[ลือ] iPad Air จะมาพร้อมฟีเจอร์กล้องหน้าแบบแนวนอน

MacThai - 19 March 2024 - 14:00

จากข้อมูลที่หลุดออกมาของแหล่งข่าวอย่าง “ShrimpApplePro” ได้บอกมาว่า iPad Air รุ่นใหม่ที่จะเปิดตัวในปีนี้จะมาพร้อมกับกล้องหน้าแนวนอน โดยจะอยู่ที่กรอบด้านขวาของหน้าจอเมื่อวางไอแพดแนวตั้งด้วย

ซึ่งตำแหน่งเดิมจะเคยชินกับการที่ตำแหน่งกล้องบนไอแพดวางอยู่ด้านบนเมื่อวางแนวตั้ง แต่ครั้งนี้จะง่ายต่อการถ่ายแนวนอน หรือวิดีโอคอลในแนวนอนมากขึ้นด้วย และใครที่ใช้คู่กับ Magic Keyboard ก็น่าจะถูกใจสิ่งนี้ครับ เพราะกล้องจะอยู่ตรงกลางตาของเราเวลามองพอดี

นอกจากนี้ยังมีลือมาด้วยว่ากล้องหน้าแนวนอนของ iPad Pro และ iPad Air จะมีการออกแบบใหม่ และการตั้งค่า Face ID บนไอแพดก็ต้องตั้งอยู่ในแนวนอนด้วย ซึ่งคาดว่าเราน่าจะได้เห็นไอแพดรุ่นใหม่ปลายเดือนมีนาคมหรือไม่ก็เมษายนนี้ครับ

ที่มา – https://www.macrumors.com/2024/03/18/ipad-air-landscape-front-camera-rumor/

The post [ลือ] iPad Air จะมาพร้อมฟีเจอร์กล้องหน้าแบบแนวนอน appeared first on Macthai.com.

Categories: Partners

ห้าดาว แจ้งปี 2024 ขอขยายเครือข่ายร้านค้าสู่ 11,500 ราย ใน 10 ประเทศ หลังดำเนินธุรกิจครบ 40 ปี

Brand Inside - 19 March 2024 - 12:18

บริษัท ซีพีเอฟ เรสเทอรองท์ แอนด์ ฟู้ดเชน จำกัด เจ้าของธุรกิจห้าดาว หรือ Five Star กางแผนธุรกิจปี 2024 เตรียมขยายเครือข่ายร้านค้าเพิ่มเป็น 11,500 ราย ใน 10 ประเทศทั่วโลก หลังทำธุรกิจครบ 40 ปี ครอบคลุม ตั้งแต่ซุ้มไก่ย่าง-ไก่ทอดห้าดาว, กระทะเหล็ก, Hi Pork, เป็ดเจ้าสัว, ข้าวมันไก่ไห่หนาน และ STAR COFFEE

ห้าดาว

ห้าดาวลุยขยายเครือข่ายร้านค้า

สุนทร จักษุกรรฐ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีพีเอฟ เรสเทอรองท์ แอนด์ ฟู้ดเชน จำกัด เปิด เผยว่า ธุรกิจห้าดาว หรือ Five Star ดำเนินธุรกิจมาครบ 40 ปี ปัจจุบันมีแฟรนไชส์กว่า 5,000 รายในประเทศไทย และอีก 3,500 รายในต่างประเทศ

สำหรับปี 2024 ตั้งเป้าขยายแฟรนไชส์เป็น 11,500 ราย ใน 10 ประเทศ ผ่านการวางตัวเป็นเพื่อนแท้ทางธุรกิจที่ช่วยสนับสนุนในทุก ๆ ด้าน ช่วยสร้างโอกาสที่จับต้องได้ บนพื้นฐานความน่าเชื่อถือในการดำเนินธุรกิจของห้าดาวที่มีมาอย่างยาวนาน สามารถตอบโจทย์ผู้ประกอบการเป็นเถ้าแก่ที่มีการเติบโตทางธุรกิจอย่างมั่นคง

ห้าดาว ห้าดาว

“ตลอดการดำเนินงาน 40 ปี ธุรกิจห้าดาวมุ่งมั่นสร้างอาชีพ ให้ผู้ประกอบการมีโอกาสเติบโตบนเส้นทางธุรกิจไปด้วยกันอย่างมั่นคงและยั่งยืน ยิ่งการลงทุนที่ต่ำกว่าในอุตสาหกรรมใกล้เคียงกัน จึงลดความเสี่ยงของผู้ลงทุน ทำให้สามารถคืนทุนได้ในเวลาอันรวดเร็ว”

ปัจจุบันธุรกิจห้าดาวมีแฟรนไชส์จำหน่ายอาหารหลากหลาย เช่น ซุ้มไก่ย่าง-ไก่ทอดห้าดาว, กระทะเหล็ก, Hi Pork, เป็ดเจ้าสัว, ข้าวมันไก่ไห่หนาน และ STAR COFFEE รวมถึงพัฒนารูปแบบร้านให้มีความเหมาะสมกับพื้นที่ และสอดคล้องกับความต้องการของผู้ประกอบการ ทั้งรูปแบบ Five Star Glass House และ Five Star Shop

ห้าดาว ห้าดาว

อ้างอิง // ห้าดาว

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

The post ห้าดาว แจ้งปี 2024 ขอขยายเครือข่ายร้านค้าสู่ 11,500 ราย ใน 10 ประเทศ หลังดำเนินธุรกิจครบ 40 ปี first appeared on Brand Inside.
Categories: Blognone Network

19 Tips & Tricks Galaxy S24 Ultra รู้ไว้ใช้คุ้มแน่นอน ทำตามเลย!

iPhonemod - 19 March 2024 - 11:43

ซื้อ Galaxy S24 Ultra มาใช้งานคุ้มแล้วหรือยัง? คลิปนี้ท […]

The post 19 Tips & Tricks Galaxy S24 Ultra รู้ไว้ใช้คุ้มแน่นอน ทำตามเลย! appeared first on iMoD.

