มีรายงานจากเว็บ WindowsPhoneLive.ru ว่า Samsung ATIV S ในรัสเซียลดราคาลงจาก 24,990 รูเบิลเหลือ 19,990 รูเบิล ลดลงถึง 5,000 รูเบิล หรือประมาณ 4,800 กว่าบาท
การลดราคาในครั้งนี้มีข้อสังเกตว่าเป็นเพราะยอดขายของ Samsung ATIV S ลดลงอย่างมาก ขณะที่ราคาของ Nokia Lumia 920 ยังคงยืนราคาเดิมตั้งแต่แรกคือ 24,990 รูเบิล
Jason Mackenzie, ผู้จัดการฝ่ายขายของเอชทีซี ได้ให้สัมภาษณ์กับ Fierce Wireless และได้เปิดเผยเรื่องราวที่สำคัญเรื่องหนึ่ง ถึงเทคโนโลยีกล้องที่ใช้ใน HTC ปี 2012 ทั้งหมด
Jason บอกว่า ตั้งแต่พวกเขาเปิดตัวเทคโนโลยี Burst Shot ใน HTC One 2012 เมื่อตอนเดือนกุมภาพันธ์ปี 2012 หลังจากนั้นไม่นาน ซัมซุงก็เปิดตัวเทคโนโลยีที่เหมือนกันออกมาใน Galaxy S III และไม่ใช่แค่ซัมซุงเท่านั้น โซนี่ และ LG ยังได้ลอกเลียนนวัตกรรม Burst Shot ไปใช้งานกับอุปกรณ์ของตนเอง เฉกเช่นเดียวกับซัมซุงเช่นกัน โดยเฉพาะโซนี่ ที่ลอกเลียนแม้กระทั่ง UI ของกล้อง ที่เอาปุ่มอัดวีดีโอมาวางไว้ข้างๆ ปุ่มชัตเตอร์เลยทีเดียว (ใน Xperia Z)
ยิ่งเข้าใกล้งาน Samsung Unpacked 2013 ในวันที่ 14 มีนาคม ก็เริ่มมีข่าว และภาพหลุดของโทรศัพท์ Galaxy S ตัวต่อไปมากขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่ ฟีเจอร์ Eye Scroll, ผลทดสอบ, จอภาพแบบใหม่ จนถึงภาพตัวเครื่องจริงจากประเทศจีน ล่าสุด Samsung เองได้ปล่อยภาพบางส่วนของโทรศัพท์มือถือเรือธงตัวนี้ออกมาแล้วครับ
ระหว่างที่เรากำลังรองาน Samsung Unpacked 2013 ในวันที่ 14 มีนาคมที่จะถึงนี้ ล่าสุดมีผู้ใช้งานในประเทศจีนได้เผยภาพของตัวเครื่อง Samsung Galaxy S IV รหัส GT-I9502 ที่หลุดออกมาแล้วครับ สิ่งที่เห็นได้ชัดเลยคือตัวเครื่องยังมีเส้นสายที่คล้าย Galaxy S III อยู่พอสมควรครับ
เว็บไซต์ SamMobile รายงานข้อมูลของ Galaxy S IV ว่ามันจะใช้จอภาพ AMOLED แบบใหม่ที่เรียกว่า Green PHOLED โดยเป็นวัสดุทำแผงจอชนิดใหม่ที่ใช้สีเขียว-เหลือง ช่วยให้ AMOLED ประหยัดพลังงานกว่าเดิม 25%
นอกจากนี้ยังมีข้อมูลว่า S IV มีฟีเจอร์ floating touch แบบเดียวกับ Air View ของ Galaxy Note (เอาปากกาชี้โดยไม่ต้องแตะจอ) แต่ใช้กับนิ้วมือได้ด้วย ฟีเจอร์นี้คล้ายกับที่โซนี่ทำมาก่อนใน Xperia Sola
ข้อมูลอื่นๆ ได้แก่ระบบปฏิบัติการ Android 4.2.1 และอัพเป็น 4.2.2 หลังวางขายไม่นาน ส่วนติดต่อผู้ใช้ TouchWiz Nature อาจนับรุ่นเป็น Nature UX 2.0
