ตามที่ SoftBank ได้เข้ามาซื้อหุ้น Uber จากผู้ถือหุ้นเดิมจนกลายเป็นผู้ถือหุ้น 15% ในมูลค่าที่ลดลง 30% ตอนนี้มีข้อมูลเพิ่มเติมว่าใครบ้างที่เป็นผู้ขายหุ้นให้กับ SoftBank มีรายละเอียดดังนี้
ต่อเนื่องจากข่าว Jeff Bezos ขึ้นเป็นเศรษฐีอันดับหนึ่งของโลกอีกครั้ง มูลค่าสินทรัพย์ 3 ล้านล้านบาท ตามจังหวะขาขึ้นของหุ้น Amazon หลังแถลงผลประกอบการไตรมาสล่าสุด
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา Jeff Bezos ขายหุ้นของเขาออกมา 1 ล้านหุ้น เป็นมูลค่าประมาณ 1.1 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งถือเป็นการขายในจังหวะที่ดีเพราะหุ้นกำลังได้ราคาดี
การขายหุ้นของ Bezos ไม่ใช่เรื่องผิดปกติ เพราะเขาเพิ่งขายหุ้นมารอบหนึ่งในเดือนพฤษภาคม 2017 ในสัดส่วนใกล้เคียงกัน และเขาเคยให้สัมภาษณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่า จะขายหุ้นเพื่อนำเงินสดมาใช้ในบริษัทอวกาศ Blue Origin ประมาณปีละ 1 พันล้านดอลลาร์
หลังจากการขายหุ้นครั้งนี้ เขายังถือหุ้นของ Amazon อยู่ประมาณ 16%
หลังจากแอปเปิลแถลงผลประกอบการไตรมาส 3/2017 ออกมาดี ส่งผลให้ราคาหุ้นของแอปเปิลในตลาดสหรัฐวันนี้ (ที่เพิ่งเปิดตลาดตามเวลาท้องถิ่น) ขึ้นไปอยู่ที่ 174.26 ดอลลาร์ต่อหุ้น (บวก 3.7%) ส่งผลให้มูลค่าบริษัท (market capitalization) ของแอปเปิลขึ้นไปแตะหลัก 900 พันล้านดอลลาร์อยู่ชั่วขณะหนึ่ง (ราคาปิดของวันก่อนหน้าคือ 168 ดอลลาร์ต่อหุ้น มูลค่าบริษัท 885 พันล้านดอลลาร์)
ขณะที่เขียนข่าวนี้ หุ้นของแอปเปิลตกลงมาเล็กน้อย อยู่ที่ประมาณ 171.47 ดอลลาร์ต่อหุ้น ทำให้มูลค่าน้อยกว่าเส้น 900 พันล้านดอลลาร์อยู่เล็กน้อย ก็ต้องรอดูว่าราคาของวันนี้จะจบลงที่เท่าไรครับ
เมื่อเดือนกรกฎาคม Jeff Bezos แซง Bill Gates ขึ้นเป็นเศรษฐีอันดับหนึ่งของโลก อยู่ช่วงเวลาหนึ่ง ก่อนตกกลับเป็นอันดับสอง ตามราคาหุ้นของ Amazon
ล่าสุดในการแถลงผลประกอบการไตรมาสล่าสุดของ Amazon ที่ออกมาดีเยี่ยม ทำให้หุ้น Amazon ดีดตัวขึ้นทันที 13% และส่งผลให้ Jeff Bezos ขึ้นมาเป็นมหาเศรษฐีอันดับหนึ่งอีกครั้ง ด้วยสินทรัพย์รวม 93.8 พันล้านดอลลาร์ (3.1 ล้านล้านบาท) มากกว่า Bill Gates ประมาณ 5.1 พันล้านดอลลาร์
หุ้นไมโครซอฟท์ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และในที่สุดก็สามารถทำลายกำแพงมูลค่าบริษัท (market cap) ทะลุ 600 พันล้านดอลลาร์ได้สำเร็จ
มูลค่าบริษัทของไมโครซอฟท์เคยทะลุ 600 พันล้านดอลลาร์ได้เมื่อปี 2000 หรือ 17 ปีก่อน ซึ่งเป็นช่วงฟองสบู่ดอทคอมบูม แต่หลังจากนั้นก็ไม่เคยขึ้นไปสู่จุดนั้นอีกเลย
