Intel ยืนยันกับ CRN แล้วว่า ทางบริษัทเตรียมจะหยุดพัฒนา RealSense ทั้งหมด ตามแผน IDM 2.0 ของซีอีโอ Pat Gelsinger ที่ Intel จะกลับมาโฟกัสกับธุรกิจหลักซึ่งก็คือการผลิตชิปมากขึ้น

RealSense เป็นเทคโนโลยีกล้องสามมิติจาก Intel ที่เป้าหมายคือต้องการพัฒนาให้ computer vision เข้าถึงได้ง่ายและยืดหยุ่นมากยิ่งขึ้น โดย RealSense ไม่ได้เป็นผลิตภัณฑ์ทำเงินให้ Intel อยู่แล้ว และยอดขายผลิตภัณฑ์ก็ค่อนข้างน้อย แต่ตัวเทคโนโลยีที่พัฒนายังมีประโยชน์กับหน่วยอื่นของ Intel บ้าง ซึ่ง Sagi Ben Moshe หัวหน้าฝ่าย RealSense และผู้จัดการทั่วไปของกลุ่ม Emerging Growth and Incubation ของ Intel ก็ได้ประกาศลาออกผ่าน LinkedIn ของเขามาแล้วราว 2 สัปดาห์

อินเทลเปิดปี 2021 ด้วยกล้องวัดระยะลึกแบรนด์ RealSense ที่เริ่มทำตลาดมาตั้งแต่ปี 2014 รุ่นใหม่คือ RealSense ID Facial Authentication กล้องวัดระยะลึกพร้อมเทคโนโลยีตรวจจับใบหน้าในตัว (มี SoC ในตัว, ไม่ต้องเชื่อมต่อเครือข่าย) เหมาะกับการนำไปติดตั้งที่ประตู, จุดขายสินค้า (POS), ตู้ ATM หรือตู้ kiosk ชนิดอื่นๆ

กล้อง RealSense มีอัตราแม่นยำ 99.76%, สตอเรจเข้ารหัสข้อมูลใบหน้า แบ่งเป็น 2 รุ่นย่อยคือ F455 ที่เป็นกล่องสำเร็จรูปมาให้พร้อม ตัวละ 99 ดอลลาร์ และรุ่น F450 เป็นบอร์ดสำเร็จรูปเพื่อนำไปใช้เชื่อมกับโมดูลอื่น ตัวละ 75 ดอลลาร์

อินเทลเปิดตัวกล้องสามมิติ RealSense Depth Camera สองรุ่นใหม่ สามารถใช้ร่วมกับพีซีใดๆ ก็ได้เหมือนกับเป็นเว็บแคมตัวหนึ่ง

อินเทลเริ่มเทคโนโลยี RealSense มาตั้งแต่ปี 2014 โดยมีผู้ผลิตโน้ตบุ๊กหลายเจ้านำเทคโนโลยีไปใช้งาน แต่ในฝั่งของพีซี อินเทลก็มีขายกล้อง RealSense ในชุด Development Kit แยกต่างหากมาได้หลายปี

กล้อง RealSense รุ่นใหม่ของอินเทลนับเป็นซีรีส์ D400 โดยแยกเป็น D415 (รุ่นเล็ก 149 ดอลลาร์) และ D435 (รุ่นใหญ่ 179 ดอลลาร์) สามารถเสียบใช้งานกับพอร์ต USB ได้ทันที จุดเด่นของกล้องรุ่นใหม่คือภาพความละเอียดสูง (1280x720) เฟรมเรตสูง (90fps) และหน่วยประมวลผลของกล้องรุ่นใหม่ที่มีสมรรถนะสูงขึ้นกว่าเดิม

อินเทลประกาศซื้อบริษัท Movidius Technology เจ้าของระบบ "ตา" คอมพิวเตอร์ (visionary solution) ที่ใช้กับรถยนต์ โดรน หุ่นยนต์ แว่น VR และระบบลักษณะเดียวกันอื่นๆ

โซลูชันของ Movidius ประกอบด้วยหน่วยประมวลผลเฉพาะที่เรียกว่า Vision Processing Unit (VPU), ชุด SDK และประมวลผลภาพด้วยเทคนิค machine learning/deep learning

