นาย Scott Durchslag หัวหน้าฝ่ายปฏิบัติการ (COO) ของ Skype กล่าวถึงโอกาสที่จะเปิดให้บริการ VoIP (Voice over Internet Protocol) บนไวแมกซ์ ว่า ค่อนข้างเป็นที่ชัดเจนว่า ในขณะที่บรรดาผู้ให้บริการสื่อสารไร้สายรายเดิมยังคงกังวลว่า การใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี VoIP จะส่งผลกระทบต่อรายได้ที่ได้รับจากบริการด้านเสียง (voice) ที่ผ่านเซอร์กิต-สวิตซ์ เพิ่มมากขึ้นนั้น ผู้ให้บริการไวแมกซ์รายใหม่ (ซึ่งใช้โครงข่าย IP ทั้งหมด)ไม่ต้องกังวลกับรายได้จากบริการเสียงพูดที่มีอยู่เดิมแต่อย่างใด

เขากล่าวด้วยว่า ขอบเขตความร่วมมือกับผู้ให้บริการไวแมกซ์นั้นจะมีมากกว่ากับผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ โดยในอนาคตจะมีแอปพลิเคชั่นใหม่ๆที่จะทำงานร่วมกันอีกหลากหลาย

ไวแมกซ์ ฟอรัม (WiMAX Forum) คาดการณ์ตลาดไวแมกซ์ในอินเดียว่า รายได้จากบริการและอุปกรณ์รวมกันจะมีมูลค่าราว 13 พันล้านเหรียญสหรัฐในปี 2555 และมียอดผู้ใช้บริการไวแมกซ์เพิ่มขึ้นเป็น 19 ล้านราย หรือ 20% ของจำนวนผู้ใช้บริการไวแมกซ์ทั่วโลก

ทางกลุ่มไวแมกซ์คาดหมายว่า การเข้าถึงบริการบรอดแบนด์ของประเทศยังมีโอกาสขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตามการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ (ที่มีการเติบโตขึ้นราว 9% ต่อปี) หากมีการวางรากฐานการริเริ่มนำไปใช้ในงานต่างๆที่มีความสำคัญต่อการพัฒนาประเทศมากขึ้น เช่น การเรียนการสอนทางไกล เทเลเมดิซีน และรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (e-government)

คณะกรรมาธิการเพื่อการปฏิรูปและพัฒนาแห่งชาติ (NDRC) ของสาธารณรัฐประชาชนจีน เปิดเผยเมื่อเร็วๆ นี้เกี่ยวกับการเติบโตของบริการบรอดแบนด์ของประเทศ โดยระบุว่าตั้งแต่มกราคมถึงกรกฎาคม 2551 จีนมีจำนวนผู้ใช้บริการอินเทอร์เน็ต บรอดแบนด์รายใหม่เพิ่มขึ้น 11.4 ล้านราย ทำให้มียอดผู้ใช้บรอดแบนด์ทั้งหมดเพิ่มขึ้นเป็น 77.8 ล้านราย

ในขณะที่ภาคอุตสาหกรรมโทรคมนาคมของจีนรายงานด้วยว่า รายได้มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องด้วยมูลค่าราว 467.8 พันล้านหยวน (หรือประมาณ 2.48 ล้านล้านบาท)ซึ่งสูงขึ้น 7.9% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา

หลายฝ่ายให้ความเห็นตรงกันว่า Long Term Evolution (LTE) จะเป็นเทคโนโลยีสื่อสารไร้สายยุค ที่ 4 (หรือ 4G) ซึ่งจะเป็นอีกตัวเลือกหนึ่งของบรรดาผู้ให้บริการโครงข่ายสื่อสารไร้สายไม่เกินปี 2553 หรืออาจ ช้ากว่านั้นเล็กน้อย และจากการศึกษาของบริษัท ABI Research รายงานว่า จำนวนผู้ใช้ LTE จะสูงกว่า 32 ล้านรายในปี 2556

