การเจรจาครั้งสุดท้ายตามคำสั่งศาลของคดีแอปเปิล-ซัมซุงล่มไปแล้ว ทั้งคู่ก็ต้องเข้าสู่กระบวนการพิพากษาผ่านลูกขุน งานของผู้พิพากษาในตอนนี้ก็คือการออกแบบฟอร์มคำพิพากษาให้คณะลูกขุนไปกรอก แบบเดียวกับคดีกูเกิลและออราเคิลก่อนหน้านี้
โค้งสุดท้ายยังมีการโต้เถียงกันในเรื่องสำคัญ คือ ผู้พิพากษาจะเตือนลูกขุนว่าทั้งสองบริษัทลบอีเมลภายในแม้จะอยู่ในช่วงการเก็บหลักฐานไว้ก็ตาม โดยก่อนหน้านี้แอปเปิลได้ร้องให้ผู้พิพากษาเตือนคณะลูกขุนในเรื่องนี้ ซึ่งผู้พิพากษาก็ทำตาม แต่หลังจากนั้นก็เป็นคำเตือนในฝั่งแอปเปิลที่ถูกแจ้งพฤติกรรมแบบเดียวกันให้กับคณะลูกขุน
หลังจากมีเอกสารหลุดระบุถึงวินโดวส์โฟนยี่ห้อซัมซุงสองรุ่นที่ใช้รหัส Odyssey และ Marco โดยทั้งคู่รันระบบปฏิบัติการ Windows Phone 8 วันนี้ก็มีสเปกหลุดเพิ่มเติมของวินโดวส์โฟนทั้งสองรุ่น ดังนี้
GT-I8370 (รหัส Marco)
ราคาอยู่ระหว่าง 350 ถึง 450 ยูโร (ระหว่าง 13,630 ถึง 17,520 บาท)
ระหว่างการให้ปากคำในคดีฟ้องร้องกันระหว่างแอปเปิลกับซัมซุง ได้จบลงด้วยการที่ผู้พิพากษา Lucy Koh ได้บอกเมื่อวันพุธที่ผ่านมาว่าให้ทั้งสองฝ่ายลองพยายามเจรจากันอีกครั้ง โดยการเจรจาระหว่างทั้งสองฝ่ายเกิดขึ้นเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ทั้งสองฝ่ายก็ไม่สามารถตกลงอะไรได้เลย และสุดท้ายก็คงต้องรอคำตัดสินของศาล
นี่ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจอะไร เพราะก่อนหน้านี้ทั้งสองฝ่ายได้พยายามเจรจากันมาแล้วหลายครั้ง และมีครั้งหนึ่งที่ทั้งซีอีโอของซัมซุง และทิม คุก ต้องมาร่วมเจรจาตามที่ศาลได้ร้องขอเป็นเวลาสองวันเต็ม
ที่มา - Ars Technica
มีข่าวหลุดจนยืนยันกันไปแล้วกับ Galaxy S III สีดำ สีที่สี่ของ Galaxy S III และคาดว่าจะเปิดตัวกับเครือข่าย T-Mobile ของสหรัฐฯ แล้วยังมีข้อมูลเพิ่มเติมจากร้านขายมือถือออนไลน์สัญชาติอังกฤษอย่าง Clove มาแล้ว
นอกจากจะมาพร้อมกับสีใหม่แล้ว Galaxy S III สีดำนี้จะมาพร้อมกับหน่วยความจำภายในขนาด 64GB ที่เคยประกาศไว้ตั้งแต่เปิดตัว แต่ยังไม่ได้เริ่มขายอีกด้วย
ตอนนี้ Clove ยังไม่ลงข้อมูลว่าจะขายเมื่อไร เปิดราคาเท่าไร แต่เปิดให้จองได้แล้วครับ
เดือนที่แล้วมีข่าวออกมาบอกว่าทั้งกูเกิล แอปเปิล ซัมซุง และ HTC ต่างก็สนใจที่จะเข้าประมูลสิทธิบัตรเกี่ยวกับการถ่ายภาพดิจิตอล แต่รายงานล่าสุดจาก The Wall Street Journal รายงานว่าบริษัทเหล่านี้อาจจะรวมตัวกันประมูลสิทธิบัตรของ Kodak เพื่อที่จะกดราคาสิทธิบัตรลงให้ต่ำกว่าราคาที่ Kodak หวังว่าจะได้ในตอนแรก