อินเทลซื้อ Movidius เพื่อนำเทคโนโลยีไปต่อเชื่อมกับกล้อง RealSense ของตัวเอง เพื่อต่อเป็นระบบ computer vision ที่เก่งกาจมากขึ้นในอนาคต

อินเทลอัพเดตสินค้าในตระกูลกล้อง RealSense ประจำ แบ่งเป็นตัวกล้องรุ่นใหม่สองรุ่น และชุดพัฒนาใหม่อีกสองรุ่น

ชุดกล้อง RealSense ZR300 เป็นกล้อง RealSense พร้อมเซ็นเซอร์ความเคลื่อนไหวแบบความแม่นยำสูง ทำให้สามารถทำแผนที่สามมิติได้ เหมาะสำหรับการพัฒนาหุ่นยนต์, โดรน, และการทำพื้นที่จำลองอื่นๆ ส่วนกล้อง RealSense Camera 400 เป็นการอัพเดตกล้อง เพิ่มความแม่นยำของจุดสามมิติ และพื้นที่ทำการขยายเป็นเท่าตัว

ชุด RealSense Robotic Development Kit เป็นชุดขายรวมระหว่างบอร์ด UP ของอินเทลและกล้อง R200 รุ่นก่อนหน้านี้ ตัวบอร์ดติดตั้ง Robot Operating System (ROS) มาในตัวพร้อมพัฒนาได้ทันที

งาน Intel Developer Forum (IDF) ที่เสิ่นเจิ้นปีนี้ทางอินเทลเปิดตัวชุดพัฒนาหุ่นยนต์ Intel RealSense Robotic Development Kit เป็นบอร์ดคอมพิวเตอร์ขนาดเล็ก UP Board พร้อมกับกล้อง RealSense R200

UP Board ในชุด ใช้ซีพียู Atom x5-Z8350 พร้อมกับแรม 4GB และหน่วยความจำแฟลช eMMC 32GB มีพอร์ต USB 2.0 สี่พอร์ต และ USB 3.0 หนึ่งพอร์ตสำหรับเชื่อมต่อกับกล้อง R200

ตัวกล้อง R200 สามารถจับความลึกได้ที่ระยะ 3-4 เมตรภายในอาคาร ภาพความลึกได้ความละเอียด 640x480 พิกเซลที่ 60 เฟรมต่อวินาที ส่วนภาพปกติได้ความละเอียด 1080p ที่ 30 เฟรมต่อวินาที

ราคา 249.99 ดอลลาร์เริ่มสั่งได้แล้วตั้งแต่ตอนนี้ เฉพาะในสหรัฐฯ, แคนาดา, จีน, ยุโรป, และญี่ปุ่น ส่งมอบสินค้าช่วงกลางปีนี้

หลังจากปล่อยอุปกรณ์ไอทีสวมใส่มาหลากหลายประเภท ตอนนี้มีรายงานว่าอินเทลเริ่มสนใจทำอุปกรณ์ AR/VR แบบสวมศีรษะบ้างแล้ว

รายงานชิ้นนี้ออกมาจาก The Wall Street Journal ที่ระบุว่าอินเทลกำลังซุ่มพัฒนาอุปกรณ์สวมศีรษะสำหรับใช้งาน AR/VR โดยจะผนวกเทคโนโลยีของตัวเองอย่าง RealSense 3D เข้าไปด้วย

หลังรายงานนี้ออกมา Achin Bhowmik หัวหน้าฝ่าย RealSense ของอินเทลบอกว่าแนวทางของอินเทลในมักจะมีนิสัยในการสร้างอุปกรณ์ใหม่ๆ เพื่อโชว์เทคโนโลยีก่อนจะให้บริษัทอื่นมารับช่วงต่อไป โดยโครงการทำอุปกรณ์ AR นี้ก็เป็นอีกหนึ่งในแผนของการก้าวข้ามยุคพีซีนั่นอง

ปีที่แล้ว ค่าย Acer ออกโน้ตบุ๊ก-แท็บเล็ต 2-in-1 ในชื่อ Aspire Switch 12 (รีวิว 1, รีวิว 2) ปีนี้มันกลับมาอีกครั้งในชื่อ Aspire Switch 12 S ด้วยสเปกที่ดีกว่าเดิม และปรับรูปร่างหน้าตาให้คล้ายกับแท็บเล็ต 2-in-1 รุ่นอื่นๆ มากขึ้น

