หลังจากออกมือถือใหม่ไปหลายรุ่นจนแทบจะนึกไม่ออกว่ามีรุ่นอะไรบ้างแล้ว ซัมซุงก็ยังคงเปิดตัวมือถือใหม่เพิ่มอีกเป็นระยะๆ ล่าสุดเป็น Galaxy Star และ Galaxy Pocket Neo สองรุ่นราคาถูกที่ส่งไปลุยตลาดล่างด้วยสเปคที่ต่างกันเพียงเล็กน้อย
ทั้งสองรุ่นนี้ใช้หน้าตาเหมือนกันเป๊ะ สเปคใกล้เคียงกันมาก และรองรับสองซิมทั้งคู่ เอาเฉพาะสเปคส่วนที่เหมือนกันมีดังนี้ครับ
ส่วนแบ่งตลาดสมาร์ทโฟนของประเทศที่เศรษฐกิจกำลังบูมอย่างอินเดีย จากบริษัท CyberMedia Research (CMR) โดยนับยอดรวมของปี 2012 ครับ
ซัมซุงเปิดตัวต้นไม้ Smart Eco Tree ที่มีฟีเจอร์ใกล้เคียงกับสมาร์ทโฟนรุ่นท็อปๆ ของตัวเอง และรวมถึงสมาร์ททีวีด้วย
Samsung Electronics ได้ยืนยันแล้วว่า Exynos 5 Octa รองรับ LTE ทุกย่านความถี่ (all the bands of LTE) พูดง่ายๆ ก็คือ ชิป Exynos 5 จากซัมซุงรองรับทุกอย่างเหมือนชิป Snapdragon 600 จากทาง Qualcomm
SamMobile เสริมว่า ที่ทางซัมซุงเลือกใช้ชิป Snapdragon 600 ทำตลาดในบางประเทศ ก็เพราะว่าบริษัทไม่สามารถผลิตชิป Exynos 5 Octa ได้ทันตามความต้องการนั่นเองครับ
ที่มา: SamMobile
ในที่สุดผู้เล่นในตลาด Windows Phone 8 ของประเทศไทยก็เข้าสู่สนามครบทุกรายแล้ว หลังจากที่รายล่าสุดอย่าง ATIV S เพิ่งวางขายได้ไม่นาน ทางซัมซุงประเทศไทยก็ได้ส่งเจ้า ATIV S มาให้รีวิว โดยจับมาเทียบกับคู่แข่งในตลาดเดียวกันอย่าง Lumia 920 จากโนเกียกันเลย
หมายเหตุ: รีวิวนี้จะได้รับการสนับสนุนจากซัมซุง แต่ก็เป็นการเทียบกันตามฟีเจอร์ และการใช้งานจริง ไม่ได้เซนเซอร์แต่อย่างใดครับ
ฮาร์ดแวร์
ด้วยความที่ไมโครซอฟท์กำหนดสเปคของ Windows Phone 8 มาค่อนข้างชัดเจน ดังนั้นสเปคภายในของแต่ละเครื่องจะคล้ายกัน จะต่างกันไปตรงรายละเอียดปลีกย่อยอย่างหน้าจอ ตำแหน่งปุ่ม และวัสดุตัวเครื่องมากกว่าครับ ว่าแล้วก็มาลองจับสองรุ่นนี้เทียบกันดูเลย
AT&T เป็นโอเปอเรเตอร์รายแรกที่ออกมาเผยข้อมูลราคาของ Galaxy S4 ในสหรัฐ โดยอยู่ที่ 249.99 ดอลลาร์พร้อมสัญญา 2 ปี
อย่างไรก็ตาม AT&T ไม่ได้เผยข้อมูลสเปกของ Galaxy S4 รุ่นที่วางขาย ทำให้เรายังไม่รู้ว่าราคา 249.99 ดอลลาร์เป็นของ S4 รุ่นความจุเท่าไรกันแน่ (ราคาเปิดตัวของ Galaxy S III ของ AT&T เมื่อปีที่แล้วอยู่ที่ 199.99 ดอลลาร์สำหรับรุ่น 16GB)
AT&T ยังไม่บอกวันวางขาย S4 โดยบอกแค่ว่าจะเปิดให้สั่งซื้อล่วงหน้าวันที่ 16 เมษายนนี้ ส่วนคู่แข่ง T-Mobile ระบุว่าจะเริ่มวางขาย S4 วันที่ 1 พฤษภาคมครับ
ที่มา - The Verge