เพิ่งมีข่าวลือไปว่า Galaxy S III จะได้อัพเดตเป็น Jelly Bean ภายในสิ้นเดือนนี้ ก็มีตัวรอมหลุดมายืนยันว่าซัมซุงทำเสร็จแล้วจริงๆ
ตัวรอมที่ SamMobile เอามาให้ดูนั้นเป็นรหัส I9300XXDLG4 ที่บิลด์ไปเมื่อวันที่ 31 กรกฏาคม ซึ่งยังเป็นตัวก่อนปล่อยจริง
สำหรับฟีเจอร์ที่เพิ่มขึ้นมามีดังนี้
เปิดตัวรอบสหรัฐฯ ไปแล้วก็ถึงคิวการเปิดตัว Galaxy Note 10.1 แท็บเล็ตไลน์ใหม่ของซัมซุงที่มาพร้อมกับปากกา S-Pen ที่เปิดตัวในประเทศไทยอย่างเป็นทางการแล้ว
ย้อนสเปคของ Galaxy Note 10.1 มาพร้อมกับแอนดรอยด์ 4.0 ICS ครอบด้วยอินเทอร์เฟซ Nature UX ซีพียู Exynos Quad (Exynos 4412) ความถี่ 1.4GHz แบบควอดคอร์ หน้าจอขนาด 10.1" ความละเอียด 1280x800 พิกเซล แรม 2GB มีสามความจุ 16/32/64GB (ใส่ micro SD เพิ่มได้) แบตเตอรี่ขนาด 7,000 mAh หนัก 597 กรัม
ปากกา S-Pen ที่มากับ Galaxy Note 10.1 ซัมซุงเคลมว่าใช้งานได้ละเอียดขึ้น รับแรงกดได้ 1,024 ระดับ ด้วยขนาดที่ใหญ่ขึ้นเป็น 6.5 มม. จากที่เคยใช้ในรุ่น Galaxy Note รุ่นแรกที่ขนาด 5.5 มม.
ซัมซุงเริ่มวางขายแท็บเล็ต Galaxy Note 10.1 ในสหรัฐอเมริกาแล้ว โดยเผยราคาดังนี้
รายละเอียดเรื่องสเปกดูกันเองในข่าวเก่า ส่วนรีวิวจากเว็บต่างประเทศก็เริ่มออกเผยแพร่กันแล้ว อ่านกันเองได้ตามสะดวกครับ ราคาไทยออกมาเป็นเท่าไรจะมารายงานอีกครั้ง
ในงานแถลงข่าวเปิดตัว Note 10.1 ทางผู้บริหารของซัมซุงยังให้ข้อมูลว่า Note รุ่นแรกทำยอดขายแตะหลัก 10 ล้านเครื่องได้แล้ว โดยใช้เวลารวมทั้งหมด 9 เดือน (ตัวเลขก่อนหน้านี้คือ 7 ล้านเครื่อง)
ข่าวลือชุดเดียวกับ หลุดภาพ Galaxy Note II จอใหญ่ขึ้น หน้าตาใกล้เคียงกับ S III แต่คนละประเด็นครับ
เว็บไซต์ GSMArena ซึ่งได้ข้อมูลชุดนี้มาพร้อมๆ กันระบุว่านอกจากซัมซุงจะใช้เวทีงาน IFA วันที่ 29 สิงหาคมนี้ เปิดตัว Galaxy Note 2 แล้ว จะยังมีข่าวดีสำหรับผู้ใช้ Galaxy S III ด้วย เพราะตัวรอม Android 4.1 Jelly Bean เสร็จเรียบร้อยแล้ว รอแถลงข่าวเปิดตัวเท่านั้น
ข้อมูลนี้จะขัดกับข่าวลือก่อนหน้านี้ที่ระบุว่า Galaxy S III จะได้ Jelly Bean ช่วงปลายไตรมาสที่สามต่อต้นไตรมาสที่สี่
ซัมซุงประเทศอังกฤษเปิดหน้าร้านออนไลน์ของตัวเองในชื่อ Samsung Direct และฉลองการเปิดร้านครั้งนี้โดยลดราคาแท็บเล็ต Galaxy Tab 2 ดังนี้
ใกล้จะถึงวันเปิดตัวมือถือรุ่นใหม่ของซัมซุงในซีรีส์ Galaxy Note ก็เริ่มมีข้อมูลของเจ้ารุ่นที่ว่าหลุดออกมาเรื่อยๆ ล่าสุดเว็บไซต์ข่าวมือถือ GSM Arena ได้โพสต์ภาพเรนเดอร์ของมือถือที่อ้างว่าเป็น Galaxy Note II ในรหัส N7100 มาแล้ว
