การที่ Android ใช้ภาษา Java ทำให้กูเกิลมีปัญหาคดีความกับซันและออราเคิล ทางออกที่เป็นไปได้ในทางทฤษฎีคือเปลี่ยนไปใช้ภาษา-แพลตฟอร์มอื่นแทน ซึ่งก็ไม่ง่ายนักในทางปฏิบัติ
คนที่ใช้ Windows 8 Consumer Preview คงทราบกันดีว่าไมโครซอฟท์เพิ่มแอพ Maps แบบ Metro เข้ามาแล้ว แน่นอนว่ามันใช้ข้อมูลจาก Bing Maps และวันนี้ไมโครซอฟท์เปิดให้นักพัฒนาทั่วไปสามารถสร้างแอพ Metro ที่ฝัง Bing Maps แบบเดียวกัน
นักพัฒนาที่อยากใช้ Bing Maps ในแอพ Metro สามารถดาวน์โหลด Bing Maps SDK for Metro style apps (Beta) (ต้องใช้คู่กับ Visual Studio 11 Beta) โดยสามารถเลือกเครื่องมือพัฒนาได้ 2 แบบคือ
เมื่อคืนนี้เป็นช่วงเวลาปล่อยของของไมโครซอฟท์อย่างแท้จริง นอกจาก Windows 8 Consumer Preview, Windows Server 8 Beta,
Windows 8 Consumer Preview จะเปิดตัววันที่ 29 กุมภาพันธ์นี้ที่งาน MWC ซึ่งในโอกาสเดียวกัน ไมโครซอฟท์ก็ประกาศออก Visual Studio 11 และ .NET 4.5 รุ่นเบต้าในวันเดียวกันด้วย
Visual Studio 11 Beta
เมื่อวานเราเพิ่งเห็นข่าว Windows Azure รองรับเทคโนโลยีฝั่งโอเพนซอร์สหลายตัว วันนี้ Cloud Foundry บริการกลุ่มเมฆแบบ PaaS ของค่าย VMware ที่เคยเจาะตลาดฝั่งโอเพนซอร์สมาก่อน ก็ทำกลับกันคือรองรับ .NET แล้ว
ถึงแม้ว่าไมโครซอฟท์จะผลักดัน WinRT และ Metro ใน Windows 8 มาใช้แทน .NET เต็มขั้น แต่คนที่ทำงานสาย .NET ก็ยังไม่ต้องกลัวว่าจะตกงาน เพราะสถิติล่าสุดนั้นกลับกัน
ภาษา Scala เป็นภาษาโปรแกรมอีกตัวหนึ่ง ที่ผสมผสานระหว่างแนวคิดเชิงวัตถุ (object-oriented) กับแนวคิดฟังก์ชัน (functional) เข้าด้วยกัน มันทำงานบน JVM ของแพลตฟอร์มจาวาอีกต่อหนึ่ง และมีลูกค้าเป็นบริษัทดังๆ อย่าง Twitter และ Foursquare
ในเมื่อมันเป็นภาษาที่ทำงานบน virtual machine อย่าง JVM ในทางทฤษฎีมันก็น่าจะทำงานบน .NET (รวมถึง Mono) ได้ด้วย และล่าสุดไมโครซอฟท์ได้สปอนเซอร์นักพัฒนาจากห้องแล็บของสถาบัน EPFL ในฝรั่งเศสซึ่งเป็นผู้สร้าง Scala พอร์ตมันมาลง .NET แล้ว
แพลตฟอร์มการพัฒนาทางเลือกอย่าง Mono เคยพอร์ตไปลง iOS มาก่อนแล้วในชื่อ MonoTouch (ข่าวเก่า) วันนี้ถึงคิวของ Android แล้ว
Mono เคยประกาศไปเมื่อปลายปีว่ากำลังทำ Monodroid แต่โครงการนี้ถูกเปลี่ยนชื่อเป็น Mono for Android และออกรุ่น 1.0 เรียบร้อยแล้ว
Mono for Android เป็นแพลตฟอร์มที่ช่วยให้เราเขียน C#, .NET บน Android ด้วยเครื่องมือพัฒนาอย่าง Visual Studio ได้ (ไม่รองรับ Visual Studio Express)
