Tags:
Node Thumbnail

แท็บเล็ต BlackBerry PlayBook จะวางขายในสหรัฐอเมริกาวันที่ 19 เมษายนนี้ และตอนนี้สื่อตะวันตกหลายเจ้าก็ได้เครื่องมารีวิวกันแล้ว

ผมสรุปเนื้อหาจากรีวิว 4 รายใหญ่เท่านั้น ผู้ที่สนใจก็สามารถอ่านเนื้อหาเพิ่มเติมได้จากรีวิวอื่นๆ ประกอบนะครับ

ฮาร์ดแวร์

No Description

PlayBook เป็นแท็บเล็ตขนาด 7" เท่ากับ Galaxy Tab โดยมีความหนากว่า iPad 2 เล็กน้อย และน้ำหนักมากกว่า Galaxy Tab เล็กน้อย ด้วยขนาด 7" สามารถใส่ในกระเป๋าเสื้อโค้ตของฝรั่งได้สบายๆ ทำให้พกพาสะดวกกว่า iPad แต่ก็ต้องแลกมาด้วยพื้นที่แสดงผลที่ลดลง โดยเฉพาะพื้นที่แนวตั้งถ้าแสดงผลในโหมดแนวนอน

หน้าจอ 7" ของ PlayBook มีความละเอียด 1024x600 ใช้สัดส่วนการแสดงผลแบบ 16:9 มีความหนาแน่นของพิกเซล 170 จุดต่อตารางนิ้ว (ppi) สูงกว่าจอของ iPad ที่ 132ppi

หน่วยประมวลผลเป็น TI OMAP 4430 ดูอัลคอร์ 1GHz, หน่วยประมวลผลกราฟิกเป็น POWERVR SGX540, แรม 1GB สเปกขนาดนี้รองรับการทำงานหนักๆ อย่างเล่นวิดีโอ 1080p ได้สบาย พื้นที่เก็บข้อมูลขึ้นกับรุ่น เริ่มจาก 16GB (499 ดอลลาร์ เท่ากับ iPad), 32GB (599 ดอลลาร์) และ 64GB (699 ดอลลาร์)

กล้องหน้าให้มาเยอะ 3MP ส่วนกล้องหลัง 5MP ถ่ายวิดีโอ 1080p ได้ คุณภาพของภาพออกมาค่อนข้างดี (ดูภาพได้จากรีวิวของ Engadget และ CrackBerry)

No Description

การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตยังทำได้เฉพาะ Wi-Fi เท่านั้น (รุ่น 3G/4G จะตามมาในอนาคต) และสามารถต่อผ่าน Bluetooth กับมือถือหรืออุปกรณ์เสริมอื่นๆ ได้

พอร์ตการเชื่อมต่ออื่นๆ ได้แก่ Micro HDMI (เสียบสายออกโปรเจคเตอร์ได้), Mini USB และพอร์ตเฉพาะของ PlayBook สำหรับชาร์จไฟ

จุดอ่อนเรื่องฮาร์ดแวร์ของ PlayBook ที่รีวิวทุกเจ้าพูดเหมือนกันคือปุ่ม Power ที่ขอบบนของเครื่องซึ่งกดยาก (แถมดันเป็นปุ่มที่ใช้บ่อย) ทางแก้ในเบื้องต้นคือปลดล็อคหน้าจอโดยการ swipe และตั้งเวลาหน้าจอให้ดับเร็วขึ้น

PlayBook ใช้แบตเตอรี่ความจุ 5300mAh จากตัวเลขของ RIM บอกว่าอยู่ได้ 8-10 ชั่วโมง จากการทดสอบของ Engadget บอกว่าแบตเตอรี่อยู่ได้เกินวันในการใช้งานปกติ (รันการทดสอบได้ประมาณ 7 ชั่วโมง) แต่เมื่อเทียบกับคู่แข่งอย่าง iPad/XOOM ก็อาจจะด้อยกว่าบ้าง ส่วนการทดสอบของ Wall Street Journal บอกว่าอยู่ได้ 6 ชั่วโมง

