มีผู้ใช้บางรายพบว่าเมื่อดูทวีตในแอพ iOS จะมีปุ่มที่กดไปแล้วสามารถดูข้อมูลสถิติของทวีตนั้นๆ เช่น ค่า impression, ค่าการมีปฏิสัมพันธ์ และอัตราการมีปฏิสัมพันธ์ พร้อมข้อมูลสถิติอื่นๆ เช่น มีคนคลิกลิงก์ในทวีตกี่คน มีคนกดขยายทวีต (เพื่อดูรูปหรือข้อมูลสื่อที่ลง) กี่คน

หากฟีเจอร์นี้ได้ปล่อยให้ใช้โดยทั่วไปจริงก็น่าจะดีกับนักการตลาดหรือคนที่ใช้ทวิตเตอร์เพื่อมีปฏิสัมพันธ์กับแฟนๆ จะได้วิเคราะห์ว่าควรจะทวีตอะไรที่ดีครับผมเหมาะสมครับท่านกันได้

ที่มา - TechCrunch

เนื่องจาก LINE ต้องการมุ่งเน้นพัฒนาเกมที่ผู้ใช้นิยมให้มันดีขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้นเกมไหนที่ทำออกมาแล้วไม่มีกระแสตอบรับดีดังหวังก็จำเป็นต้องปิดการให้บริการ โดยรายชื่อเกมทั้ง 15 เกมที่ถูกปิดไปก็คือ LINE JELLY, LINE Dragon Flight, LINE Tours, LINE PUNCH HERO, LINE EASY DIVER, LINE Inazuma Eleven, LINE Nutlings Tournament, LINE PONGPONGPONG, LINE Quiz Rubies, LINE Homerun Battle Burst, LINE Sonic Dash S, LINE GO!GO!GO!, LINE TINYFARM, LINE dellooone และ LINE ZOOKEEPER โดยผู้ใช้ที่ได้ทำการซื้อไอเทมในเกมและยังไม่ได้ใช้ สามารถทำเรื่องขอเงินคืนได้ โดยวิธีการขอเงินคืนดูได้จากที่มา

ที่มา - LINE

เพื่อให้การศึกษาข้อมูลของผู้ใช้เพื่อหาลู่ทางทำเงินจากการขายโฆษณาเป็นไปได้ดียิ่งขึ้น Twitter จึงมีแผนที่จะเก็บข้อมูลรายชื่อแอพที่ผู้ใช้ดาวน์โหลดในมือถือด้วย โดยผู้ใช้บางส่วนจะได้เห็นข้อความแจ้งเตือนในหน้าไทม์ไลน์ และสามารถตั้งค่าความเป็นส่วนตัวได้

ทั้งนี้ iOS และ Android นั้น อนุญาตให้นักพัฒนาภายนอกสามารถเก็บข้อมูลผู้ใช้ในลักษณะนี้ได้ เช่น นักพัฒนาสามารถส่งข้อมูลไปยังอุปกรณ์ของผู้ใช้ได้ทุกเวลาและเรียกดูรายชื่อแอพที่กำลังเปิดอยู่ในสมาร์ตโฟน หากนักพัฒนาติดต่อไปยังอุปกรณ์บ่อยพอ ก็จะได้รายชื่อแอพทั้งหมดที่ผู้ใช้มี แต่นักพัฒนาจะได้แค่รายชื่อแอพเท่านั้น จะไม่ได้เข้าถึงข้อมูลภายในแอพแต่อย่างใด

Twitter เริ่มพยายามจะหาลู่ทางทำเงินมากขึ้นเรื่อยๆ และเนื่องจากตลาดการซื้อขายในออนไลน์กำลังเติบโตได้ดี Twitter ก็เลยพยายามสร้างเครื่องมือที่ช่วยให้ผู้ขายเข้าถึงผู้ซื้อได้ง่ายขึ้น โดย Offers ก็มีลักษณะคล้ายๆ กับเจ้าอื่น คือเป็นโฆษณาเสนอส่วนลดที่ปรากฎในหน้าไทม์ไลน์ ซึ่งหากผู้ใช้สนใจข้อเสนอดังกล่าว ก็สามารถกดรับข้อเสนอและจ่ายเงินโดยใช้บัตรเครดิตหรือบัตรเดบิตได้เลย

เบื้องต้นฟีเจอร์นี้ยังเปิดให้ใช้เฉพาะในอเมริกา ก็ต้องมารอดูว่าจะเปิดให้ใช้ทั่วโลกหรือไม่

