Google ได้เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่สำหรับแอพ Google บน Android คือการบันทึกข้อความค้นหาเมื่อไม่สามารถเชื่อมต่อเครือข่ายได้ เพื่อนำไปค้นหาต่อได้เมื่อเชื่อมต่อเครือข่ายได้แล้ว
Google ให้เหตุผลว่า ในบางครั้งเครือข่ายโทรศัพท์พกพานั้นอาจจะไม่เสถียร หรืออาจจะติด ๆ ดับ ๆ ได้ทำให้บางครั้งเมื่อค้นหาอาจจะมีการล้มเหลวเกิดขึ้นบ้าง ซึ่ง Google จะทำการบันทึกข้อความค้นหาที่ไม่สามารถค้นหาได้ในเวลานั้นเนื่องจากไม่มีอินเทอร์เน็ต และเมื่อสามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้ Google จะทำการค้นหาให้ และแจ้งเตือนผู้ใช้อัตโนมัติ
ทั้งนี้ Google กล่าวว่าฟีเจอร์นี้จะไม่ใช้ปริมาณข้อมูลหรือกินแบตเตอรี่มากจนเกินไป ผู้ใช้จึงไม่จำเป็นต้องกังวลมากนัก
ProtonMail ผู้ให้บริการอีเมลเข้ารหัสความปลอดภัยสูง ได้เปิดรับอาสาสมัครแปลภาษาของบริการให้อยู่ในภาษาอื่น ๆ ในชื่อโครงการว่า ProtonMail Translation Project
สำหรับโครงการดังกล่าวของ ProtonMail เปิดให้ผู้ใช้ที่สนใจแปลภาษาทุกคนสามารถเข้ามาลงชื่อได้ โดยผู้ที่แปลภาษาจะไม่ได้เงิน แต่ ProtonMail อาจมอบของขวัญให้ เช่น gift card สำหรับซื้อสินค้ากับ ProtonMail หรือสิทธิในการใช้งานบัญชีแบบโปรฟรี
ProtonMail ได้เปิดให้ผู้ใช้ทั่วไปได้ใช้งานแบบไม่ต้องมีคำเชิญมาตั้งแต่ช่วงต้นปี 2015 ซึ่งทางบริการก็เริ่มมีผู้ใช้มากขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะช่วงที่ Yahoo! ถูกแฮกก็มีผู้ที่ใช้งานสูงขึ้นอีกมาก
Twitter ได้เปิดให้ผู้ใช้ได้ในงานปุ่ม Buy ตั้งแต่ปี 2014 โดยจะเป็นปุ่มสำหรับผู้ใช้ให้กดซื้อของได้ง่าย ๆ จากบน Timeline แต่ล่าสุดเริ่มมีท่าทีจาก Twitter ว่าเตรียมจะถอดปุ่มดังกล่าวออกแล้ว
ข้อมูลนี้มาจากผู้ใช้งาน Shopify ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซที่มีผู้นิยมใช้งานมาก โดยผู้ใช้งานแพลตฟอร์มเริ่มได้รับการแจ้งเตือนว่า Twitter จะปิดช่องทางการขายสินค้าแล้ว ซึ่งก็คือปุ่ม Buy นั่นเอง ในขณะที่ปุ่ม Donate สำหรับการบริจาคให้องค์กรการกุศล และองค์กรไม่แสวงผลกำไรนั้น จะยังคงมีให้บริการอยู่เช่นเดิม
Google ได้ประกาศเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ให้กับ Google+ หลายอย่าง พร้อมกับประกาศการปิดตัว Google+ คลาสสิค โดยฟีเจอร์ใหม่ของ Google+ มีดังนี้
