นินเทนโดรายงานผลการดำเนินงานประจำไตรมาสเดือนตุลาคม-ธันวาคม 2019 มีไฮไลท์สำคัญคือ Switch ขายไปได้ 10.81 ล้านเครื่อง เป็นสถิติยอดขายสูงสุดของ Switch ภายในไตรมาสเดียว และยังทำให้ยอดขายรวมนับตั้งแต่เริ่มจำหน่ายเป็น 52.48 ล้านเครื่อง สูงกว่าคอนโซล SNES หรือซูเปอร์แฟมิคอม ที่มียอดขายราว 50 ล้านเครื่องเป็นที่เรียบร้อย

เป้าหมายถัดไปที่ Switch จะแซงต่อไปได้หรือไม่คือ NES หรือเครื่องแฟมิคอม (61.91 ล้านเครื่อง)

นินเทนโดประกาศเพิ่มเกมจาก SNES หรือซูเปอร์แฟมิคอม ให้กับผู้ใช้บริการ Nintendo Switch Online โดยเริ่มต้นชุดแรก 20 เกม สามารถเล่นได้ตั้งแต่วันที่ 5 กันยายน (วันนี้) เป็นต้นไป ไม่คิดค่าบริการเพิ่มเติม

20 เกมที่ออกมาในชุดแรกมีทั้ง Star Fox, Breath of Fire, Super Mario World ฯลฯ

นอกจากนี้นินเทนโดยังประกาศขายคอนโทรลเลอร์สำหรับเล่นเกม SNES นี้ด้วย เหมือนกับที่ทำขายตอนเกมแฟมิคอม ราคา 29.99 ดอลลาร์ สำหรับเวอร์ชันอเมริกา และ 2,980 เยน สำหรับเวอร์ชันญี่ปุ่น

ที่มา: TechCrunch

Reggie Fils-Aimé ประธานนินเทนโดส่วนอเมริกา ให้สัมภาษณ์กับ The Hollywood Reporter ว่าเครื่องเกมเรโทรทั้ง Famicom Classic และ Super Famicom Classic ที่ขายอยู่ตอนนี้ เตรียมยุติการผลิตเร็ว ๆ นี้ ซึ่งหากในช่วงเทศกาลวันหยุดนี้สินค้าจำหน่ายหมด ก็จะไม่มีการเพิ่มสินค้าอีก

NPD Group เปิดเผยยอดขายเกมคอนโซลในสหรัฐอีกครั้งประจำเดือนตุลาคม ซึ่ง Nintendo Switch มียอดขายดีที่สุดตามมาด้วย SNES Classic ซึ่งกลับกันจากช่วงเดือนกันยายน ที่ SNES Classic ขายดีกว่า Switch

อย่างไรก็ตามคอนโซลของ Nintendo ยังคงมียอดขายดีกว่า PlayStation 4 ของโซนี โดยทั้ง SNES Classic, Switch และ 3DS มียอดขายรวมกันเกิน 1 ล้านเครื่อง มีสัดส่วนเป็น 2/3 ของยอดขายคอนโซลทั้งหมดในเดือนตุลาคม และนับตั้งแต่กรกฎาคมเป็นต้นมา PlayStation 4 และ Xbox ยังไม่สามารถทำยอดขายแซง Nintendo Switch ได้เลย

ที่มา - Polygon

นอกจากยอดขาย Nintendo Switch ที่ร้อนแรง 7.63 ล้านเครื่อง และตั้งเป้าที่ 14 ล้านเครื่องในปีนี้ นินเทนโดยังเปิดเผยยอดขายเครื่องเล่นเกมย้อนยุค SNES Classic / Nintendo Classic Mini: Super Famicom ว่ามียอดขายทั่วโลกทะลุ 2 ล้านเครื่องแล้ว

นินเทนโดบอกว่ากลุ่มลูกค้า SNES Classic มีทั้งกลุ่มคนที่เคยเติบโตมากับ SNES แล้วต้องการระลึกความหลัง และกลุ่มที่ไม่เคยเล่น SNES มาก่อน นอกจากนี้ นินเทนโดยังจะกลับมาผลิตเครื่อง NES Classic อีกครั้งในปี 2018

NPD Group รายงานสถิติยอดขายเกมในสหรัฐ ประจำเดือนกันยายน 2017 ปรากฏว่าคอนโซลที่ขายดีที่สุดไม่ใช่ PS4 หรือ Switch แต่เป็นเครื่องเกมย้อนยุค Nintendo SNES Classic Edition

SNES Classic เอาชนะคู่แข่งทุกรายในแง่จำนวนเครื่องที่ขายได้ อย่างไรก็ตาม ราคาของ SNES Classic ขายเพียง 79.99 ดอลลาร์ ถูกกว่าคอนโซลยุคปัจจุบันมาก

เดือนกันยายน 2017 ยังถือเป็นเดือนของนินเทนโด เพราะมียอดขายฮาร์ดแวร์ 3 เครื่อง (SNES Classic + Switch + 3DS) รวมกันคิดเป็นสัดส่วน 2 ใน 3 ของยอดขายคอนโซลทั้งหมด