Steve Kondik หรือที่รู้จักกันในชื่อ Cyanogen ได้เข้าทำงานกับซัมซุง เมื่อราวสองปีก่อน (เอาแบบแม่นๆ คือ 19 เดือน) และตอนนี้เขาได้บอกว่าตัวเองลาออกจากซัมซุงเรียบร้อยแล้ว ผ่านโพสต์เกี่ยวกับ Galaxy S4 ที่เพิ่งเปิดตัวไปได้ไม่นาน
ในโพสต์ดังกล่าวชื่นชม Galaxy S4 ในส่วนฮาร์ดแวร์ว่าทำได้ดีกว่ารุ่นก่อนหน้าอย่างชัดเจน ทั้งสเปค จีพีเอส กล้อง และฟังก์ชันใหม่ๆ ที่เพิ่มเข้ามาอย่าง Air View ที่ทำได้ดี
ได้ฤกษ์ขายอย่างเป็นทางการแล้วสำหรับเจ้า "Smart Evolution Kit" กล่องอัจฉริยะสำหรับแปลงร่างทีวีซัมซุงให้กลายเป็น Smart TV ได้เพียงเสียบไปที่ด้านหลังของเครื่อง ที่เพิ่งประกาศราคาและวันขายออกมาแล้ว
โดยซัมซุงเปิดราคาของกล่องที่ว่านี้ไว้ที่ 299 เหรียญ พร้อมรีโมตคู่ตัว ขายในเดือนพฤษภาคมนี้ สเปคภายในใช้ซีพียูควอดคอร์ มีจีพียู และหน่วยความจำเสริมสำหรับเพิ่มประสิทธิภาพ และสำหรับทำงานแบบ multi-tasking บนแอพของ Smart TV โดยรวมแล้วจะได้ฟีเจอร์เทียบเท่ากับรุ่นที่ออกในปี 2013 นั่นเอง
สำหรับการติดตั้ง กล่องตัวนี้สามารถติดไปที่หลังเครื่องผ่านพอร์ตเฉพาะของซัมซุงเอง ซึ่งรองรับทีวีแอลอีดีซีรีส์ 7500, 8000 และทีวีพลาสมาซีรีส์ 7000,8000 ครับ
หลังจากซัมซุงเปิดตัว Galaxy S4 สมาร์ทโฟนตัวท็อปปี 2013, ใช้ซีพียูแปดคอร์ตัวแรกของโลกไม่นานมานี้ทาง iSuppli เจ้าเก่าจอมแกะฮาร์ดแวร์เพื่อประเมินต้นทุน ออกมาประเมินแล้วว่าต้นทุนฮาร์ดแวร์ของ Galaxy S4 ได้สองรุ่นดังนี้
หลังจากที่มีข่าวไม่ค่อยสู้ดีกับ HTC One มาอยู่ตลอด จน Peter Chou ต้องเอาตำแหน่งของตัวเองไปเดิมพัน ล่าสุดมีการวิเคราะห์ออกมาจาก Brian S Hall นักเขียนอิสระของทาง Unwired View ว่าเอชทีซีอาจจะตัดสินใจหันไปหา Firefox OS แทนในสถานการณ์เช่นนี้
IHS iSuppli เผยผลประเมินต้นทุนการผลิต Samsung Galaxy S4 รุ่น Exynos/HSPA+ ที่ขายนอกสหรัฐว่าต้นทุนค่าวัสดุ (bill of material) อยู่ที่ 236 ดอลลาร์ต่อเครื่อง ถือว่าสูงกว่าต้นทุนค่าวัสดุของ Galaxy S III อยู่ 30.40 ดอลลาร์หรือประมาณ 15%
จุดหลักๆ ที่ทำให้ต้นทุนเพิ่มขึ้นคือหน่วยประมวลผล Exynos 5 Octa ที่แพงกว่า Exynos 4 Quad ถึง 12.50 ดอลลาร์ และหน้าจอ 5" 1080p ที่แพงกว่า 4.8" 720p อยู่ 10 ดอลลาร์ ส่วนต้นทุนอย่างอื่นเป็นเรื่องของเซ็นเซอร์ต่างๆ ที่เพิ่มเข้ามาใน S4
ทั้งที่เพิ่งเปิดตัวมายังไม่ครบสัปดาห์ และยังไม่ได้เริ่มวางจำหน่ายด้วยซ้ำ แต่ดูเหมือน Galaxy S4 ของ Samsung จะโดนรับน้องจาก LG อย่างไว เมื่อ LG ออกมากล่าวว่าฟีเจอร์ Smart Pause ในสมาร์ทโฟนรุ่นดังกล่าวอาจละเมิดสิทธิบัตรที่ LG ได้ยื่นจดไว้ตั้งแต่ปี 2009
