Windows 10 จะออกตัวจริงวันพุธนี้ (29 ก.ค.) แต่ด้วยแนวคิดแบบ Windows as a Service ทำให้วันที่ 29 ไม่ใช่เส้นชัย แต่เป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นของ Windows 10 เท่านั้น

กระบวนการออก Windows 10 ตัวจริงยังแบ่งออกเป็น 3 ช่วง ดังนี้

เว็บไซต์ WinSuperSite ได้รับการยืนยันจากไมโครซอฟท์ว่า Windows 10 จะไม่มีฟีเจอร์ซิงค์เลย์เอาท์เมนู Start และแอพที่ลงจาก Windows Store ไปยังอุปกรณ์ต่างๆ ที่ถูกผูกด้วย Microsoft Account เดียวกัน ซึ่งเคยปรากฏบน Windows 8/8.1

ไมโครซอฟท์ให้เหตุผลในการตัดฟีเจอร์ซิงค์เลย์เอาท์เมนู Start ว่า พบว่าผู้ใช้ต้องการปรับแต่งเมนู Start ให้เข้ากับแต่ละอุปกรณ์ที่เขาใช้งาน (อาทิ ตามขนาดหน้าจอ) ส่วนเหตุผลในการตัดฟีเจอร์ซิงค์แอพที่ลงจาก Windows Store ทาง WinSuperSite คาดว่าข้อมูล telemetry จากผู้ใช้ Windows 8/8.1 แสดงให้เห็นว่ามีคนใช้ฟีเจอร์ดังกล่าวน้อย

ที่มา: WinSuperSite

ตัวแทนของไมโครซอฟท์ให้ข้อมูลเพิ่มเติมเรื่องระยะซัพพอร์ตของ Windows 10 ว่าจะมีอายุนาน 10 ปีเท่ากับวินโดวส์รุ่นอื่นๆ (แบ่งเป็นระยะ mainstream 5 ปีและ extended 5 ปีเหมือนเดิม) และ Windows 10 ทุกรุ่นย่อยไม่ว่าจะเป็น Home/Pro/Enterprise จะมีอายุเท่ากันหมด

ตลอดระยะการซัพพอร์ต ไมโครซอฟท์จะออกอัพเดตให้ลูกค้า ซึ่งมีทั้งอัพเดตเพิ่มฟีเจอร์ อัพเดตแก้บั๊ก และอัพเดตความปลอดภัย (แล้วแต่กรณี) แต่เงื่อนไขที่ไมโครซอฟท์เพิ่มเข้ามาใน Windows 10 คือการซัพพอร์ตจะมีผลต่อเมื่อผู้ใช้ติดตั้งอัพเดตล่าสุดอยู่ตลอดเวลาเท่านั้น (ตรงกับข่าวก่อนหน้านี้ว่า Windows 10 Home ปิดอัพเดตไม่ได้)

ใน Windows 10 Build 10240 ไมโครซอฟท์ได้เพิ่มรายละเอียดลงไปในสิทธิ์การใช้งาน (EULA) ของ Windows 10 รุ่น Home ว่าระบบจะทำการดาวน์โหลดและติดตั้งการอัพเกรดซอฟต์แวร์อย่างสม่ำเสมออัตโนมัติ โดยอาจไม่มีการแจ้งให้ผู้ใช้ทราบล่วงหน้า และผู้ใช้ไม่สามารถปิดการอัพเดตอัตโนมัตินี้ได้

The Software periodically checks for system and app updates, and downloads and installs them for you.

You may obtain updates only from Microsoft or authorised sources, and Microsoft may need to update your system to provide you with those updates.

By accepting this agreement, you agree to receive these types of automatic updates without any additional notice.

