update Grab แถลงพนักงานที่ติด COVID-19 อยู่ส่วนสำนักงาน ไม่เกี่ยวกับคนขับ ตรวจพบเชื้อหลังกลับจากไทยหนึ่งวัน
Grab ปิดสำนักงานที่ไทยและสิงคโปร์ 5 วันเพื่อทำการฆ่าเชื้อ หลังมีการยืนยันว่า พนักงาน Grab ที่สำนักงาน Marina One West Tower สิงคโปร์ติดเชื้อเป็นโรค COVID-19 และก่อนหน้านี้ตัวเขาได้ไปที่สำนักงานที่กรุงเทพด้วย แต่กลับมาแล้ว
พนักงานคนดังกล่าวตรวจและยืนยันว่าเป็นโรคในวันที่ 7 มีนาคม และกำลังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ก่อนหน้านี้สำนักงาน Facebook ก็ปิดฆ่าเชื้อหลังเจอพนักงานติดเชื้อเป็นโรค COVID-19 ด้วย
Foodpanda สิงคโปร์ เปิดตัวบริการใหม่ Pandamart และ Pandanow โดยเป็นบริการจัดส่งสินค้าอุปโภค-บริโภค ของใช้ในชีวิตประจำวัน จากร้านค้าพาร์ทเนอร์กว่า 1,000 แห่งในสิงคโปร์ ซึ่งระบุว่าจะจัดส่งได้ภายใน 25 นาที
Pandamart นั้นได้เริ่มทดลองให้บริการไปตั้งแต่เดือนตุลาคม และหลังทดสอบมาได้ระยะหนึ่ง จึงเปิดตัวบริการใหม่เพิ่มคือ Pandanow ซึ่งมีจุดเด่นคือสามารถจัดส่งสินค้าได้ตลอด 7 วัน 24 ชั่วโมง และการันตีสินค้าส่งถึงภายใน 15 นาที ผ่านศูนย์กระจายสินค้าที่ Foodpanda ตั้งขึ้นมาเอง และสินค้ามีจำกัดรายการมากกว่า
ผู้บริหาร Foodpanda สิงคโปร์บอกว่าการเพิ่มบริการจัดส่งสินค้าของใช้นั้น เป็นการขยายธุรกิจให้สอดคล้องกับโครงสร้างพื้นฐานที่ Foodpanda วางไว้ ทั้งยังรองรับความต้องการของลูกค้าอีกด้วย
ไวรัสโคโรน่าระบาด ข่าวปลอมเกี่ยวกับไวรัสก็ระบาดด้วยเช่นกัน ที่สิงคโปร์มีผู้ใช้งาน Facebook เผยแพร่ข่าวปลอมว่าพบเจอผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรน่าที่สถานีรถไฟและมีการปิดสถานีรถไฟฟ้า Woodlands MRT เพื่อทำการฆ่าเชื้อ
ข่าวปลอมดังกล่าวแพร่กระจายออกไป และมีผู้ใช้งาน Facebook นำไปโพสต์ต่อๆ กันเป็นจำนวนมาก จนกระทรวงคมนาคมของสิงคโปร์ออกมาโพสต์แก้ข่าวว่าไม่เป็นความจริง สถานีรถไฟยังทำงานปกติ โดยขอให้ประชาชนเน้นตามข่าวผ่านช่องทางรัฐบาลเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็น www.moh.gov.sg หรือกลุ่ม Whatsapp ที่ https://go.gov.sg/whatsapp
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม Khaw Boon Wan เริ่มดำเนินการกับ Facebook ให้ทำการแก้ไขปัญหาข่าวปลอม ภายใต้กฎ Protection from Online Falsehoods and Manipulation Act (Pofma) ของสิงคโปร์ ซึ่งถือเป็นกรณีที่สองแล้วของไวรัสโคโรน่า โดยกรณีแรกเป็นข่าวปลอมจากนิตยสาร SPH ที่แพร่ข่าวปลอมผ่านฟอรั่ม HardwareZone ที่บอกว่ามีคนตายในสิงคโปร์จากเชื้อไวรัส