ที่มา - Twitter

ผู้ใช้คงคุ้นเคยกับสถานะที่ใช้แสดงความรู้สึกหรือกิริยาอาการต่างๆ (กำลังดู, กำลังกิน, กำลังจะไปเที่ยวที่.., ฯลฯ) กันแล้ว ก่อนหน้านี้ฟีเจอร์นี้ใช้ได้กับ Facebook Profile แต่ตอนนี้ Page ก็สามารถแสดงความรู้สึกแบบนี้ได้เช่นกัน

ก็น่าจะเป็นลูกเล่นเล็กๆ ที่เพจสามารถนำมาใช้เพิ่มสีสันให้กับการโพสต์คอนเทนต์เพื่อเข้าถึงกลุ่มแฟนๆ ก็ไปลองเล่นกันดูได้

ที่มา - All Facebook

ปัญหาของระบบค้นหาของทวิตเตอร์อย่างที่เราทราบกันดีก็คือ ไม่สามารถค้นหาทวีตย้อนหลังนานๆ ได้ แต่ในทวิตเตอร์เวอร์ชันปรับปรุงใหม่ สามารถค้นหาทวีตต่างๆ ย้อนหลังได้โดยไม่จำกัดช่วงเวลาแล้ว โดยในเชิงวิศวกรรม ทวิตเตอร์ได้ปรับปรุงระบบโดยคำนึงถึงปัจจัยต่อไปนี้

นอกจาก Facebook จะทำหน้า Privacy Basics ให้ผู้ใช้ได้เข้าใจวิธีตั้งค่าความเป็นส่วนตัวได้ง่ายขึ้น ก็ยังใช้โอกาสเดียวกัน อัพเดตหน้า terms, data policy และหน้า cookies policy เพื่อสะท้อนให้เห็นถึงฟีเจอร์ใหม่ที่ Facebook กำลังทำ และยังปรับปรุงประสิทธิภาพของการแสดงผลโฆษณาที่อิงจากแอพและเว็บไซต์ที่เราใช้ รวมทั้งเปิดให้ผู้ใช้ได้มีโอกาสควบคุมประเภทของโฆษณาอีกด้วย

จุดอ่อนที่ทำให้ Facebook ถูกโจมตีและเป็นปัญหาเสมอมานั่นคือเรื่องของความเป็นส่วนตัว หลายๆ ประเด็นทำให้ผู้ใช้คลางแคลงใจว่าข้อมูลของตัวเองถูกนำไปใช้มากแค่ไหน ตลอดจนถึงวิธีการตั้งค่าความเป็นส่วนตัวในหลายๆ จุดที่ทำให้รู้สึกไม่เป็นอิสระเอาเสียเลย ที่ผ่านมา Facebook ก็มีการปรับความยืดหยุ่นในการตั้งค่าความเป็นส่วนตัวโดยรับฟังผู้ใช้มาตลอด และครั้งนี้ก็ได้ทำหน้า Privacy Basics เพื่อให้ความรู้กับผู้ใช้ในสามส่วนต่อไปนี้

ในงาน Analyst Day Twitter ได้พูดถึงวิสัยทัศน์ของตนเอง ไล่เรียงสิ่งที่ได้ทำเพื่อผู้ใช้ในปีนี้ รวมถึงแผนที่จะพัฒนา Twitter ในอนาคต โดยประเด็นที่น่าสนใจก็คือ Twitter ได้กล่าวว่า เนื่องจากทุกวันนี้ในแต่ละวันมีทวีตใหม่ๆ เกิดขึ้นกว่า 500 ล้านทวีต ซึ่งบางทีอาจจะทำให้ผู้ใช้พลาดทวีตสำคัญไป (ในกรณีที่ไม่ได้เข้ามาเช็กหน้าไทม์ไลน์ตลอดเวลา) ก็เลยจะมีฟีเจอร์ใหม่ที่ทำให้ผู้ใช้เข้าถึงทวีตที่ไม่ควรพลาด (เข้าใจว่าคงอารมณ์เดียวกันกับ Top Stories ในฟีดของ Facebook นั่นเอง) แต่ก็จะยังคงรักษาไทม์ไลน์เรียลไทม์อันเป็นความพิเศษของ Twitter ไว้อยู่เหมือนเดิม

ฟีเจอร์นี้มาแนวๆ เดียวกัย A Look Back คือให้คนขอบคุณกันผ่านวิดีโอ โดยจะสามารถเลือกเพื่อนที่เราต้องการขอบคุณได้ และในวิดีโอก็จะแสดงภาพเหตุการณ์ต่างๆ ที่เราและเพื่อนคนนั้นมีร่วมกัน (สามารถเลือกเปลี่ยนรูปได้)