ชี้พิกัด! เว็บหารค่าข้าวแบบหารไม่เท่ากับเพื่อนหลาย ๆ คน

iPhonemod - 19 March 2024 - 11:20

ใครที่ชอบหารค่าข้าวกับเพื่อน แล้วราคาและอาหารไม่เหมือนก […]

The post ชี้พิกัด! เว็บหารค่าข้าวแบบหารไม่เท่ากับเพื่อนหลาย ๆ คน appeared first on iMoD.

[ลือ] Apple ค้นพบรายละเอียดใหม่เกี่ยวกับโมเดล AI ใช้ชื่อว่า “MM1” อาจเตรียมไปใช้กับ AI ของตัวเอง

MacThai - 19 March 2024 - 10:00

มีข่าวลือมาว่านักพัฒนาของแอปเปิลกำลังพัฒนาโมเดลภาษาขนาดใหญ่ หรือ LLMs ที่จะช่วยผสานทั้งข้อมูลของตัวอักษร และรูปภาพ โดยบริษัทได้ค้นพบถึงรีเสิร์ชเรื่อง MM1: Methods, Analysis & Insights from Multimodal LLM Pre-training และคาดว่าจะนำไปใช้กับการสร้าง AI ของตัวเองด้วยครับ

โดยแนวทางใหม่ในการสร้างระบบ AI จะมีความยืดหยุ่น และมีความฉลาดมากขึ้น เพราะใช้ชุดข้อมูลที่หลากหลายประกอบกันทั้งตัวอักษรของข้อความ และรูปภาพ

ซึ่งแอปเปิลมองว่าโมเดล MM1 จะช่วยสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับ AI ในการทำงานต่าง ๆ เช่น ใช้ในการบรรยายภาพ ตอบคำถามด้วยภาพอย่างเป็นธรรมชาติมากขึ้น เพราะมีการอนุมานภาษาต่าง ๆ ที่แม่นยำแบบขั้นสูง

จากที่การวิจัยของแอปเปิลเน้นไปที่การเทรนโมเดลด้วยข้อมูลอยู่แล้ว ก็ยิ่งจะทำให้ AI สามารถเข้าใจโมเดลภาษา และสร้างภาษาที่อิงจากการผสมกันระหว่างภาพ และภาษาได้มากขึ้น ทำให้ตีความภาพที่ซับซ้อน หรือตอบคำถามที่เกี่ยวกับองค์ประกอบภาพได้

ซึ่งโมเดล MM1 ก็ตอบโจทย์ตรงนี้มาก ด้วยความสามารถในการเรียนรู้ และให้เหตุผลแบบหลายขั้นตอนได้ ด้วยการแสดงกระบวนการคิดเป็นทอด ๆ แบบลูกโซ่ ซึ่งเป็นอีกเทคนิคที่จะช่วยให้ AI แก้ปัญหาปลายเปิดที่ซับซ้อนจากตัวอย่างได้

และหากแอปเปิลสามารถนำงานวิจัยนี้มาประยุกต์ใช้กับการสร้าง AI ของตัวเองได้จริง ก็น่าจะเพิ่มขีดความสามารถของ AI ในตลาดที่กำลังแข่งขันกันอยู่ทุกวันนี้ได้น่าสนใจไม่น้อยครับ อย่างที่ Mark Gurman เคยรายงานไป

ว่าแอปเปิลกำลังหารือกับกูเกิลเพื่ออนุญาตให้ใช้โมเดลภาษาขนาดใหญ่อย่าง Gemini มาใช้บนไอโฟนได้มากขึ้น และเป็นส่วนหนึ่งที่อัปเดตมาพร้อมกับ iOS 18 ด้วย แต่จะจริงหรือไม่ต้องรอดูกันครับ

ที่มา – https://www.macrumors.com/2024/03/18/apple-mm1-ai-model-details/

The post [ลือ] Apple ค้นพบรายละเอียดใหม่เกี่ยวกับโมเดล AI ใช้ชื่อว่า “MM1” อาจเตรียมไปใช้กับ AI ของตัวเอง appeared first on Macthai.com.

Categories: Partners

iPad Air อาจเป็นรุ่นถัดไปที่ได้ใช้จอ OLED ตามหลัง iPad Pro

iPhonemod - 19 March 2024 - 07:42

iPad Air อาจเป็น iPad รุ่นถัดไปที่ได้เปลี่ยนไปใช้หน้าจอ […]

The post iPad Air อาจเป็นรุ่นถัดไปที่ได้ใช้จอ OLED ตามหลัง iPad Pro appeared first on iMoD.

ลือ! iPad รุ่นใหม่เปิดตัว 26 มี.ค. 2024 นี้ (iPad Pro จอ OLED, iPad Air)

iPhonemod - 18 March 2024 - 20:23

Apple เตรียมเปิดตัว iPad รุ่นใหม่อย่าง iPad Pro จอ OLED […]

The post ลือ! iPad รุ่นใหม่เปิดตัว 26 มี.ค. 2024 นี้ (iPad Pro จอ OLED, iPad Air) appeared first on iMoD.

หยามถึงถิ่น! Vinfast รถยนต์ไฟฟ้าจากเวียดนาม เตรียมบุกตลาดไทย เจอกันครั้งแรกใน Motorshow

Brand Inside - 18 March 2024 - 17:54

Vinfast แบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าจากประเทศเวียดนาม เตรียมบุกตลาดไทยอย่างเป็นทางการ หลังจองบูต Bangkok Motorshow ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 27 มี.ค.-7 เม.ย. 2024 เพื่อจัดแสดงรถยนต์ไฟฟ้าครบทุกรุ่นประกอบด้วย VF3 กับ VF5 เป็นต้น รวมถึง VF Wild รถกระบะไฟฟ้าล้วนที่เพิ่งจัดแสดงในงาน CES 2024 ที่จัดไปเมื่อต้นปี

Vinfast

Vinfast บุกตลาดไทยอย่างเป็นทางการ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า Vinfast แบรนด์รถยนต์จากประเทศเวียดนาม มีการทำตลาดทั้งรถยนต์เครื่องยนต์สันดาป และรถยนต์ไฟฟ้าล้วน จะเข้ามาทำตลาดในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ เนื่องจากหากอ้างอิงข้อมูลจากเว็บไซต์ Bangkok Motorshow 2024 ในส่วนของรายละเอียดบูตจะมีชื่อของ Vinfast เป็นหนึ่งในผู้ร่วมออกงาน

