงินดีก็จริง แต่งานกดดันกว่าเยอะครับ ถึงคราวต้องนอนบริษัทกันก็บ่อยครับ เทียบไม่ติดหรอกครับกับความเครียดของการเป็นครู แล้วระหว่างที่คุณทำงานนอกคุณก็จะได้ทำในสิ่งที่คุณรักแล้วก็ทดสอบตัวเองไปด้วยว่าพร้อมที่จะยืนหยัดในวงการนี้อย่างเต็มตัวรึเปล่า

สำหรับเรื่องการเรียนต่อเป็นสิ่งที่ดีนะครับ แต่อย่าคิดทำงานอื่นนอกจากงานประจำที่ทำอยู่ในขณะเรียนนะครับ เพราะจะทำงานไม่ทันโดยเฉพาะการเรียนในสาขาคอมพิวเตอร์ครับ ถ้าไม่ทุ่มเวลากับเรื่องเรียนจริงๆจังๆ ก็เป็นเรื่องยากครับ ผมเคยผ่านมาแล้ว ถือว่าสาหัสครับกว่าจะผ่านมาได้

ในส่วนของบริษัทที่เค้าจะรับครูเข้าไปทำงานนั้นที่จริงก็มีงานที่เหมาะกับคุณอยู่นะครับ แล้วก็เงินดีด้วยคือ บริษัทพวกที่เค้ารับอบรมแล้วก็สอบ certificate ครับ พวกนี้ชอบคนที่พูดรู้เรื่อง สอนเป็นแล้วก็รู้เรื่อง IT ครับ เพราะปัญหาส่วนใหญ่ของพวกที่เก่ง IT จริงๆ ก็คือมักจะคุยกับชาวบ้านไม่รู้เรื่อง (อันนี้ไม่รู้เห็นด้วยกับผมรึเปล่า) ที่สำคัญนะครับเค้าจะบีบบังคับให้คุณเรียนรู้เทคโนโลยีใหม่ๆ ตลอด แล้วก็บังคับให้สอบ certificate ด้วย ยิ่งถ้าเรียนจบโทมาด้วยยิ่งมีภาษีดีครับเค้าพิจารณาง่ายขึ้น

ขอฝากข้อคิดไว้นิดนึงครับ
ไม่มีอะไรที่มีแต่ข้อเสีย แล้วก็ไม่มีอะไรที่มีแต่ข้อดีครับ มันอยู่ที่เราจะมองแล้วก็เราจะเลือกครับ ดังนั้น การที่คุณเป็นครูอยู่ทุกวันนี้ที่จริงแล้วอาจจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุดอยุ่แล้วก็ได้นะครับ ลองมองให้หลายๆ ด้านนะครับ เด็กๆ กำลังรอคุณอยู่ครับ ;)

By: joecole on 4 August 2009 - 13:09 #117936

ตอบตามคำถามเลยก็แล้วกัน

Q: เมื่อครบ 5 ปี ถ้าผมจะออกจากราชการไปเป็นโปรแกรมเมอร์ จะได้ไหมครับ(มีแนวทางไหนบ้าง)

Ans. ได้อยู่แล้วครับ ราชการคงไม่ขัดขวาง ส่วนเอกชนที่จะรับคุณเข้าไป เขาก็จะดูจากฝีมือการเขียนโปรแกรมของคุณเป็นหลัก (เพราะฉะนั้น คุณควรสั่งสมฝีมือและผลงานการเขียนโปรแกรมเสียตั้งแต่วันนี้)

Q: ถ้าช่วงที่ผมใช้ทุน 5 ปี ผมเรียนต่อโทไปด้วย แล้วไปสมัครงานจะได้หรือไม่ครับ

Ans. หมายถึงบริษัทที่จะรับคุณเข้าทำงานใช่มั้ยครับ อันนี้แล้วแต่นโยบายของแต่ละบริษัท แต่ในความเป็นจริง ตอนนี้คุณรับราชการ+เรียน ป.โท ไปด้วย อาจจะไหว แต่ทำงานบริษัท (เพิ่งเข้าซะด้วย ต้องเรียนรู้งานเยอะ) +เรียน ป.โท อาจจะหนักไปหน่อย

Q: การที่ผมเ็ป็นครูมาก่อน ผมควรจะเรียนโทสายไหน (วิศวะคอมฯหรือวิทยาการคอม) บริษัทเขาถึงจะยอมรับ (ถ้าพิจารณานอกเหนือจากฝีมือ)

