MIT เปิดตัวหุ่นยนต์เล่นเกม Jenga ซึ่งประกอบด้วยแขนกลสำหรับจับแท่งไม้, ส่วนสำหรับดันแท่งไม้ และกล้องภายนอกเพื่อประเมินสถานการณ์ของตัวต่อทั้งหมดที่วางอยู่

อธิบายแบบรวดเร็วสำหรับคนที่ไม่รู้จักเกม Jenga หรืออาจเคยเล่นแต่ไม่รู้ว่าเรียก Jenga มันคือเกมที่มีชิ้นท่อนไม้ 54 ชิ้น ต่อเรียงกันเป็นตึก ผู้เล่นผลัดกันดึงแท่งไม้ออกหนึ่งชิ้น แล้วไปวางไว้ด้านบนสุด โดยไม่ทำให้ตึกถล่มลงมา ใครทำถล่มคนนั้นแพ้

ขั้นตอนการทำงานของหุ่นยนต์นี้ จะประเมินว่าแท่งไม้ไหนที่ควรดึงออกมา โดยใช้แขนดันออกมาก่อน แล้วใช้แขนหนีบดึงชิ้นไม้ออกมา และสุดท้ายหามุมวางที่เหมาะสมไม่ให้ตึกถล่ม หุ่นยนต์มีการเรียนรู้ โดยหากไม้ชิ้นใดที่ดันแล้วรู้สึกว่าฝืดเกินไป ก็จะเลี่ยงไม่ดันชิ้นนั้น

โรงแรม Henn-na ในประเทศญี่ปุ่น อาจเป็นเรื่องราวที่แชร์ต่อกันมาหลายปี ในฐานะโรงแรมที่ใช้หุ่นยนต์มาทำงานแทนคน และลงทุนกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ จนอาจคิดว่านี่คืออนาคตที่กำลังเข้ามา แต่ดูเหมือนหุ่นยนต์กับโรงแรมอาจจะไม่ใช่เรื่องง่ายอย่างนั้นแล้ว

มีรายงานว่า Henn-na Hotel ได้ตัดสินใจเลิกใช้งานหุ่นยนต์ในตำแหน่งหน้าที่ต่าง ๆ ถึง 243 ตัว เนื่องจากหุ่นยนต์เหล่านี้ไม่สามารถช่วยลดภาระงานได้จริง แถมยังสร้างปัญหาใหม่ด้วย ตัวอย่างเช่นหุ่นยนต์ผู้ช่วย Chu-ri ที่มีอยู่ในห้องพักทุกห้อง ก็ไม่สามารถตอบคำถามช่วยเหลือที่ซับซ้อนได้ ทำให้ต้องส่งต่อให้คนช่วยแก้ปัญหาอยู่ดี แถมในเวลากลางคืนยังส่งเสียงตอบสนองด้วยหากผู้เข้าพักกรนเสียงดังไป

Terry Gou ประธานของ Hon Hai Precision Industry หรือที่เรารู้จักกันในชื่อ Foxconn ให้สัมภาษณ์ว่าตอนนี้โรงงานของเขาในประเทศจีนมีหุ่นยนต์ใช้งานแล้วถึง 1 แสนตัว

Gou บอกว่า Hon Hai มีแผนพัฒนาหุ่นยนต์มาใช้ในการผลิตเป็นเวลานานกว่า 10 ปีแล้ว และเป็นส่วนสำคัญของยุทธศาสตร์ Smart Manufacturing ของบริษัท เพื่อให้ปรับสายการผลิตตามความต้องการของตลาดโลกได้อย่างรวดเร็ว

Hon Hai เป็นบริษัทสัญชาติไต้หวัน แต่เข้าไปทำธุรกิจในจีนมาเป็นเวลากว่า 30 ปีแล้ว โดยจ้างงานไปแล้ว 15.35 ล้านตำแหน่งตลอด 30 ปีที่ผ่านมา