ไมโครซอฟท์ขาย Windows 10 ในรูปแฟลชไดรฟ์ผ่านเว็บไซต์อเมซอน ถือเป็นครั้งแรกที่บริษัทขาย Windows ในรูปแฟลชไดรฟ์

สนนราคาเท่ากับ Windows 10 ไลเซนส์ปกติที่ไม่ใช่การอัพเกรด กล่าวคือ Windows 10 Home อยู่ที่ 119.99 ดอลลาร์ (ราว 4,000 บาท) และ Windows 10 Pro ราคา 199.99 ดอลลาร์ (ราว 6,700 บาท) อเมซอนจะเริ่มส่งมอบสินค้า 16 ส.ค. เป็นต้นไป

Gabriel Aul จากไมโครซอฟท์เผยว่า Windows 8.1 RT Update 3 จะมาเดือนกันยายนนี้

จากการที่ Windows RT จะไม่ได้อัพเกรดเป็น Windows 10 แต่จะได้อัพเดตที่มากับความสามารถบางอย่างของ Windows 10 นั้น Update 3 น่าจะหมายถึงอัพเดตเพิ่มความสามารถบางอย่างของ Windows 10 ที่ว่า อย่างไรก็ตามยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดของ Update 3 ครับ

ที่มา: @GabeAul

@jon5798 Windows 8.1 RT Update 3 will be available in September

ไมโครซอฟท์ปล่อย Windows 10 รุ่นทดสอบ 10240 แก่สมาชิก Windows Insider ทั้ง Fast ring และ Slow ring พร้อมทั้งระบุว่า หลังจากนี้จะสามารถดาวน์โหลดผ่าน Windows Update เท่านั้น ไม่มีการปล่อยไฟล์ ISO แล้ว

เว็บไซต์ The Verge เผยว่า รุ่นทดสอบ 10240 นี้จะเป็นตัวจริง (RTM: Release to Manufacturing) ที่จะถูกส่งให้ผู้ผลิตคอมพิวเตอร์นำไปติดตั้งลงอุปกรณ์ของตนเพื่อการวางขาย และไมโครซอฟท์อาจประกาศการเข้าสู่สถานะ RTM ของ Windows 10 ในสัปดาห์นี้

ไมโครซอฟท์ปล่อย Windows 10 Mobile Build 10166 ให้กับสมาชิกโครงการ Windows Insider Program กลุ่ม Fast ring แล้ว โดยรุ่นนี้จะเน้นการปรับปรุงระบบให้เสถียรมากขึ้นและแก้บั๊กต่างๆ ดังนี้

• เอา Store เก่าออก ปรับปรุงการดาวน์โหลดแอป และอัพเดต Store ใหม่ (ไม่ใช่รุ่นเบต้าแล้ว)
• อัพเดตแอป Wallet และ Xbox
• เพิ่มขนาดไอคอนแบตเตอรี่
• แก้บั๊กหน้าสถานะการโยกย้ายข้อมูล (migration) และบั๊กการปลดล็อคหน้าจอจากรุ่นก่อน

ไม่มีบั๊ก (known issue) รายงาน

ที่มา - Blogging Windows

ไมโครซอฟท์เคยประกาศว่าจะอัพเดต Windows 10 ให้ฟรีตลอด "อายุการใช้งาน" ของอุปกรณ์ (supported lifetime of the device) แต่สิ่งที่ไมโครซอฟท์ยังไม่เคยออกมาชี้แจงคือบริษัทมีวิธีนับอายุการใช้งานอย่างไร

ล่าสุดมีคนตาดีไปเจอข้อมูลในเอกสารนำเสนอต่อนักลงทุน ที่ไมโครซอฟท์อธิบายวิธีการรับรู้รายได้ของ Windows 10 ในทางบัญชีที่เปลี่ยนไปจากเดิม (จากเดิมนับตามไลเซนส์ที่ขายได้ในปีนั้น ของใหม่เอาเงินหารด้วยสามแล้วนับแยกสามปี รวมกันได้เท่าเดิม) เอกสารนี้มีตัวอักษรเล็กๆ บอกว่า device life จะมีอายุระหว่าง 2-4 ปี โดยจะคิดตามประเภทของลูกค้า (customer type)

ไมโครซอฟท์อธิบายกระบวนการปล่อยอัพเดต Windows 10 รุ่นสมบูรณ์ในวันที่ 29 กรกฎาคมนี้