หน้าตาของ Galaxy Note II ในภาพที่หลุดออกมานั้นต่างจากรุ่นเก่าเล็กน้อย และใช้สไตล์การออกแบบเดียวกับ Galaxy S III ที่เน้นความโค้งมน รวมถึงปุ่มโฮมที่เล็กลง แต่กว้างขึ้น
ตลาดแท็บเล็ตราคาถูกในปีนี้ยังคงแข่งขันกันดุเดือด ล่าสุดแผนของซัมซุงที่เตรียมส่ง Galaxy Tab 2 รุ่น 7" ไปบุกตลาดนักศึกษากลายเป็นความจริงแล้ว หลังจากมีคนเอาเครื่องที่ว่ามาทำคลิปแกะกล่องลง YouTube เรียบร้อยแล้ว
ตัวกล่องระบุชัดเจนว่าเป็น Galaxy Tab 2 รุ่นสำหรับนักศึกษาโดยเฉพาะ โดยมาเป็นแพคพร้อมกับคีย์บอร์ดด็อกกิง และอแดปเตอร์แปลงเป็น USB โดยตั้งราคาไว้สูงกว่าแท็บเล็ตเปล่าๆ อยู่ 50 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ปกติรุ่นนี้ขายอยู่ 199 ดอลลาร์สหรัฐฯ)
ในคลิประบุว่า Galaxy Tab 2 รุ่นนักศึกษาจะเริ่มขายกับห้าง Best Buy สัปดาห์หน้า ดูคลิปแกะกล่องได้ท้ายข่าวครับ
ที่มา - Engadget
คดีระหว่างแอปเปิลกับซัมซุงที่กำลังต่อสู้กันอยู่ในชั้นศาล ทำให้เรารู้เรื่องต่าง ๆ มากมายเกี่ยวกับทั้งสองบริษัท ล่าสุดอีกข้อมูลที่น่าสนใจที่ถูกเปิดเผยก็คือเรื่องแท็บเล็ตของไมโครซอฟท์ที่กำลังจะวางตลาดในเร็ว ๆ นี้ โดยนาย Boris Teksler ผู้บริหารทางด้านการทำใบอนุญาตสิทธิบัตรของแอปเปิลบอกว่า ไมโครซอฟท์ได้รับสิทธิในการใช้สิทธิบัตรของแอปเปิลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ทั้งสองก็มีข้อตกลง anti-cloning (ว่าจะไม่ลอกเลียนสินค้าของแอปเปิล) แยกอีกต่างหาก
ไมโครซอฟท์เปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติมของ Windows RT ผ่านบล็อก Building Windows 8 ดังนี้
ดูตัวเลขยอดขายของฝั่งแอปเปิลกันไปแล้ว คราวนี้มาดูตัวเลขยอดขายของผลิตภัณฑ์ซัมซุงในเอกสารที่ยื่นต่อศาลของสหรัฐกันบ้างครับ
ตัวเลขของซัมซุงนั้นเปิดเผยเฉพาะช่วงเวลาที่ถูกแอปเปิลฟ้องว่าลอกเท่านั้น ดังนั้นยอดขายสมาร์ทโฟนตระกูล Galaxy จะนับจากต้นไตรมาสที่สองของปี 2010 ถึงสิ้นไตรมาสที่สองของปี 2012 เท่านั้น (รวม 9 ไตรมาส) ในขณะที่แอปเปิลนับยอดขาย iPhone ตั้งแต่วางขายในปี 2007
ส่วนตัวเลขของแท็บเล็ต Galaxy Tab นับจากไตรมาสที่สี่ของปี 2010 ถึงสิ้นไตรมาสสองปี 2012
เนื่องจากมือถือ Galaxy ซอยรุ่นเยอะมาก เอาเฉพาะข้อมูลสำคัญๆ นะครับ
ในเอกสารล่าสุดที่ถูกเปิดเผยต่อสาธารณะจากคดีความที่ยังต่อสู้กันในชั้นศาลระหว่างแอปเปิลกับซัมซุง พบว่าในปี 2010 แอปเปิลเคยเสนอให้ซัมซุงจ่ายค่าสิทธิบัตรให้กับแอปเปิลเป็นจำนวนเงิน $30 ต่อเครื่องสำหรับโทรศัพท์ และ $40 สำหรับแท็บเล็ต โดยรวมถึงอุปกรณ์ที่ใช้แพลตฟอร์มอื่นๆ อย่าง Windows Phone, Symbian และ Bada ด้วย โดยหากคำนวณแล้วจะมีมูลค่ารวมในปี 2010 ประมาณ 250 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