ไมโครซอฟท์เพิ่งผ่านกำแพง 500 พันล้านดอลลาร์ได้เมื่อเดือนมกราคม 2017 ส่วนบริษัทที่มีมูลค่าบริษัทเหนือกว่าในตอนนี้คือแอปเปิล (807 พันล้าน) และ Alphabet (690 พันล้าน)
ที่มา - Neowin
เมื่อคืนนี้ราคาหุ้น GoPro ซึ่งอยู่ในระหว่างการซื้อขายของตลาดหลักทรัพย์ ปรับตัวลดลงทันทีถึง 5% หลังจากกูเกิลประกาศเปิดตัว Google Clips กล้องขนาดเล็กพกพาติดตัว ที่มาพร้อมแนวคิดถ่ายภาพให้อัตโนมัติตามช่วงเวลาสำคัญ ด้วย AI ที่มีอยู่ในกล้อง
ถึงแม้แนวคิดการถ่ายภาพของ Google Clips ที่ระบุข้างต้น อาจไม่ได้เหมือนกับสินค้าของ GoPro โดยตรง แต่การเป็นกล้องพกพาขนาดเล็กเหมือนกัน ก็สามารถมองเป็นการแข่งขันจากผู้ผลิตรายใหญ่ได้
ที่มา: Business Insider
ราคาหุ้นคลาส A ของ Alphabet บริษัทแม่กูเกิล มีราคาซื้อขายล่าสุดเกิน 1,000 ดอลลาร์ต่อหุ้นเรียบร้อยแล้ว ทำให้มูลค่ากิจการบริษัทตอนนี้สูงกว่า 680,000 ล้านดอลลาร์ เป็นบริษัทในตลาดหุ้นที่มีมูลค่ากิจการสูงสุดเป็นอันดับที่ 2 ของโลกรองจากแอปเปิล
เมื่อสัปดาห์ที่แล้วราคาหุ้น Amazon ก็เพิ่งทะลุ 1,000 ดอลลาร์ต่อหุ้นไป
ปัจจุบันหุ้นของ Alphabet มีการซื้อขายสองกลุ่มคือหุ้นคลาส A ที่มีสิทธิออกเสียงในที่ประชุม และคลาส C ที่ไม่มีสิทธิออกเสียง ตอนนี้ราคาหุ้นคลาส C ยังไม่ทะลุ 1,000 ดอลลาร์ครับ
ที่มา: CNN Money
ราคาหุ้นของ Amazon ทำสถิติใหม่ระหว่างวันสูงกว่า 1,000 ดอลลาร์ต่อหุ้นเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่บริษัทเข้าตลาดหุ้นในปี 1997 หรือ 20 ปีที่แล้ว และราคาหุ้นปิดการซื้อขายที่ 996.70 ดอลลาร์
จุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้ Amazon กลายเป็นบริษัทที่มีมูลค่าเพิ่มอย่างรวดเร็ว นอกจากการพิสูจน์ว่าอีคอมเมิร์ซเป็นกระแสหลักของธุรกิจค้าปลีกแล้ว คือธุรกิจให้บริการคลาวด์ ซึ่งทำให้ Amazon มีกำไรสุทธิเป็นบวกถึง 8 ไตรมาสติดต่อกัน จากที่ผ่านมา Amazon เป็นบริษัทซึ่งนำกระแสเงินสดทั้งหมดไปลงทุนต่อ จนทำให้ขาดทุนหรือมีกำไรเพียงเล็กน้อยมาโดยตลอด
ปัจจุบัน Amazon เป็นบริษัทในตลาดหุ้นที่มีมูลค่ากิจการสูงที่สุดในโลกเป็นอันดับ 4 รองจาก Apple, Alphabet (Google) และ Microsoft ตามลำดับ
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (26 พ.ค.) ราคาหุ้นของนินเทนโดในตลาดหลักทรัพย์โตเกียว เพิ่มสูงเป็น 33,510 เยนต่อหุ้น ถือว่าสูงเป็นประวัติการณ์ในรอบ 8 ปี หลังจากที่เคยอยู่ระดับนี้เมื่อเดือนตุลาคม 2008