แม้ไมโครซอฟท์จะเลิกสนับสนุน Windows XP ไปแล้ว เมื่อปี 2014 ที่ผ่านมา ทว่าก็ยังมีผู้ใช้อยู่จำนวนมาก ในระดับที่มากกว่า Windows 8.1 มาเป็นระบบปฏิบัติการที่มีผู้ใช้มากที่สุดเป็นอันดับ 2 ในตลาด แต่ในวันนี้ Windows 8.1 ก็สามารถปลดป้ายแห่งความเป็นอันดับ 2 มาอย่างยาวนานของ Windows XP ลงได้แล้ว

NetMarketShare รายงานส่วนแบ่งการตลาดของระบบปฏิบัติการบนเดสก์ทอป ประจำเดือนมิถุนายน 2015 โดยในภาพรวม Windows ยังคงครองความเป็นเจ้าตลาด อยู่ที่ 90.85% ตามมาด้วย Mac OS 7.54% และ Linux 1.61%

เมื่อแบ่งแยกเป็นเวอร์ชัน พบว่า Windows 7 ยังคงครองแชมป์ ที่ 60.98% ขณะที่ Windows 8.1 ตามมาในอันดับสองที่ 13.12% เพิ่มขึ้นจาก 12.88% และ Windows XP มาในอันดับสาม อยู่ที่ 11.98% ลดลงจาก 14.6%

เมื่อวานไมโครซอฟท์เพิ่งปล่อย Windows 10 รุ่นทดสอบ 10158 ผนวกเบราว์เซอร์ Microsoft Edge ผ่านไปวันเดียวบริษัทได้ปล่อย Windows 10 รุ่นทดสอบ 10159 ให้สมาชิก Windows Insider กลุ่ม Fast ring แล้ว

Windows 10 รุ่นทดสอบ 10159 แก้บั๊กกว่า 300 จุด และการเพิ่มเติมพิเศษอีกหนึ่งอย่าง เว็บไซต์ Windows Central เสริมว่ามันหมายถึงภาพพื้นหลังโดยดีฟอล์ตชุดใหม่กับหน้าจอล็อกอินใหม่

ไมโครซอฟท์เตือนว่าใครที่ดาวน์โหลดรุ่นทดสอบ 10158 ขณะที่รุ่นทดสอบ 10159 ถูกเปิดให้ดาวน์โหลดได้ อาจจะเจอข้อความ 0x80246017 ให้ผู้ใช้รีสตาร์ทเครื่อง แล้วกลับไปเช็คอัพเดตที่หน้า Settings อีกครั้ง

นอกจากเปลี่ยนชื่อเบราว์เซอร์ Project Spartan เป็นชื่อเป็นทางการ คือ Microsoft Edge Windows 10 Mobile รุ่นทดสอบ 10149 ที่ไมโครซอฟท์เพิ่งปล่อยให้สมาชิก Windows Insider กลุ่ม Fast ring ยังมีของใหม่ อาทิ

Apple ได้ออกระบบปฏิบัติการ OS X รุ่น El Capitan รุ่นเบต้าล่าสุดให้กับนักพัฒนา โดยมาพร้อมกับ Easter Egg ซ่อนอยู่ในโค้ดที่พัฒนา และมีคำใบ้ของผลิตภัณฑ์ใหม่ที่กำลังจะออกมา

เว็บไซต์ 9to5Mac เผยข้อมูลคร่าวๆ ของผลิตภัณฑ์ดังกล่าว โดยมีข้อมูลว่าเราจะได้เห็นอุปกรณ์ที่มีความละเอียดหน้าจอ 4096x2304 (4K) ซึ่งอาจเป็น Retina iMac รุ่น 21.5 นิ้วรุ่นใหม่ที่อาจจะเปิดตัวในอนาคต นอกจากเรื่องจอแล้ว อุปกรณ์ตัวนี้ยังเพิ่มชิปแสดงผลอย่าง Intel Broadwell Iris รุ่นใหม่และ AMD Radeon รุ่นใหม่อีก 4 ตัวด้วยกัน

ส่วนฟีเจอร์ Bluetooth Remote ถูกเพิ่มเข้ามาใน El Capitan มีระบุอยู่ในไฟล์ใหม่ที่ถูกเพิ่มขึ้นมาในชื่อว่า AppleBluetoothRemote.kext