ฟีเจอร์ Smart Pause เป็นการควบคุมการเล่นไฟล์วิดีโอในเครื่อง โดยสมาร์ทโฟนจะหยุดการเล่นวิดีโอไว้ชั่วคราวเมื่อผู้ใช้ละสายตาจากหน้าจอ
ขอมาเก็บตกงานเปิดตัว Galaxy S4 ครับ
ซัมซุงได้โชว์ต้นแบบคอนโทรลเลอร์ที่เชื่อมต่อกับมือถือผ่านบลูทูธและสามารถประกอบเข้ากับมือถือได้หลากรุ่นเพื่อควบคุมการทำงาน อาทิ เกม ได้ โดย Engadget ลองและพบว่าสามารถรองรับได้ถึง Galaxy Note II หน้าตาของคอนโทรลเลอร์นั้นคล้ายกับของ Xbox พอสมควร เชิญชมภาพและคลิปวิดีโอได้ที่ท้ายข่าว
บริษัทยังไม่ได้เปิดเผยราคาและวันวางจำหน่ายแต่อย่างใด แต่ Engadget คาดว่าบริษัทน่าจะวางขายคอนโทรลเลอร์นี้ในช่วงฤดูร้อนของปีนี้
ที่มา: [Engadget](http://www.engadget.com/2013/03/14/samsung-prototype-wireless-game-pad-hands-on/)
เว็บไซต์ SamMobile เผยรายชื่อมือถือกับแท็บเล็ตที่จะได้อัพเกรด Android 5.0 (Key Lime Pie) และมือถือกับแท็บเล็ตที่จะหยุดอยู่เพียง Android 4.2.2 (Jelly Bean) ดังนี้
ถึงแม้ว่าสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตของซัมซุงจะขายดี และส่งผลให้มีรอมจากนักพัฒนาภายนอกเป็นจำนวนมาก แต่ซัมซุงเองกลับไม่เป็นมิตรต่อนักพัฒนารอมในเรื่องการเปิดโค้ดของฮาร์ดแวร์เท่าไรนัก (โดยเฉพาะซอร์สของ Exynos)
ล่าสุดหลัง Galaxy S4 เปิดตัว กลุ่มนักพัฒนาบางคนของ "Team Hacksung" ผู้พัฒนารอมสำหรับอุปกรณ์ซัมซุงในโครงการ CyanogenMod ก็ออกมาประกาศตัวว่าไม่มีนโยบายซื้อหาหรือพัฒนารอม CM บน Galaxy S4 โดยให้เหตุผลว่าประสบการณ์จาก Galaxy S III ที่มีสองเวอร์ชันทำให้พัฒนารอมยาก และซัมซุงไม่ให้ความร่วมมือเรื่องการเปิดซอร์สนั่นเอง
ข่าวนี้คงไม่กระทบกับผู้ใช้ Galaxy S4 ส่วนใหญ่มากนัก แต่ก็เป็นผลเสียกับซัมซุงไม่น้อยเรื่องความสัมพันธ์กับชุมชนนักพัฒนา
เกริ่นเอาไว้ตั้งแต่งานเปิดตัวแล้วว่า Galaxy S4 จะใช้ซีพียูสองตัวคือ Exynos Octa กับ Snapdragon 600 และดูเหมือนรุ่นที่ขายในอเมริกาเหนือ และยุโรปจะเป็นรุ่นที่ใช้ Snapdragon 600 ทั้งหมด
ถึงจะเป็น Snapdragon 600 เหมือนกับ HTC One คือ APQ8064T แต่เมื่อนำไปทดสอบด้วย Geekbench 2 แล้วผลปรากฏว่า Galaxy S4 นั้นทำคะแนนได้ดีกว่า HTC One พอสมควร (ประมาณ 10%-20%) และทิ้งห่าง iPhone 5 ถึงเท่าตัว ส่วนเหตุผลที่แรงกว่า HTC One ทั้งที่ใช้รุ่นเดียวกันนั้น น่าจะเป็นเพราะว่าซัมซุงเพิ่มความถี่ซีพียูจาก 1.7GHz ไปเป็น 1.9GHz นั่นเอง