@evleaks ได้รายงานว่า Android Wear 2.0 เตรียมจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 9 กุมภาพันธ์ พร้อมกับสมาร์ทวอชสองรุ่นที่ผลิตโดย LG คือ LG Watch Sport และ LG Watch Style
สำหรับ LG Watch ทั้งสองตัวนั้นจะเหมือนกันแทบทุกอย่าง ตั้งแต่หน้าจอ OLED แบบวงกลม, หน่วยความจำภายใน 4GB, รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi และ Bluetooth ส่วนความแตกต่างคือรุ่น Sport นั้นจะเป็นรุ่นท็อป ตัวเครื่องจะหนากว่าเล็กน้อย โดยจะมีความสามารถเพิ่มเติม คือรองรับการเชื่อมต่อ LTE, GPS, NFC, จอละเอียดกว่า, แบตเตอรี่ความจุสูงกว่า, แรมมากกว่า, และมีเซนเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจ
AT&T ได้ประกาศอย่างเป็นทางการว่า ทางบริษัทได้หยุดให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์ 2G แล้วตั้งแต่วันที่ 1 มกราคมที่ผ่านมา หลังจากที่มีการประกาศการเตรียมการมาแล้ว 4 ปี ซึ่งในช่วงเริ่มต้นของการดำเนินการมีผู้คัดค้านเป็นจำนวนมาก
AT&T กล่าวว่า ปัจจุบันเครือข่าย 3G และ LTE นั้นครอบคลุมชาวอเมริกันแล้วกว่า 99% การปิดเครือข่าย 2G จะช่วยให้นำทรัพยากรคลื่นความถี่ไปพัฒนาเทคโนโลยีเครือข่ายในอนาคตได้ รวมถึงเครือข่าย 5G ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้ด้วย ซึ่งตั้งแต่ปี 2007 นั้นปริมาณการใช้ข้อมูลบนเครือข่ายสูงขึ้นถึง 2,500 เท่า โดยเฉพาะวิดีโอที่มีส่วนทำให้ปริมาณการใช้งานเติบโตขึ้นมาก
Evernote ได้ออกแอพใหม่สำหรับ iOS เวอร์ชัน 8.0 โดยรอบนี้มาพร้อมกับการออกแบบตัวแอพใหม่ทั้งหมด สามารถสร้างโน้ตและค้นหาได้ง่ายขึ้น และเปลี่ยนจากสีดำบนสีเขียว ไปใช้สีขาวดำแทน โดยมีฟีเจอร์ที่ Evernote อธิบายไว้ดังนี้
ค้นหาง่ายขึ้น: ปรับปรุงส่วน navigation ของแอพใหม่ทั้งหมด นำหน้าโฮมออกไปแทนที่ด้วยโน้ตล่าสุด, ดูโน้ตทั้งหมดคร่าว ๆ ได้ไวขึ้น, notebook ก็สามารถแตะเลือกด้านบนโน้ตใดก็ได้ ไม่ต้องเปลี่ยน notebook ไปมาเพื่อหาโน๊ต, แตะที่นาฬิกาบนโน้ตใดก็ได้เพื่อแสดงโน้ตที่ตั้ง reminders ไว้ หรือถ้าต้องการแสดงตามแท็กของโน้ต ก็แตะที่แท็กได้เลย
Verizon ผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์ในสหรัฐฯ ได้เผยกับสำนักข่าว Fortune ว่า ตอนนี้ในเครือข่ายยังมีผู้ใช้ Samsung Galaxy Note 7 นับพันเครื่อง แม้ว่าจะเรียกคืนไปแล้ว ก็ยังมีผู้ใช้จำนวนหนึ่งไม่ยอมนำอุปกรณ์ที่มีปัญหามาเปลี่ยน