บริษัทยักษ์ใหญ่สื่อสารไร้สาย 4 บริษัท ประกอบด้วย เอ็นทีที โดโคโม, เรเนซาส เทคโนโลยี, ฟูจิตสึ และชาร์ป คอร์ปอเรชั่น ประกาศว่าทางกลุ่มมีแผนร่วมมือกันพัฒนาอุปกรณ์ SH-Mobile G4 single-chip LSI device และแพลทฟอร์มเพื่อสนับสนุนมาตรฐานโทรศัพท์เคลื่อนที่ HSUPA/HSDPA/W-CDMA และ GSM/GPRS/EDGE (2G) ทั้งนี้คาดหมายว่าการพัฒนาแพลทฟอร์มดังกล่าวจะแล้วเสร็จภายในไตรมาส 4 ของปีภาษี 2552 ของญี่ปุ่น (มกราคม-มีนาคม 2553)

SH-Mobile G4 ประกอบขึ้นโดยใช้ เทคโนโลยี 45-nm process เพื่อทำให้ส่วนประกอบต่างๆสามารถทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพและด้วยความเร็วสูงยิ่ง (extra-fast processing) ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งกับการใช้งานด้านกราฟฟิก HD video และ 3-D

บริษัทวิจัยตลาด ABI Research Asia-Pacific รายงานว่า ปี 2551 นี้บรรดาผู้ผลิตและจัดหาอุปกรณ์โครงข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ชั้นนำของโลก (เช่น โนเกีย, ซีเมนส์ เน็ทเวอร์ค, อีริคสัน และอัลคาเทล-ลูเซนท์) ต้องลงทุนในการพัฒนาเพื่อการผลิตอุปกรณ์โครงข่ายฯเพิ่มขึ้น 3.4% หรือคิดเป็นมูลค่าราว 53.9 พันล้านเหรียญสหรัฐ

ABI Research ระบุด้วยว่า จำนวนสถานีฐานจะเพิ่มขึ้นจาก 3.6 ล้านสถานีในปี 2550 เป็น 5.2 ล้านสถานีในปี 2556

สำหรับตลาดประเทศกำลังพัฒนานั้น บรรดาผู้ให้บริการกำลังหาช่องทางลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานและแสวงหาเทคโนโลยีใหม่ๆมาให้บริการ เช่น เทคโนโลยี 3.5G (ได้แก่ HSDPA และ CDMA2000 Rev A)

ที่มา - 4g.co.uk

สำนักข่าว มิสซิมา (Mizzima)รายงานเมื่อกรกฎาคม 2551 ระบุว่า กระทรวงไปรษณีย์และโทรคมนาคมแห่งประเทศพม่า (MPT)เปิดเผยอย่างเป็นทางการถึงการเปิดให้บริการโครงข่ายโทรศัพท์ เคลื่อนที่ยุคที่ 3(หรือ 3G)แล้วโดยใช้มาตรฐาน W-CDMA

ทั้งนี้ในระยะแรกจะมีผู้ใช้บริการเพียง 50 ราย (ในกิจการทหารเท่านั้น) เนื่องจากยังขาดแคลนด้านด้านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน

ตามแผนการพัฒนาโครงข่าย 3G นั้น MPT รายงานว่า ในระยะต่อไปจะขยายบริการให้ครอบคลุมเมืองย่างกุ้ง รองรับผู้ใช้บริการราว 30,000 ราย และภายหลังการพัฒนาโครงสร้างต่างๆแล้วเสร็จ คาดว่าจะให้บริการแก่ผู้ใช้งานทั่วประเทศราว 200,000 ราย

CDG (CDMA Development Group) ประกาศเมื่อเร็วๆนี้ว่า จำนวนผู้ใช้เทคโนโลยี CDMA2000® และ 1xEV-DO ทั่วโลกเพิ่มขึ้นเป็น 450 ล้านรายและ 100 ล้านราย ตามลำดับ โดยในไตรมาสที่ 2 ปี 2551 มีจำนวนเพิ่มขึ้นกว่า 12 ล้านราย

ทั้งนี้เมื่อสิ้นมิถุนายน 2551 จำนวนผู้ใช้ CDMA2000 เพิ่มขึ้นกว่า 19% (เมื่อเทียบกับมิถุนายน 2550) โดยจำนวนผู้ใช้ที่เพิ่มขึ้นนั้นส่วนใหญ่มาจากภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ตามด้วยอเมริกาเหนือ ยุโรป ตะวันออกกลาง และแอฟริกา