ระบบปฏิบัติการ

ระบบปฏิบัติการ BlackBerry Tablet OS มีไส้ในเป็น QNX ที่ RIM ซื้อมา ส่วนติดต่อผู้ใช้เหมือนกับ webOS คือใช้แนวคิดแบบ card & deck ซึ่งใช้งานง่าย

แนวทางการใช้งานของ Tablet OS ต่างจาก BlackBerry OS ที่เน้นการควบคุมด้วยปุ่ม เปลี่ยนมาเป็นการควบคุมด้วย gesture แบบต่างๆ เช่น ลากนิ้วจากล่างขึ้นบนเพื่อเรียก homescreen, ลากนิ้วจากมุมซ้ายล่างเพื่อเรียกคีย์บอร์ดบนหน้าจอ, สลับแอพโดยการเลื่อนซ้าย-ขวาแบบเดียวกับ webOS (ดูวิดีโอสาธิตการทำงานจาก CrackBerry ประกอบ)

การตอบสนองของ Tablet OS ทำได้รวดเร็ว การใช้งานมีเสถียรภาพ แต่ยังมีปัญหาเรื่องการบริหารหน่วยความจำที่ยังทำได้ไม่ดีนัก ทำให้ต้องสั่งปิดแอพเองอยู่บ่อยๆ

กระบวนการอัพเดตซอฟต์แวร์ทำได้ง่ายกว่า BlackBerry OS เดิมมาก สามารถอัพเดตแบบ OTA ได้เลย ส่วนการต่อเชื่อมกับพีซียังไม่มีโหมด USB Mass Storage ต้องลงไดรเวอร์ของ PlayBook และมองเห็นเป็นอุปกรณ์เฉพาะทาง จุดเด่นอีกอย่างคือทำ wireless sync กับพีซีได้

แอพพลิเคชัน

PlayBook มีแอพพลิเคชันมาให้ไม่เยอะนัก แต่หลายตัวก็ทำมาดีมาก โดยเป็นผลงานของทีม The Astonishing Tribe ที่ RIM ซื้อกิจการเมื่อปลายปี 2010

เบราว์เซอร์ มีฐานมาจาก WebKit (ตัวเดียวกับ BlackBerry OS 6 มาจากบริษัท Torch Mobile ซื้อเมื่อปี 2009) ทำงานได้รวดเร็ว แม้วัดความเร็วแบบจริงจังแล้วจะยังแพ้ iPad 2 และ XOOM อยู่เล็กน้อย สามารถเล่น Flash ได้สบายไม่มีปัญหา

Document To Go ชุดออฟฟิศที่ RIM ซื้อบางส่วนมา สามารถเปิดเอกสาร Microsoft Office และแสดงผลได้ดี สามารถแสดงผล PowerPoint ออกจอนอกผ่านพอร์ต HDMI ได้ด้วย ซึ่งถือเป็นจุดเด่นอีกประการของ PlayBook

Calculator เป็นผลงานของทีม The Astonishing Tribe เปลี่ยนแอพเครื่องคิดเลขธรรมดาให้มีสีสันมากขึ้นมาก แถมยังรวมตัวแปลงหน่วยและตัวช่วยคำนวณทิปมาด้วยเลย

Pictures อีกผลงานของ The Astonishing Tribe เป็นแอพดูรูปที่เรียบง่าย แต่มีแอนิเมชันขณะเปลี่ยนรูปที่หรูหรา

แอพอื่นๆ ที่มากับเครื่อง

  • Music App และ Music Store (ใช้บริการของ 7 Digital Music)
  • Voice Notes
  • Podcasts
  • Adobe Reader
  • Kobo Books

การใช้งานมัลติมีเดียบน PlayBook ทำได้ดี แต่ยังมีปัญหาบ้างในเรื่องการซื้อหนัง-เพลง-หนังสือ ซึ่งต้องสมัครใช้บริการนั้นๆ และมีระบบล็อกอินแยกจากกัน (เช่น ของ 7 Digital และ Kobo) ยังไม่มีระบบล็อกอินเดียวซื้อได้ทุกอย่างเหมือนกับของแอปเปิล