กองทุนสำรองเลี้ยงชีพแห่งชาติสิงคโปร์ (Central Provident Fund - CPF) ประกาศเปิดระบบแก้ไขชื่อผู้รับผลประโยชน์ออนไลน์ โดยไม่ต้องส่งเอกสารใดๆ อีกต่อไป และยังลดการเปิดเผยข้อมูลไปยังผู้ที่มองเห็นเอกสาร
ก่อนหน้านี้การแก้ไขชื่อผู้รับผลประโยชน์กองทุนสำรองเลี้ยงชีพต้องส่งเอกสารไปยังพยาน นอกจากกระบวนการล่าช้าแล้ว ยังทำให้พยานเห็นรายชื่อและสัดส่วนผลประโยชน์ที่เจ้าของกองทุนมอบให้แต่ละคน
Grab สิงคโปร์ ประกาศความร่วมมือกับ Singtel บริษัทรายใหญ่ จัดตั้งกิจการค้าร่วมเพื่อขอรับใบอนุญาตให้บริการธนาคารดิจิทัลเต็มรูปแบบในประเทศสิงคโปร์ โดย Grab จะถือหุ้น 60% และ Singtel ถือหุ้น 40%
ในแถลงการณ์ระบุว่าทั้งสองบริษัทมีประสบการณ์ในบริการทางการเงินมาก่อนแล้ว ไม่ว่าจะเป็น Dash, VIA, GrabPay หรือ GrabInsurance การเข้ามาสู่ธนาคารดิจิทัลเต็มรูปแบบเพื่อให้เกิดความง่าย เข้าถึงได้กับลูกค้ามากขึ้น และสามารถเพิ่มผลิตภัณฑ์ทางการเงินต่าง ๆ ได้มาก เนื่องจากมีสถานะเป็นธนาคาร โดยธนาคารจะเน้นให้บริการทางดิจิทัลเป็นหลัก (Digital-First) เน้นลูกค้าขนาดเล็ก-กลาง
ทั้งนี้กิจการค้าร่วมของทั้ง Grab และ Singtel จะต้องได้รับใบอนุญาตจากหน่วยงานของสิงคโปร์ก่อน จึงจะเริ่มให้บริการธนาคารได้
เฟซบุ๊กเลือกทำตามข้อเรียกร้องของรัฐบาลสิงคโปร์ที่สั่งให้แก้ไขโพสในเพจ States Times Review ว่าเป็นข่าวปลอม โดยหากผู้ใช้เข้าชมจากในสิงคโปร์ จะขึ้นข้อความเตือนใต้โพสว่า "เฟซบุ๊กแจ้งเตือนผู้ใช้ตามกฎหมาย ว่ารัฐบาลสิงคโปร์แจ้งว่าโพสนี้มีข้อมูลผิด"
ผมทดสอบเข้าถึงโพสของ States Times Review ที่เป็นข่าวจากในประเทศไทย ไม่พบข้อความแจ้งเตือนแต่อย่างใด
ทางสำนักงานตามกฎหมาย Protection from Online Falsehoods and Manipulation Act (POFMA) แจ้งหนังสือพิมพ์ Strait Times ว่าเฟซบุ๊กและบริษัทเทคโนโลยีอื่นระบุว่ายอมทำตามกฎหมาย POFMA
รัฐบาลสิงคโปร์ มีคำสั่งให้ Facebook แก้ไขโพสต์หนึ่งในระบบ เนื่องจากว่าเป็นโพสต์ "ข่าวปลอม" (fake news) ตามกฎหมายใหม่ Protection from Online Falsehoods and Manipulation Act (POFMA) ที่เพิ่งออกในเดือนพฤษภาคม