ดูเหมือนซัมซุงจะออกอาการไม่ปลื้ม Windows 8 เสียจริง โดย Jun Dong-soo ประธานฝ่ายธุรกิจหน่วยความจำของซัมซุงออกมาให้สัมภาษณ์กับนักข่าวว่า อุตสาหกรรมพีซียังคงถดถอยต่อเนื่องแม้ว่า Windows 8 จะเปิดตัวออกมาแล้ว โดยเขามองว่ามันไม่ได้ดีไปกว่า Vista เลย และตอนนี้ซัมซุงก็ไม่ได้คาดหวังว่ายอดขายพีซีจะดีขึ้นมานัก ซึ่งแม้ไมโครซอฟท์จะผลิต Surface มาขายเองแต่มันก็ขายไม่ดี
เขายังกล่าวว่าก่อนหน้านี้อินเทลและไมโครซอฟท์พยายามผลักดันอัลตร้าบุ๊กอย่างมาก แต่สุดท้ายก็ยังไม่ประสบความสำเร็จเช่นกัน ซึ่งต้นเหตุทั้งหมดก็เพราะแพลตฟอร์ม Windows เริ่มแข่งขันในตลาดได้ยากขึ้น
เมื่อวันก่อนเพิ่งมีข่าวว่าซัมซุงเตรียมหยุดขายแท็บเล็ต Windows RT ในยุโรปครับ
หนังสือพิมพ์ The Times of India รายงานข่าววงในว่ากลุ่มบริษัท Reliance ซึ่งเป็นโอเปอเรเตอร์รายหนึ่งของอินเดีย บรรลุข้อตกลงกับซัมซุงในการพัฒนาโทรศัพท์มือถือ LTE เพื่อวางขายในอินเดีย
สิ่งที่ทำให้มือถือ LTE ซีรีส์นี้น่าสนใจมากคือราคาเริ่มต้นเพียง 100 ดอลลาร์สหรัฐหรือประมาณ 5,500 รูปีเท่านั้น โดยราคานี้เป็นเครื่องเปล่าไม่ติดสัญญาเหมือนโลกตะวันตกนะครับ (แต่ก็จะมีมือถือ LTE ระดับบนๆ ที่แพงกว่านี้ขายด้วย)
ทั้งซัมซุงและ Reliance ยังไม่ได้ประกาศข่าวนี้อย่างเป็นทางการครับ
ก่อนหน้านี้เรามีความเห็นจากกูเกิลที่ว่า กูเกิลจะออก Motorola X-Phone เพื่อกันไม่ให้ซัมซุงมีอำนาจมากเกินไป (แล้วก็ปฏิเสธข่าวนี้ไป) ซึ่งเป็นสัญญาณที่เริ่มส่อให้เห็นว่า ซัมซุงกลายเป็นมหาอำนาจเบอร์หนึ่งในตลาดสมาร์ทโฟนในหลายๆ ประเทศไปแล้ว ทำให้หลายๆ บริษัท เริ่มหวั่นใจโดยเฉพาะกูเกิล เพราะกลัวว่าซัมซุงจะเดินรอยตาม Amazon ไป
นอกจาก iOS 6.1 จะพบช่องโหว่ที่เข้าถึงข้อมูลได้แม้ตั้งรหัสล็อคแล้ว ก็มีผู้ค้นพบช่องโหว่แบบเดียวกันนี้บน Galaxy S III ช่องโหว่นี้ ทำให้สามารถผ่านหน้าจอล็อคของ Galaxy S III ไปได้ และเข้าถึงได้ทุกฟังก์ชันของเครื่อง ผู้ค้นพบช่องโหว่นี้คือ Sean McMillan เขาได้แนะนำวิธีไว้ ดังนี้
แต่ Sean McMillian บอกไว้ว่า
ก่อนหน้านี้เคยมีข่าวหลุดของ Galaxy Tab 3 พร้อมๆ กับ Galaxy Note 8.0 ที่ตอนนี้เจ้า Note ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการไปแล้ว ทางฝั่ง Galaxy Tab 3 ก็มีข้อมูลสเปคเพิ่มเติมออกมาบ้างแล้ว
สเปคที่หลุดมาเป็น Galaxy Tab 3 10.1" ในรหัส GT-P8200 สเปคโดยรวมคล้ายกับ Nexus 10 ที่ขายไปก่อนแล้วดังนี้
เว็บข่าวเยอรมันหลายแห่งรายงานข่าวว่า ซัมซุงเตรียมหยุดขาย ATIV Tab แท็บเล็ต ARM/Windows RT ในยุโรป เนื่องจากยอดขายไม่ดีอย่างที่คิด
ซัมซุงยังไม่ยืนยันข่าวนี้ แต่ก่อนหน้านี้ซัมซุงก็เคยประกาศว่ายังไม่มีแผนขาย ATIV Tab ในอเมริกา ด้วยเหตุผลคล้ายๆ กันว่าประเมินแล้วไม่คุ้มการลงทุนทำตลาด