ฟีเจอร์นี้สามารถสร้างได้ทั้งบนคอมและมือถือ โดยเข้าไปเล่นกันได้ที่ facebook.com/thanks

ที่มา - Facebook Newsroom

น่าจะเป็นก้าวเดินที่น่าสนใจของ Twitter เมื่อ Twitter ได้ร่วมมือกับ IBM โดยมีจุดมุ่งหมายในการสร้างระบบที่จะทำให้ธุรกิจสามารถเข้าใจตลาด ลูกค้า และเทรนด์ได้มากขึ้น สิ่งที่ทั้งสองตั้งใจจะทำร่วมกันก็คือ

1.การเชื่อมต่อข้อมูลของ Twitter ด้วยระบบวิเคราะห์ของ IBM บนกลุ่มเมฆ โดยเครื่องมือนี้จะดึงข้อมูลจาก Twitter ได้ตรงๆ รวมถึง Watson Analytics และนักพัฒนาภายนอกที่ใช้ IBM cloud เช่น IBM Bluemix ก็จะสามารถดึงข้อมูลตรงนี้ไปใช้ได้เลย

ใครที่ใช้กูเกิลบ่อยๆ น่าจะได้เห็นกันซักพักแล้ว ก็คือ ถ้าเข้าไปในเว็บไซต์ของกูเกิลและบริการอื่นๆ ของกูเกิล จะเห็นปุ่มแชร์อยู่ข้างๆ รูปโปรไฟล์ของตัวเอง เมื่อกดแล้วสามารถอัพเดตโพสต์ใน Google+ ได้

ที่มา - Google Operating System

เราคุ้นเคยกับการแชร์ทวีตที่ถูกใจ หรือที่เรียกว่า Retweet กันอยู่แล้ว แต่มีผู้พบว่าเมื่อกดปุ่ม Retweet ผ่านแอพแอนดรอยด์ จะมีตัวเลือกว่าจะ retweet แบบปกติ หรือแชร์ทวีตนี้ผ่าน Direct Message

เข้าใจว่าฟีเจอร์นี้ยังเป็นฟีเจอร์ทดสอบ เพราะลองดูในแอพ iOS ก็ยังไม่พบตัวเลือกนี้แต่อย่างใด

ที่มา - @neizod

ฟีเจอร์ใหม่ ' ')? pic.twitter.com/LGPSdDiw3q

— เนยสดชโรดิงเจอร์แคท (@neizod) October 29, 2014

Bing เพิ่มความล้ำในการค้นหาไปอีกระดับด้วยการสามารถใช้อีโมจิเพื่อค้นหาข้อมูลได้ หรือแม้กระทั่งจะค้นหาความหมายของอีโมจิตัวนั้นก็สามารถทำได้ และสามารถค้นหาโดยใช้คำอื่นๆ รวมกับอีโมจิได้เช่นกัน เท่านั้นยังไม่พอ ยังสามารถค้นอะไรสนุกๆ เช่น ขึ้น ขึ้น ลง ลง ซ้าย ขวา ซ้าย ขวา บี เอ (ใช้อีโมจิทั้งหมด) ก็ได้ผลการค้นหาเหมือนกันนะ

ก็เป็นกิมมิกสนุกๆ ดี ไปลองเล่นกันได้

ที่มา - Bing

แอดมินเพจคงคุ้นเคยกับฟีเจอร์ตั้งเวลาโพสต์ล่วงหน้าของเพจกันแล้ว แต่พบเจอมาว่า Facebook ก็เตรียมให้ตั้งเวลาโพสต์ย้อนหลังได้เช่นกัน และสามารถดราฟต์โพสต์ได้ โดยโพสต์ที่ถูกดราฟต์จะไปอยู่ในหน้าดราฟต์และสามารถกดแก้ไขโพสต์ได้ตามสะดวก

อย่างไรก็ดี ก็ยังเป็นฟีเจอร์ทดสอบ ก็มารอดูกันต่อไปว่า Facebook จะปล่อยให้ใช้กันถ้วนทั่วในภายหน้าหรือไม่

ที่มา - Faceblog.in.th

ฟีเจอร์ Twitter Card คือการโชว์พรีวิวของสื่อต่างๆ ในแอพได้ ปัจจุบันมีการ์ดรองรับสื่อหลายแบบ เช่น เว็บ, แอพ, รูปภาพ หรือคลิป และวันนี้ Twitter ก็เปิดตัวการ์ดแบบใหม่คือการ์ดของสื่อประเภทเสียง (audio card) โดยมีพาร์ตเนอร์เจ้าแรกคือ Soundcloud