ไมโครซอฟท์ปล่อย Windows 10 Mobile รุ่นทดสอบ 10136 ให้สมาชิก Windows Insider กลุ่ม Fast ring แล้ว ของใหม่มีดังนี้

ไมโครซอฟท์ยืนยันข้อมูลราคา Windows 10 แบบไลเซนส์ปกติที่ไม่ใช่การอัพเกรด ดังนี้

• Windows 10 Home ราคา 119 ดอลลาร์ (4,000 บาท)
• Windows 10 Pro ราคา 199 ดอลลาร์ (6,700 บาท)
• ถ้ามีไลเซนส์ Windows 10 Home จากการอัพเกรดฟรีอยู่แล้ว และอยากใช้ Windows 10 Pro สามารถซื้อ Pro Pack ในราคา 99 ดอลลาร์

ไมโครซอฟท์บอกว่าราคานี้เท่ากับราคาขายปลีกของ Windows 8 ส่วนประเด็นเรื่อง "ราคาพิเศษ" ช่วงเปิดตัวแบบเดียวกับ Windows 8 (ที่ลดเหลือ 39.99 ดอลลาร์) ที่ผู้บริหารไมโครซอฟท์เคยพูดไว้ นั้นยังไม่มีข้อมูลครับ

หลังจากวันนี้ไมโครซอฟท์เริ่มปล่อยการแจ้งเตือนให้จองสิทธิการอัพเกรดเป็น Windows 10 โผล่ขึ้นมาบน system tray ของวินโดวส์ ก็สร้างความสับสนให้ผู้ใช้พอสมควร ทำให้ไมโครซอฟท์ต้องออกมาให้รายละเอียดของการอัพเกรดเป็น Windows 10 ดังนี้

ไมโครซอฟท์ออกมาประกาศวันเปิดตัว Windows 10 อย่างเป็นทางการในวันที่ 29 กรกฎาคม 2015 โดยจะยังมีเฉพาะเวอร์ชันพีซีและแท็บเล็ตเท่านั้น (แถมฟีเจอร์บางตัวที่ประกาศไว้ ก็อาจตามมาทีหลังในการอัพเดตครั้งต่อๆ ไป)

ผู้ที่ใช้ Windows 7 และ Windows 8.1 จะสามารถอัพเกรดเป็น Windows 10 ได้ฟรีในวันที่ 29 กรกฎาคมเช่นกัน ซึ่งวันนี้ไมโครซอฟท์ก็เริ่มแจ้งเตือนผู้ใช้ Windows 7/8.1 ให้ "จองสิทธิการอัพเกรด" (reserve your free upgrade) ได้ล่วงหน้าแล้ว เมื่อกดยืนยันแล้วเราจะได้รับการแจ้งเตือนอีกครั้งเมื่อไฟล์ Windows 10 ปล่อยอัพเกรด ส่วนขนาดไฟล์บอกว่า 3GB ครับ

ส่วนประเด็นเรื่องราคาของชุดอัพเกรด (แบบไม่ฟรี) ที่หลายคนสงสัยกัน ตอนนี้ยังไม่มีประกาศออกมาครับ

ไมโครซอฟท์ปล่อย Windows 10 รุ่นทดสอบ 10130 ให้สมาชิก Windows Insider กลุ่ม Fast ring แล้ว มีสิ่งใหม่ อาทิ

หลังจากไมโครซอฟท์ปล่อย Windows 10 รุ่นทดสอบ 10122 พร้อมกับแจ้งเตือนว่าผู้ใช้จีพียูจากเอเอ็มดีจะเจอปัญหาเบราว์เซอร์ Microsoft Edge (Project Spartan เดิม) ล่มบ่อย ล่าสุด Gabriel Aul จากไมโครซอฟท์เผยว่าเอเอ็มดีได้ปล่อยไดรเวอร์จีพียูรุ่นใหม่แล้ว ผู้ใช้สามารถดาวน์โหลดได้จาก Windows Update ครับ