นอกจากนี้แอปเปิลยังเสนอส่วนลดให้อีก 20% หากซัมซุงยอมที่จะอนุญาตให้แอปเปิลใช้สิทธิบัตรของซัมซุงด้วยเช่นเดียวกัน ซึ่งแน่นอนว่าข้อเสนอดังกล่าวนั้นไม่เป็นผล จนนำมาสู่คดีความปัจจุบันในที่สุด
หลังจาก RIM ได้ปรับยุทธศาสตร์โดยเปิดให้ผู้ผลิตฮาร์ดแวร์รายอื่นๆ สามารถซื้อสิทธิการใช้งาน BB10 ไปใช้งานได้
นักวิเคราะห์ก็พากันคาดการณ์กันว่า Samsung ซึ่งดำเนินกลยุทธ์ผลิตมือถือหลายแพลตฟอร์ม (Android, Windows Phone, bada/Tizen) จะเป็นหนึ่งในผู้ผลิตที่อาจนำ BB10 ไปใช้ เพื่อลดการพึ่งพา Google ที่อาจจะกลายเป็นคู่แข่งจากการเข้าซื้อ Motorola Mobility
ล่าสุด Samsung ได้ออกมาปฏิเสธแล้วว่าพวกเขาไม่คิดที่จะซื้อกิจการ RIM และไม่ได้สนใจสิทธิการใช้งาน BB10 แต่อย่างใด
ที่มา - Reuters
ซัมซุงเปิดตัวชิป SoC รุ่นหน้าอย่าง Exynos 5250 หรือชื่อปัจจุบัน Exynos 5 Dual ไปตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว ล่าสุดซัมซุงได้ปล่อยสเปคของชิปที่ว่าผ่าน white paper มาแล้ว
ฝั่งซีพียู Exynos 5 Dual เป็น Cortex-A15 สองตัวที่ใช้สถาปัตยกรรมขนาด 32 นาโนเมตร ความถี่อยู่ที่ 1.7GHz
ฝั่งจีพียูใช้ ARM Mali-T604 รองรับความละเอียดสูงสุด 2560x1600 พิกเซล (WQXGA) รองรับ OpenGL ES 3.0, OpenCL 1.1 รวมถึง DirectX 11 ด้วย
China Labor Watch กลุ่มเฝ้าระวังเรื่องการละเมิดสิทธิแรงงานในประเทศจีน เผยแพร่ผลการสอบสวนว่าบริษัท HEG Electronics ในประเทศจีน ซึ่งเป็นโรงงานรับจ้างผลิตสินค้าของซัมซุงหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นมือถือ เครื่องเล่นดีวีดี เครื่องเสียง และเครื่องเล่นเพลงพกพา ใช้แรงงานเด็กอายุต่ำกว่า 16 ปี
China Labor Watch บอกว่าสอบสวน HEG Electronics สามครั้งในช่วงเดือนมิถุนายน-กรกฎาคมที่ผ่านมา พบแรงงานเด็กจำนวน 7 คนทำงานอยู่ในฝ่ายเดียวกับคนที่ China Labor Watch ส่งเข้าไป (ส่วนฝ่ายอื่นไม่ทราบจำนวนเพราะเข้าไม่ถึงตัว แต่ประเมินว่าทั้งโรงงานมีอยู่ประมาณ 50-100 คน)
การพิจารณาคดีของแอปเปิล-ซัมซุงเข้าสู่สัปดาห์ที่ 2 แล้ว โดยแค่วันแรกของสัปดาห์นี้ แอปเปิลได้งัดหลักฐานชิ้นสำคัญเป็นอีเมลที่ส่งกันภายในซัมซุง โดยอีเมลฉบับนี้เขียนโดย JK Shin หัวหน้าฝ่ายอุปกรณ์สื่อสาร ส่งถึงทีมออกแบบโทรศัพท์ในช่วงต้นปี 2010 (ก่อน Galaxy S เปิดตัว) โดยมีใจความบางตอนที่ทนายของแอปเปิลได้ชี้ให้ลูกขุนเห็นว่า iPhone มีผลอย่างมากต่อการปรับเปลี่ยนวิธีการออกแบบโทรศัพท์ของซัมซุง จนมีหน้าตาคล้ายกับ iPhone ซึ่งก็มีเนื้อหาบางตอนดังนี้ครับ