ในข่าวเก่าก่อนหน้านี้ Foxconn เคยเผยแผนการนำหุ่นยนต์มาใช้ในไลน์การผลิต โดยเป็นหุ่นแขนกลที่พัฒนาเองชื่อว่า Foxbot

บริษัทหุ่นยนต์ Boston Dynamics (ปัจจุบันอยู่ในเครือ SoftBank) เผยวิดีโอล่าสุดของหุ่นยนต์มนุษย์ Atlas ที่สามารถวิ่งพร้อมกระโดดด้วยขาทีละข้างแบบเดียวกับมนุษย์

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ Boston Dynamics เรียกเสียงฮือฮาจากความสามารถของหุ่นยนต์ Atlas เพราะปีที่แล้วก็เคยโชว์คลิป Atlas กระโดดตีลังกากลับหลัง มาก่อนแล้ว

Boston Dynamics ยังไม่เคยเปิดเผยว่าจะผลิตหุ่นยนต์มนุษย์ Atlas มาวางขายจริงเมื่อไร แต่มีแผนจะขายหุ่นยนต์สุนัข SpotMini ในปีหน้า 2019

ที่มา - Quartz

Robot Operating System (ROS) เป็นชื่อโครงการโอเพนซอร์สที่รวบรวมไลบรารีพื้นฐานสำหรับการพัฒนาหุ่นยนต์ ที่ได้รับความนิยมอย่างสูง มีหุ่นยนต์ที่ใช้ ROS เป็นจำนวนมาก รวมถึงหุ่นยนต์บนสถานีอวกาศนานาชาติด้วย

โครงการ ROS เริ่มมาตั้งแต่ปี 2007 โดยทีมงานจากห้องวิจัย AI ของสแตนฟอร์ด ถึงแม้ชื่อโครงการมีคำว่า OS แต่ตัวมันไม่ใช่ OS และต้องรันบน OS สายยูนิกซ์อีกต่อหนึ่ง (OS หลักที่รองรับคือ Ubuntu)

ล่าสุดไมโครซอฟท์ประกาศ ROS for Windows ที่พอร์ตซอฟต์แวร์ ROS มารันบน Windows 10 IoT Enterprise ช่วยเปิดให้เกิดการพัฒนาหุ่นยนต์ใหม่ๆ บนแพลตฟอร์มวินโดวส์มากขึ้น โดยเฉพาะการพัฒนาหุ่นยนต์ด้วย Visual Studio ที่นักพัฒนาหลายคนคุ้นเคย

Boston Dynamics ประกาศข่าวเตรียมพร้อมสำหรับการผลิตหุ่นยนต์เพื่อการใช้งานในบ้านเพื่อวางจำหน่ายจริง โดยตั้งเป้าจะเพิ่มกำลังการผลิตหุ่นยนต์สุนัข SpotMini เพื่อขายจริงในปีหน้าด้วยกำลังการผลิต 1,000 ตัวต่อปี

เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา Marc Raibert ผู้ก่อตั้ง Boston Dynamics ได้ประกาศข่าวเรื่องแผนการผลิต SpotMini เพื่อการจำหน่ายภายในปี 2019 ล่าสุดเขาได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าบริษัทกำลังพัฒนาแพลตฟอร์มการใช้งานหุ่น SpotMini แบบเอนกประสงค์ โดยตอนนี้มีการทดสอบ SpotMini เพื่อการใช้งานสำหรับงานก่อสร้าง, งานจัดส่งพัสดุ, งานรักษาความปลอดภัย รวมทั้งการใช้งานในลักษณะคล้ายสัตว์เลี้ยงที่คอยช่วยอำนวยความสะดวกภายในบ้าน

Rolls-Royce โชว์คอนเซปต์หุ่นยนต์ใหม่หลายตัวในกลุ่ม IntelligentEngine Robots โดยหุ่นยนต์เหล่านี้พัฒนาขึ้นโดยมีจุดประสงค์เพื่อประหยัดเวลาในการซ่อมเครื่องยนต์ของบริษัทโดยเฉพาะเครื่องยนต์ของเครื่องบินที่ต้องใช้เวลาในการซ่อมนาน