Ans. เรียนสายอะไรก็ได้ ที่มันตรงกับงานที่คุณจะไปสมัคร หรือถ้าอายุมากแล้ว ก็เรียนสายบริหารก็จะดูดีทีเดียว

Q: บริษัทต่างๆ เค้าจะรับคนที่มีประสบการณ์เป็นครูมาหรือเปล่าครับ

Ans. ไม่น่ามีปัญหา ถ้าคุณมีฝีมือตรงตามที่เขาต้องการ

Q: ผมคิดถูกหรือไม่ที่จะออกราชการไปทำในสิ่งที่ตนเองชอบ

Ans. ถ้าพูดในแง่ความสำเร็จ ไม่มีใครตอบได้ เพราะไม่มีใครรู้อนาคต

แต่ถ้าพูดในแง่ความเหมาะสม ก็ถือว่าโอเค เพราะคุณใช้ทุนไปเรียบร้อยแล้ว

ถ้าพูดในแง่เนื้องานหรือลักษณะองค์กร ก็เป็นเรื่องการเปรียบเทียบระหว่างการทำงานราชการกับเอกชน ซึ่งคุณคงพอจะมีคำตอบอยู่แล้ว (ทั้งข้อดีและข้อเสีย)

By: cloverink
iPhoneAndroidUbuntuWindows
on 4 August 2009 - 14:36 #117939
cloverink's picture

ผมเพียวโปรแกรมเมอร์ครับ
ประมาณว่า เป็นโปรแกรมเมอร์ที่เป็นโปรแกรมเมอร์จริงๆ เขียนโค๊ดอย่างเดียวจริงๆ

จบมาติดธนาคารอันดับต้นๆของประเทศครับ
แต่ทำงานไปได้ 3 สัปดาห์ก็ลาออกครับ
เพราะมันเหมือนจะไม่มีอะไรทำ

ต่อมาเข้าอีกบริษัทเค้าส่งผมไปญี่ปุ่น
รู้รึเปล่าครับ ว่าเอกสารมันสำคัญมาก
ผมนี่เขียน code แค่ 40% นอกนั้นต้องทำ doc น่ะครับ

สำหรับผม การออกจากครู ก็ดีครับ เป็นผมนะ
แต่คิดดูว่าถ้าเราออกไปทำแล้วเรากลับมาสอบครูได้อีกรึเปล่า

ทำได้ก็ทำครับ สบายใจ ทำอะไรที่อยากทำครับ ไม่มีใครมากำหนดชีวิตคุณครับ

By: pines
Blackberry
on 5 August 2009 - 14:25 #118043

ถ้าเป็นผม ผมจะไม่เลือกเพื่อความมั่นคง แต่จะเลือกจากประสบการณ์ที่เราอยากได้ อยากเรียนรู้เก็บเกี่ยวประสบการณ์จนพอแล้วหาทุนสักก้อนมาทำเองดีกว่าครับ อย่าเป็นลูกจ้างเขาเลยทั้งรัฐและเอกชน ตัวคุณเท่านั้นจะช่วยคุณได้

By: risc on 5 August 2009 - 18:46 #118070

สังขารทั้งหลายมีความเสื่อมไปตามกาล จงทำอะไรอย่างมีสติ

เป็นผม ผมจะทำในสิ่งที่ผมชอบครับ

แสวงหามิใช่เพราะรอคอย เชี่ยวชาญมิใช่เพราะโอกาส ชำนาญมิใช่เพราะโชคช่วย"ดังนี้แล้วลิขิตฟ้าหรือจะสู้มานะตน"chonlatee

By: AronSun
Windows PhoneAndroidWindows
on 7 August 2009 - 14:56 #118330

ผมไม่แนะนำให้ลาออกนะครับ การเป็นครูอยู่ทุกวันนี้ก็สามารถการันตีความสุขสบายในชีวิตของคุณได้ในระดับหนึ่ง แม้จะไม่ได้ร่ำรวยอะไร แต่ก็ไม่ได้ลำบาก การไปทำงานเอกชนคุณอาจต้องปรับตัวหลายอย่าง ความกดดันที่เพิ่มมากขึ้น ไม่มีใครมาให้เกียรติเหมือนตอนเป็นครู และบางทีงานที่คุณต้องทำ ก็อาจจะไม่ใช่สิ่งที่คุณปรารถนาจริงๆ ก็ได้