เวที IDF2015 เริ่มต้นวันนี้ อินเทลสาธิตกล้อง RealSense อีกครั้งและประกาศสนับสนุนกล้อง RealSense ให้ใช้งานได้แทบทุกแพลตฟอร์มรวมถึง ROS (robot operating system), ลินุกซ์, และแมค

โทรศัพท์ Tango ของกูเกิลเองก็ใช้กล้อง RealSense และแท็บเล็ตหลายรุ่น ส่วนกล้องแยกในต้นปีหน้าทาง Razr จะวางตลาดกล้อง RealSense แยกสำหรับใช้งานกับพีซี

อินเทลสาธิตการใช้งานกล้องเว็บแคม RealSense สำหรับนักแคสเกมที่ต้องการใส่ภาพตัวเองลงไปในวิดีโอ เพราะกล้อง RealSense สามารถแยกตัวเกมเมอร์ที่กำลังแคสเกมออกจากฉากหลังได้โดยไม่ต้องมีฉากพิเศษใดๆ และการสาธิตอีกแบบคือการตรวจจับใบหน้าของคนเล่นเกมว่าหันหน้าไปทางใด ทำให้สามารถแสดงภาพตามทิศทางการหันหน้าของผู้เล่นได้

เมื่อปีที่ผ่านมาในงาน CES2014 อินเทลได้เปิดตัว Intel RealSense 3D กล้องวัดระยะความลึกแบบเดียวกับ Kinect แต่มีขนาดเล็กกว่าจนใส่ในอุปกรณ์พกพาได้ ซึ่งตอนเปิดตัวครั้งแรกนั้นมีเพียงโน้ตบุ๊กและแท็บเล็ต แต่ตอนนี้ได้มีการประกาศเพิ่มว่าสามารถทำให้เล็กลงจนใส่ในสมาร์ทโฟนหน้าจอขนาด 6 นิ้วได้แล้ว

โดยในงาน Intel Developers Forum ที่เซินเจิ้น อินเทลได้นำอุปกรณ์ตัวอย่าง ซึ่งเกิดจากความร่วมมือกับบริษัทสัญชาติจีนรายหนึ่ง มาโชว์ในงานเพื่อแสดงให้เห็นว่า RealSense 3D จะสามารถนำไปใช้ร่วมกับแอพ, ขนาดและชนิดของอุปกรณ์แบบใดได้บ้าง เพื่อให้นักพัฒนานำไปต่อยอด

ในงานสัมมนาเทคโนโลยี และอินเทอร์เน็ตของ Goldman Sachs (งานที่ Tim Cook พูดถึง Apple Watch) Brian Krzanich ซีอีโออินเทลก็มาประกาศแผนต่อไปของซีพียูรุ่นใหม่ในซีรีส์ Core M ด้วย

โดย Krzanich บอกว่าในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ Core M โฉมใหม่จะมาพร้อมกับการเปลี่ยนไปสู่สถาปัตยกรรม Skylake (น่าจะเป็นตัวแรกเลย) ซึ่งจะปรับปรุงด้านกราฟิกมากขึ้นจากรุ่นแรก เพิ่มการรองรับเทคโนโลยีกล้องสามมิติ RealSense 3D รุ่นที่สอง รวมถึงจะรองรับทั้ง Windows 10, Android และ Chrome OS

ส่วนการเปลี่ยนแปลงด้านการออกแบบนั้น Core M จะทำให้สามารถออกแบบตัวเครื่องได้บางขึ้นไปอีก จากตอนนี้ที่บางสุดปาเข้าไปถึง 7.2 มม. แล้ว

จากที่ Dell เคยโชว์ Venue 8 7000 ซีรีส์ แท็บเล็ตแอนดรอยด์ที่บางสุดในโลกในงาน IDF 2014 เมื่อปลายปีก่อน วันนี้ Dell จัดการเปิดตัวแท็บเล็ตรุ่นนี้อย่างเป็นทางการในงาน CES 2015 แล้ว