หุ่นยนต์ตัวแรกเป็นหุ่นขนาดจิ๋วคล้ายแมลงสาบชื่อว่า SWARM มีขนาดเพียง 10 มิลลิเมตรที่จะคอยเข้าไปดูตามเครื่องยนต์ มีกล้องขนาดจิ๋วติดกับตัวให้คนข้างนอกคอยดูได้ว่าตัวหุ่นยนต์กำลังทำอะไรบ้าง มีส่วนไหนที่ถึงเวลาต้องซ่อม และมีหุ่นยนต์อีกตัวคือ FLARE ที่เป็นท่อยืดหยุ่นได้เดินทางเข้าไปตามเครื่องยนต์ สามารถวิเคราะห์ความผิดปกติในเครื่องยนต์และซ่อมบางอย่างได้ รวมถึงใช้เป็นตัวส่ง SWARM เข้าไปในเครื่องยนต์ได้ด้วย

แม้ในปัจจุบันนี้หลายคนอาจจะคลายความสนใจกับสารพัดโครงการพัฒนาสินค้าที่หมุนเวียนกันเข้ามาระดมทุนผ่าน Kickstarter อยู่เนืองๆ แต่สำหรับโครงการที่ตั้งเป้าระดมทุน 50,000 เหรียญ แล้วได้เงินครบตามเป้าภายใน 2 ชั่วโมงแรกที่เปิดรับการสนับสนุน ที่สำคัญเมื่อถึงตอนนี้ก็ได้รับเงินสนับสนุนไปมากกว่า 1.2 ล้านดอลลาร์แล้ว เรียกได้ว่ามากกว่า 2,400% ของเป้าหมายการระดมทุน ถือว่าเป็นโครงการที่ประสบความสำเร็จในการระดมทุนอย่างมหาศาล ซึ่งโครงการมาแรงนี้คือหุ่นยนต์วาดภาพบนผนังที่ชื่อว่า Scribit

Disney พัฒนาหุ่นยนต์แบบใหม่เพื่อการแสดงโชว์ผาดโผนชื่อว่า "Stuntronics" โดยหุ่นยนต์ที่ว่านี้มีความสามารถในการออกท่าทางต่างๆ ในขณะที่มันลอยตัวอยู่ในอากาศ ไม่ว่าจะเป็นการตีลังกาไปด้านหน้าหรือด้านหลัง รวมทั้งหมุนตัวบิดเกลียวก็ทำได้ โดยเป้าหมายของการพัฒนา Stuntronics นี้ก็เพื่อใช้เพื่องานแสดงในสวนสนุกหรือโชว์ต่างๆ ทดแทนนักแสดงที่เป็นคนจริงๆ เพื่อลดความเสี่ยงอุบัติเหตุของนักแสดง

NVIDIA ใช้เวทีงาน Computex 2018 เปิดตัว Isaac แพลตฟอร์มฮาร์ดแวร์-ซอฟต์แวร์พร้อมใช้สำหรับสร้างหุ่นยนต์

ฝั่งฮาร์ดแวร์ของ Isaac เป็นบอร์ด Jetson Xavier ที่ประกอบด้วย

• ซีพียู ARM64 จำนวน 8 คอร์
• จีพียู Volta Tensor Core
• NVDLA ตัวเร่งการประมวลผล deep learning จำนวน 2 ตัว
• image processor, vision processor, video processor
• พอร์ตเชื่อมต่ออื่นๆ เช่น USB, PCIe, Ethernet

เรารู้กันดีว่าเทคโนโลยีวิทยาการสมัยใหม่ทั้งปัญญาประดิษฐ์และหุ่นยนต์มีส่วนช่วยในการวินิจฉัยอาการเจ็บป่วยรวมทั้งการรักษาต่างๆ มากแค่ไหน ในส่วนของการใช้หุ่นยนต์นั้นก็อาศัยประสิทธิภาพการเคลื่อนที่อย่างแม่นยำ เที่ยงตรง เข้ามาช่วยเสริมการปฏิบัติงานหัตถการต่างๆ มากมาย โดยเฉพาะงานศัลยกรรมที่ละเอียดอ่อน แต่ยังไม่เคยมีการใช้หุ่นยนต์ช่วยในการผ่าตัดบริเวณกระดูกสันหลังมาก่อน จนกระทั่งเมื่อปีที่แล้ว