BlackBerry Bridge

No Description

สิ่งที่เป็นข้อขัดแย้งที่สุดของ PlayBook คือมันไม่มีแอพด้านการติดต่อสื่อสารและตารางนัดมาให้เลย ผู้ใช้จะต้องใช้แอพจากมือถือ BlackBerry ผ่านระบบที่เรียกว่า "BlackBerry Bridge" แทน (เชื่อมสองเครื่องผ่าน Bluetooth)

แอพที่ใช้งานผ่าน BlackBerry Bridge ได้แก่ อีเมล, ปฏิทิน, สมุดที่อยู่, สมุดโน้ต, ตารางงาน (ยังไม่สามารถใช้ BBM และ SMS ผ่าน PlayBook ได้)

PlayBook จะกลายเป็น "จอที่สอง" เมื่อต่อผ่าน Bridge โดยการประมวลผลและการเก็บข้อมูลทั้งหมดจะอยู่บนมือถือ BlackBerry อย่างไรก็ตาม ตัวแอพที่แสดงผลบนจอของ PlayBook จะถูกปรับแต่งหน้าตาให้เหมาะกับจอภาพขนาดใหญ่ขึ้น

เหตุผลของการที่ไม่มีซอฟต์แวร์สื่อสารและจัดการข้อมูลบน PlayBook ก็ตรงไปตรงมาว่า "ทำไม่ทัน" และสัญญาว่าจะออกแอพเหล่านี้ตามมาบน PlayBook ในอนาคต

จุดนี้กลายเป็นจุดอ่อนสำคัญของ PlayBook เพราะทำให้การใช้งานไม่สะดวก ทางเลือกอื่นที่เป็นไปได้ในตอนนี้คือใช้งานเว็บแอพผ่านเบราว์เซอร์แทน (ซึ่งก็ไม่สะดวกในอีกด้าน)

แอพอื่นๆ และ App World

ตอนนี้ PlayBook ยังไม่วางขายอย่างเป็นทางการ จำนวนแอพบน BlackBerry App World ก็ยังมีไม่มาก แต่แม้แอพจะเพิ่มขึ้นมาอีกจำนวนหนึ่งในวันเปิดตัว ก็ยังต้องถูกเปรียบเทียบกับ iPad ที่มีแอพจำนวนมหาศาล

สถานการณ์น่าจะดีขึ้นเมื่อ RIM เพิ่มความสามารถให้ PlayBook รันแอพเก่าของ BlackBerry และแอพจาก Android ได้ ซึ่งคงต้องรอกันอีกสักพัก

สรุป

CrackBerry แยกแยะข้อดีข้อเสียไว้ดังนี้

ข้อดี

  • ขนาดพกพาสะดวกกว่า iPad
  • คุณภาพของวัสดุและการประกอบดี
  • ระบบปฏิบัติการ Tablet OS ทันสมัยและมีอนาคตไกล อินเทอร์เฟซตอบสนองรวดเร็ว การสลับแอพทำได้ง่าย
  • รองรับ Flash ในตัว

ข้อเสีย

  • พื้นที่แสดงผลน้อยลงเมื่อเทียบกับแท็บเล็ตจอ 10"
  • ปัญหาของปุ่ม power ที่กดยาก
  • Tablet OS ยังใหม่และยังขาดฟีเจอร์อีกหลายอย่าง โดยเฉพาะขาดแอพด้านสื่อสารและจัดการงาน
  • ยังไม่มีระบบล็อกอินรวมสำหรับบริการออนไลน์แต่ละชนิด
  • อินเทอร์เฟซบางจุดยังใช้งานยาก การใช้ gesture เป็นหลักทำให้คนที่ไม่รู้ใช้ลำบาก

Wall Street Journal บอกให้ "รอ" PlayBook รุ่นที่สามารถทำงานได้ลำพังโดยไม่ต้องพึ่ง BlackBerry

Engadget บอกว่า PlayBook เหมาะสำหรับผู้ใช้ธุรกิจและผู้ใช้องค์กร (ที่มี BlackBerry อยู่แล้ว) ส่วนผู้ใช้ตามบ้านที่ต้องการแท็บเล็ตสำหรับงานทั่วๆ ไป ควรรอดูแท็บเล็ต Android ที่กำลังจะวางขายในเร็วๆ นี้แทน (คะแนนรีวิวของ Engadget ให้ 7/10)