โพสต์ดังกล่าวมาจากเพจชื่อ States Times Review โดยผู้ใช้ชื่อ Alexa Tan ที่อยู่ในออสเตรเลีย แต่เป็นเพจที่วิจารณ์รัฐบาลสิงคโปร์อยู่บ่อยครั้ง และเรียกร้องให้พรรครัฐบาล People’s Action Party (PAP) ลงจากอำนาจ ฝั่งของ Alex Tan เจ้าของเพจระบุว่าเขามีสถานะเป็นประชากรของออสเตรเลียแล้ว (แม้เกิดในสิงคโปร์) และไม่ต้องปฏิบัติตามคำสั่งของรัฐบาลสิงคโปร์
จากข่าว K PLUS รองรับการจ่ายเงินผ่าน QR ในญี่ปุ่นและสิงคโปร์เป็นเงินบาทแล้ว เผอิญผมอยู่ที่สิงคโปร์พอดี เลยถือโอกาสไปลองจ่ายของจริงเลยว่าเป็นอย่างไร
การจ่ายเงินของ K PLUS ทำผ่านเครือข่ายจ่ายเงิน Via ซึ่งผลักดันโดย Singtel ร่วมกับพันธมิตรในหลายประเทศ พันธมิตรในไทยคือ AIS, Rabbit Line Pay, KBank และ SCB
ก่อนหน้านี้ AIS (ภายใต้พันธมิตร Rabbit Line Pay) รองรับการจ่ายเงินด้วย Via ไปแล้ว แต่ต้องดาวน์โหลดแอพ Global Pay มาใช้งาน (อ่านรีวิวการใช้โดยคุณ geekjuggler) แต่กรณีของ KBank สะดวกกว่าตรงที่ใช้จากแอพ K PLUS ได้โดยไม่ต้องโหลดแอพเพิ่ม
K PLUS ปล่อยอัพเดตเวอร์ชันล่าสุด ทำให้รองรับการจ่ายเงินผ่าน QR Code ในสิงคโปร์และญี่ปุ่นแล้ว ผ่านเครือข่าย VIA และ Smart Code ตามลำดับ โดยจะแสดงอัตราแลกเปลี่ยน (น่าจะวันที่ทำรายการ) ให้เลยทันทีก่อนชำระเงิน ไม่มีค่าธรรมเนียม ไม่มีขั้นต่ำ และวงเงินสูงสุด 100,000 บาทต่อวัน
ร้านค้าที่รับชำระจะต้องมีสัญลักษณ์ K PLUS หรือ VIA เครือข่ายเดียวกับที่ AIS ไปเป็นพาร์ทเนอร์ ในสิงคโปร์ เช่นเดียวกับในญี่ปุ่นที่จะต้องมีสัญลักษณื Smart Code (เป็นตัว S สีน้ำตาลพิกเซลแตก ๆ)
ที่มา - Kasikorn Bank
ที่งาน Singapore FinTech Festival รองนายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ Heng Swee Keat ประกาศแนวทางการใช้ปัญญาประดิษฐ์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการมีสองโครงการสำคัญ คือการนำมาให้บริการสุขภาพ และบริการผ่านแดนตามจุดตรวจต่างๆ
โครงการด้านสุขภาพนั้น Heng ระบุว่าสิงคโปร์เตรียมใช้ปัญญาประดิษฐ์ Selena+ มาตรวจภาพดวงดาเพื่อวินิจฉัยโรคเบาหวานขึ้นตา โดยคาดว่าจะใช้ได้ในสถานพยาบาลทั่วสิงคโปร์ภายในปี 2022
เมื่อปีที่แล้ว กูเกิลก็เคยประกาศผลความร่วมมือกับโรงพยาบาลราชวิถี สร้างโมเดลปัญญาประดิษฐ์ตรวจเบาหวานขึ้นตา ได้ความแม่นยำถึง 97%
ธนาคารในสิงคโปร์ประกาศรองรับการจ่ายเงินผ่านทาง QR หลังจากปีที่แล้วพยายามรวบรวม QR ของกระเป๋าเงินดิจิทัลทั้งหมดเป็นมาตรฐานเดียวกันในชื่อ SGQR ตอนนี้แอปธนาคารต่างๆ ก็เริ่มรองรับ
รูปแบบของธนาคารในสิงคโปร์คล้ายกับของไทย คือ ผู้รับเงินต้องลงทะเบียนบริการ PayNow ที่เปิดให้รับเงินผ่านทางหมายเลของค์กร, หมายเลขโทรศัพท์, หรือเลขบัตรประชาชน