ส่วนเรื่องความชอบในการเขียนโปรแกรม ถึงคุณจะเป็นครูอยู่ ก็คงไม่มีอะไรมาหยุดยั้งไม่ให้คุณเขียนโปรแกรมได้หรอกครับ ทำเป็นงานอดิเรกก็ได้ แถมยังดีตรงที่คุณอยากเขียนอะไร ก็เขียนได้ตามใจ ไม่ใช่เขียนตามคำสั่งคนอื่น ถ้ามีทุนและเวลามากพอก็อาจจะขยับไปเปิดเป็น software house เล็กๆ ก็ได้ เห็นเด็กคนไหนพอมีแววก็ลองชวนมาทำเลย ผมว่างานราชการยังมีที่ให้เขียนโปรแกรมได้อีกเยอะนะ แต่ก็นั่นแหละ มันติดตรงเรื่องเส้นสายว่าใครจะได้รับไปทำ

ปล.1 ว่างๆ ลองหา GTO มาอ่านดูครับ อาจจะทำให้ชอบอาชีพครูมากขึ้น

ปล.2 ประเทศเรายังขาดครูเก่งๆ ถ้าคุณเก่งแล้วยังทำงานเป็นครูอยู่ ผมก็ถือว่าเป็นโชคดีของนักเรียนแล้วครับ

By: aoddy on 7 August 2009 - 19:02 #118346 Reply to:118330

GTO
+1

aoddy

By: bossalove
iPhone
on 7 August 2009 - 15:34 #118334

ผมว่าถ้าอยากทำโปรแกรมนี่ ทำเป็นงานอดิเรกก็ได้ครับ ตั้ง project เองก็ได้ เวลาว่าง

programmer บริษัทเอกชน เราอาจจะคิดว่า "ตามฝัน" แต่พอเอาเข้าจริง มันอาจจะไม่ได้เหมือนฝันก็ได้นะครับ มันไม่ได้หวือหวาหรือยิ่งใหญ่อะไร มันก็ธรรมดาๆแหละ เป็นอาชีพใช้แรงงานแบบหนึ่ง รับคำสั่ง แล้วก็ทำตาม กินค่าจ้าง project ก็ไม่ได้ตั้งเอง แล้วก็ทำซ้ำๆอยู่นั่นแหละ วันๆสั่ง query

แต่ถ้าอยากลองผมก็ว่าก็ไม่เสียหาย ลองให้มันรู้ ผมว่ามันก็ไม่ได้แย่อะไรมากมายนะ ไม่ว่าจะจบที่เป็นครู หรือเป็น programmer บริษัทเอกชนก็ตาม

By: cwt
AndroidRed Hat
on 8 August 2009 - 18:26 #118401 Reply to:118334

บางที่อาจจะไม่ได้เป็นแบบนั้นนะครับ ที่ๆ ผมทำอยู่ก็เรียกได้ว่าค่อยข้างได้ตามที่ฝันไว้เลยทีเดียว'

ผมอยู่มา 4 โรงเรียน 9 บริษัท ก็ไม่เห็นรู้สึกว่าการ "ตามฝัน" มันผิดตรงไหน อยู่ที่ว่าเรามุ่งมั่นพอหรือเปล่า ฝันให้ไกล และไกลไปเรืื่อยๆ บางคนคิดว่าไปถึงที่ฝันแล้วก็หยุดพอใจแล้ว แต่ผมไม่ใช่แบบนั้นครับ

By: ม่อน on 9 August 2009 - 15:19 #118491

โอนย้ายเข้ากระทรวงดิ

By: bow_der_kleine
WriterAndroidUbuntu
on 9 August 2009 - 21:37 #118520
bow_der_kleine's picture

ทำไมไม่คิดให้ดีก่อนรับทุนครับ?

BioLawCom.De

By: ipangsu on 10 August 2009 - 08:59 #118551 Reply to:118520

ก่อนรับทุนคิดดีแล้วครับ ว่าควรจะรับทุนเพื่อช่วยครอบครัว ถึงแม้ว่าจะเป็นทางที่ไม่ชอบ

By: p-joy on 1 September 2009 - 18:39 #122248 Reply to:118551

นั่นไม่ใช่คำตอบของคำว่า คิดดีแล้วหรอกครับ

รักเขียนโปรแกรม ก็เขียนเวลาว่างก็ได้นี่ครับ ไม่เห็นจำเป็นต้องเขียนเวลางาน

By: natt_han
ContributoriPhoneAndroid
on 10 August 2009 - 11:33 #118557

5.ทางเลือกชีวิตไม่มีคำว่าถูกหรือผิดครับ มันคือชีวิตของตัวเอง แต่ก็พิจารณาให้ดีนะครับ เลือกแล้วอย่าให้เสียใจภายหลัง ว่าเมื่อตอนนั้นเราน่าจะเลือกอีกทางนึง อะไรแบบนี้