ข้อดีของการ์ดแบบนี้คือผู้ใช้สามารถกดฟังเพลงจากในแอพ Twitter (รองรับทั้ง iOS และ Android) ได้เลย และสามารถย่อหน้าจอของเพลงเพื่อให้เพลงเล่นในขณะที่ยังเปิดไทม์ไลน์ได้ เบื้องต้นฟีเจอร์นี้เปิดให้ใช้กับทวิตเตอร์บางรายที่เป็นพาร์ตเนอร์กับ Soundcloud (ดูแอคเคาต์ทั้งหมดได้ในที่มา) แต่มีแนวโน้มที่จะขยายให้พาร์ตเนอร์รายอื่นใช้ในอนาคต

ที่มา - Twitter

หากยังจำกันได้ Twitter เคยมีการทดสอบโชว์ทวีต Favorite ซึ่ง Twitter ได้กล่าวว่า ในการทดสอบนี้พบว่าผู้คนสนุกกับการได้เห็นทวีตของคนที่ไม่ได้ตามในไทม์ไลน์ของตัวเอง ดังนั้นจากนี้อาจจะมีทวีตเหล่านี้มากขึ้น เช่น แนะนำทวีต แนะนำแอคเคาต์ หรือแนะนำหัวข้อที่น่าสนใจ แต่จะเป็นทวีตที่ Twitter กรองให้แล้วว่า มีความเกี่ยวข้องหรืออยู่ในขอบข่ายที่เรายังให้ความสนใจอยู่

ก็เตรียมพบกับ "สิ่งที่น่าสนใจ" ที่เราไม่ได้ร้องขอ ในหน้าไทม์ไลน์กันเร็วๆ นี้

ที่มา - The Next Web

ตอนนี้นอกจากเราจะสามารถบอกความรู้สึก หรือบอกกริยาอาการอื่นๆ เช่น กำลังกิน ดูหนัง ฟังเพลง อ่านหนังสือ เราก็ยังสามารถบอกให้เพื่อนๆ ใน Facebook รู้ว่าเรากำลังออกกำลังกายได้ด้วย โดยตัวเลือกของการออกกำลังกายนั้นมีตั้งแต่ ออกกำลังกาย, ต่อยมวย, ปีนเขา, เต้นรำ, โยคะ, วิ่ง, เดิน, ว่ายน้ำ, ยกน้ำหนัก และอื่นๆ (ลองไปดูในช่องสเตตัสเอาเอง)

ก็เป็นอีกตัวเลือกในการเซลฟี่ว่าฉันกำลังออกกำลังกายแทนการโพสต์รูปหน้าสดที่เต็มไปด้วยเหงื่อ และน่าเสียดายที่ไม่มีตัวเลือกว่ากำลังเล่น T25

ที่มา - All Facebook

เนื่องจากโรคอีโบลาในตอนนี้เดินทางเข้ามาสู่จุดวิกฤติ มีผู้ติดเชื้อแล้วกว่า 8,400 ราย และมีแนวโน้มว่าจะมีการกระจายตัวอย่างรวดเร็วขึ้นเรื่อยๆ มาร์คและภรรยาจึงเล็งเห็นว่า ถ้าจะหาทางหยุดยั้งไม่ให้โรคแพร่เชื้อไปมากกว่านี้จนกลายเป็นวิกฤตการณ์ด้านสุขภาพระดับโลกในระยะยาว ก็ต้องหาทางควบคุมมันให้เร็วที่สุด การบริจาคเงิน 25 ล้านเหรียญสหรัฐ (ตีเป็นเงินไทยก็ราวๆ 813 ล้านบาท) จึงเป็นหนทางหนึ่งที่เขาเชื่อว่าจะช่วยให้องค์กร CDC (Centers for Disease Control Foundation) สามารถนำไปใช้เป็นวิจัยและพัฒนาวิทยาการการต่อสู้กับโรคอีโบลาได้มากขึ้น

ที่มา - Mark Zuckerberg

ในที่สุดความฝันของผู้ใช้ iPad ก็เป็นจริง เมื่อ LINE ทำแอพสำหรับ iPad โดยเฉพาะ ความพิเศษของแอพก็คือสามารถใช้งานแอคเคาต์ได้ทั้งบน iPad, โทรศัพท์ และ PC แต่จะไม่สามารถสมัครสมาชิกได้ และฟีเจอร์บางอย่างเช่น โทรด้วยเสียงหรือวิดีโอ, ร้านสติกเกอร์ และไทม์ไลน์ ยังไม่รองรับในแอพ