Verizon จะใช้มาตรการขั้นถัดไปเพื่อบีบให้ผู้ใช้ Note 7 มาเปลี่ยนเครื่องให้ได้ ขั้นแรกคือจะทำการเปลี่ยนเส้นทางการโทรศัพท์ของผู้ใช้ Note 7 ไม่ว่าจะโทรไปที่ใดก็ตาม ให้มาที่หน่วยงานบริการลูกค้าของ Verizon (แต่ก็ไม่สามารถเปลี่ยนเส้นทาง 911 ได้อยู่ดี) และทาง Verizon จะแจ้งให้ลูกค้าเปลี่ยนเครื่องทันที แต่หากยังไม่ได้ผล Verizon จะใช้มาตรการขั้นที่สอง คือเก็บเงินผู้ใช้ที่ไม่ยอมคืน Note 7 เป็นเงินค่าตัวของโทรศัพท์อีกครั้ง แม้ว่าผู้ใช้จะได้เงินคืนแล้วก็ตาม
Jason Child ซีเอฟโอของบริษัท Jawbone ผู้ผลิตสายรัดข้อมือ UP ได้ลาออกจากบริษัทเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งจากโปรไฟล์บน LinkedIn บอกว่าตอนนี้ Child กำลังทำงานอยู่ที่ University of Washington โดยดำรงตำแหน่ง global advisory board ของ business school
การลาออกของซีเอฟโอในครั้งนี้ Jawbone ปฏิเสธจะให้ความเห็น แต่ก็พอจะแสดงให้เห็นได้ถึงความไม่มั่นใจด้านการเงินใน Jawbone ซึ่งทางบริษัทก็เคยมีรายงานว่าจะเลิกผลิตสายรัดข้อมือ UP กับขายธุรกิจลำโพง Bluetooth และไปเน้นผลิตภัณฑ์ด้านอื่นแทน โดยแหล่งข่าวของ The Verge เห็นว่าตอนนี้ Jawbone น่าจะเปลี่ยนจากบริษัทที่ขายสินค้าให้ผู้บริโภคทั่วไป มาเป็นการดีลกับบริษัทเพื่อขายเซนเซอร์ด้านสุขภาพแทน
Twitter ได้ประกาศปิดตัว Vine โดยกำหนดมาเป็นวันที่ 17 มกราคม และตอนนี้ก็ถึงเวลาแล้ว Twitter ก็ได้ปิด Vine ตามที่ได้กล่าวไว้
สำหรับการเปลี่ยนแปลงบน Vine คือตัวแอพบนมือถือจะออกอัพเดตโดยเปลี่ยนเป็น Vine Camera คือแอพสำหรับการสร้างวิดีโอวนลูป 6 วินาที และแชร์ลง Twitter หรือบันทึกลงบนมือถือได้ และยังมีเครื่องมืออย่างเช่น grid overlay, AF focus, ghost tool, multi-clip trimming, draft ส่วนบนหน้าเว็บนั้นจากที่ประกาศไว้คือจะยังคงให้บริการต่อไป แต่จะเป็นแบบดูอย่างเดียว
Logan Green และ John Zimmer ผู้ร่วมก่อตั้ง Lyft ได้เสนอรัฐบาลถึงวิธีการลดปริมาณการจราจรบนถนน โดยใช้สิ่งที่เรียกว่า smart lane
smart lane นี้จะมีความพิเศษอย่างหนึ่ง คือเป็นช่องทางเดินรถที่จะใช้สำหรับรถยนต์ที่มีผู้โดยสาร 3 คนขึ้นไปเท่านั้นจึงจะได้วิ่งในช่องทางนั้นฟรี แต่ถ้าไม่ใช่ จะต้องจ่ายเงินเพื่อใช้ช่องทางเดินรถ เพื่อเป็นการส่งเสริมให้ใช้พื้นที่บนรถยนต์อย่างคุ้มค่า