Lee Young Hee รองประธานฝ่ายโทรศัพท์มือถือของซัมซุงให้สัมภาษณ์กับ Bloomberg โดยเผยเองว่าซัมซุงกำลังพัฒนาผลิตภัณฑ์นาฬิกาข้อมืออยู่ ซึ่งที่ผ่านมาซัมซุงก็ทำงานอย่างหนักมาตลอดสำหรับผลิตภัณฑ์ใหม่ในอนาคต และนาฬิกาข้อมือคือหนึ่งในนั้น
อย่างไรก็ตาม Lee ไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดของนาฬิกาข้อมือว่าจะเป็นอย่างไร แต่การออกมาบอกเองของซัมซุงแบบนี้ช่วยให้เห็นทิศทางว่าอุปกรณ์ในอนาคตจะมีลักษณะสวมใส่มากขึ้นนั่นเอง
ที่มา: Bloomberg
ที่ชาร์จไร้สายเป็นฟีเจอร์สำคัญของโทรศัพท์รุ่นใหม่ๆ หลายรุ่น แต่ปัญหาคือหลายรุ่นเป็นเทคโนโลยีเฉพาะ ไม่สามารถใช้ร่วมกับรุ่นอื่นๆ ได้ ทำให้เกิดปัญหาที่ชาร์จที่ต่างกันทั้งที่ปัญหานี้เคยถูกแก้ไปแล้วในระบบชาร์จแบบมีสายด้วยหัว micro-USB วันนี้ทาง Qi กลุ่มมาตรฐานการชาร์จไร้สายก็ออกมายืนยันว่าออปชั่นที่ชาร์จไร้สายของ Galaxy S4 นั้นเป็นที่ชาร์จที่ได้รับรองมาตรฐานจากทาง Qi ทำให้สามารถใช้แท่นชาร์จที่ได้รับรองจากยี่ห้ออื่นๆ ได้ ขณะเดียวกันตัวแท่นชาร์จก็สามารถชาร์จมือถือรุ่นอื่นๆ ที่รองรับ Qi ได้เช่นกัน
ชุดชาร์จไร้สายของ Galaxy S4 ขายเป็นชุดเสริมโดยมีตัวฝาหลังและแท่นชาร์จมาด้วยกัน
หลังงานเปิดตัว Samsung Galaxy S4 ผู้สืบทอดของสมาร์ทโฟนระดับเรือธงตระกูล Galaxy S ก็มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ตามมาเป็นอย่างมากทั้งในแง่บวกและแง่ลบ
ในฐานะที่ผมมีโอกาสมาร่วมงานเปิดตัว Galaxy S4 ได้ลองจับของจริง และพูดคุยกับผู้บริหารของซัมซุงอยู่บ้าง ก็อยากวิเคราะห์-วิจารณ์ทิศทางและท่าทีของซัมซุงต่อการเปิดตัว S4 ครั้งนี้ด้วยครับ
Lee Young Hee ผู้บริหารของซัมซุงให้สัมภาษณ์กับ Bloomberg ว่าจะเปิดตัวสมาร์ทโฟนระบบปฏิบัติการ Tizen ช่วงเดือนสิงหาคมหรือกันยายนนี้ โดยจะเริ่มจากตลาดระดับบนก่อน มือถือตัวนี้จะเป็นผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดด้วยสเปกที่แรงที่สุด (The device will be the best product equipped with the best specifications)
ซัมซุงยังบอกว่าปีนี้จะออกมือถือรุ่นท็อป 3 ตัว ได้แก่ Galaxy S4, Galaxy Note ตัวใหม่ และมือถือ Tizen ตัวที่ว่านี้
ในกลุ่มผู้สนับสนุน Tizen ยังมีบริษัทฮาร์ดแวร์อื่นๆ อย่าง Huawei และโอเปอเรเตอร์อย่าง DoCoMo ที่คาดว่าจะวางขาย Tizen ในครึ่งหลังของปีนี้ด้วย
Nick DiCarlo ผู้บริหารของซัมซุงให้สัมภาษณ์กับ PC Magazine ว่าฟีเจอร์ด้านซอฟต์แวร์หลายๆ อย่างที่เราเห็นใน Galaxy S4 จะตามกลับไปอัพเดตให้ Galaxy S III ในภายหลังด้วย (เขาไม่ได้พูดถึง Note II แต่คาดว่าน่าจะได้เหมือนกัน)