LINE บน iPad สามารถใช้ได้ตั้งแต่ iPad 2 ขึ้นไป และต้องใช้ iOS 7 ขึ้นไปเช่นกัน สามารถดาวน์โหลดได้ที่ App Store

ผู้ใช้สามารถเพิ่มอรรถรสในการสนทนาผ่านคอมเมนต์ได้ด้วยการกดไอคอนหน้ายิ้ม (หลักการเดียวกับใน Messenger) จากนั้นก็กดส่งสติกเกอร์ได้ตามใจชอบ ฟีเจอร์นี้ใช้ได้กับทั้งในหน้าไทม์ไลน์, กรุ๊ป และอีเวนต์

ฟีเจอร์นี้เกิดขึ้นในงาน hackathon ที่นิวยอร์ก โดยมีทีม Facebook ริเริ่มทำ จากนั้นก็ให้คนในองค์กรลองใช้ฟีเจอร์นี้กัน ซึ่งแต่ละคนก็ชอบมาก ก็เลยพัฒนาออกมาเป็นฟีเจอร์ให้ผู้ใช้ทั่วไปได้ใช้กันสำเร็จ

อนึ่ง ส่วนตัวทดลองแล้วยังพบว่าส่งสติกเกอร์ได้แค่ในกรุ๊ปเท่านั้น แต่เข้าใจว่าน่าจะปล่อยให้ผู้ใช้ได้ใช้งานในส่วนที่เหลือเร็วๆ นี้

ที่มา - Bob Baldwin

Mark Zuckerberg ได้จัดงานประชุมในวาระ Internet.org ครั้งแรกในนิวเดลี ประเทศอินเดีย โดยสาระในการประชุมก็ยังเป็นการยืนยันเจตนารมณ์ที่จะขยายขอบเขตการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตให้กับประชากร 2 ใน 3 ของประชากรโลกเช่นเดิม โดยจะมุ่งเน้นการสร้างบริการต่างๆ ที่รองรับภาษาถิ่นของประชากรให้มากขึ้น

และในงาน มาร์คได้ประกาศการจัดประกวดนวัตกรรมของ Internet.org ที่จะให้นักพัฒนาส่งไอเดียหรือแอพที่จะช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนท้องถิ่นและชนชั้นแรงงานเข้ามาประกวด การตัดสินจะมีกรรมการจาก Facebook, Ericsson และ Qualcomm โดยจะประกาศผู้ชนะในงาน Mobile World Congress 2015 และผู้ชนะจะได้รับรางวัล 1 ล้านเหรียญสหรัฐ

Facebook ปรับดีไซน์การแสดงผลหน้ารูปภาพในแอพทั้ง iOS และ Android ให้แสดงแบบ collage และภาพไหนที่มีจำนวนไลก์มากก็จะถูกแสดงผลให้เป็นภาพใหญ่ และถ้าหากเลือกดูในแท็บอัลบั้ม ก็จะพบว่ารูปปกอัลบั้มนั้นถูกแสดงผลในขนาดใหญ่ขึ้นเช่นเดียวกัน

Facebook กล่าวว่าดีไซน์ใหม่นี่จะทำให้ผู้คนเข้ามาดูและกดไลก์รูปภาพมากกว่าเดิม

ที่มา - TechCrunch

แอพ Hangouts เป็นแอพแบบ standalone ทำงานได้ทั้งบน Chrome OS และ Windows ทำให้ผู้ใช้สามารถใช้งานได้ง่ายและสะดวกกว่าเดิม คืออยากคุยกับใครก็คลิกรูปคนนั้นจากหน้าจอได้เลย นอกจากนี้ก็ยังมีระแบบแจ้งเตือนเวลาได้ข้อความใหม่ และข้อความสนทนาก็จะถูกซิงก์ให้ตรงกันทุกอุปกรณ์พกพา และยังสามารถโทรผ่านหน้าเดสก์ท็อปได้ด้วย

สนใจก็ดาวน์โหลดใช้งานกันได้ ที่นี่

ที่มา - The Next Web

เพื่อเพิ่มอรรถรสในการสนทนาให้มากขึ้น Google+ จึงเพิ่มโพสต์ประเภทโพลเข้ามาให้ได้ใช้กันด้วย โดยผู้ใช้สามารถสร้างโพลและมีตัวเลือกในการโหวตได้สูงสุด 5 ตัวเลือก พร้อมกับใส่ภาพประกอบให้ดูน่าสนใจได้

ฟีเจอร์โพลจะสามารถสร้างได้ผ่านแอพแอนดรอยด์และบนเว็บไซต์ในอีกไม่กี่วันถัดจากนี้ ส่วนแอพบน iOS ก็รอไปก่อน