หลังจากเปิดตัวครั้งนี้ ทางธนาคาร DBS ก็ประกาศว่าจะช่วยโรงพยาบาลรัฐให้รองรับการจ่ายค่าบริการผ่าน SGQR ภายในปลายปีหน้า โดยรวมมีสถานพยาบาลเข้าร่วม 27 แห่ง
โครงการปัญญาประดิษฐ์แห่งชาติสิงคโปร์ (AI Singapore - AISG) ประกาศเพิ่มโครงการรับรองวิศวกรเพื่อทำงานในอุตสาหกรรมที่ต้องการพัฒนาปัญญาประดิษฐ์ โดยวางระดับใบรับรองเป็น 4 ระดับ ได้แก่
Booking.com ร่วมมือกับ Grab ให้ผู้ใช้งานเรียกรถ Grab จากแอพ Booking.com ได้เลย สามารถจ่ายเงินในสกุลเงินของประเทศตัวเองได้ เริ่มต้นใช้งานในสิงคโปร์ก่อน และจะขยายไปยังอินโดนีเซีย และไทยภายในสิ้นปี 2019 นี้ และภายในปี 2020 จะขยายไปยัง กัมพูชา, มาเลเซีย, เมียนมาร์, เวียดนามและฟิลิปปินส์
HackerOne ประกาศความร่วมมือกับ Government Technology Agency (GovTech) ของรัฐบาลสิงคโปร์ เปิดตัวโครงการ Vulnerability Disclosure Programme (VDP) โครงการที่เปิดให้แจ้งบั๊คและช่องโหว่ในทุกบริการของรัฐบาลไม่ว่าจะเว็บหรือแอปพลิเคชัน หลังจากก่อนหน้าคือ HackerOne เคยร่วมมือกับรัฐบาลทำ Government Bug Bounty Programme (BBP) มาแล้ว
โครงการ VDP เป็นเพียงโครงการที่เปิดให้คนทั่วไปรายงานปัญหาต่าง ๆ คนรายงานจะไม่ได้รับค่าตอบแทน แตกต่างจากโครงการ Bug Bounty ที่แฮกเกอร์จะได้เงินค่าตอบแทนตามความร้ายแรงของช่องโหว่ โดย HackerOne และ GovTech จะจัด Government BBP ครั้งที่ 3 ในเดือนพฤศจิกายนนี้
คณะกรรมการผู้บริโภคของสิงคโปร์ หรือ Competition and Consumer Commission of Singapore (CCCS) ออกไกด์ไลน์คุมเข้มการตั้งราคาของเว็บไซต์จองโรงแรม และจองเที่ยวบิน ให้มีความโปร่งใส และทำให้ผู้บริโภคไม่รู้สึกว่าต้องจ่ายราคาสินค้าเกินกว่าที่คิดไว้ หรือไม่ทำให้ลูกค้าเข้าใจผิด
ทาง CCCS ออกไกด์ไลน์มา 4 ข้อด้วยกันคือ
ที่งาน AWS Public Sector Summit ที่สิงคโปร์ Tan Kok Yam รองเลขาธิการสำนักงานโครงการ Smart Nation และรัฐบาลดิจิตอลของสิงคโปร์ บรรยายถึงการใช้งานคลาวด์เพื่อสร้างบริการให้กับผู้ใช้ซึ่งมีทั้งประชาชนและบริษัท พร้อมกับเปิดเผยแผนการเปิดบริการใหม่ภายในปี 2020
สงครามชิงความเป็นเจ้าโลก AI ชัดเจนว่าเป็นการต่อสู้กันระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีน แต่สิงคโปร์ก็พยายามสอดแทรกตัวเข้ามาในเกมนี้เช่นกัน ด้วยการชูนโยบาย "พื้นที่เป็นกลาง" ไม่เลือกข้างจีนหรือสหรัฐ เพื่อดึงดูดให้บริษัท AI ต่างชาติเข้ามาเปิดสำนักงาน