ต่อเนื่องจากข่าวที่ผู้บริหารนินเทนโด ให้สัมภาษณ์ว่าเครื่องเกม SNES Classic Edition ได้เพิ่มการผลิตมากเพียงพอ ล่าสุดนินเทนโดออกประกาศอย่างเป็นทางการในเรื่องนี้ รวมทั้งพูดถึงการกลับมาของ NES Classic Edition ด้วย

นินเทนโดบอกว่าในฤดูร้อนปีหน้า เครื่องเกม NES Classic Edition จะกลับมาวางจำหน่ายอีกครั้ง โดยรายละเอียดการวางจำหน่ายจะออกมาในภายหลัง เครื่องเกม NES นี้จะพรีโหลดเกมมาให้ 30 เกม เหมือนกับรุ่นที่วางขายปี 2016

นินเทนโดเปิดตัวเครื่องเกมย้อนยุค SNES Classic Edition ไปเมื่อหลายเดือนก่อน แต่ปัญหาคือหลายคนที่อยากซื้อก็กังวลว่าจะซ้ำรอยเดิมตอน NES Classic Edition ที่ขายดีจนของขาดตลาด แล้วก็ประกาศหยุดขาย ซึ่งคราวนี้นินเทนโดให้ภาพที่ชัดเจนขึ้น

โดย Reggie Fils-Aimé ประธานนินเทนโดอเมริกา ให้สัมภาษณ์กับ Financial Times บอกว่าตอนนี้ได้เพิ่มการผลิต SNES Classic ไว้สูงมากๆ และจะพยายามผลิตให้ได้จำนวนตามความต้องการตลาดที่สุด ซึ่งมากกว่าตอน NES Classic ที่ขายได้ 2.3 ล้านเครื่อง

เพื่อฉลอง 30 ปีของเกมซีรีส์ Street Fighter (ภาคแรกออกเดือนสิงหาคม 1987 บนเครื่องอาเขต) ต้นสังกัด Capcom จึงย้อนยุคด้วยการออกเกม Street Fighter II แบบตลับสำหรับเครื่อง SNES อีกครั้ง

Street Fighter II เวอร์ชันตลับนี้สามารถเล่นได้จริงๆ (ถ้ายังเก็บเครื่อง SNES เอาไว้) แถมยังมาพร้อมกับกล่องและคู่มือแบบย้อนยุคให้เก็บสะสมด้วย

งานนี้ Capcom จับมือกับ iam8bit ผู้ผลิตสินค้าเกี่ยวกับวิดีโอเกมย้อนยุคทำออกมาขาย ตลับละ 100 ดอลลาร์ มีเพียง 5,500 ตลับเท่านั้น และมีจำนวน 1,000 ตลับที่เป็นตลับใส เรืองแสงในที่มืดได้ด้วย

ทุกคนคาดเดากันได้ว่านินเทนโดจะต้องออกเครื่องเกมย้อนยุคเวอร์ชัน Super Famicom หรือ SNES ในเวอร์ชันภาษาอังกฤษ และเมื่อคืนนี้ SNES Classic Edition ก็เปิดตัวแล้วจริงๆ

แนวทางของ SNES Classic Edition ก็ยังเหมือนกับ NES Classic Edition ทุกประการ นั่นคือหน้าตาแบบดั้งเดิม (แต่ขนาดเล็กลง) แถมจอยหน้าตาแบบดั้งเดิม 2 จอย และมีเกมพรีโหลดมาให้ 21 เกม ตัวอย่างเกมที่พรีโหลดมาคือ Super Mario World, Super Mario Kart, Super Metroid, Zelda: A Link to the Past, Street Fighter II Turbo, Donkey Kong Country, Mega Man X เป็นต้น

สำหรับใครที่เคยศึกษาประวัติของเครื่อง Nintendo SNES (ชื่อที่ใช้ในประเทศญี่ปุ่นคือ Nintendo Super Famicom) และ Sony PlayStation จะรู้ว่า ณ เวลาหนึ่ง เครื่อง SNES เกือบเล่นแผ่น CD ได้ โดยได้รับความร่วมมือจาก Sony ในการพัฒนา (ในชื่อ Sony Play Station)

ก่อนที่ Nintendo จะหันไปร่วมมือกับ Phillips พัฒนาเรื่องเกี่ยวกับ CD และออกเป็น Phillips CD-i ทำให้ Sony ตัดสินใจปรับปรุงและพัฒนาเครื่องต้นแบบดังกล่าวเป็นเครื่อง Sony PlayStation (ไม่มีเว้นวรรคระหว่างคำว่า PlayStation) เป็นของตนเอง

มีเครื่องต้นแบบยืนยันว่าเรื่องนี้เป็นความจริง ล่าสุดเครื่องต้นแบบดังกล่าวถูกบูรณะซ่อมแซมจนเกือบสมบูรณ์แล้ว โดยปัญหา ณ ตอนนี้คือไดรฟ์ CD ยังทำงานไม่สมบูรณ์ และไม่มี SNES-CD มาทดสอบด้วย

ด้วยฝีมือของ Florian เจ้าของ petRockBlog เครื่องคอมพิวเตอร์ขนาดเล็กอย่าง Raspberry Pi กำลังจะกลายเป็นเครื่องเล่นเกมแบบครอบจักรวาล แต่ตอนนี้อยู่ในช่วงเริ่มต้น จึงขอเป็นแค่เครื่องเล่น SNES ไปก่อนพลาง ๆ ก่อน