By: risc on 10 August 2009 - 12:44 #118562

เป็นอาจารย์ก็เป็นโปรแกรมเมอร์ได้นี้ครับ ว่างจากการสอนก็เขียนโปรแกรมไปแล้วก็เผยแพร่ คือบางอย่างมันก้สามารถทำได้หลายอย่างพร้อมกัน หรือเป็นอาจารย์มันยุ่งจนไม่มีเวลาทำอย่างอื่น

แสวงหามิใช่เพราะรอคอย เชี่ยวชาญมิใช่เพราะโอกาส ชำนาญมิใช่เพราะโชคช่วย"ดังนี้แล้วลิขิตฟ้าหรือจะสู้มานะตน"chonlatee

By: Jigko
Windows Phone
on 11 August 2009 - 19:09 #118741

เจอคำถามนี้ ในสภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ คิดดีๆ นะน้อง

ผมนี่แหละมีอาชีพครูมาค่อนชีวิต อายุราชการตอนนี้ 30 ปีขึ้นแล้ว ผมไม่ได้เรียนมาทางคอมพิวเตอร์ สมัยนั้นมันไม่โด่งดัง และไม่อยู่ในความคิดของเด็กบ้านนอกอย่างผม

เมื่อสิบกว่าปีที่แล้วผมได้สัมผัสคอมพิวเตอร์ เรียนรู้มัน ใช้มัน และนำมันมาเป็นอาชีพเสริม

ตอนนี้ก็ยังรับราชการครูอยู่ แต่ผมก็รับงานฟรีแลนซ์ที่ผมชอบทำคือรับจ้างทำโปรเจกต์ต่างๆ มากมาย ผมไม่มีความรู้ลึกซึ้งมากมายในการเขียนโค๊ดหรือโปรแกรมอย่างคุณ แต่ผมมีความรู้เรื่องการบริหารจัดการ ผมไม่อยากเป็น Labour แต่ผมคือ Manager รับงานมาประสานหาคนเก่งให้แบ่งงานกันทำ แล้วผมนำมันมาประกอบและแปลงร่างส่งงานรับเงินมาแจกจ่ายกัน แน่นอนผู้จัดการลงแรงน้อยกว่าแต่ได้เงินมากกว่ากรรมกร

ดังนั้นคำถามของคุณผมจึงมีคำตอบให้ดังนี้

  1. เมื่อครบ 5 ปี ถ้าผมจะออกจากราชการไปเป็นโปรแกรมเมอร์ จะได้ไหมครับ(มีแนวทางไหนบ้าง) (ไปได้ แต่จะรุ่งหรือจะร่วงไม่ทราบ คุณอาจจะคิดว่าตอนนี้คุณเก่ง แน่ แต่ลองสำรวจตัวเองหรือยังคุณทำงานกับทีมได้ดีเพียงใด ระบบการจัดการบริษัทคือการประสานงานและพูดจาภาษาเดียวกัน ดูที่งานในโรงเรียนของคุณตอนนี้ก็ได้ ได้แต่ก้มหน้าก้มตารับงานมาสุมหัว คุณมีเหตุผลกล้าพูดกับผู้บังคับบัญชาคุณหรือเปล่า?)

  2. ถ้าช่วงที่ผมใช้ทุน 5 ปี ผมเรียนต่อโทไปด้วย แล้วไปสมัครงานจะได้หรือไม่ครับ (ก้าวที่พลาด ถ้าคุณลาไปเรียนคุณก็เป็นหนี้เขาอีก ใช้ทุนอีก ถ้าเรียนวันหยุด-เสาร์-อาทิตย์ ผมยังมองไม่เห็นสถาบันที่จะสร้างความรุ่งโรจน์ให้คุณแกร่งในฝีมือได้ เว้นแต่ปริญญากระดาษอีกไป)

  3. การที่ผมเ็ป็นครูมาก่อน ผมควรจะเรียนโทสายไหน (วิศวะคอมฯหรือวิทยาการคอม) บริษัทเขาถึงจะยอมรับ (ถ้าพิจารณานอกเหนือจากฝีมือ)(บริษัททุกแห่งดูที่ฝีมือเป็นหลัก เขาจะดูที่ผลงานของคุณก่อนหน้า และในขณะทดลองงาน ถ้าไม่รอดตามข้อหนึ่ง ก็จอดแล้ว)