จุดเด่นหลักๆ ของ Venue 8 7000 อยู่ที่ความบางของตัวเครื่องเพียง 6 มม. แต่มาพร้อมกับเทคโนโลยีกล้อง RealSense 3D ที่รวมกล้องเซนเซอร์สามมิติความละเอียด 720p มาทำงานกับกล้องหลังความละเอียด 13 เมกะพิกเซล ทำให้สามารถเก็บภาพที่มีความลึก และข้อมูลมากพอสำหรับมาแต่งภายหลังอย่างการถ่ายก่อน โฟกัสทีหลัง เป็นต้น

เอเซอร์ประกาศอัพเกรดโน้ตบุ๊กสำหรับคอเกม Aspire V 17 Nitro โดยเพิ่ม Intel RealSense 3D กล้องที่วัดระยะความลึกเหมือน Kinect แต่ขนาดเล็กพอที่จะฝังในคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์พกพาได้ กล้องนี้จะทำให้ผู้ใช้สามารถเล่นเกม สั่งการคอมพิวเตอร์ และสแกนวัตถุในสามมิติเพื่อสร้างโมเดลสามมิติได้

สำหรับสเปคของ Aspire V 17 Nitro นั้นเป็นดังนี้

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว อินเทลได้เผยแบบของเครื่องออลอินวันแบบพกพา (portable all-in-one reference design) ที่บริษัททำขึ้นให้ผู้ผลิตอื่นนำไปใช้ ในชื่อ Black Brook

Black Brook จะมากับตัวเครื่องบางเพียง 20 มม. จอสัมผัสขนาดใหญ่สุด 27 นิ้ว มีขาตั้งปรับระดับได้หลายระดับและมีหูหิ้วในตัว กล้องหน้าเป็น Intel RealSense กล้องสามมิติจับการเคลื่อนไหวเพื่อสั่งการได้ และมีแบตเตอรี่อยู่ได้ 5 ชม. ในตัว

ดูภาพและคลิปนำเสนอได้ที่ท้ายข่าวครับ

ที่มา: Engadget

ที่งาน IDF ปีนี้ทางเดลล์ขึ้นเวทีเพื่อสาธิตแท็บเล็ตแอนดรอยด์ Venue 8 7000 แท็บเล็ตที่บางที่สุดในโลก ใช้ Atom z3500 และกล้อง Intel RealSense กล้องสามมิติที่อินเทลเปิดตัวตั้งแต่สองปีก่อน โดยระบุว่าจะขายช่วงวันคริสตมาสของปีนี้

กล้องที่ติดมากับ Venue 8 7000 จะมีความสามารถ RealSense Snapshot จับความลึกตรงจุดต่างๆ ของภาพถ่ายทำให้เราสามารถวัดระยะห่างระหว่างแต่ละจุดในภาพได้อย่างแม่นยำ สำหรับคนทำซอฟต์แวร์ประมวลผลภาพเราอาจจะทำเอฟเฟคที่ไม่เคยทำได้มาก่อน เช่นการทำหน้าชัดหลังเบลออย่างแม่นยำ

อินเทลเริ่มบุกตลาด perceptual computing หรือรูปแบบการสั่งงาน-ควบคุมคอมพิวเตอร์ด้วยวิธีการใหม่ๆ เช่น การดักจับความเคลื่อนไหวของมือและใบหน้า การสั่งงานด้วยเสียง (แนวเดียวกับ Kinect) มาได้สักพักใหญ่ๆ แล้ว (ข่าวเก่าปี 2012)

วันนี้ที่งาน CES 2014 อินเทลก็ได้ฤกษ์เปิดตัวแพลตฟอร์มด้าน perceptual computing ของตัวเองอย่างเป็นทางการในชื่อแบรนด์ Intel RealSense

Intel RealSense 3D camera

RealSense ประกอบด้วยผลิตภัณฑ์หลายด้าน แต่ผลิตภัณฑ์แรกที่อินเทลส่งเข้าตลาดคือกล้อง Intel RealSense 3D ซึ่งเป็นกล้องที่วัดระยะความลึกเหมือน Kinect แต่ขนาดเล็กพอที่จะฝังในคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์พกพาได้