ในบล็อกของ Zimmer นั้น เขียนไว้ว่ารัฐบาลควรจะกำหนดว่า ถนนสายใดควรจะกำหนดเป็น smart lane โดยดูจากข้อมูลด้านการจราจรในท้องถิ่น ซึ่ง smart lane ที่กำหนดขึ้นนี้สามารถทำเงินให้กับหน่วยงานภาครัฐ และเงินเหล่านี้สามารถนำไปลงทุนต่อได้อีกมาก ในขณะที่สามารถช่วยลดปริมาณการจราจรได้ด้วย
การเดินรถแบบเป็นช่วงเวลา เช่น ตอนเช้าเป็นขาเข้า ตอนเย็นเป็นขาออก ถือเป็นปัญหาอย่างหนึ่งที่ท้าทายกับระบบรถยนต์ไร้คนขับอย่างมาก เพราะว่าตัวระบบของรถยนต์จะไม่มีทางรู้เลยว่าเวลาใดเดินรถทางไหน ล่าสุด Amazon ได้จดสิทธิบัตรใหม่เพื่อแก้ปัญหานี้แล้ว คือการสร้างเครือข่ายขึ้นมาเพื่อติดต่อกับรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ โดยจะกำหนดให้รถยนต์นั้นเดินรถตามช่องทางได้ตามที่ระบบต้องการจากปัจจัยหลาย ๆ อย่าง เช่น ปริมาณรถยนต์, เส้นทางที่ต้องการไป เพื่อทำให้จราจรลื่นไหลได้ดีที่สุด
Oracle ได้รายงานความก้าวหน้าในเรื่องคลาวด์ของบริษัทในงาน CloudWorld ซึ่งเป็นงานสัมมนาด้านคลาวด์แบบวันเดียวที่จัดขึ้นในนิวยอร์คซิตี้ โดยมีทั้งการเปิดตัวผลิตภัณฑ์และประกาศแผนเปิดตัวศูนย์ข้อมูลคลาวด์แห่งใหม่
Mark Hurd ซีอีโอของ Oracle กล่าวบนเวทีว่า คลาวด์นั้นถือเป็น “แรงที่ต้านทานไม่ได้” และการย้ายไปยังคลาวด์นั้นไม่ใช่เฉพาะเทคโนโลยี แต่รวมถึงโมเดลธุรกิจด้วย คือจะเป็นหนทางใหม่ของการคิดเกี่ยวกับอุตสาหกรรมของเรา
XDA Developers ได้รายงานผลจากการแกะโค้ดจากแอพ Google สำหรับ Android เบต้าล่าสุดที่มี Google Assistant ด้วย ซึ่งจากรายงานกล่าวว่าในอนาคตนั้น Google Assistant อาจจะสามารถใช้งานระบบจ่ายเงินได้ด้วย
จากรายละเอียดที่ได้มานั้น ยังไม่พบว่า ฟีเจอร์ดังกล่าวจะทำงานบน Google Assistant อย่างไร เนื่องจากพบเพียงแค่สตริงที่บ่งบอกถึงฟีเจอร์เท่านั้น แต่ตัวโค้ดจริง ๆ ยังไม่มีการ implement ลงไป โดยรายละเอียดบอกเพียงแค่ผู้ใช้สามารถซื้อสินค้าผ่าน Google Pixel ได้ และสามารถควบคุมได้ว่าอุปกรณ์ใดที่สามารถจ่ายเงินได้ เช่น Google Home
Rovio Entertainment ผู้ผลิตเกมชื่อดังอย่าง Angry Birds เตรียมจะเปิดสตูดิโอแห่งใหม่ในกรุงลอนดอน โดยจะเน้นการพัฒนาเกมที่มีผู้เล่นหลายคน และไม่ขึ้นกับแบรนด์ Angry Birds
Rovio นั้นกำลังมองหาทีมงานซึ่งมีจำนวนกว่า 20 คน เพื่อทำการสร้างเกมแบบ massively multiplayer online (MNO) ซึ่งจะต้องรองรับผู้เล่นจำนวนหลาย ๆ คนในเวลาเดียวกันพร้อมกัน และจะเน้นไปที่คาแรคเตอร์ใหม่ ๆ