รัฐบาลสิงคโปร์ยังประกาศทุ่มเงิน 500 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ (ประมาณ 1.1 หมื่นล้านบาท) ในเทคโนโลยีด้าน AI และเทคโนโลยีดิจิทัลอื่นที่เกี่ยวข้อง และมีนโยบายดึงดูดบริษัท AI จากอเมริกาและจีนมาเปิดศูนย์วิจัยในสิงคโปร์
กรรมการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลสิงคโปร์ (Personal Data Protection Commission - PDPC) ออกประกาศแจ้งเตือนว่าธุรกิจที่ไม่ได้ขออนุญาตเป็นพิเศษจะไม่มีสิทธิ์เก็บข้อมูลเลขบัตรประชาชนหลังจากวันที่ 1 กันยายนนี้ โดยต้องปรับเปลี่ยนกระบวนการทำงานให้ฐานข้อมูลในระบบไม่มีเลขบัตรประชาชนอีกต่อไป
กฎนี้ครอบคลุมถึงหมายเลขประจำตัวอื่นที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้ เช่น หมายเลขใบเกิด, หมายเลขต่างด้าว, หรือหมายเลขอนุญาตทำงาน
คำแนะนำของ PDPC ระบุให้ธุรกิจปรับเปลี่ยนไปใช้กระบวนการระบุตัวผู้ใช้ด้วยวิธีการอื่น เช่น ชื่อผู้ใช้ที่ตั้งได้เอง, หมายเลขโทรศัพท์, หมายเลขประจำตัวที่สร้างโดยระบบ หรือหมายเลขบัตรประชาชนบางส่วน
Fitbit ประกาศความร่วมมือกับคณะกรรมการส่งเสริมสุขภาพของประเทศสิงคโปร์ (Singapore’s Health Promotion Board - HPB) เพื่อริเริ่มโครงการส่งเสริมให้สุขภาพของประชาชน โดยโครงการที่พัฒนาร่วมกันชื่อว่า Live Healthy SG
รายละเอียดโครงการนั้นจะเปิดให้ประชาชนสิงคโปร์ที่สนใจลงทะเบียน โดยต้องสมัครใช้บริการ Fitbit Premium เป็นเวลา 1 ปี (ค่าบริการ 10 ดอลลาร์ต่อเดือน) และจะได้รับสายรัดข้อมือแทร็กเกอร์ Fitbit Inspire HR ฟรี ซึ่ง Fitbit บอกว่าบริการ Fitbit Premium ลูกค้าจะได้รับคำแนะนำการดูแลสุขภาพที่ละเอียด รวมทั้งมีบริการโค้ชแนะนำตัวต่อตัวด้วย
Vulcan Capital บริษัทด้านการลงทุนของ Paul Allen ผู้ร่วมก่อตั้งไมโครซอฟท์ซึ่งเสียชีวิตแล้ว ประกาศตั้งสำนักงานต่างประเทศแห่งแรกที่สิงคโปร์ โดยเบื้องต้นมีแผนลงทุนในสตาร์ทอัพภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 100 ล้านดอลลาร์ (3,000 ล้านบาท)
Tommy Teo ผู้อำนวยการสำนักงานที่สิงคโปร์เผยว่า กองทุนมีแผนลงทุนทั้ง Seed Stage, ซีรี่ส์ A และซีรี่ส์ B หัวข้อสตาร์ทอัพที่สนใจมีทั้ง เทคโนโลยีการเงิน, เทคโนโลยีอสังหาริมทรัพย์ และอินเทอร์เน็ตเจาะกลุ่มลูกค้าทั่วไป ส่วนประเทศเป้าหมายการลงทุนได้แก่ สิงคโปร์ อินโดนีเซีย และเวียดนาม