เมื่อวันที 17 ตุลาคม 2551 บริษัท ลาว โทรคมนาคม ซึ่งเป็นผู้ให้บริการโทรคมนาคมรายใหญ่ของประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) ประกาศอย่างเป็นทางการแล้ว ในการเปิดให้บริการโครงข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ยุคที่ 3 หรือ 3G ภายในประเทศอย่างเป็นทางการแล้ว โดยในระยะแรกเปิดให้บริการเฉพาะในเวียงจันทร์ (Vientiane) หลังจากที่ล่าช้ากว่ากำหนดประมาณ 1 เดือน

พิธีเปิดให้บริการโครงข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ 3G อย่างเป็นทางการ จัดขึ้นที่โรงแรมดอนจัน พาเลซ Don Chan Palace)โดย ฯพณฯ พลโท ดวงชัย พิจิตร (Duangchai Phichit)รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกระทรวงป้องกันประเทศ ท่านทันสะไหม กมมะสิด (Thansamay Kommasith) ผู้อำนวยการใหญ่บริษัทลาวโทรคมนาคม พร้อมด้วยตัวแทนภาครัฐและภาคเอกชนเข้าร่วมงาน

รายงานจากสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ (ITU) คาดการณ์ว่า สิ้นปี 2551 จำนวนผู้ใช้โทรศัพท์มือถือจะเพิ่มสูงขึ้นกว่า 4,000 ล้านราย โดยมี penetration rate สูงขึ้นจาก 48% ในปี 2550 เป็น 61%

ทั้งนี้มีประเทศที่เป็นตลาดใหญ่ๆของโลก เช่น จีน มีจำนวนผู้ใช้งานเกิน 600 ล้านรายไปแล้วเมื่อกลางปี 2551 ที่ผ่านมา ส่วนอินเดียตามมาด้วยจำนวน 296 ล้านรายเมื่อสิ้นกรกฎาคม 2551

ที่มา - ITU News

ปัญหาราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่มีราคาขึ้นๆและไม่ค่อยลงที่เกิดขึ้นในสังคมปัจจุบัน และกระทบต่อความเป็นอยู่ของเราทุกวันนี้ เป็นสิ่งที่หลายฝ่ายมิได้นิ่งนอนใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการตัดสินใจเกี่ยวกับอนาคตของรถยนต์ที่กำลังจะผลิตขึ้นมาใหม่ๆ

คำถามที่ถูกตั้งขึ้นมาคือ ควรจะเป็นรถยนต์ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงทั่วไป รถยนต์ใช้น้ำมันผสมแอลกอฮอส์ รถยนต์ใช้ก๊าซ รถยนต์พลังงานแสงอาทิตย์ (โซลาเซ็ล) รถยนต์ใช้ไฟฟ้า รถยนต์ฮายบริดจ์(ใช้แบตเตอรี่และน้ำมัน) และล่าสุดเป็นรถยนต์พลังงานไฮโดรเจน

สำนักข่าวซินหัวของจีนรายงานว่า ผู้เชี่ยวชาญอุตสาหกรรมระบุว่า ปัจจุบันมีชาวจีนประมาณ 84.5 ล้านคนที่ใช้เครื่องโทรศัพท์เคลื่อนที่ ในการเข้าใช้บริการอินเทอร์เน็ต ซึ่งคิดเป็นเกือบ 30% ของผู้ใช้บริการอินเทอร์เน็ต (netizens) ทั้งหมดของประเทศ

หยาง เซอะหมิน (Yang Zemin) ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยโทรคมนาคม (Telecom Research Institute – TRI) ในสังกัดกระทรวงอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศกล่าวว่า จีนมีจำนวนผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่มาจดทะเบียนเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ 8 เดือนแรกของปีมีจำนวนมากถึง 68.7 ล้านราย ทำให้ขณะนี้จีนมีจำนวนเครื่องโทรศัพท์เคลื่อนที่ใช้งานทั่วประเทศราว 616 ล้านเครื่อง

หลังจากลงทุนในโครงการสร้างเคเบิลใต้น้ำยูนิตี้ ทรานส-แปซิฟิก (Unity trans-Pacific cable)แล้ว กูเกิลยังก้าวไปอีกขั้นหนึ่งด้วยการเจรจากับผู้ให้บริการโทรคมนาคมของประเทศต่างๆ เพื่อลงทุนสร้างเคเบิลใต้น้ำในเส้นทางใหม่ๆ อีก