ถ้าข่าวนี้เป็นจริง ก็คงเป็นผลเสียกับไมโครซอฟท์ที่พยายามผลักดัน Windows RT เป็นอีกทางเลือกหนึ่งนอกจาก Windows 8 รุ่น x86 ครับ
ที่มา - VentureBeat
หนังสือพิมพ์ Korea Times รายงานว่า Samsung กำลังซุ่มทำ Galaxy Note ตัวใหม่ที่มีหน้าจอ 5.9" และพร้อมที่จะออกผลิตภัณฑ์ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้
แหล่งข่าวยังรายงานอีกว่า หน้าจอของ Galaxy Note ตัวนี้จะใช้จอ OLED (ไม่ระบุว่าเป็น PenTile หรือเปล่า) และมาพร้อมกับซีพียู Exynos แบบ 8 คอร์ (ไม่ระบุ Clock)
หากข่าวลือนี้เป็นจริง Samsung จะมีผลิตภัณฑ์ตระกูล Note ในช่วงขนาดตั้งแต่โทรศัพท์มือถือ (Galaxy Note II), แท็บเล็ตขนาดเล็ก (Galaxy Note 8) และแท็บเล็ตขนาดใหญ่สำหรับทำงาน (Galaxy Note 10.1) และลูกผสมแท็บเล็ต-โทรศัพท์มือถือตัวใหม่ที่ขนาด 5.9" ครับ
เตรียมกระเป๋าตุง (กับโทรศัพท์) และกระเป๋าสตางค์แฟบกันไว้ได้เลยครับ
ซัมซุงประกาศเข้าถือหุ้นในชาร์ป 3% หรือคิดเป็นเงินมูลค่า 10.4 พันล้านเยน เป้าหมายของซัมซุงคือการันตีกำลังการผลิตจอภาพแอลซีดีของชาร์ป ส่วนชาร์ปเองที่กำลังประสบภาวะการเงินก็ได้เงินมาสนับสนุนอีกก้อนใหญ่
ชาร์ปเองระบุว่าการเป็นพันธมิตรกับซัมซุงครั้งนี้ ทำให้บริษัทสามารถลงทุนในเทคโนโลยีแอลซีดีใหม่ๆ ได้ อีกทั้งยังเป็นส่วนหนึ่งในแผนปรับปรุงกิจการของตัวเองด้วย ก่อนหน้านี้ชาร์ปเพิ่งขายหุ้นส่วนหนึ่งให้ Qualcomm และมีแผนจะขายหุ้นให้อินเทลกับ Foxconn อีกด้วย
นักวิเคราะห์สายการเงินประเมินว่าเงินก้อนนี้ถือว่าน้อยมากสำหรับชาร์ป แต่ก็เป็นสัญญาณที่ดีต่อแผนการฟื้นฟูบริษัท
CNET มีโอกาสสัมภาษณ์ Y.H. Lee ผู้บริหารของซัมซุงในเรื่องที่หลายๆ คนให้ความสนใจ นั่นคือการเลือกวัสดุภายนอกของโทรศัพท์มือถือเป็นพลาสติก
Lee ตอบว่าหลักการเลือกวัสดุของซัมซุงไม่ได้พิจารณาจากความหรูหราหรือคุณภาพของวัสดุเพียงอย่างเดียว แต่ยังต้องคำนึงว่าวัสดุที่ใช้ส่งผลต่อกระบวนการผลิตในภาพรวมด้วยหรือไม่ (เพราะต้องผลิตเป็นจำนวนมหาศาล) และมีเรื่องความทนทานของวัสดุนั้นๆ ด้วย
หลังจากเคยหลุดสเปคกันมาหลายต่อหลายครั้ง ล่าสุดคงถึงคราวยืนยันสเปคของ Galaxy S IV กันแล้ว หลังจาก SamMobile ไปพบผลทดสอบอยู่บน AnTuTu พร้อมทั้งสเปคที่น่าจะเป็นของจริงมาแล้ว
ตามข้อมูลที่ออกมา สเปคของ Galaxy S IV มีดังนี้ครับ
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ผมได้รับเชิญจากซัมซุงประเทศไทยไปร่วมงาน Samsung Forum 2013 ที่กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งก็ลงข่าวด่วนอย่าง ทดลองจับ Samsung Galaxy Note 8.0 ไปบ้างแล้ว