Miguel de Icaza ผู้นำโครงการ Mono เขียนบล็อกเล่าแผนการของโครงการ Mono ในอนาคต ซึ่งทีมงานของ Novell กำลังพัฒนาอยู่ และจะทยอยออกเป็นรุ่นจริงภายใน 3 เดือนข้างหน้านี้
เริ่มจากตัว Mono
ปรับประสิทธิภาพของ Garbage Collector ทำให้ประสิทธิภาพของ ASP.NET ดีขึ้น 30%
F# เป็นภาษาโปรแกรมมิ่งตัวหนึ่งของ .NET ที่ไมโครซอฟท์เพิ่งรวมเข้ามาใน Visual Studio 2010 เมื่อไม่นานมานี้
ล่าสุดไมโครซอฟท์ประกาศเปิดซอร์สของคอมไพเลอร์และไลบรารีของ F# ด้วยสัญญาอนุญาตแบบ Apache 2.0 (สามารถดาวน์โหลดได้จาก CodePlex)
อย่างไรก็ตามการเปิดซอร์สครั้งนี้ต่างไปจากโครงการโอเพนซอร์สแบบปกติอยู่บ้าง โดยไมโครซอฟท์จะไม่เปิด source tree ของ F# ที่กำลังพัฒนาอยู่ แต่จะปล่อยโค้ดทุกครั้งเมื่อ F# ออกเวอร์ชันใหม่ (ไมโครซอฟท์เรียกวิธีนี้ว่า code drop)
ก่อนหน้านี้มีข่าวมาสักพักแล้วว่าไมโครซอฟท์เริ่มเปลี่ยนนโยบายการสนับสนุนภาษา dynamic โดยการลดทรัพยากรที่ทุ่มลงมาสู่โครงการเช่น IronPython และ IronRuby ลงไปเรื่อยๆ แต่วันนี้ก็ชัดเจนแล้วว่าไมโครซอฟท์คืนโครงการนี้เป็นโครงการโอเพนซอร์สอย่างสมบูรณ์ใน CodePlex
ไมโครซอฟท์ระบุว่าการเปลี่ยนแปลงนี้จะทำให้
แม้ทางอินเทลประกาศก่อนหน้านี้ว่าจะรองรับเฟรมเวิร์คการพัฒนาที่หลากหลาย แต่ตัว SDK ของ AppUp เองนั้นก็มีเพียงภาษา C/C++ เท่านั้นส่วนภาษาอื่นๆ นั้นจำเป็นต้องเขียนตัวครอบกันขึ้นมาเอง หรือซื้อจากนักพัฒนารายอื่นๆ แต่ตอนนี้ .NET SDK รุ่นเป็นทางการก็ออกมาแล้ว
อย่างไรก็ตาม SDK รุ่นนี้ยังจำกัดอยู่ที่ .NET 3.5 เท่านั้นโดยหากใครใช้ .NET 4.0 ก็อาจจะไม่ผ่านกระบวนการตรวจสอบแอพลิเคชั่นได้ ส่วนเวอร์ชั่นใหม่นั้นน่าจะรองรับใน SDK รุ่นต่อไปที่จะออกมาปลายปีนี้
ดาวน์โหลดได้ที่ App Developer
ที่มา - AppUp Blog
Mono Project ได้ปล่อย Mono 2.8 แล้ว มีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญดังนี้
รายละเอียดอื่นๆ ดูได้จาก release notes ใครสนใจสามารถดาวน์โหลดได้จากที่นี่
ข้อดีข้อหนึ่งของเทคโนโลยี .NET คือมันรองรับภาษาจำนวนมากโดยเฉพาะภาษาในกลุ่ม dynamic เช่น Python ภายใต้โครงการ IronPython และ Ruby ภายใต้ IronRuby แต่ Jimmy Schementi โปรแกรมเมอร์คนหนึ่งที่ดูแลโครงการ IronRuby ที่เพิ่งลาออกมาก็ระบุว่าทีม IronRuby นั้นได้รับทรัพยากรจำกัดลงเรื่อยๆ ในช่วงปีหลัง ในวันที่เขาลาออกนั้นมีโปรแกรมเมอร์ทำงานส่วนนี้เพียงสองคนเท่านั้น