เหตุผลที่หุ้นดีดตัวเมื่อวันศุกร์เป็นเพราะนักลงทุนตอบรับข่าว Capcom ทำ Monster Hunter XX ลงเครื่อง Switch ในวันเดียวกัน (=นักลงทุนเก็งกำไรแย้) แต่ในภาพรวม หุ้นนินเทนโดไต่ขึ้นมาโดยตลอดนับตั้งแต่การวางขาย Switch ช่วงปลายเดือนมีนาคม
ราคาหุ้นของวันนี้ (29 พ.ค.) ราคาหุ้นยังเดินหน้าต่อไปที่เกือบ 34,600 เยนต่อหุ้น ก่อนจะตกลงมาหน่อยในช่วงบ่าย
จากเหตุการณ์มัลแวร์ WannaCrypt ที่ระบาดไปทั่วโลก ก็ส่งผลให้ราคาหุ้นของบรรดาบริษัทขายโซลูชั่นความปลอดภัยทางไซเบอร์ (Cyber Security) ปรับตัวสูงขึ้นหลังจากเหตุดังกล่าว
โดยเมื่อต้นสัปดาห์ มูลค่าของกองทุนเปิด ETF PureFunds ISE Cyber Security ซึ่งลงทุนในหุ้นบริษัทด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ปรับเพิ่มขึ้นถึง 5,900 ล้านดอลลาร์ โดยมีหุ้นที่ราคาปรับเพิ่มสูง อาทิ Cisco (+2.8%), Symantec (+4%), Mimecast (+11%), Proofpoint (+7.3%), Fireeye (+7%) และ Palo Alto Networks (+3.7%)
Evan Williams หนึ่งในผู้ก่อตั้งและอดีตซีอีโอ Twitter (ปัจจุบันธุรกิจหลักคือ Medium) ประกาศว่าตัวเองจะทยอยขายหุ้นบางส่วน (30% ของที่เขาถืออยู่) ใน Twitter ออกไป เพื่อนำเงินสดที่ได้ไปลงทุนในกิจการอื่นๆ
Williams บอกว่าเขาไปลงทุนในกิจการมากมาย เช่น บริษัทลงทุน Obvious Ventures และกิจการเพื่อการกุศลอื่นๆ ทำให้ต้องการเงินสดมาใช้สอย การขายหุ้นครั้งนี้ไม่ได้แปลว่าเขามองว่า Twitter กำลังอยู่ในช่วงขาลง เขายังมั่นใจในอนาคตของบริษัท และยังนั่งเป็นบอร์ดของบริษัทต่อไป
ช่วงหลัง Twitter ประสบปัญหามากมาย การขายหุ้นของผู้ก่อตั้งอย่าง Williams อาจส่งผลให้นักลงทุนไม่มั่นใจในอนาคตของบริษัท ทำให้ Williams ต้องรีบออกมาประกาศตัวไว้ก่อนว่าเป็นการขายหุ้นด้วยเหตุผลส่วนตัว
ราคาหุ้นของแอปเปิลปิดการซื้อขายเมื่อคืนนี้ ที่ราคา 133.29 ดอลลาร์ต่อหุ้น ซึ่งถือเป็นราคาปิดสูงสุดทำสถิติใหม่ มากกว่าเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปี 2015 ซึ่งอยู่ที่ 133 ดอลลาร์ โดยมีมูลค่ากิจการที่ 699,000 ล้านดอลลาร์
ก่อนหน้านี้แอปเปิลเคยมีมูลค่ากิจการสูงกว่านี้ แต่มีการซื้อหุ้นคืนทำให้จำนวนหุ้นมีจำนวนน้อยลง
ราคาหุ้นแอปเปิลปรับเพิ่มขึ้นมากกว่า 9% นับตั้งแต่รายงานผลประกอบการไตรมาสล่าสุด ซึ่งสะท้อนว่าความนิยม iPhone ยังคงเพิ่มขึ้น นอกจากนี้นักวิเคราะห์ยังเชื่อว่า iPhone รุ่นใหม่ที่จะออกในปีนี้ซึ่งฉลองครบรอบ 10 ปี จะมีกระแสความต้องการที่มากขึ้นไปอีก
ที่มา: Reuters