งาน Samsung Forum 2013 เน้นการอธิบายข้อมูลของสินค้าใหม่ๆ ประจำปีนี้ให้กับสื่อและตัวแทนจำหน่ายในภูมิภาคเอเชียเป็นหลัก ไม่ได้เป็นการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่สุดๆ แบบเดียวกับงาน CES/MWC หรืองานแถลงข่าวเฉพาะกิจของซัมซุงเอง
อย่างไรก็ตาม ผลิตภัณฑ์หลายตัวที่โชว์ในงานก็น่าสนใจ และเป็นตัวสะท้อนทิศทางของซัมซุง (ซึ่งตอนนี้กลายเป็นยักษ์ใหญ่ของโลกไอทีไปแล้ว) ในระยะยาวได้เป็นอย่างดีครับ โพสต์นี้ก็ขอสรุปประเด็นที่ผมคิดว่าน่าจับตาดังนี้
ใกล้งานเปิดตัว Galaxy S IV ก็มีข่าวหลุดออกมาเรื่อยๆ ล่าสุดเป็น The New York Times ได้ข้อมูลจากพนักงานซัมซุงคนหนึ่ง ระบุว่า S IV จะมีฟีเจอร์ Eye Scroll หรือการเลื่อนเพจอัตโนมัติโดยดูจากสายตาของผู้ใช้
ตัวอย่างการใช้งานเช่น ผู้ใช้อ่านเว็บและสายตาเลื่อนตามข้อความลงมาจนถึงขอบล่างของหน้าจอ ซอฟต์แวร์จะช่วยเลื่อนเพจเป็นย่อหน้าถัดไปให้อัตโนมัติ
ตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลละเอียดของฟีเจอร์นี้ แต่ซัมซุงก็จดเครื่องหมายการค้า Eye Scroll และ Eye Pause ไว้เรียบร้อยแล้ว
ที่มา - The New York Times
ปิดท้ายด้วยทีเซอร์โฆษณาตัวแรกของ S IV ครับ
หลังจากที่มีข่าวช่องโหว่ bypass lockscreen ใน iOS 6 คราวนี้ก็ถึงตา Samsung บ้าง โดยช่องโหว่ที่ว่านี้อยู่ใน Samsung Galaxy Note II ซึ่งผู้ไม่หวังดีสามารถเข้าถึงหน้าจอ home screen ของผู้ใช้ได้ ถึงแม้ว่าจะตั้งค่าการล็อกหน้าจอแล้วก็ตาม วิดีโอสาธิตอยู่ท้ายข่าวครับ
อย่างไรก็ตาม ช่องโหว่นี้ยังไม่ได้รับการยืนยันว่าเป็นช่องโหว่ของ Android 4.1.2 หรือเป็นช่องโหว่ในซอฟต์แวร์ของ Samsung เองกันแน่ และถึงแม้จะเปลี่ยนไปใช้แอพ launcher หรือ lock screen ตัวอื่นก็ยังมีช่องโหว่นี้อยู่ดี
วิดีโอสาธิตการทำงาน
Eldar Murtazin นักวิเคราะห์วงการมือถือคนดังชาวรัสเซีย เผยข้อมูลมือถือรุ่นท็อปของโนเกียและซัมซุงดังนี้
ความคืบหน้าล่าสุดของคดีระหว่างแอปเปิลกับซัมซุงที่ศาลเขตแคลิฟอร์เนีย ซึ่งเมื่อเดือนสิงหาคม 2012 คณะลูกขุนตัดสินให้แอปเปิลชนะคดีซัมซุง ค่าเสียหายมูลค่า 1.05 พันล้านดอลลาร์
ขั้นตอนต่อไปของคดีคือ ผู้พิพากษาพิจารณาคำตัดสินของคณะลูกขุนว่าจะยืนยันตามนั้นหรือไม่ ซึ่งเวลาผ่านมาอีกหลายเดือน ผู้พิพากษา Lucy Koh ของคดีนี้ก็มีคำสั่งดังนี้
บัญชีทวิตเตอร์ @SamsungMobile โพสต์ภาพรายละเอียดงานแถลงข่าว Galaxy S IV ว่าจะถ่ายทอดสดผ่าน YouTube ที่ช่อง youtube.com/SamsungMobile ด้วย (งานจัด 14 มีนาคม เวลานิวยอร์ก 19:00 ตรงกับบ้านเรา 6 โมงเช้าวันที่ 15)