ไม่มีความชัดเจนว่าในส่วนของ IronPython นั้นมีสภาพเป็นเช่นไร อย่างไรก็ตามในช่วงหลังมานี้ไมโครซอฟท์เอาจริงกับ PHP ค่อนข้างมาก โดยมีการรองรับที่ดีขึ้นเรื่อยๆ ใน IIS และ Azure เองก็สนับสนุน PHP
ที่มา - International Business Times
หลังจากมีผู้ทดสอบจำนวนมากร้องเรียน Visual Studio 2010/.NET 4.0 Beta 2 มีปัญหา ไมโครซอฟท์จึงตัดสินใจเลื่อนการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ดังกล่าวออกไป พร้อมกับเพิ่มรุ่น RC มาให้ทดสอบก่อนเปิดตัวจริง (ดูข่าวเก่า โดยคุณ mk) ล่าสุดคุณ Rob Caron ผู้จัดการด้านการตลาดและประชาสัมพันธ์ ได้ประกาศผ่านบล็อกส่วนตัวว่าจะเปิดตัว Visual Studio 2010/.NET 4.0 วันจันทร์ที่ 12 เม.ย.นี้
ที่มา: บล็อกของคุณ Rob Caron ผ่าน ZDNet
ค่าย Novell ปล่อย Mono รุ่นล่าสุด 2.6 และเครื่องมือพัฒนา MonoDevelop 2.2
การออกรุ่นใหม่ครั้งนี้ห่างจากคราวก่อน (Mono 2.4 และ MonoDevelop 2.0) เป็นเวลา 9 เดือน ของใหม่ใน Mono 2.6 ได้แก่การปรับปรุง API ให้เข้ากับ .NET 3.5 มากขึ้น, การคอมไพล์โดยใช้ LLVM, สนับสนุน WCF บางส่วน, ตัวแปลง LINQ เป็น SQL เป็นต้น
Scott Guthrie หัวหน้าฝ่ายนักพัฒนาของไมโครซอฟท์ แจ้งข่าวร้ายให้กับผู้ใช้ VS/.NET ว่า VS 2010 และ .NET 4.0 มีเหตุให้ต้องเลื่อนการออกรุ่นจริง
ปัญหาคือ VS 2010 Beta 2 มีปัญหาด้านประสิทธิภาพและ virtual memory ซึ่งไมโครซอฟท์รับรู้แล้ว และกำลังแก้ไขปัญหานี้ในตลอดช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตามเพื่อความชัวร์ ไมโครซอฟท์จะออกรุ่น RC เพิ่มขึ้นอีกหนึ่งรุ่นเพื่อเปิดให้ผู้ใช้ทดสอบ รุ่น RC จะออกช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2010 ซึ่งเป็นผลให้รุ่นจริงต้องเลื่อนออกไปอีกสักพัก
ที่มา - Scott Guthrine (ขอบคุณคุณ @meekob ที่แจ้งข่าวนี้ครับ)
ที่งาน Professional Developer Conference (PDC) ไมโครซอฟท์ได้ประกาศ .NET Micro Framework รุ่น 4.0 และที่น่าตื่นเต้นกว่าคือมันจะเปิดเผยซอร์สโค้ด โดยใช้สัญญาอนุญาตแบบ Apache 2.0 License
เท้าความก่อนว่า .NET Framework แบ่งเป็น 3 ระดับครับ รุ่นใหญ่คือ .NET Framework ตัวเต็มที่เราใช้กันบนพีซี รุ่นกลางคือ .NET Compact Framework ซึ่งใช้บนมือถือ Windows Mobile และ Xbox 360 ส่วนรุ่นเล็กสุดก็ .NET Micro Framework ซึ่งทำงานได้บนหน่วยความจำ 300KB เท่านั้น (Compact Framework ต้องใช้ 12MB)
บริษัท Noelios Technologies ซึ่งเป็นบริษัทที่พัฒนาโอเพ่นซอร์สด้านเว็บเทคโนโลยี (REST, SaaS และเว็บเซอร์วิส) บนจาวา ได้อัพเดตโปรเจค Restlet เป็นรุ่น 2.0 Milestone 5 (M5) ซึ่งเป็น REST Framework ที่เพิ่ม Restlet Extension for ADO.NET Data Services โดยได้รับการสนับสนุนทางการเงินจากไมโครซอฟท์