หลังจากที่ Nintendo เคยลาภลอยหุ้นขึ้นจากอิทธิพลของ Pokemon Go คราวนี้ถึงตาขาลงบ้าง เมื่อกระแสเกม Super Mario Run ออกมาไม่ค่อยดี จนทำให้หุ้นของ Nintendo ตกลงไปถึง 16% ภายในระยะเวลา 5 วันติดต่อกัน
นักวิเคราะห์ระบุว่าการที่หุ้นตกครั้งนี้ เป็นกระแสตีกลับหลังจากที่นักลงทุนตั้งความหวังไว้ค่อนข้างสูง จากกระแสของแฟนๆ ที่ตื่นเต้นกับ Super Mario Run โดยหนึ่งในสาเหตุสำคัญที่ทำให้การปรากฎตัวบนสมาร์ทโฟนครั้งแรกของ Mario ออกมาแย่ คือราคาเต็มของแอพที่สูงถึง 9.99 เหรียญ รวมถึงนักลงทุนไม่มั่นใจด้วยว่า Nintendo จะเพิ่มคอนเทนท์ให้กับ Super Mario Run เหมือนที่ Niantic อัพเดตให้ Pokemon Go
หุ้นของ Alphabet บริษัทแม่ของ Google พุ่งข้นสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ในวันอังคารที่ผ่านมาตามเวลาในสหรัฐ โดยราคาหุ้นของ Alphabet เมื่อเปิดตลาด ณ ตลาดหุ้นนิวยอร์คอยู่ที่หุ้นละ 814.21 เหรียญสหรัฐ ก่อนจะพุ่งไปแตะที่ 828.81 เหรียญสหรัฐตอนบ่าย 2 ซึ่งสูงที่สุดนับตั้งแต่ Google เข้าตลาดหุ้นเมื่อปี 2004 ก่อนที่จะปิดที่ 821.49 เหรียญสหรัฐ
มูลค่าของหุ้น Apple ที่วันจันทร์ผ่านมาได้เพิ่มขึ้นเกือบ 2% ไปแตะจุดสูงสุดของมูลค่าหุ้นในรอบปี 2016 หลังจากที่เปิดตัว iPhone 7 และ 7 Plus ได้ไม่นานนั้นประสบผลสำเร็จพอสมควร ในขณะที่คู่แข่งอย่าง Samsung ยังคงต้องแบกรับภาระและได้รับผลกระทบจากการเรียกคืน Galaxy Note 7 อย่างต่อเนื่อง
ราคาหุ้นของ Apple ได้ขึ้นไปสูงกว่า 116 USD ต่อหุ้นเป็นครั้งแรกหลังจากเมื่อวันที่ 8 เดือนธันวาคมปีที่แล้ว ถือว่าเพิ่มขึ้นถึง 28% สูงกว่าราคาหุ้นเมื่อตอนเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาที่ราคา 90.52 USD
ประเด็นปัญหาเรื่องซัมซุงหยุดขาย Galaxy Note 7 วันนี้ ส่งผลให้ราคาหุ้นของซัมซุงในตลาดหลักทรัพย์เกาหลีใต้ ตกหนักลงจากเดิม 8% มูลค่าบริษัทลดลง 17 พันล้านดอลลาร์ (6 แสนล้านบาท) ภายในวันเดียว
ตอนนี้ซัมซุงยังไม่แถลงจำนวนของ Galaxy Note 7 ที่ได้รับผลกระทบ เดิมทีคาดกันว่ามูลค่าของสินค้าที่เรียกคืนจะอยู่ราว 1-2 พันล้านดอลลาร์ แต่ตอนนี้ค่าเสียหายน่าจะเพิ่มขึ้นมากกว่านั้นแล้ว นอกจากนั้น การหยุดขาย Galaxy Note 7 ย่อมส่งผลกระทบต่อคู่ค้าและซัพพลายเออร์ของซัมซุงอีกเป็นจำนวนมากด้วย
เป็นการรวมข่าว Pokemon Go ประจำวันนี้ เอาไว้ในโพสต์เดียวกันครับ มีรายละเอียดดังนี้
ความร้อนแรงของ Pokemon Go (แม้เพิ่งเปิดให้บริการไม่กี่ประเทศ) ส่งผลสะเทือนในวงกว้าง ผลดีในทางบวกคือราคาหุ้นของนินเทนโดในตลาดหลักทรัพย์โตเกียว (Tokyo Stock Exchange) เพิ่มขึ้นทันที 10% หลัง Pokemon Go เปิดตัว