หนังสือพิมพ์ Taipei Times อ้างบทวิเคราะห์จาก JP Morgan ว่าซัมซุงจะแบ่งรุ่นย่อยของ S IV ออกตามภูมิภาค โดยในสหรัฐจะใช้ซีพียู Snapdragon 600 ส่วนรุ่นยุโรปเป็น Exynos 5 Octa
เว็บไซต์ Android Authority ให้ความเห็นว่าการแบ่งรุ่นของซัมซุงน่าจะเกิดจากปัญหาการผลิต Exynos 5 Octa ที่ไม่เพียงพอกับความต้องการ มากกว่าเรื่องการเลือกซีพียูให้รับกับเครือข่าย LTE ตามที่คาดกัน
ถ้ายังจำกันได้ ปลายปีที่แล้วมีคดีมหากาพย์เรื่องแอปเปิลลงประกาศขอโทษซัมซุง ซึ่งจบลงที่ศาลอังกฤษสั่งให้แอปเปิลจ่ายค่าทนายให้ซัมซุง และมีการตำหนิแอปเปิลที่พยายามละเมิดคำสั่งศาลด้วยวิธีการต่างๆ เรื่องนี้น่าจะจบลงแต่ก็ดันมีภาคต่ออีกครับ
ในขณะที่แอปเปิลขาย iPhone ได้ 19.6 ล้านเครื่องต่อปีในประเทศจีน ตัวเลขยอดขายในอินเดียกลับมีเพียงแค่ 460,000 เครื่องเท่านั้น
แอปเปิลมีส่วนแบ่งตลาดเพียง 5% ในอินเดีย ถือเป็นผู้ขายอันดับ 6 ในตลาด ส่วนแชมป์เป็นของซัมซุงที่ 40%
ปัญหาของแอปเปิลในอินเดียมาจาก "ราคา" ของ iPhone ที่ถือว่าแพงมากสำหรับคนอินเดีย โดยรุ่นล่าสุดอยู่ที่ 850 ดอลลาร์สหรัฐ และถึงแม้แอปเปิลจะลดราคา iPhone รุ่นเก่าเหลือ 500 ดอลลาร์ ก็ยังสู้กับคู่แข่งรายอื่นๆ ที่ขายสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ 100 ดอลลาร์ลำบาก
ผมได้รับเชิญจากซัมซุงประเทศไทย มาร่วมงาน Samsung Forum 2013 ที่กรุงจาการ์ตา อินโดนีเซีย งานนี้เป็นงานแถลงข่าวผลิตภัณฑ์ของ Samsung Asia ที่ครอบคลุม 9 ประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่เปิดตัวที่ภูมิภาคอื่นๆ ไปก่อนแล้ว แต่ก็มีตัวที่เพิ่งเปิดตัวสดๆ ร้อนๆ ในงาน MWC 2013 อย่าง Galaxy Note 8.0 มาโชว์ด้วย ดังนั้นผมก็ไม่พลาดที่จะไป "ลองจับ" เจ้า Note 8.0 กับเขาด้วยครับ
เรื่องสเปกคงหาอ่านได้จากข่าวเก่า ความรู้สึกแรกที่สัมผัสคือ "เบากว่าที่คิด" เมื่อเทียบกับแท็บเล็ตขนาดใกล้เคียงกัน (ตามสเปกบอกว่า 338 กรัม)
จากรายงานของ The Wall Street Journal ระหว่างที่แอนดี้ รูบิน หัวหน้าฝ่าย Android ของกูเกิลได้เอ่ยชื่นชมความสำเร็จของซัมซุง เขาก็แสดงความเห็นว่ากูเกิลอาจต้องเริ่มระมัดระวังมากขึ้น เมื่อซัมซุงเริ่มทิ้งห่างผู้ผลิต Android รายอื่น ๆ เพราะเมื่อซัมซุงมีอำนาจมากเกินไป ซัมซุงจะเริ่มมีแต้มต่อที่สูงกว่ากูเกิล และถ้าหากซัมซุงไม่ได้สิ่งที่ตัวเองต้องการ กรณีแย่ที่สุด ซัมซุงอาจจะผลิตระบบปฏิบัติการของตัวเองโดยใช้พื้นฐาน Android ลักษณะเดียวกันกับที่ Amazon ทำอยู่กับ Kindle Fire