ขณะเดียวกัน Vinfast ยังมีการส่งจดหมายแจ้งการเข้ามาทำตลาดในประเทศไทยให้สื่อมวลชนโดยมีรายละเอียดว่า การเข้าร่วมงาน Bangkok Motorshow 2024 ในประเทศไทย ถือเป็นการขับเคลื่อนเชิงกลยุทธ์ของบริษัทเกี่ยวกับการบุกพื้นที่ที่ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าแข่งขันดุเดือดที่สุดในอาเซียน และส่งเสริมแผนขยายตลาดโลกของบริษัท

สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าที่ Vinfast นำมาจัดแสดงจะมาครบทุกรุ่น และถือเป็นครั้งแรกในพื้นที่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่จัดแสดงแบบนี้ โดยรายละเอียดจะประกอบด้วย VF 3 รถยนต์ไฟฟ้าแบบ SUV ขนาดเล็ก รวมถึง VF 5, VF e34, VF 6, VF 7, VF 8 และ VF 9 ที่ครอบคลุมทั้งรถยนต์นั่ง และ A-SUV ถึง E-SUV

มายกไลน์ และขายในประเทศไทยแน่นอน

นอกจากนี้บริษัทจะจัดแสดง VF Wild รถกระบะไฟฟ้าต้นแบบที่เปิดตัวที่งาน CES 2024 ในเดือน ม.ค. เช่นกัน โดย วู ดัง เยน ฮัง  ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Vinfast ประเทศไทย แจ้งว่า

“การเปิดตัวแบรนด์ของเราในประเทศไทยเป็นก้าวสำคัญภายใต้กลยุทธ์การขยายธุรกิจสู่ทั่วโลกของ Vinfast ซึ่งจะเสริมสร้างฐานธุรกิจในประเทศศูนย์กลางยานยนต์ที่คึกคักที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ การเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าครบทุกรุ่นของเราสะท้อนถึงบทบาทผู้นำของวินฟาสต์ในการร่วมเป็นส่วนหนึ่งของปฏิวัติการขนส่งสีเขียวของประเทศไทย ซึ่งจะนำไปสู่อนาคตที่ยั่งยืนยิ่งขึ้นสำหรับทุกคน”

นอกจากนี้การนำรถยนต์ไฟฟ้าที่ทันสมัย และพร้อมด้วยระบบอัจฉริยะทั้งหมดมาสู่งาน Bangkok Motorshow 2024 นับเป็นความมุ่งมั่นของ Vinfast ที่จะส่งเสริมการนำรถยนต์ไฟฟ้าไปใช้ทั่วโลก ทั้งยังมีเป้าหมายเพื่อเสริมสร้างชื่อเสียง และความสามารถในการแข่งขันของ Vinfast ในประเทศไทย ซึ่งเป็นประเทศที่ผลิต และส่งออกยานยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาค หรือที่รู้จักกันดีว่าเป็น “ดีทรอยต์แห่งเอเชีย” ด้วยชื่อเสียงในระดับโลก ประสบการณ์ และผลิตภัณฑ์รถยนต์ไฟฟ้าที่หลากหลาย

Vinfast มุ่งมั่นนำเสนอทางเลือกในการเดินทางที่ชาญฉลาด และน่าตื่นเต้นให้กับผู้บริโภคชาวไทย นอกจากนี้ Vinfast ยังมีนโยบายด้านบริการหลังการขายที่เป็นเลิศ และแนวทางในการจำหน่ายที่ยืดหยุ่น โดยมีเป้าหมายเพื่อให้ทุกคนในประเทศไทยสามารถเข้าถึงรถยนต์ไฟฟ้าได้

“ประเทศไทยคือตลาดรถยนต์ไฟฟ้าชั้นนำในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมีความต้องการที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจากนโยบายสนับสนุนของรัฐบาลในหลายด้าน จากข้อมูลของสมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย คาดการณ์ว่ายอดขายรถยนต์ไฟฟ้าจะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าในปี 2024 นี้ Vinfast มุ่งมั่นที่จะขยายตัวอย่างรวดเร็วในตลาดประเทศไทย และเสริมสร้างความเป็นผู้นำในการบุกเบิกการพัฒนาการขับเคลื่อนสีเขียวและยั่งยืนทั่วโลก”

อ้างอิง // Vinfast

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

The post หยามถึงถิ่น! Vinfast รถยนต์ไฟฟ้าจากเวียดนาม เตรียมบุกตลาดไทย เจอกันครั้งแรกใน Motorshow first appeared on Brand Inside.
Categories: Blognone Network

Cosmos Persona เว็บเช็คนิสัย เราเป็นดวงดาวแบบไหน!

iPhonemod - 18 March 2024 - 16:58

ใครที่อยากทำแบบทดสอบนิสัยตัวเองหรือ MBTI สามารถลองมาทำไ […]

The post Cosmos Persona เว็บเช็คนิสัย เราเป็นดวงดาวแบบไหน! appeared first on iMoD.

วิธีปิดสถานะ “อ่านแล้ว” ใน Messenger (อัปเดต 2024)

iPhonemod - 18 March 2024 - 16:45

ถ้าไม่อยากให้เพื่อนเห็นว่าเราอ่านข้อความแล้วลองตั้งค่าต […]

The post วิธีปิดสถานะ “อ่านแล้ว” ใน Messenger (อัปเดต 2024) appeared first on iMoD.