ตำรวจสิงคโปร์ประกาศเปิดตัวสถานีตำรวจย่อย (neighbourhood police posts - NPP) ปรับปรุงใหม่เป็นตู้ kiosk อัตโนมัติ ทำให้สามารถทำธุรกรรมพื้นฐานได้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยโครงการนี้เริ่มมาตั้งแต่ปี 2013 และตอนนี้ก็ปรับปรุงไปแล้ว 21 สถานี
บริการจากตู้ kiosk นี้สามารถให้บริการหลักๆ ได้ เช่น ส่งคืนของหายที่พบ (มีตู้ dropbox ให้ใส่ของ), แจ้งความแบบไม่เร่งด่วน, จ่ายค่าปรับจราจร, โต้แย้งใบสั่งจราจร, สมัครใบขับขี่, แจ้งปัญหาการใช้งานท้องถนน, ขอใบรับรองประวัติอาชญากรรม สำหรับเจ้าหน้าที่สามารถเข้ามาล็อกอินขอดูหมายจับได้ด้วย
กระทรวงไอซีทีสิงคโปร์ประกาศเพิ่มการสอนความสามารถดิจิทัลพื้นฐานให้กับเด็กพิเศษในโรงเรียนเด็กพิเศษ 4 แห่ง เพื่อเรียนการใช้ชีวิตในโลกออนไลน์ เช่น การจ่ายเงินออนไลน์, การรับ-ส่งอีเมล, การแชตกับผู้อื่น นอกจากนี้ยังมีเกมให้เด็กเหล่านี้ได้ฝึกตั้งรหัสผ่านอย่างปลอดภัย, ฝึกรับมือกับข่าวปลอม, และการจัดการกับการกลั่นแกล้งทางไซเบอร์ (cyberbully)
โครงการนี้มีโครงการนำร่องมาแล้วหนึ่งปี มีเด็กเข้าร่วมทั้งหมด 70 คนและได้รับผลที่ดี จึงขยายผล ทำให้จะมีเด็กเข้าร่วมโครงการทั้งหมด 700 คน
โครงการนี้ประกาศในงาน Digital Inclusion Festival ของรัฐบาล ที่พยายามให้ทุกคนเข้ามาใช้งานบริการดิจิทัลได้ทั่วถึง
Ping An Good Doctor แพลตฟอร์มด้านสุขภาพที่ใช้ AI ในการช่วยแพทย์ในการวินิจฉัยโรคเปิดให้บริการในสิงคโปร์ภายใต้ชื่อ AskBob ด้วยความร่วมมือกับ SingHealth ระบบข้อมูลคนไข้กลางและ National University Health System (NUHS)
Ping An ร่วมมือกับ SingHealth ในการเก็บข้อมูลและประมวลผลข้อมูลทางการแพทย์มาตั้งแต่เดือนเมษายน โดยตั้งเป้าช่วยแพทย์ในการรักษาโรคเบาหวานในสิงคโปร์ก่อน ขณะที่ NUHS เริ่มนำ AskBob ไปทดสอบกับแพทย์จริงแล้ว
ที่มา - SCMP
Pinterest มาเปิดสำนักงานในสิงคโปร์ หลังจากเพิ่งเข้าตลาดหุ้นไปก่อนหน้านี้ เป้าหมายคือจะเข้ามาเน้นที่ตลาดเอเชียแปซิฟิกมากขึ้น ผู้ดูแลสำนักงานใหม่คือ Ayumi Nakajima เป็น country manager ดูแลเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และอินเดีย โดยสำนักงานใหม่ที่สิงคโปร์เป็นออฟฟิศแห่งที่สองรองจากโตเกียว
ในขณะที่สถานการณ์ระหว่างแท็กซี่ท้องถิ่นกับ Grab ในไทยยังไม่ลงรอยกัน ตัดภาพไปที่สิงคโปร์ บริษัทแท็กซี่ ComfortDelGro ร่วมมือกับสมาคมแท็กซี่แห่งชาติหรือ NTA ในการฝึกคนขับแท็กซี่ให้ปรับตัวเข้าสู่ยุคดิจิทัล ให้ค่าเสียเวลาด้วย