Wihelm Taht หัวหน้าฝ่ายเกมเผยว่า ในระยะยาว คาแรคเตอร์ใหม่จะสร้างทรัพย์สินทางปัญญารวมไปถึงแบรนด์ด้วย และในปี 2017 นี้ Rovio เผยว่าจะยังไม่มีการเปิดตัวเกมจำนวนมาก
เมื่อ Taht ถูกถามถึงเทคโนโลยีของเกม Pokemon GO ที่มีการนำ AR เข้ามาช่วย เขาก็กล่าวว่าจะนำ AR เข้ามาเป็นเทคโนโลยีและเครื่องมือด้วยเช่นกัน
Baidu ผู้ให้บริการค้นหายักษ์ใหญ่จากจีนได้เปิดตัวห้องปฏิบัติการวิจัยด้าน AR แห่งใหม่แล้ว แยกออกจาก Institute of Deep Learning โดยเป็นห้องวิจัยแห่งที่ 4 ภายใต้ Baidu Research (นอกจากนั้นอีก 3 แห่งคือ Big Data Lab, Silicon Valley Lab และ Institute of Deep Learning)
ทิศทางของ Baidu ต่อ AR นั้นคือจะเน้นการใช้กับสมาร์ทโฟนเป็นหลักเพื่อเสริมประสบการณ์ในการใช้งานผ่านแอพของบริษัท โดยไม่จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์เสริม เช่น Baidu Maps, Mobile Baidu, Baidu Nuomi ซึ่งปัจจุบันมีผู้ใช้ทุกแอพรวมแล้วกว่า 1 พันล้านคนต่อเดือน
มีรายงานใหม่จาก CNBC เผยว่า Lyft เตรียมที่จะขยายบริการเรียกรถของตัวเองออกไปนอกสหรัฐฯ โดยมีหลักฐานซึ่งได้มาจากการอัพเดตล่าสุดกับพาร์ทเนอร์ทั่วโลกของ Lyft
ปัจจุบัน Lyft มีบริษัทพาร์ทเนอร์คือ Ola, Didi และ Grab ซึ่งแอพของพาร์ทเนอร์ทั้งหมดนั้นสามารถใช้เรียกรถ Lyft ในสหรัฐฯ ได้เลยโดยไม่ต้องดาวน์โหลดแอพใหม่
ล่าสุด Lyft ได้ส่งข้อความถึงผู้ใช้ทั่วโลกแล้ว ว่าให้ดาวน์โหลดแอพ Lyft แยกจากแอพเหล่านั้น ซึ่งก็น่าจะเป็นท่าทีของ Lyft ที่ต้องการจะทำบริการเอง และจากรายงานของ CNBC บอกว่าทางบริษัท Lyft นั้นคาดว่าจะเริ่มทำตลาดนอกสหรัฐฯ ภายในปีนี้ หลังจากที่ 5 ปีที่ผ่านมา Lyft ทำตลาดเฉพาะในสหรัฐฯ ในขณะที่คู่แข่งอย่าง Uber มีการดำเนินงานกว่า 70 ประเทศทั่วโลกแล้ว
Facebook ได้เริ่มเตรียมทดสอบเครื่องมือสำหรับการจัดการกับข่าวปลอมแล้วในเยอรมนีในสัปดาห์หน้า
ปกติแล้ว Facebook จะมีระบบให้ผู้ใช้รายงานว่าเป็นข่าวปลอมได้อยู่แล้ว ซึ่งระบบนี้จะทำงานคือเมื่อผู้ใช้ได้รายงานแล้ว รายงานนั้นจะถูกส่งไปยังระบบตรวจสอบความจริงภายนอก ซึ่งถ้าหากเป็นข่าวปลอมจริง Facebook จะติดธงไว้และจะไม่จัดลำดับเรื่องนั้นให้ พร้อมทั้งมีการแจ้งเตือนผู้ใช้ที่จะแชร์ข่าวที่ถูกติดธงว่าเป็นข่าวปลอมด้วย
ทั้งนี้ Facebook ยังไม่แจ้งว่าจะมีการเปิดให้ใช้ระบบดังกล่าวทั่วโลกเมื่อไร
ที่มา - Engadget