ทรู คอร์ปอเรชั่นชวนเบิ่ง “นครพนม” ชูแนวคิด “มูจิทัล” ยกระดับเมืองรองอีสานม่วนทุกไลฟ์สไตล์

Brand Inside - 18 March 2024 - 16:36

ทรู คอร์ปอเรชั่น พัฒนาเครือข่าย 5G และเทคโนโลยีดิจิทัล ผลักดันจังหวัดนครพนม จากเมืองรองสู่เมืองหลักเป็นจังหวัดท่องเที่ยวเส้นทางสายมู ศิลปวัฒนธรรม พร้อมชูแนวคิด “มูจิทัล” เจาะตลาดกลุ่มสายมู นำความเชื่อ ศรัทธา สนับสนุนภาคธุรกิจท่องเที่ยวให้เติบโตแข็งแกร่ง พร้อมผสานเทคโนโลยีดิจิทัล ร่วมพัฒนาเศรษฐกิจชุมชน ผุดสมาร์ทฟาร์มมิ่ง ฟาร์มไก่อัจฉริยะ มุ่งหน้าผลักดันโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมล้ำสมัยและระบบนิเวศดิจิทัลครบวงจรร่วมยกระดับเศรษฐกิจดิจิทัลทั่วไทย

มนัสส์ มานะวุฒิเวช ประธานคณะผู้บริหาร บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในปี 2567 เป็นปีที่เรามุ่งส่งมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดเทียบชั้นมาตรฐานโลกให้กับลูกค้าทั้งเรื่องของเครือข่าย 5G ทรูและดีแทค และการให้บริการแบบไร้รอยต่อตอบสนองวิถีชีวิตและระบบนิเวศดิจิทัล (Digital Ecosystem) และอินเทอร์เน็ตบ้าน รวมถึง WiFi ที่ครบวงจร ที่สามารถสร้างคุณค่าให้กับคนไทยและยกระดับศักยภาพเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศ โดยเฉพาะภาคอีสานที่นับเป็นอีกหนึ่งภูมิภาคสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ โดยมีค่า GDP เทียบเท่า 10% ของ GDP ประเทศ รองจากภาคกลาง และภาคตะวันออกตามข้อมูลของสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สำหรับจังหวัดนครพนมแม้เป็นเมืองรองแต่เป็นเมืองที่มีศักยภาพความพร้อม ทั้งต้นทุนด้านเศรษฐกิจมีการค้าชายแดน ต้นทุนธรรมชาติ ตั้งอยู่ริมน้ำโขงและแนวภูเขา  และมีต้นทุนวัฒนธรรม และเป็นเมืองสัญลักษณ์ความศรัทธาในวัดและความเชื่อพญานาค ด้วยจุดเด่นเหล่านี้ เมื่อเสริมด้วยศักยภาพดิจิทัลที่แข็งแกร่งของทรู คอร์ปอเรชั่น ก็จะเป็นเสมือนกลไกที่สำคัญ (Growth Engine)  ที่จะช่วยทรานฟอร์มเศรษฐกิจดิจิทัลในจังหวัดนครพนมให้เติบโตสู่เมืองหลักได้อย่างรวดเร็ว อีกทั้ง ทรู คอร์ปอเรชั่นยังมีบทบาทสำคัญในการร่วมพัฒนาชุมชน และยกระดับภาคเศรษฐกิจของจังหวัด อาทิ การเพิ่มโอกาสให้โรงเรียนในพื้นที่ห่างไกล ได้เข้าถึงแหล่งความรู้ได้เท่าเทียมกับเมืองใหญ่ในโครงการทรูปลูกปัญญา พร้อมการส่งพนักงานเข้าร่วมเป็น (School Partner)  เพื่อนคู่คิดร่วมจัดทำแผนพัฒนาโรงเรียนร่วมกับผู้บริหารสถานศึกษาและคุณครู โรงเรียนคอนเน็กซ์อีดีในความดูแลของกลุ่มทรูทั่วภูมิภาค  ตลอดจนการให้บริการด้านสุขภาพผ่านระบบออนไลน์ได้จากทุกที่ทั่วประเทศ รักษา รับยา เคลมประกัน ผ่านแอปพลิเคชัน MorDee ที่ช่วยให้คนไทยทุกคนเข้าถึงบริการการแพทย์ทางไกล (Telemedicine) มากขึ้น อีกทั้งยังพัฒนาดิจิทัลโซลูชัน ใช้ IoT ในระบบสมาร์ทฟาร์มมิ่ง ร่วมสร้างโอกาสให้กับการพัฒนาเศรษฐกิจชุมชนและประเทศต่อไป

ท่องเที่ยวอีสานบูมรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ นครพนมรับกระแสทัวร์สายมู ศิลปวัฒนธรรม

เทรนด์การท่องเที่ยวภาคอีสานจะมุ่งสู่เมืองรองเพิ่มมากขึ้น สะท้อนจากจำนวนและรายได้ของผู้เยี่ยมเยือน โดยได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐที่พัฒนาเมืองรองสู่เมืองหลัก โดยนครพนมและศรีสะเกษเป็น 2 จังหวัดนำร่องจากภาครัฐ

ทั้งนี้ จากข้อมูลธนาคารแห่งประเทศไทยการท่องเที่ยวภาคอีสานขยายตัวต่อเนื่องตามจำนวนผู้เยี่ยมเยือนคนไทยเพิ่มขึ้นตามเทศกาลสำคัญในภาคอีสานและทำให้มีนักท่องเที่ยวเดินทางข้ามจังหวัดเพิ่มมากขึ้น อัตราเข้าพักเพิ่มมากขึ้น 66.1% (ข้อมูล พ.ย. YoY)

จากข้อมูลอีสานอินไซต์คาดว่าปี 2567 นี้จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มขึ้นเป็น 2.9 ล้านคน จากนโยบายสนับสนุนการท่องเที่ยวของรัฐบาลไทย กระตุ้นการท่องเที่ยวจากนักท่องเที่ยวต่างชาติโดยเฉพาะมาตรการยกเว้นวีซ่า และคาดการณ์เศรษฐกิจอีสานในปี 2567 จะโตเพิ่มขึ้น 2.8%

ประเทศ ตันกุรานันท์ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านเทคโนโลยี บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า สำหรับการพัฒนาเครือข่ายของภาคอีสานโดยเฉพาะจังหวัดนครพนมที่มีแนวโน้มเติบโตเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยรับกับกระแสปีมังกรและการท่องเที่ยวเมืองรอง เราขยายทั้งโครงข่าย 5G และ 4G เพื่อการใช้งานดิจิทัล โดยเฉพาะสถานที่ท่องเที่ยว เช่น ถ้ำนาคี พระธาตุพนมซึ่งเป็นศาสนสถานอันศักดิ์สิทธิ์ของอีสาน รวมถึงพื้นที่บริเวณริมโขง เช่น ถนนคนเดิน และเขตเศรษฐกิจต่างๆ ที่มีการขยายตัวเพื่อพัฒนาโครงข่ายรองรับการเติบโต อีกทั้ง มีการใช้ AI เข้ามาวิเคราะห์และตรวจสอบคุณภาพเครือข่ายอีกด้วย