ทีมแพทย์แห่ง Penn (หมายถึง University of Pennsylvania) ได้ประกาศข่าว เรื่องการผ่าตัดให้กับผู้ป่วยรายหนึ่งซึ่งมีชื่อว่า Noah Pernikoff โดยใช้หุ่นยนต์แขนกล da Vinci มาช่วยในการผ่าตัดเอาเนื้องอกออกจากกระดูกสันหลังได้สำเร็จ

ถ้าหากจำกันได้บริษัทหุ่นยนต์ Boston Dynamics ซึ่งตอนนี้อยู่ในเครือ SoftBank เคยเปิดตัวหุ่นยนต์สุนัข SpotMini และล่าสุดผู้ก่อตั้ง Marc Raibert ก็บอกเองว่าหุ่นยนต์ SpotMini นี้จะเริ่มผลิตและวางขายในปีหน้า

โดยเขาให้สัมภาษณ์ในงานสัมมนาประจำปีของ TechCrunch ว่า SpotMini สร้างขึ้นจากความคิดว่ามีอะไรที่สามารถเคลื่อนที่ไปมาได้ในที่ทำงาน หรือในพื้นที่ว่าง ซึ่งสามารถนำไปต่อยอดได้กับพื้นที่อื่น รวมทั้งภายในบ้านด้วย (อย่าลืมว่า SpotMini เปิดประตูเองได้!)

บริษัทบอกว่าได้สั่งผลิตหุ่นยนต์ SpotMini นี้ไปแล้ว 100 ตัว แต่ยังไม่มีการเปิดราคาขาย บอกเพียงว่าราคาถูกกว่าตัว prototype ประมาณ 10 เท่า

ทีมวิจัยจาก University of Michigan ทำการปรับปรุงระบบควบคุมของหุ่นยนต์ 2 ขา เพื่อทดสอบขีดจำกัดและพัฒนาความสามารถโดยรวมของหุ่นยนต์ ซึ่งมีทั้งการทดสอบเดินลุยไฟ รวมทั้งขี่ segway

หุ่นยนต์เดิน 2 ขา ที่ทีมวิจัยใช้นี้มีชื่อว่า Cassie Blues มันคือหุ่นยนต์รุ่น Cassie ซึ่งเป็นผลงานของบริษัท Agility Robotics ที่ทาง University of Michigan นำมาปรับแต่งเขียนโปรแกรมควบคุมเพิ่มเติมเป็นพิเศษทีมวิจัยมีเป้าหมายในการทดสอบและเพิ่มขีดความสามารถในการทำงานของหุ่นยนต์ 2 ขา ในสภาวะต่างๆ ไม่จำกัดเพียงในห้องปฏิบัติการ

Nanyang Technological University in Singapore เผยแพร่งานวิจัยการพัฒนาหุ่นยนต์ที่มีความแม่นยำสูง และสามารถวางแผนการเคลื่อนไหวเพื่อประกอบเก้าอี้ IKEA ได้สำเร็จ

งานวิจัยนี้พัฒนาต่อมาจากงานวิจัยเมื่อปี 2015 ที่สามารถควบคุมการเคลื่อนไหวในระดับละเอียด ทำให้สามารถวางชิ้นส่วนเชื่อมต่อได้อย่างแม่นยำ ตอนนี้การพัฒนาก็มาถึงจุดที่หุ่นยนต์เริ่มประกอบเก้าอี้ได้ทั้งตัวแล้ว

เมืองไทยเข้าสู่หน้าร้อนแล้ว หลายคนคงอดนึกถึงทะเลไม่ได้ ข่าวคราวเทคโนโลยีนี้ก็เกี่ยวกับทะเลเช่นกัน เป็นเรื่องของหุ่นยนต์ AUV (autonomous underwater vehicle) ที่มีรูปร่างหน้าตาและการเคลื่อนไหวเหมือนกับปลาจริงๆ หุ่นยนต์นี้มีชื่อว่า SoFi เป็นผลงานการพัฒนาโดยทีมวิจัยของห้องปฏิบัติการ CSAIL แห่ง MIT

ทีมวิจัยสร้าง SoFi ขึ้นมาด้วยวัตถุประสงค์หลักเพื่อการสำรวจระบบนิเวศใต้น้ำ โจทย์สำคัญที่แสนท้าทายของการสำรวจการใช้ชีวิตของสรรพสัตว์ใต้น้ำ ก็คือ จะทำอย่างไรถึงจะเข้าไปดูเหล่าปลาได้ใกล้ๆ โดยที่มันจะไม่ว่ายเผ่นหนีไปเสียก่อน ทางออกจึงกลายเป็นหุ่นยนต์ปลาที่จะว่ายเข้าไปหาปลาจริงได้แบบเนียนๆ โดยไม่ทำให้เกิดการแตกตื่น

Blognone เคยลงข่าวหุ่นยนต์เล่นรูบิคให้ได้ทึ่งกันมาแล้ว เมื่อเกือบ 8 ปีก่อนก็มีข่าวหุ่น Lego แก้รูบิคได้ ให้หลังจากนั้นปีนึงก็มีหุ่นยนต์ทำลายสถิติความเร็วในการแก้รูบิคของมนุษย์ได้สบายด้วยเวลา 5.35 วินาที รอบนี้มาดูผลงานจาก MIT ที่แก้รูบิคได้เร็วเสียจนนึกว่าเป็นมายากล

สถิติโลกของการแก้รูบิคขนาด 3x3x3 ด้วยหุ่นยนต์เมื่อปี 2016 ใช้เวลาไปแค่ 0.637 วินาที แน่นอนว่านั่นก็ถือเป็นความเร็วระดับที่น่าเหลือเชื่อแล้ว แต่ 2 นักศึกษาต่างสาขา Ben Katz และ Jared Di Carlo จาก MIT ที่มารู้จักกันในงานแฮคเกอร์ที่นักศึกษา MIT จัดขึ้นเป็นการภายใน เชื่อว่าพวกเขาสามารถสร้างสถิติที่เหนือกว่านั้นได้

Boston Dynamics บริษัทพัฒนาหุ่นยนต์ภายใต้ SoftBank ได้โชว์วิดีโอทีเซอร์หุ่นยนต์สุนัขรุ่นใหม่ที่สามารถเปิดประตูได้

หุ่นยนต์ต้นแบบของ Boston Dynamics ตัวนี้มีชื่อว่า SpotMini เป็นหุ่นยนต์สุนัข โดยเวอร์ชันใหม่นี้ทางบริษัทได้พัฒนาให้มีแขนที่วางไว้ในตำแหน่งหัว เพื่อให้สามารถใช้เปิดประตูได้

ในวิดีโอที่ Boston Dynamics โชว์นั้น SpotMini สามารถใช้แขนที่หัวหมุนเปิดประตูได้อย่างคล่องแคล่ว โดยตัวหุ่นยนต์ยังคงรักษาความสมดุลของตัวเองไว้ได้ในขณะที่ง้างประตูขนาดใหญ่ออก และเปิดให้เพื่อนหุ่นยนต์อีกตัวเดินเข้าประตูไปได้

บริษัทหุ่นยนต์ Boston Dynamics (ที่ Alphabet เพิ่งขายให้ SoftBank เมื่อกลางปี) โชว์หุ่นยนต์มนุษย์ Atlas เวอร์ชันใหม่ที่สามารถกระโดดตีลังกาถอยหลัง (backflip) ได้แล้ว

Atlas เป็นหุ่นยนต์รูปร่างมนุษย์ที่ Boston Dynamics เปิดตัวในปี 2013 และทยอยเพิ่มความสามารถมาให้ตลอด โดยเน้นที่ความสามารถในการทรงตัวและการเดินในสภาพแวดล้อมที่ซับซ้อน

ที่มา - Wired

หลังพัฒนาปัญญาประดิษฐ์จนมีแพลตฟอร์ม AI ของตัวเองในชื่อ DuerOS วันนี้ Baidu ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ที่ใช้งานแพลตฟอร์ม AI เป็นครั้งแรก 2 ตัว ซึ่งเป็นการพัฒนาร่วมกับบริษัทลูก Raven Tech สตาร์ทอัพพัฒนาลำโพงอัจฉริยะที่ Baidu ซื้อมาเมื่อต้นปี

ตัวแรกคือลำโพงอัจฉริยะ Raven H ที่รันด้วย DuerOS แพลตฟอร์ม AI รองรับการสั่งงานลักษณะเดียวกับ Alexa หรือ Google Assistant โดยจุดเด่นของ Raven H คือแพแนลชั้นบนสุดที่เป็นจอ LED สามารถถอดออกจากตัวฐานลำโพง และพกติดตัวหรือนำไปวางไว้ที่อื่นเพื่อสั่งการ AI ไม่ว่าจะค้นหา เปิดเพลงหรือควบคุมอุปกรณ์สมาร์ทโฮมอื่นๆ โดยไม่ต้องพกลำโพงทั้งตัวไป วางจำหน่ายราคา 1,699 หยวนหรือราว 8,500 บาท

โรงพยาบาลด้านทันตกรรมในมหาวิทยาลัยการแพทย์แห่งหนึ่งในเมืองซีอาน มณฑลส่านซีของจีน (the Fourth Military Medical University’s Affiliated Stomatology Hospital) ประสบความสำเร็จในการใช้หุ่นยนต์ผ่าตัดปลูกรากฟันเทียมเป็นครั้งแรก โดยใช้เวลาราว 1 ชั่วโมง

ตัวฟันเทียมถูกพิมพ์ขึ้นจากเครื่องพิมพ์ 3 มิติ ขณะที่หุ่นยนต์เป็นความร่วมมือของโรงพยาบาลกับมหาวิทยาลัยเป่ยหัง (Beihang University) ที่พัฒนาร่วมกันกว่า 4 ปี โดยการผ่าตัดครั้งนี้มีทันตแพทย์สังเกตการณ์และดูแลอยู่ตลอดการผ่าตัด ทว่าหน้าที่การผ่าตัดเป็นของหุ่นยนต์เท่านั้น และถือว่าประสบความสำเร็จและได้มาตรฐานของการผ่าตัดปลูกรากฟันเทียม

ทั้งนี้คาดว่าหุ่นยนต์หมอฟันลักษณะนี้น่าจะช่วยแก้ปัญหาการขาดแคลนทันตแพทย์ในจีนไปได้ระดับหนึ่ง

เราเห็นหุ่นยนต์ให้พรไปแล้ว คราวนี้ถึงคราวมาฟังบทสวดส่งผู้ตายจากหุ่นยนต์บ้าง เมื่อ Pepper หุ่นยนต์รับแขกจาก Nestle และ SoftBank ที่เปิดตัวไปตั้งแต่ปี 2014 ได้รับบทบาทหน้าที่ใหม่จาก SoftBank ให้กลายเป็นพระรับจ้างสวดศพ ซึ่งถูกนำมาโชว์ในงาน Life Ending Industry Expo ที่กรุงโตเกียว

ซอฟต์แวร์นี้ถูกเขียนขึ้นโดยบริษัท Nissei Eco ทำให้ Pepper สามารถสวดส่งผู้ตายในเสียงหุ่นยนต์ พร้อมตีกะลาเป็นจังหวะ ตามรูปแบบของพระญี่ปุ่น ซึ่งเข้ามาแก้ปัญหาในกรณีที่ไม่มีพระที่ว่าง ขณะที่ค่าบริการของ Pepper อยู่ที่เพียง 50,000 เยน (ราว 15,000 บาท) ซึ่งถูกกว่าพระจริงๆ ที่อยู่ที่ราว 240,000 เยน (ราว 80,000 บาท)