ถึงแม้ Pokemon Go ไม่ใช่ผลงานของนินเทนโดโดยตรง แต่เป็นความร่วมมือของ The Pokémon Company International ที่นินเทนโดถือหุ้นเพียง 1 ใน 3 (ที่เหลือถือโดย Game Freak และ Creatures บริษัทที่พัฒนาเกมในซีรีส์ Pokemon) และ Niantic Labs ผู้พัฒนาเกม Ingress ที่แยกตัวมาจากกูเกิล แต่คนส่วนใหญ่ก็จดจำได้ว่าแบรนด์ Pokemon เป็นของนินเทนโดนั่นเอง
บริษัท Berkshire Hathaway ของ Warren Buffett เศรษฐีหุ้นอันดับต้นๆ ของโลก เผยว่าเข้าไปซื้อหุ้นของแอปเปิลแบบเงียบๆ ตั้งแต่ไตรมาสแรกของปี โดย Berkshire ซื้อหุ้นแอปเปิลจำนวน 9.81 ล้านหุ้น คิดเป็นมูลค่า 1.07 พันล้านดอลลาร์
ความน่าสนใจของการซื้อหุ้นครั้งนี้คือ Buffett เคยพูดเอาไว้ว่าไม่เข้าใจตลาดเทคโนโลยี และเลี่ยงการซื้อหุ้นของบริษัทไฮเทคมาตลอด แต่ในปี 2011 เขากลับทุ่มเงินถึง 1 หมื่นล้านดอลลารซื้อหุ้นของ IBM และตามด้วยการซื้อหุ้นของแอปเปิลในครั้งนี้ (ล่าสุดยังมีข่าวลือว่าเขาสนใจซื้อ Yahoo! ด้วย)
เมื่อวานนี้ บริษัทจัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด หรือ JAS แจ้งผู้ถือหุ้นและตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ขอซื้อหุ้นคืนจำนวน 1,426 ล้านหุ้น (ราว 20% ของหุ้นทั้งหมด) ด้วยมูลค่าหุ้นละ 5 บาท คิดเป็นมูลค่าทั้งหมด 6,000 ล้านบาท
กระบวนการต่อไปคือ JAS จะเรียกประชุมสามัญประจำปี แล้วขออนุมัติแผนการซื้อหุ้นคืนต่อไป
การเสนอซื้อหุ้นคืนครั้งนี้เป็นการเสนอทั่วไป (tender offer ใครที่มีหุ้น JAS ก็สามารถขายคืนบริษัทได้หมด) ซึ่งหลายคนมองว่านี่คือสัญญาณว่า JAS ถอดใจกับการหาเงินไปจ่ายค่าใบอนุญาตคลื่น 900MHz แล้ว และนำเงินสดที่มีอยู่ในมือไปซื้อหุ้นคืนแทน
Jeff Weiner ซีอีโอของ LinkedIn สละสิทธิในหุ้นที่ผู้บริหารจะได้รับในปี 2016 (ถือเป็นส่วนหนึ่งของค่าตอบแทนผู้บริหาร นอกเหนือจากเงินเดือน) โดยเขายกโควต้าหุ้นส่วนนี้ให้เป็นหุ้นส่วนกลางสำหรับพนักงาน (stock pool) แทน
เว็บไซต์ Re/code ได้ข้อมูลวงในว่าหุ้นก้อนนี้มีมูลค่าประมาณ 14 ล้านดอลลาร์ หรือราว 500 ล้านบาท ซึ่งใกล้เคียงกับหุ้นที่ Weiner ได้ในปีที่แล้ว 13 ล้านดอลลาร์
ก่อนหน้านี้เราเคยเห็นข่าว ซีอีโอ Twitter ยกหุ้น 1/3 ให้กับพนักงานของบริษัท และ ซีอีโอเลอโนโวใจป้ำ ยกโบนัสให้พนักงานระดับล่าง