ล่าสุดวางแผนสร้างเคเบิลใต้น้ำในเส้นทางสิงคโปร์ ไทย ฟิลิปปินส์ ฮ่องกง กวม และญี่ปุ่น ในชื่อโครงการว่า SJC Cable โดยจะต่อเชื่อมกับเคเบิลยูนิตี้ที่ญี่ปุ่น

กูเกิลลงทุนในเคเบิลใต้น้ำเส้นต่างๆร่วมกับผู้ให้บริการโทรคมนาคมหรือเคเบิลของประเทศต่างๆในเอเชียก็เพื่อลดค่าใช้จ่ายแบนด์วิท

ย้อนหลังไปเมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2526 ประธานบริษัท อเมอริเทค โมบายล์ คอมมิวนิเคชั่น (ปัจจุบันคือ บริษัท เวอไรซัน วายเลส) ประเทศสหรัฐอเมริกาได้ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ของโมโตโรลา โทรศัพท์ไปหาหลานของ อเล็กซานเดอร์ เกรแฮม เบลล์ ในเยอรมัน ซึ่งกล่าวได้ว่าเป็นปฐมฤกษ์ของการเปิดให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่เชิงพาณิชย์เป็นครั้งแรกในสหรัฐ ทั้งนี้เป็นการแถลงข่าวของสมาคมอุตสาหกรรมสื่อสารไร้สาย (CTIA) ซึ่งเป็นองค์กรไม่แสวงหากำไรระหว่างประเทศองค์กรหนึ่งของอุตสาหกรรมด้านโทรคมนาคม

ครบรอบ 25 ปีแล้ว

รายงานจาก UMTS Forum ซึ่งเป็นสมาคมอุตสาหกรรมบรอดแบนด์ไร้สาย (mobile broadband) เมื่อต้นเดือนตุลาคม 2551 ระบุว่า ปัจจุบันมีจำนวนผู้ใช้มือถือ 3G บนโครงข่าย UMTS ซึ่งใช้เทคโนโลยี WCDMA เกือบ 400 ล้านรายแล้ว

ขณะนี้ผู้ใช้ UMTS/WCDMA มีจำนวนเพิ่มขึ้นเกือบ 1 ใน 10 ของตระกูล GSM/UMTS (ประกอบด้วย GSM, EDGE, WCDMA และ HSPA) ที่มีการใช้งานทั่วโลกกว่า 3.3 พันล้านราย

หากนับรวมการให้บริการ 3G บนโครงข่าย CDMA2000 1xEV-DO ซึ่งมีจำนวนผู้ใช้กว่า 100 ล้านรายด้วยแล้ว จะทำให้มีผู้ใช้ 3G ทั่วโลกกว่า 400 ล้านรายทีเดียว

จะว่าไปแล้วเรื่องนี้คงจะไม่แปลกอะไรมากนักกับความพยายามที่จะพัฒนาให้เครื่องโทรศัพท์เคลื่อนที่หรือมือถือ ให้ใช้ประโยชน์ได้มากกว่าการสนทนาพูดคุยเท่านั้น การนำฟังก์ชั่นของกล้องถ่ายรูปแบบดิจิตอลเข้ามาประกอบร่วมกับมือถือก็เป็นอีกตัวอย่างหนึ่ง ที่กลายเป็นเรื่องปกติไปแล้ว

มือถือในระบบโทรศัพท์เคลื่อนที่ 3G ของญี่ปุ่นก็เช่นเดียวกันเมื่อมีการนำเทคโนโลยี่วงจรรวมแบบไร้สัมผัส (Contactless IC Technology) มาใช้งานร่วมกับมือถือ i-mode FeliCa ก็ได้เพิ่มขีดความสามารถของมือถือให้ใช้ประโยชน์อื่นๆในชีวิตประจำวัน ซึ่งทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของคนญี่ปุ่นสะดวกสบายยิ่งขึ้น เช่น

1.การใช้มือถือจองและซื้อตั๋วดูภาพยนตร์ ด้วยการนำมือถือไปใกล้ๆกับเครื่องขายตั๋วอัตโนมัติในโรงภาพยนตร์