รีวิวอื่นๆ

Get latest news from Blognone

Comments

By: darkleonic
ContributorAndroidWindowsIn Love
on 15 April 2011 - 16:15 #278439
darkleonic's picture

ดูแล้วน่าเล่นน่าใช้ดีครับ Android อาจลำบากได้

แต่การใช้หลายๆ อย่างมันไม่ค่อย Common เท่าไหร่อย่างที่ว่าจริงๆ


I need healing.

By: paween_a
Android
on 16 April 2011 - 09:20 #278654 Reply to:278439
paween_a's picture

+1

หน้าตา OS ดูดีมาก ความลื่นไหลทำได้ยอดเยี่ยม เหลือแค่ app และก็อนาคตของเครื่องนี้ว่าจะมีอะไรไปสู้กับเจ้าตลาดได้บ้าง ทำอย่างไรให้คนคิดว่ามาซื้อ PlayBook แทน iPad

ส่วน Android Tablet ตอนนี้ยังไม่ UI ใหม่ว่าจะเนียนสู้ Apple กับ RIM ไหวเลยนะครับ

By: phukapond
AndroidWindowsIn Love
on 15 April 2011 - 17:34 #278478
phukapond's picture

นี่ไม่ได้ใช่ BB ก็มองหาตัวอื่นได้เลย โดยไม่ต้องคิดหน้าคิดหลัง

By: zerocool
ContributoriPhoneAndroid
on 15 April 2011 - 17:45 #278484
zerocool's picture

ความคิดเห็นส่วนตัว

ผมว่าดูจาก feature แล้วน่าจะขายลำบากเหมือนกันนะครับ มีแววเจ๊ง


That is the way things are.

By: khajochi
WriteriPhoneIn Love
on 15 April 2011 - 18:00 #278485
khajochi's picture

7 เองเหรอเนี่ย แต่ดูเหมือนรีบออกเกิน จนซอฟท์แวร์พัฒนาไม่ทัน ไม่มี bbm ยังไม่หนักเท่าพวกตารางนัดหรืออีเมล์


แฟนพันธุ์แท้สตีฟจ็อบส์ | MacThai.com

By: toandthen
WriterMEconomics
on 15 April 2011 - 19:16 #278515
toandthen's picture

ส่วนตัวแล้วมันเหมือนกับ iOS + WebOS, with a BlackBerry touch


@TonsTweetings

By: latesleeper
Android
on 15 April 2011 - 19:31 #278521

i'd rather stick with iOS

By: znop
Android
on 15 April 2011 - 23:04 #278576
znop's picture

เคยนึกถึงอุปกรณ์ตัวนึงของ palm ชื่อ palm foleo
ทำงานเหมือน palm แต่จอใหญ่+มี keyboard
ตอนนั้นผู้บริหารออกมาพูดว่า มันสุดยอดมาก ผู้ใช้จะต้องชอบแน่นอน
สุดท้าย....

By: tekkasit
ContributorAndroidWindowsIn Love
on 15 April 2011 - 23:40 #278587 Reply to:278576
tekkasit's picture

ก็โดนจับทำแท้งก่อนที่จะวางขายไม่กี่เดือนอ่ะครับ ชาวบ้านยังแค้นกันไม่หาย เปิดตัวนานเชียว ปล่อย SDK ให้กับคู่ค้าไปพัฒนา ผู้พัฒนาเตรียมพัฒนาแอพเฉพาะสำหรับ Foleo ไว้แล้ว แต่สุดท้าย โดนจับทำแท้งซะงั้น

By: gololo
iPhoneWindows PhoneAndroidBlackberry
on 16 April 2011 - 01:39 #278609

นึกว่าจะเป็นข่าวรีวิวข่าวซะอีก
แต่ multitask ทรงพลังมากดูจากการสลับโปรแกรมเกมส์รถแข่งที่เกมส์ยังเล่นอยู่