เว็บไซต์ SamMobile ได้ข้อมูลที่อ้างว่ามาจากซัมซุง เกี่ยวกับแผนการอัพเดต Jelly Bean ของมือถือรุ่นท็อปของซัมซุงดังนี้
ตอนนี้ซัมซุงทดสอบเฟิร์มแวร์ Jelly Bean ของ Galaxy S III เสร็จเรียบร้อยแล้ว และกำลังออกเป็นเวอร์ชันปล่อยสู่สาธารณะอยู่
ส่วน Galaxy S II กับ Galaxy Note ที่สเปกเหมือนกันจะใช้เฟิร์มแวร์ตัวเดียวกัน ตอนนี้ยังอยู่ในขั้นทดสอบ และกรณีของ Note II ที่จะเปิดตัวช่วงปลายเดือนนี้ยังไม่ชัดว่าจะใช้ 4.0 หรือ 4.1 กันแน่
หลังจากมีภาพหลุดออกมาหลายชุด ในที่สุดซัมซุงก็เปิดตัวแท็บเล็ตรุ่นใหม่ Galaxy Note 10.1 อย่างเป็นทางการแล้ว
Note 10.1 ใช้หน้าจอขนาด 10.1" 1280x800 พร้อม digitizer และปากกา S Pen แบบเดียวกับ Note ตัวแรก, ซีพียูเป็น Exynos 1.4GHz ควอดคอร์, แรม 2GB, ความจุ 16/32/64GB + MicroSD, กล้อง 5MP/1.9MP, หนัก 597 กรัม, แบตเตอรี่ขนาด 7,000 mAh, Android 4.0 ICS
จุดเด่นของ Galaxy Note 10.1 นอกจากเรื่องปากกาแล้ว ตัวซอฟต์แวร์ยังมีฟีเจอร์การแบ่งจอเพื่อรันแอพสองตัวพร้อมกันได้ด้วย หน้าตาดูได้จากวิดีโอท้ายข่าวครับ
รุ่น Wi-Fi พร้อมวางขายทั่วโลกเดือนสิงหาคมนี้ ส่วนรุ่น 3G/LTE จะตามมาทีหลังแต่ก็ภายในปีนี้ ราคายังไม่ระบุ
ก่อนหน้านี้สตีฟ จ็อบส์เคยออกมาบอกว่าแท็บเล็ตขนาดหน้าจอ 7 นิ้วมีพื้นที่การใช้งานไม่เพียงพอที่จะใช้งานได้อย่างสะดวก และหน้าจอขนาด 9.7 นิ้วถือเป็นขนาดที่เล็กที่สุดที่ผู้ใช้จะได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดี แต่ระยะหลัง ๆ นี้มีกระแสข่าวลือออกมามากมายว่าแอปเปิลเตรียมวางขาย iPad mini ที่มีขนาดหน้าจอประมาณ 7 นิ้ว
ผู้ใช้ Samsung Galaxy Tab 10.1 และ Samsung Galaxy Tab 7.0 Plus รุ่น Wi-Fi ในยุโรปหลายประเทศเริ่มได้อัพเกรดเป็น Android 4.0 Ice Cream Sandwich กันแล้ว โดยเลือกได้ทั้งการอัพเกรดแบบ OTA หรือผ่าน Kies ก็ได้
นอกจากนี้ในอิตาลียังมีผู้ใช้แจ้งว่า Galaxy Tab 10.1 3G (GT-P7500) ก็เริ่มได้ ICS แล้วเช่นกัน แต่ประเทศอื่นๆ ยังมีเฉพาะรุ่น Wi-Fi อยู่ครับ
ผมไม่แน่ใจว่าประเทศไทยได้อัพเกรดกันบ้างหรือยัง ถ้าใครมีเครื่องไว้ในครอบครองก็ช่วยแจ้งไว้ในคอมเมนต์หน่อยนะครับ
สิทธิบัตร Android นั้นเป็นแหล่งรายได้ของ Microsoft ไปแล้ว จากการที่อุปกรณ์ Android กว่าครึ่งตลาดเซ็นสัญญาใช้งานสิทธิบัตรจาก Microsoft
ล่าสุดบริษัทวิเคราะห์หุ้น Trefis ประเมินว่า Microsoft จะได้รับค่าสิทธิบัตรจาก Samsung เป็นเงิน 12-13 ดอลลาร์ต่อมือถือ Android หนึ่งเครื่อง ส่วนค่าสิทธิบัตรจาก HTC ถูกกว่าเล็กน้อยที่ 10 ดอลลาร์ต่ออุปกรณ์ Android หนึ่งเครื่อง