Knightscope K5 หุ่นยนต์รักษาความปลอดภัยของ DC เกิดความผิดพลาดการทำงาน ขับเคลื่อนตัวเองลงไปในน้ำพุของสำนักงานระหว่างปฏิบัติหน้าที่ ยังไม่มีรายละเอียดว่าความผิดพลาดเกิดจากอะไร หรือเจ้าหุ่นยนต์อาจจะไม่ชอบงานของมันก็เป็นได้

Knightscope K5 ถูกสร้างให้เป็นหุ่นยนต์ลาดตระเวณเพื่อรักษาความปลอดภัย มีรูปร่างเหมือนจรวดสีขาวขนาดใหญ่ หนัก 300 ปอนด์ ติดล้อขับเคลื่อน และด้วยรูปร่างดังกล่าวทำให้มันไม่สามารถทำอันตรายกับใครได้ และไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้เช่นกันเวลาล้มลง หรือตกน้ำ

ผู้ช่วยอัจฉริยะในบ้านไม่ได้จำกัดเพียงลำโพงอัจฉริยะ แต่ยังรวมถึงหุ่นยนต์เพื่อนเล่นเด็ก หุ่นยนต์รีดผ้าพับผ้า ในประเทศญี่ปุ่น ตัวลำโพงอัจฉริยะยังไม่ได้รับความนิยมเท่ายุโรปและอเมริกา อาจเป็นเพราะ Amazon และ Google ยังไม่ได้เข้าไปเปิดตัวในญี่ปุ่น แต่หุ่นยนต์ผู้ช่วยด้านอื่นในบ้านเริ่มมีบทบาทมากขึ้นเรื่อยๆ

ยกตัวอย่างเช่น หุ่นยนต์ Musio รูปร่างเป็นหุ่นยนต์น่ารักและมีคุณสมบัติคล้ายลำโพงอัจฉริยะ แต่ Musio จะให้ข้อมูลในสิ่งที่ผู้ใช้ไม่เคยรู้มาก่อน เช่น ช่วยแนะนำหนังให้ดูได้ถ้าร้องขอ ตัวหุ่นยนต์มีสีหน้าหลากหลาย และสามารถพูดประโยคตลกขบขันได้ด้วย

Xiaomi เปิดตัวหุ่นยนต์สกูตเตอร์ Ninebot Plus ขนาดเล็ก ไม่มีด้ามยาวให้จับ ขับเคลื่อนเองอัตโนมัติและสามารถควบคุมด้วยรีโมทได้ ผู้ใช้สามารถใช้งานได้สองแบบคือ เหยียบที่ฐานเพื่อขับขี่ตัว Ninebot Plus ด้วยตัวเอง หรือจะให้มันถือของเดินตามผู้ใช้ไปได้ทุกที่โดยใช้รีโมทควบคุม

ด้านบนของ Ninebot Plus สามารถติดตั้ง Mi Ninebot Plus Camera หรือกล้องแอคชั่นคาเมร่าเพิ่มเข้าไปได้ โดยตัวกล้องสามารถเก็บภาพด้วยความละเอียดสูงสุด 1080p ให้มุมมองกว้าง 104 องศา

โซนี่ทำหุ่นยนต์ทรงสี่เหลี่ยมลูกบาศก์หรือ Toio cube จับคู่กับตัวต่อเลโก้หรือกระดาษเปเปอร์คราฟอื่นๆ ให้เด็กๆ เล่นของเล่นเดิมที่มีได้อย่างสนุกสนานมากขึ้น ตัวหุ่นยนต์กว้าง 1.25 นิ้ว สูง ไม่ถึง 1 นิ้ว มาพร้อมล้อเล็กเคลื่อนที่ไปมาได้