หน่วยงานบริหารด้านพื้นที่ไซเบอร์ของประเทศจีน (Cyberspace Administration of China) ได้ออกประกาศว่า ตั้งแต่ 16 มกราคมเป็นต้นไป พื้นที่ซื้อขายแอพทุกแห่งจะต้องลงทะเบียนกับรัฐบาล เพื่อลดความเสี่ยงในด้านความปลอดภัย
กฎหมายฉบับนี้เป็นกฎหมายที่ตามมาจากกฎหมายฉบับปี 2016 ซึ่งออกแบบมาให้ควบคุมแอพที่เป็นปัญหาต่อระบบความปลอดภัยในประเทศ หรือการกระทำที่ผิดกฎหมายอื่น ๆ
Michael Lynton ซีอีโอของบริษัท Sony Entertainment เตรียมจะก้าวลงจากตำแหน่งในบริษัท เพื่อมารับตำแหน่งเป็นประธานบอร์ดของบริษัท Snap Inc ซึ่งเป็นบริษัทเจ้าของแอพแชทชื่อดังอย่าง Snapchat ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ Snap นำผู้บริหารระดับสูงที่มีประสบการณ์ในด้านวงการภาพยนตร์เข้ามานั่งในตำแหน่งอย่างถาวร ในขณะที่ Snapchat ก็กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว ทั้งในด้านผู้ใช้ และการเป็นพาร์ทเนอร์กับบริษัทสื่อต่าง ๆ โดยบริษัทจะเข้าไอพีโอในปีนี้
Twitter เตรียมปิดตัวฟีเจอร์ Dashboard ซึ่งเป็นสถานที่รวมเครื่องมือสำหรับการใช้ในธุรกิจเพื่อทำการติดตามทวีต เข้าถึงข้อมูลวิเคราะห์ และอื่น ๆ โดยฟีเจอร์นี้เพิ่งจะเปิดตัวในช่วงปลายเดือนมิถุนายน 2016
สำหรับฟีเจอร์ Dashboard นี้ Twitter แจ้งว่าจะปิดตัวลงอย่างเป็นทางการในวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2017 โดยทางบริษัทยังไม่มีแผนในเกี่ยวกับฟีเจอร์ต่าง ๆ สำหรับผู้ใช้ในองค์กรธุรกิจที่จะมาทดแทน Dashboard ได้
Adobe Research ได้ทำการเดโมการใช้คำสั่งเสียงเพื่อเลือกเครื่องมือแก้ไขรูปภาพให้ผู้ใช้ เรียกว่า Interactive Agent for Photo Editing คือผู้ใช้เพียงแค่กดปุ่มใช้งานคำสั่งเสียงว่าต้องการทำอะไรกับรูปภาพ แล้วตัวซอฟต์แวร์ก็จะเลือกเครื่องมือนั้นแสดงให้ผู้ใช้โดยอัตโนมัติ เช่น ผู้ใช้สั่งว่า “ต้องการรีเฟรมภาพ” ก็จะเลือกเครื่องมือครอปภาพมาให้
การใช้คำสั่งเสียงในการเรียกเครื่องมือจัดการรูปภาพนี้ จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถจัดการรูปภาพได้ดียิ่งขึ้น เนื่องจากเครื่องมือในการปรับแต่งรูปภาพในหลายครั้งถือว่าใช้งานลำบากและซับซ้อน ต้องเข้าเมนูหลายชั้น และบางครั้งใช้ชื่อที่ยากหรือไอคอนที่ตีความลำบากทำให้ผู้ใช้ไม่ทราบว่าต้องใช้เครื่องมือใดที่สามารถทำงานนั้น ๆ ได้ รวมถึงกระบวนการบางอย่างที่ซับซ้อนแต่ผู้ใช้ไม่รู้ว่าจะต้องเลือกเครื่องมืออะไรทำงานนั้น เช่น ทำให้หน้าสว่างขึ้น หรือลบสิ่งแปลกปลอมในภาพ ก็จะสามารถใช้คำสั่งเสียงช่วยให้กระบวนการเหล่านี้สามารถทำได้ง่ายขึ้น