โดย Restlet Extension for ADO.NET Data Services ได้จัดเตรียม API เพื่อเข้าถึง data service จากระยะไกลที่ทำงานบน IIS หรือ Windows Azure บริการประมวลผลบนกลุ่มเมฆ สำหรับรูปสถาปัตยกรรมดูได้จากที่มา
ScottGu ได้เผยความสามารถใหม่ของ Visual Studio 2010 ด้านการสนับสนุน Multi-Monitor ซึ่งปกติแล้วใน Visual Studio รุ่นก่อนหน้านี้ จะมีการจัดวางหน้าต่างย่อย เช่น editor, designer, properties ฯลฯ ไว้ในหน้าต่างหลักอันเดียว (single top-level window) ซึ่งนักพัฒนาไม่สามารถดึงหน้าต่างย่อยออกมาข้างนอกได้
ปัญหาสำคัญมากอันหนึ่งของโครงการ Mono (.NET เวอร์ชันโอเพนซอร์ส) คือไมโครซอฟท์ถือครองสิทธิบัตรที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีใน .NET Framework อยู่หลายชิ้น และไม่มีอะไรรับประกันว่าในอนาคตไมโครซอฟท์จะไม่ใช้ประโยชน์จากทรัพย์สินทางปัญญาเหล่านี้ (เช่น ฟ้องบริษัทที่นำ Mono ไปใช้งานว่าละเมิดสิทธิบัตรของ .NET)
ไมโครซอฟท์เคยสัญญาว่าจะไม่ดำเนินการในเรื่องนี้ แต่นั่นก็เป็นแค่สัญญาลมปาก (ยกเว้นสัญญาที่เคยตกลงกับ Novell แต่นั่นก็คุ้มครองแค่ Novell) ล่าสุดไม่เป็นแค่ลมปากแล้ว
หลังจากเปิดตัวโปรแกรมรุ่นใหม่ไปเมื่อปีก่อน ไมโครซอฟท์ออก Visual Studio 2010 และ .NET Framework 4.0 รุ่นเบต้า 1 แล้ว
เมื่อสองอาทิตย์ที่แล้ว ไมโครซอฟท์ออก ASP.NET MVC 1.0 ตัวจริงที่งาน MIX'09 (อ่านข่าวเก่าเกี่ยวกับ ASP.NET MVC) มาวันนี้เปิดซอร์สโค้ดแล้ว โดยใช้สัญญาอนุญาตแบบ MS-PL ของไมโครซอฟท์เอง (แต่ OSI รับรองว่าเป็นสัญญาอนุญาตแบบโอเพนซอร์ส เช่นเดียวกับพวก GPL, MIT, BSD)
ผู้ที่สนใจสามารถดูรายละเอียดเพิ่มได้ดังนี้
ค่าย Novell ยังคอยส่ง Mono ซึ่งเป็น .NET Framework เวอร์ชันโอเพนซอร์สออกมาเป็นระยะ
Mono 2.4 เป็นการปรับปรุงด้านประสิทธิภาพและเสถียรภาพขึ้นมาจาก Mono 2.2 โดยในบางจุด เช่น ส่วนของ XPath มีประสิทธิภาพดีขึ้น 15%, ปรับปรุงฟีเจอร์ของคอนโทรล DataGridView และตอนนี้ Mono 2.4 สามารถรัน ASP.NET ที่คอมไพล์มาจาก Visual Studio ได้แล้ว รายละเอียดดูใน Release Notes ของ Mono 2.4 ดาวน์โหลดได้บนวินโดวส์ แมค ลินุกซ์
MonoDevelop คือ IDE สำหรับ Mono ซึ่งมันพัฒนาต่อมาจาก SharpDevelop บนวินโดวส์ (แต่ MonoDevelop ใช้ได้บนลินุกซ์อย่างเดียว) ฟีเจอร์ใหม่ๆ ของ MonoDevelop 2.0 มีดังนี้