StockRadars แอพค้นหาหุ้นเด่นของไทย ประกาศข่าวระดมทุนรอบใหม่ โดยได้รับเงินทุนเพิ่มเติมจาก CyberAgent Ventures ที่เคยลงทุนมาก่อนแล้ว และได้นักลงทุนใหม่เป็น "เซียนหุ้น" ชื่อดังหลายคน เช่น เสี่ยป๋อง คุณวัชระ แก้วสว่าง เสี่ยยักษ์ คุณวิชัย วชิรพงศ์
StockRadars ยังเปิดตัวแอพเวอร์ชันใหม่, ขยายข้อมูลหุ้นเพิ่มเติมอีก 12 ตลาดใน 8 ประเทศทั่วเอเชีย (ญี่ปุ่น จีน ฮ่องกง ไต้หวัน เกาหลี นิวซีแลนด์ อินเดีย และสิงคโปร์) และจับมือกับ บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็กซ์ จำกัด เปิดให้สามารถส่งคำสั่งซื้อหลักทรัพย์จากแอพ StockRadars ได้โดยตรง ช่วยอำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้แอพที่ค้นพบหุ้นเด่นแล้วต้องการซื้อทันที
ที่มา - อีเมลประชาสัมพันธ์
วาณิชธนกิจรายใหญ่ของโลก Goldman Sachs ออกรายงานถึงลูกค้านักลงทุน โดยปรับการประเมินหุ้นไมโครซอฟท์จาก "ขาย" (sell) มาเป็น "กลาง" (neutral) พร้อมยอมรับว่าประเมินหุ้นไมโครซอฟท์ผิดในรอบ 2 ปีที่ผ่านมา (Goldman ใช้คำว่า "We were wrong")
Goldman ปรับสถานะหุ้นไมโครซอฟท์จาก neutral เป็น sell เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2013 แต่นับจากนั้นเป็นต้นมา หุ้นไมโครซอฟท์มีมูลค่าเพิ่มขึ้น 84% เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยของดัชนี S&P ที่ 29% แล้วสูงกว่ากันมาก เหตุผลของ Goldman ระบุว่ามองพลาดไปเรื่องการเปลี่ยนผ่านสู่โลกของคลาวด์ ที่ไมโครซอฟท์ทำได้ดีกว่าที่คาด (Office 365 และ Azure)
ที่มา - Bloomberg
Jack Dorsey ซีอีโอคนใหม่ของ Twitter ยังเดินหน้าสร้างขวัญกำลังใจให้พนักงานต่อไป โดยประกาศยกหุ้นของบริษัทจำนวน 1/3 ที่เขาถือครองอยู่ (คิดเป็น 1% ของหุ้นทั้งหมด) ให้เป็นหุ้นกองกลางที่จะปันส่วนให้พนักงาน (employee equity pool)
หุ้นที่ Dorsey ยกให้คิดเป็นมูลค่า 200 ล้านดอลลาร์ เขาระบุว่ายินดีถือหุ้นน้อยลง ถ้ามันช่วยให้หุ้นของบริษัทมีราคาสูงขึ้น ดีกว่าจะถือหุ้นไว้เยอะๆ แต่มีมูลค่าไม่มากนัก
ที่มา - Re/code
คล้อยหลังเหตุฉาวที่ Volkswagen โกงผลทดสอบมลพิษมาเพียงวันเดียว ความเสียหายต่อบริษัทเริ่มก่อตัวขึ้นอย่างมากแล้ว
เริ่มด้วยราคาหุ้นของ Volkswagen ที่ตลาดหุ้นเยอรมนีกันก่อน (Deutsche Börse) เมื่อเปิดตลาดในวันจันทร์ ราคาหุ้นของ Volkswagen AG ร่วงลงกว่า 20% (Bloomberg รายงานว่ามากถึง 23%) เหลือต่ำสุดที่ 125.40 ยูโรต่อหุ้น ส่งผลให้มูลค่าบริษัทหายไปราว 15,600,000,000 ยูโรเลยทีเดียว (ประมาณ 628,205,760,000 บาท) โดยในรอบปีที่ผ่านมา ราคาหุ้นของ Volkswagen AG เคยขึ้นสูงสุดถึง 250 ยูโรต่อหุ้นเมื่อเดือนมีนาคม