การพัฒนาระบบคำสั่งเสียงสำหรับการแต่งภาพของ Adobe Research นี้ยังอยู่ในขั้นต้นเท่านั้น โดยวิดีโอเดโมความยาว 30 วินาทีสามารถดูได้ท้ายข่าว
ที่มา - Fast Company
App.net บริการโซเชียลเน็ตเวิร์คเหมือนกับ Twitter ที่ชูจุดขายไม่มีโฆษณาและอาศัยรายได้จากการสมัครสมาชิกแทน ได้ประกาศว่าตอนนี้จะปิดบริการในวันที่ 14 มีนาคมนี้ เนื่องจากมีรายได้ไม่เพียงพอ และจะไม่มีการให้ผู้ใช้สมัครสมาชิกใหม่แล้วตั้งแต่วันนี้
สำหรับผู้ใช้ทั่วไปนั้น App.net จะเปิดให้นำข้อมูลออกมาได้ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่บริการปิด ซึ่งหลังจากวันนั้นแล้วข้อมูลทั้งหมดจะถูกลบอย่างถาวร ส่วนนักพัฒนานั้น App.net แจ้งว่าจะเปิดซอร์สโค้ดให้ โดยเข้าไปดูได้บนหน้า GitHub
เจ้าหน้าที่กฎหมายในแคนาดาได้ประกาศว่า Amazon Canada จะต้องจ่ายเงินค่าปรับเป็นจำนวนกว่า 1 ล้านดอลลาร์ ด้วยข้อหาแสดงราคาก่อนลดไม่เป็นไปตามความจริง
การสอบสวนครั้งนี้เป็นหน้าที่ของสำนักงานด้านการแข่งขัน (Competition Bureau) ของประเทศแคนาดา เน้นไปที่การแสดงราคาของ Amazon คือทางบริษัทเลือกที่จะแสดงราคาของตัวเองเมื่อเทียบกับราคาที่สูงกว่าที่ Amazon เรียกว่า list price ซึ่งเป็นกิมมิคที่ทำให้ผู้ใช้คิดไปเองว่าตัวเองได้สินค้าที่ราคาถูก แม้ว่าราคา list price ที่ Amazon นำมาแสดงนั้นอาจจะไม่มีใครที่ซื้อในราคานั้นเลยก็ได้ อธิบายง่าย ๆ คือแสดงราคาเต็มที่ไม่เป็นความจริง แล้วแสดงราคาที่ผู้ใช้งานจะได้เมื่อซื้อผ่าน Amazon และบอกว่าผู้ใช้จะได้ลดเท่าไร ซึ่งความจริงแล้วอาจจะไม่ได้ลดราคาเลยก็ได้
Google ได้เปิดตัวเทคโนโลยีใหม่ที่เรียกว่า RAISR (ย่อมาจาก Rapid and Accurate Super Image Resolution) ไปแล้วก่อนหน้านี้ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ใช้ machine learning ช่วยประหยัดข้อมูลในการดาวน์โหลดไฟล์ภาพ คือไม่จำเป็นต้องดาวน์โหลดไฟล์ที่เป็นขนาดเต็มมา แต่ดาวน์โหลดมาเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น
RAISR นั้นจะใช้รูปภาพที่ดาวน์โหลดด้วยความละเอียดต่ำ มาทำการเก็บรายละเอียดภาพโดยใช้ machine learning ซึ่งจากการใช้งาน RAISR กับรูปภาพบน Google+ แล้วพบว่าช่วยลดปริมาณการใช้ข้อมูลลงได้สูงสุด 75% ต่อภาพ โดยยังคงแสดงภาพขนาดเต็มได้อย่างสวยงาม