การใช้งานดาต้าจังหวัดนครพนมติดเทรนด์เติบโตแถวหน้า

ทรู คอร์ปอเรชั่นนำศูนย์ปฏิบัติการเครือข่าย AI อัจฉริยะ BNIC (Business Network Intelligence Center) วิเคราะห์พฤติกรรม แนวโน้มอีสาน และนครพนม พร้อมขยายเครือข่ายและเพิ่มสัญญาณแบบเจาะลึกเฉพาะพื้นที่ทั่วประเทศ อัตราการเติบโตการใช้ดาต้า ดังนี้

  • ทั่วประเทศเฉลี่ย 15.59%
  • อีสาน 13.14%
  • จังหวัดนครพนม 14.34%

ตามข้อมูลพบว่านครพนมเป็นจังหวัดที่มีอัตราการใช้ดาต้าที่พุ่งสูงติดเทรนด์ และมีการใช้งานมากกว่าอัตราเฉลี่ยของจังหวัดในภาคอีสาน รับกับกระแสท่องเที่ยวเมืองรองที่เติบโตมากขึ้น

ทรู คอร์ปอร์เรชั่นพัฒนาโครงข่ายเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของชุมชนเมืองรอง

นอกจากการพัฒนาโครงข่ายที่รองรับการท่องเที่ยวแล้ว ทรูยังได้พัฒนาโครงข่ายเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของชุมชน นำเทคโนโลยีระบบฟาร์มอัตโนมัติ (Farm Automation) และการเกษตรอัจฉริยะสู่ภาคอีสาน โดยมีโครงการนำร่อง คือ โครงการเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวันนักเรียน ที่โรงเรียนบ้านนาคำ (โพนสวรรค์) อ.โพนสวรรค์ จ.นครพนม ด้วยฟาร์มไก่ 150 ตัว ไข่ 130 ฟองต่อวัน

  • ระบบฟาร์มอัตโนมัติ (Farm Automation) ผ่านโครงข่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง 5G และ 4G
  • ติดตั้งอุปกรณ์ไอโอทีช่วยดูแลและควบคุมสภาพแวดล้อมที่สำคัญสำหรับการเลี้ยงไก่
  • ควบคุมอุณหภูมิ ความชื้น แสง ด้วยระบบเซ็นเซอร์ตรวจวัดและส่งรายงานข้อมูลแบบเรียลไทม์
  • สามารถควบคุมและสั่งงานได้ผ่านออนไลน์ด้วยสัญญาณ 5G และ 4G
  • เพิ่มประสิทธิภาพในการเลี้ยงไก่และบริหารจัดการฟาร์มได้โดยไม่จำเป็นต้องอยู่ในพื้นที่ฟาร์ม
  • อุปกรณ์ไอโอทีควบคุมสภาพแวดล้อมสำหรับการเลี้ยงไก่

อนึ่ง ทรู คอร์ปอเรชั่นให้ความสำคัญกับตลาดอีสานเป็นอย่างมาก  โดยเฉพาะจังหวัดนครพนมซึ่งถือเป็นเมืองรองที่มีศักยภาพการเติบโตสูง  ทรูมุ่งมั่นนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่ตรงกับความต้องการของลูกค้าท้องถิ่น

ทิพยรัตน์ แก้วศรีงาม หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านการจัดการระดับภูมิภาค บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า แนวโน้มการทำตลาดของภาคอีสาน เรามุ่งเน้นการวิเคราะห์ให้ตรงกับกลุ่มลูกค้าในพื้นที่ โดยมีไฮไลท์การนำกระแสความเชื่อ หรือ ‘มูเตลู’ มาประสานกับการทำการตลาดในภาคอีสานและนครพนม อาทิ ‘เบอร์มงคล ยุค 9’ ที่ออกแบบ ตรงดวง ตรงวันเกิด ตรงลัคนาราศี เสริมจุดเด่น แก้จุดด้อย เปลี่ยนชีวิตให้ก้าวหน้า เสริมความรัก การงาน การเงิน ให้ดวงปังต่อเนื่อง จากอาจารย์ระดับประเทศ  คือ อาจารย์ช้าง ทศพร ศรีตุลา เจ้าตลาดศาสตร์ตัวเลข และ อาจารย์ลักษณ์ ราชสีห์ นักโหราศาสตร์อันดับ 1 นอกจากนี้ ยังมีอาจารย์ชื่อดังจังหวัดนครพนม คือ อาจารย์ภัท นารายณ์รักษ์ อาจารย์มิว ลักกี้สตาร์ และท่านอื่นๆ ที่ให้บริการลูกค้าสายมูแบบเฉพาะบุคคลที่ภาคอีสานและนครพนม

ทั้งนี้ ทรู คอร์ปอเรชั่นมุ่งมั่นอย่างต่อเนื่องในการยกระดับประสบการณ์ของลูกค้าทั่วประเทศ และออกแบบตรงความต้องการใช้งานของแต่ละภูมิภาคทั่วไทย พร้อมทั้งนำเสนอมูลค่าเพิ่มเพื่อยกระดับไลฟ์สไตล์ดิจิทัลของลูกค้าทั้ง 51.9 ล้านเลขหมาย โดยเป็นผู้ให้บริการเครือข่าย 5G ครอบคลุมมากที่สุดในประเทศ ซึ่งครอบคลุมประชากร 90% พร้อมด้วยฐานผู้ใช้บริการ 5G ที่มากสุดถึง 10.5 ล้านราย ด้วยโครงข่าย 5G คุณภาพสูง และคลื่นความถี่ที่นำมาให้บริการที่ครบทุกย่านและหลากหลาย ทำให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ความเร็วกว่าเดิมถึง 2 เท่า รวมถึงให้ความสำคัญในการเพิ่มความสะดวกรวดเร็วในช่องทางการขายที่ศูนย์บริการและช่องทางดิจิทัลอีกด้วย

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

The post ทรู คอร์ปอเรชั่นชวนเบิ่ง “นครพนม” ชูแนวคิด “มูจิทัล” ยกระดับเมืองรองอีสานม่วนทุกไลฟ์สไตล์ first appeared on Brand Inside.
Categories: Blognone Network

How To เพิ่มวิตเจ็ตเครื่องคิดเลขบนหน้าจอหลัก!

iPhonemod - 18 March 2024 - 15:53

สำหรับใครที่ชอบใช้เครื่องคิดเลขเพื่อคำนวณค่าต่าง ๆ วันน […]

The post How To เพิ่มวิตเจ็ตเครื่องคิดเลขบนหน้าจอหลัก! appeared first on iMoD.