DiCarlo บอกว่าซัมซุงจะยกฟีเจอร์ทั้งหมดที่ไม่ขึ้นกับฮาร์ดแวร์ของ S4 (เช่น อินฟราเรด) ไปอัพเดตให้กับมือถือกลุ่มเรือธงของตัวเอง แต่เขายังไม่บอกรายละเอียดว่าเมื่อไรกันแน่
เขายังบอกว่าฟีเจอร์เด่นของ S4 ในสายตาของเขาคือ UI ของกล้อง, ฟีเจอร์ควบคุมทีวี WatchNow และหน้าจอขนาดใหญ่ขึ้นในขณะที่ตัวเครื่องเท่าเดิม
ที่มา - PC Magazine
หลังงานแถลงข่าว Galaxy S4 หนึ่งวัน ทางซัมซุงก็เปิดโอกาสให้สื่อมวลชนสัมภาษณ์ผู้บริหารประจำภูมิภาคของตัวเอง ซึ่งผู้บริหารที่สื่อไทยมีโอกาสเข้าพบคือคุณ Gregory Lee ซีอีโอของ Samsung Asia ที่ดูแลธุรกิจ 9 ประเทศในเอเชียแปซิฟิก
คณะสื่อไทยมีเวลาคุยกับคุณ Lee สั้นๆ ประมาณ 15 นาที ถามเท่าที่จะถามได้ดังนี้ครับ
ทำไม Galaxy S4 ถึงสะกดด้วยเลข 4 ไม่ใช่ IV
การที่ซัมซุงไม่จริงจังกับ Windows Phone นัก เป็นเรื่องที่พอเข้าใจได้เมื่อพิจารณาจากส่วนแบ่งการตลาด แต่มองถึงศักยภาพของซัมซุงเทียบกับความพยายามล่าสุดอย่าง ATIV S สมาร์ทโฟน Windows Phone 8 ที่พอใช้ได้แต่มาช้าและขาดการโปรโมทจนล่าสุดต้องหั่นราคา ทำให้นักวิเคราะห์บางคนอดคิดไม่ได้ว่า "หรือซัมซุงจะตั้งใจให้เป็นแบบนี้?"
ล่าสุด All Things D ได้นำประเด็นนี้มาเล่นโดยอ้างคำนักวิเคราะห์จากบริษัทวิจัยตลาด Detwiler Fenton ซึ่งได้กล่าวหาซัมซุงไว้แรงเลยทีเดียว
หลังงานเปิดตัว Galaxy S4 จบลง Jason MacKenzie ประธาน HTC ได้ให้สัมภาษณ์กับ CNET เกี่ยวกับซัมซุงทันที
MacKenzie เชื่อว่า HTC One ยังนำหน้าคู่แข่งรายอื่น ๆ รวมทั้ง Galaxy S4 ด้วย เพราะ HTC One ถูกวางตำแหน่งไว้ในตลาดอย่างดีแล้ว เขากล่าว (แซะ) งานเปิดตัวของซัมซุงว่า
ระหว่างดูงานเปิดตัว เหมือนว่าพวกเขาลงทุนกับการตลาดไปเยอะมาก แทนที่จะเป็นนวัตกรรม
MacKenzie ได้วิพากษ์วิจารณ์งานเปิดตัวว่า Galaxy S4 ขาดฟีเจอร์ใหม่ที่สำคัญ ไม่มีอะไรน่าสนใจ รวมทั้ง S-translator ซึ่งมันมีบนมือถือแอนดรอยด์ทุกเครื่องอยู่แล้ว
ตามที่เคยประกาศไว้ว่าผมได้รับคำเชิญมาร่วมงานเปิดตัว Galaxy S4 ที่นิวยอร์ก ตอนนี้งานแถลงข่าวเสร็จสิ้นไปแล้ว รายละเอียดต่างๆ ติดตามได้จากข่าว ซัมซุงเปิดตัว Galaxy S4 สมาร์ทโฟนตัวท็อปปี 2013, ใช้ซีพียูแปดคอร์ตัวแรกของโลก นะครับ
ตอนนี้ก็ได้เวลา hand-on หรือ "ลองจับ" เครื่องจริงที่มีให้ทดสอบหลังงาน อย่างไรก็ตามเครื่องมีจำกัดและคนเยอะมาก (เท่าที่ทราบคือเชิญแขกสามพัน) ต้องตบตีกับสื่อต่างชาติอยู่พอสมควรกว่าจะได้ทดสอบเป็นเวลาสั้นๆ ครับ นั่นแปลว่าหลายๆ คำถามที่ฝากเอาไว้ก็ยังไม่ได้คำตอบ ต้องรอทดสอบตอนเครื่องรีวิวอีกทีหนึ่ง