  4. บริษัทต่างๆ เค้าจะรับคนที่มีประสบการณ์เป็นครูมาหรือเปล่าครับ (ไม่เกี่ยงว่าทำงานอะไรมา ผมเป็นครู มีผลงานด้านนี้เยอะพอสมควร มีหลายที่เชิญผมไปร่วมงาน แต่ผมปฏิเสธเพราะต้องการเป็นนายตนเอง ไม่ได้อยากไปเป็นลูกจ้าง ทำงานหามรุ่งหามค่ำ เพื่อผลงานและรายได้ของบริษัท เงินเดือนคุณก็เท่านั้นแหละ เพิ่มไม่มาก ถ้าสูงมากเดี๋ยวมีซองขาวเชิญออกอีก ที่สำคัญผมเห็นเพื่อนหลายคนมันเบื่อ เพราะต้องทำในสิ่งเดียวซ้ำๆ ซากๆ ตามคำสัง อย่าคิดว่าจะทำแบบนอกกรอบได้อย่างที่คุณคิด ตอนนี้รับจ็อบไปก็ได้เดือนละหลายหมื่น บางเดือนเจอแจ็กพอทก็นับแสนบาทเหมือนกัน)

  5. ผมคิดถูกหรือไม่ที่จะออกราชการไปทำในสิ่งที่ตนเองชอบ (คิดเองเถอะครับ คำตอบข้างบนนะตอบโจทย์ได้แล้ว สำหรับผมการลาออกคือลาออกไปพักผ่อนใช้ชีวิตให้สนุกกับเงินเก็บที่สะสมมา ลูกมีงานทำแล้ว ผมหมดห่วง ไม่คิดจะลาออกเพื่อไปเป็นลูกน้องใคร รับงานที่เคยทำไปเรื่อยๆ จนกว่าจะหมดแรงดีกว่า)

ฅนอีสาน ถึงจนแต่จริงใจ

By: crucifier
iPhoneAndroidUbuntu
on 11 August 2009 - 19:14 #118743 Reply to:118741

+1 จากใจ

By: ipangsu on 12 August 2009 - 12:55 #118818

ขอบคุณรุ่นพี่มากครับ ที่ให้คำแนะนำดีๆ

ผมจะนำไปตัดสินใจ เลือกทางเดินชีวิตครับ

(ตอนนี้ผมตัดสินใจแล้ว แต่ไม่ขอบอกนะครับ)

By: sukorn
Ubuntu
on 12 August 2009 - 23:17 #118901

+1 คุณ jigko

เป็นลูกน้องไม่สนุกจริง ๆ ครับ ไม่ว่าจะเป็นข้าราชการหรืองานบริษัท

By: rubberman on 1 September 2009 - 12:45 #122156

อ่านกระทู้แล้วทำให้ผมคิดขึ้นได้ว่าจบปีนี้ผมจะทำอาชีพอะไรดี เพราะตอนแรกก็กำลังลังเลอยู่ว่าจะทำงานราชการหรือเอกชนดี แต่ตอนนี้งานราชการได้เขามาแซงหน้างานเอกชนละ

By: giffi
AndroidSymbian
on 29 September 2009 - 08:06 #127881
giffi's picture

เป็นราชการยังไม่นาน อายุไม่เยอะ รับความเสี่ยงได้ ฝีมือดี ก็ออกไปผจญชีวิตข้างนอกก็ดีครับ ได้รสชาติของชีวิต แต่อยู่ที่ราชการก็สามารถทำอาชีพเสริมได้ เพียงแต่อย่าอยู่ในตำแหน่งที่ยุ่งนักของราชการ เพราะต้องทุ่มเทมาก เดี๋ยวมันจะไม่เวริคทั้งคู่ รับงานแล้วทำได้ไม่ดีจะเสียงาน ถ้าฟังเพื่อน ๆ เราที่อยู่เอกชน เขาคงจะไม่สนใจเลยกับราชการ และแนะนำให้ออกง่าย ๆ แต่ผมเองก็เป็นราชการด้วยหน้าที่ทางครอบครัวเหมือนกัน ความรู้สึกเสียดายมันสูงมากจริง ๆ หักดิบคงจะยากไม่มาเป็นก็ไม่รู้หรอกครับ