ภาพพื้นหลัง (Wallpaper) Apple Jing’an สำหรับ iPhone, iPad, Mac

iPhonemod - 18 March 2024 - 14:47

Apple Jing’an ก็ใกล้จะเปิดตัวแล้วซึ่งจะเปิดในวันท […]

The post ภาพพื้นหลัง (Wallpaper) Apple Jing’an สำหรับ iPhone, iPad, Mac appeared first on iMoD.

ลือ! Apple คุยกับ Google เรื่องเอา Gemini มาใส่ใน iPhone

iPhonemod - 18 March 2024 - 14:33

Bloomberg รายงานว่า Apple ได้เจรจากับ Google เรื่องการซ […]

The post ลือ! Apple คุยกับ Google เรื่องเอา Gemini มาใส่ใน iPhone appeared first on iMoD.

[ลือ] AirPods 4 ทั้ง 2 รุ่น อาจเปิดตัวเดือนกันยายน หรือตุลาคมปีนี้

MacThai - 18 March 2024 - 14:00

ในตอนนี้ซัพพลายเออร์ของแอปเปิลเตรียมที่จะผลิต AirPods 4 ทั้งสองรุ่นในเดือนพฤษภาคมนี้แล้ว ตามรายงานของ Mark Gurman จาก Bloomberg ซึ่งหากนับจากระยะเวลาการผลิต ก็น่าจะวางจำหน่ายในช่วงเดือนกันยายน หรือตุลาคมปลายปี 2024 พอดีครับ

โดย AirPods 4 ทั้งสองรุ่นจะมีดีไซน์ใหม่ที่มีขนาดพอดีกับการฟังมากขึ้น รวมถึงคุณภาพเสียงดีขึ้นด้วย ส่วนเคสที่ชาร์จได้ก็จะมาพร้อมกับพอร์ต USB-C

แต่ที่แตกต่างจากรุ่นก่อน ๆ คือ AirPods 4 ทั้งสองรุ่นจะมีความเป็นหูฟังที่อยู่ในระดับไฮเอนด์มากขึ้น พร้อมฟีเจอร์ตัดเสียงรบกวน และลำโพงในเคสชาร์จที่สามารถส่งเสียงสัญญาณได้เพื่อใช้กับการแทร็กกิ้งผ่านแอป Find My  จากนั้นแอปเปิลก็แพลนที่จะยกเลิกการผลิตรุ่นที่สอง และสามพร้อมกัน เมื่อ AirPods 4 ทั้งสองรุ่นเปิดตัวด้วย

แต่ Gurman ไม่คิดว่า AirPods Pro ใหม่จะเปิดตัวในปีนี้ และอาจจะเปิดตัวอย่างเร็วที่สุดคือปีหน้า โดยจะมาพร้อมกับโหมดการเป็นเครื่องช่วยฟังสำหรับผู้ที่บกพร่องทางการได้ยินตามที่แอปเปิลกำลังพัฒนาฟีเจอร์ทดสอบการได้ยินสำหรับ AirPods อยู่ตอนนี้ครับ

ที่มา – https://www.macrumors.com/2024/03/17/airpods-4-production-and-launch-timing/

The post [ลือ] AirPods 4 ทั้ง 2 รุ่น อาจเปิดตัวเดือนกันยายน หรือตุลาคมปีนี้ appeared first on Macthai.com.

Categories: Partners

40 ชั่วโมงต่อสัปดาห์มันมากไป Bernie Sanders เสนอ ทำงานสัปดาห์ละ 32 ชั่วโมง ก็พอแล้ว!

Brand Inside - 18 March 2024 - 13:51

พอแล้ว เลิกทำงาน 40 ชั่วโมงต่อสัปดาห์

สหรัฐอเมริกามีชั่วโมงการทำงาน 40 ชั่วโมงต่อสัปดาห์มาอย่างยาวนานกว่า 80 ปีแล้ว ล่าสุด Bernie Sanders นักการเมืองอเมริกันหัวก้าวหน้า ขอเสนอใหม่ อยากให้คนทำงานในเวลาที่สั้นลง สัก 32 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ หรือทำงาน 4 วันต่อสัปดาห์ก็พอ

Bernie Sanders

ข้อเสนอดังกล่าวของ Bernie ก็เพื่อเปลี่ยนบรรทัดฐานการทำงานของสหรัฐฯ ใหม่ และให้ความสำคัญกับคนทำงานมากขึ้น ขณะเดียวกัน การยกข้อเสนอเช่นนี้ก็เพื่อจะหาทางเพิ่ม Productivity จากการทำงานเพิ่มขึ้นด้วย การลดชั่วโมง ลดวันทำงานลงนี้ ไม่ได้หมายความว่านายจ้างจะต้องจ่ายเงินค่าตอบแทนลดลงด้วย Bernie เสนอว่า ให้นำเทคโนโลยี AI หรือปัญญาประดิษฐ์มาใช้ให้เกิดประโยชน์มากขึ้น หรือไม่ก็หาทางใช้ระบบอัตโนมัติมาทำงานมากขึ้น เพิ่มเทคโนโลยีใหม่ๆ ในการทำงานเพื่อองค์กรมากขึ้น

ข้อเสนอที่ว่าของ Bernie นี้ ไม่ใช่แค่ข้อเสนอเปล่าๆ แต่เขาเสนอให้เป็นกฎหมายใหม่ เรียกว่า Thirty-Two Hour Workweek Act ด้วย ซึ่ง Bernie ระบุว่า ทุกวันนี้ คนอเมริกันทำงานเพิ่มมากขึ้นกว่า 400% มากกว่าช่วงทศวรรษ 1940 (หรือก่อนช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 จะสิ้นสุดลงด้วยซ้ำ) นอกจากนี้ คนอเมริกันยังทำงานกินเวลายาวนาน แถมได้ค่าแรงต่ำกว่าทศวรรษที่ผ่านมา

Bernie มองว่า มันถึงเวลาแล้วที่จะใช้ระบบอัตโนมัติ เทคโนโลยี AI หรือแนวทางใหม่ๆ สำหรับการทำงานเสียที ทั้งนี้ ข้อเสนอดังกล่าว ไม่ได้ทำเพื่อคนรวยทั้งหลาย แต่ทำเพื่อคนทำงาน ถึงเวลาสักทีที่จะลดระดับความเครียดของผู้คนในประเทศนี้ ปล่อยให้ชาวอเมริกันได้มีความสุขกับคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ถึงเวลาที่จะลดชั่วโมงทำงานเป็น 32 ชั่วโมงต่อสัปดาห์

ด้านวุฒิสภาสมาชิก Butler ก็ให้ความเห็นเสริมจากข้อเสนอเพื่อเป็นกฎหมายใหม่ดังกล่าวว่า ขณะที่ซีอีโอมีเงินเดือนเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง แต่คนทำงานทั้งหลายกลับต้องทำงานเพิ่มมากขึ้น ขณะเดียวกันก็ได้ค่าแรงลดลงด้วย กฎหมายที่ว่าด้วยการทำงาน 32 ชั่วโมงต่อสัปดาห์จะช่วยทำให้คนอเมริกันได้ใช้เวลากับครอบครัวได้มากขึ้น 

It’s not a radical idea. https://t.co/UaTh9xlKjf

— Bernie Sanders (@BernieSanders) March 15, 2024

 

ย้อนกลับไปเมื่อสมัยปี 1938 ก่อนจะเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 ประธานาธิบดี Franklin D. Roosevelt ได้ลงนามใน Fair Labor Standards Act (FLSA) เพื่อกำหนดเวลามาตรฐานสำหรับการทำงานให้เป็น 44 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ จากนั้น ในเวลา 2 ปีต่อมา ก็ลดชั่วโมงการทำงานเป็น 40 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ซึ่งก่อนหน้านั้น

สมัยช่วงต้นศวรรษที่ 19 มีการทำงานกินเวลายาวนานมาก ยาวนานถึง 70 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ จากนั้นในช่วงปลายทศวรรษที่ 1800 ก็มีการประท้วงเกิดขึ้น จนนำไปสู่การทำงาน 8 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ตามสโลแกนที่ว่า “8 ชั่วโมงเพื่อการทำงาน 8 ชั่วโมงเพื่อการพักผ่อน และอีก 8 ชั่วโมงเพื่ออะไรก็ได้ตามความปรารถนา”

ทุกวันนี้ คนอเมริกันทำงานมากกว่า 400% เมื่อเทียบกับสมัยทศวรรษที่ 1940 คนอเมริกันนับล้านทำงานยาวนานขึ้นแต่ได้รับผลตอบแทนที่น้อยลง ในปี 2019 คนอเมริกันเกือบ 40% ทำงานอย่างน้อย 50 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ และราว 18% หรือประมาณ 28.5 ล้านคนทำงานยาวนานถึง 60 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ แต่โดยเฉลี่ย คนอเมริกันที่ทำงานประจำ จะใช้เวลาทำงานราว 42 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ นอกจากนี้ คนอเมริกันที่รับงานหลายงานที่คิดเป็นกว่า 8 ล้านคน และราว 4.7 ล้านคนทำงานประจำและทำงานพาร์ทไทม์ไปด้วย

A.I. and robotics are transforming our economy.

Working people should benefit from this increased productivity, not just billionaires.

It’s time for a 32-hour workweek. pic.twitter.com/zJLvK8c1J5

— Bernie Sanders (@BernieSanders) March 14, 2024

ก่อนหน้านี้ Bill Gates ผู้ก่อตั้ง Microsoft และ Jamie Dimon ซีอีโอจาก JP Morgan ก็เคยคาดการณ์ไว้ว่า เทคโนโลยีน่าจะช่วยให้สามารถลดชั่วโมงการทำงาน เป็นทำงานราว 3 วันหรือประมาณ 3 วันครึ่งต่อสัปดาห์ได้

ที่มา – Sanders.Senate.Gov

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

The post 40 ชั่วโมงต่อสัปดาห์มันมากไป Bernie Sanders เสนอ ทำงานสัปดาห์ละ 32 ชั่วโมง ก็พอแล้ว! first appeared on Brand Inside.
Categories: Blognone Network

สถาบันการเงินก็รักษ์โลกได้! กางแผนความยั่งยืน ธนาคารกรุงเทพ ผ่านมุมมอง ชาติศิริ โสภณพนิช

Brand Inside - 18 March 2024 - 13:25

กระแสการดำเนินธุรกิจผ่านกลยุทธ์รักษ์โลกคือสิ่งที่ทุกองค์กรต้องไปอย่างปฏิเสธไม่ได้ นอกจากเรื่องภาพลักษณ์ที่ดีขึ้น การยกระดับองค์กรในเรื่องดังกล่าวยังเจาะกลุ่มผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญเรื่องนี้มากขึ้น และล้อไปกับนโยบายเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมที่หลายประเทศทั่วโลกกำลังดำเนินการ ซึ่ง ธนาคารกรุงเทพ คืออีกธุรกิจที่กำลังเดินหน้าเรื่องนี้

แต่น่าสนใจว่าสถาบันการเงินที่ล้วนทำธุรกิจเกี่ยวกับตัวเลขจะช่วยเรื่องสิ่งแวดล้อมได้อย่างไร เพราะแค่ไปปลูกต้นไม้ หรือจัดกิจกรรมช่วยสังคมก็คงไม่ยั่งยืน ซึ่ง ชาติศิริ โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ ได้แจ้งบนเวที Sustainability Week Asia ที่จัดโดย The Economist ว่า ไม่ได้มีแค่สองเรื่องนี้แน่ ๆ

การดำเนินธุรกิจภายใต้แนวคิดความยั่งยืนของ ธนาคารกรุงเทพ จะเป็นอย่างไร และความท้าทายในการดำเนินธุรกิจที่ต้องการผลกำไรควบคู่กับการรักษ์โลกไปด้วยกันจะมากแค่ไหน Brand Inside ได้มีโอกาสร่วมรับฟังเสวนาดังกล่าว และสรุปออกมาให้อ่านกันดังนี้

ธนาคารกรุงเทพ

กางบทบาทธนาคารที่มีต่อความยั่งยืน

ชาติศิริ โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ เล่าให้ฟังว่า ปัจจุบันหลายองค์กรขนาดใหญ่ได้กำหนดเป้าหมายเกี่ยวกับความยั่งยืน และผลกำไรควบคู่กัน กลายเป็นตัวอย่างที่ดี รวมถึงจูงใจให้ธุรกิจขนาดกลาง และขนาดเล็กใส่ใจเรื่องนี้จนสร้างความยั่งยืนได้ทั้งระบบธุรกิจ

การไปถึงเป้าหมายดังกล่าวสถาบันการเงินสามารถตอบโจทย์ได้ 3 ด้านประกอบด้วย เรื่องแรกคือการให้ความรู้กับลูกค้าเกี่ยวกับข้อกำหนด และนโยบายเกี่ยวกับความยั่งยืนในระดับโลก เพื่อประยุกต์ใช้ในการดำเนินธุรกิจ ตามด้วยการจัดหาแหล่งเงินทุนเพื่อตอบโจทย์การเดินหน้าธุรกิจเพื่อตอบโจทย์เรื่องดังกล่าว

และสุดท้ายคือการพัฒนาผลิตภัณฑ์ กับบริการใหม่ที่เน้นเรื่องความยั่งยืนโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็นการให้สินเชื่อที่โจทย์เรื่องความยั่งยืน เช่น สินเชื่อเกี่ยวกับการติดตั้งพลังงานจากแสงอาทิตย์, การบำบัดของเสียง รวมถึงเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่ตอบโจทย์เรื่องความยั่งยืน

ร่วมมือกันระหว่างธนาคารขับเคลื่อน ESG

ธนาคารกรุงเทพ มีการเดินหน้าตราสารหนี้เพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม หรือ Green Bond มานานกว่า 4 ปี และมีแผนพัฒนาเพิ่มขึ้น ทั้งอยู่ระหว่างร่วมมือกับธนาคารอื่น ๆ ในประเทศไทย รวมถึงแบงก์ชาติเพื่อขับเคลื่อนกลยุทธ์ ESG ร่วมกันในปี 2022 ผ่านการเข้าไปช่วยเหลือในอุตสาหกรรมต่าง ๆ  เช่น พลังงาน, การผลิต และเกษตรกรรม เป็นต้น

“แต่ละอุตสาหกรรมมีความท้าทายที่แตกต่างกันในการลดคาร์บอน และต้องการเทคโนโลยีและเงินทุนเข้ามาช่วย ในประเทศไทยเรามีความก้าวหน้าเป็นอย่างมาก โดยจังหวัดสระบุรีจะกลายมาเป็นเมืองคาร์บอนต่ำแห่งแรก ท้ายที่สุดแต่ละภาคส่วนต้องทำงานเพื่อหาทางแก้ไขในแต่ละภาคส่วน และเดินหน้าต่อไปรับกับความท้าทายที่มีมากขึ้น”

การช่วยเหลือให้ธุรกิจต่าง ๆ สามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างยั่งยืนเบื้องต้นอาจเป็นการช่วยให้ธุรกิจเหล่านั้นปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านความยั่งยืนจากรัฐบาลประเทศต่าง ๆ เช่น มาตรการปรับคาร์บอนก่อนเข้าพรมแดนของสหภาพยุโรป หรือ CBAM เป็นต้น

แก้เกมปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ด้วย ESG

ปัจจุบันที่ปัญหาภูมิรัฐศาสตร์กำลังเกิดขึ้นทั่วโลก เช่น ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐอเมริกา กับจีน รวมถึงสงครามระหว่างรัสเซีย กับยูเครน ซึ่งเรื่องทั้งหมดนี้กระทบต่อภาพรวมเศรษฐกิจ เช่น ราคาสินค้าปรับตัวสูงขึ้น แต่ภายในปัญหามักมีโอกาสเสมอ เช่น การลงทุนในกลุ่มพลังงานทดแทนที่กำลังเติบโต เป็นต้น

“สำหรับในอาเซียนการลงทุนใหม่นั้นจำเป็นต้องมาพร้อมแนวปฏิบัติด้านความยั่งยืน ทั้งในส่วนของบริษัท และภาครัฐ ถือเป็นโอกาสที่ดีในการปฏิบัติตามหลักปฏิบัติด้านความยั่งยืน” ชาติศิริ เสริม เนื่องจากปัจจุบันรัฐบาลในแต่ละประเทศเริ่มมีการกระตุ้นให้องค์กรต่าง ๆ ปฏิบัติตามหลักการ ESG มากขึ้น

อย่างไรก็ตาม การดำเนินธุรกิจตามหลักความยั่งยืนยังมีความท้าทายอยู่ ไม่ว่าจะเป็นการตระหนักรู้อย่างแท้จริงเกี่ยวกับความยั่งยืน การจัดการวิธีการวางแผนการเปลี่ยนแปลงอย่างมีระบบผ่านการอ้างอิงข้อกำหนดทางเศรษฐกิจ และสังคม

อ้างอิง // The Economist

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

The post สถาบันการเงินก็รักษ์โลกได้! กางแผนความยั่งยืน ธนาคารกรุงเทพ ผ่านมุมมอง ชาติศิริ โสภณพนิช first appeared on Brand Inside.
Categories: Blognone Network

Pages