ที่มา: @GabeAul

เว็บไซต์ WinBeta เผย Windows 10 รุ่นทดสอบ 10125 ที่ไม่ถูกปล่อยให้โครงการ Windows Insider ร่วมทดสอบ รายละเอียดมีดังนี้

ไมโครซอฟท์ปล่อย Windows 10 รุ่นทดสอบ 10122 ให้สมาชิก Windows Insider กลุ่ม Fast ring แล้ว พร้อมระบุว่าในอนาคตจะเห็นการเปลี่ยนแปลงใหญ่ระหว่างรุ่นทดสอบน้อยลง แต่จะเป็นการปรับแต่งให้ดูเรียบร้อยและเสถียรมากขึ้น เพื่อให้บริษัทสามารถปล่อยรุ่นตัวจริงได้ทันช่วงฤดูร้อนปีนี้

สำหรับของใหม่บน Windows 10 รุ่นทดสอบ 10122 มีดังนี้

Huawei ผู้ผลิตอุปกรณ์หลากชนิดรายใหญ่ของจีน เข้าลุยตลาด Internet of Things (IoT) อย่างจริงจังด้วยการเปิดตัว LiteOS ระบบปฏิบัติการที่ออกแบบมาเพื่อใช้งานกับ IoT โดยเฉพาะ

จุดเด่นของ LiteOS อยู่ที่การใช้งานได้ง่ายดาย และไม่ต้องตั้งค่า ตัวระบบจะค้นหาอุปกรณ์เอง และเชื่อมต่อกับเครือข่ายอัตโนมัติ โดยจุดเด่นสำคัญของ LiteOS คือมีขนาดเพียง 10KB ซึ่ง Huawei เชื่อว่าการทำ LiteOS สำหรับ IoT จะเน้นไปที่การเชื่อมต่อกับเครือข่าย มากกว่าการโฟกัสที่อุปกรณ์แบบที่เห็นใน Android และ iOS

หลังการเปิดตัว Huawei ตั้งเป้าว่าจะมีอุปกรณ์ที่ใช้ LiteOS มากกว่า 100,000 ล้านชิ้นภายในปี 2025

ที่มา - Huawei

รัสเซียเดินหน้าแผนลดการพึ่งพิงเทคโนโลยีจากตะวันตกอย่างต่อเนื่อง หลังจากก่อนหน้านี้เพิ่งประกาศความสำเร็จในการพัฒนาชิป ARM คราวนี้วางแผนจะพัฒนาระบบปฏิบัติการบนอุปกรณ์พกพาของตัวเองแล้ว

แผนดังกล่าวประกาศโดย Nikolai Nikiforo รัฐมนตรีกระทรวงเทคโนโลยี และสารสนเทศ ที่เพิ่งไปหารือกับ Jolla ผู้พัฒนาระบบปฏิบัติการ Sailfish เพื่อใช้เป็นฐานในการพัฒนาระบบปฏิบัติการของตัวเองเพื่อมาแทนที่ระบบปฏิบัติการอย่าง iOS และ Android ที่กินส่วนแบ่งไปมากกว่า 95% ของรัสเซียในปัจจุบัน (อีก 5% เป็น Windows Phone ?)

ช่วงปีที่ผ่านมา ซัมซุงเริ่มปล่อยอุปกรณ์ที่รัน Tizen สู่ตลาดอย่างจริงจัง หลังจากพัฒนามาหลายปี โดยใช้ทั้งบนสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต สมาร์ทวอทช์ ทีวี และเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆ ล่าสุดซัมซุงออกมาประกาศอย่างเป็นทางการแล้วว่าจะปั้น Tizen ให้เป็นระบบปฏิบัติการสำหรับสำหรับทุกสิ่งทุกอย่าง

ในงานอีเวนท์ที่อินโดนีเซีย Jong-deok หัวหน้าฝ่ายซอฟต์แวร์ของซัมซุงประกาศว่าการพัฒนา Tizen ทำเพื่อให้รับกับการมาของอุปกรณ์ประเภท Internet of Things (IoT) โดยจะเป็นระบบปฏิบัติการที่จะช่วยเชื่อมต่ออุปกรณ์อื่นๆ ที่ไม่ใช่อุปกรณ์พกพา สามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตได้