ALKOO แอพนำทางที่พัฒนาโดยบริษัทญี่ปุ่น NAVITIME โชว์ไอเดียน่าสนใจด้วยการเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ชื่อ "Shade Map" เอาใจผู้ใช้งานที่นิยมการเดินตามท้องถนน ด้วยการแสดงเงาอาคารในแผนที่ภายในแอพแบบเรียลไทม์ ช่วยให้ผู้ใช้สามารถวางแผนเลือกเส้นทางเพื่อเดินหลบร้อนได้ง่ายขึ้น

ข้อมูลแผนที่ใน ALKOO นั้นมีโมเดล 3 มิติของตัวอาคารอยู่แล้ว เมื่อประกอบกับข้อมูลเวลาก็ทำให้ตัวแอพสามารถรู้ตำแหน่งดวงอาทิตย์ในแผนที่ และคำนวณการเกิดเงาของอาคารที่ทอดลงบนพื้นได้

บริษัท KDDI ผู้ให้บริการโทรคมนาคมรายใหญ่ของญี่ปุ่น จับมือกับ Mawari ผู้ให้บริการระบบเรนเดอร์และสตรีมมิ่ง AR ผ่านระบบคลาวด์ เปิดตัว Aiko บริการมนุษย์ดิจิทัล Digital Human as a Service หรือ DHaaS ที่อยู่ในช่วง Proof of Concept

Aiko จะเป็นผู้ช่วยอัจฉริยะที่จะทำงานโดยการประสานกันระหว่างเครือข่ายของ 5G ของ KDDI, ระบบ AWS Wavelength และระบบสตรีมมิ่งกราฟฟิกในโลก AR บนแพลตฟอร์ม Mawari XR Streaming

Google ประกาศฟีเจอร์ใหม่ของระบบแผนที่ Google Maps หลายรายการ โดยครั้งนี้มีการขยายฟีเจอร์ Google Maps AR ให้รองรับมือถือหลายรุ่น, แท็บ Reservations ใน Places และ Timeline ที่ใช้งานได้ง่ายขึ้น

ฟีเจอร์ Google Maps AR หรือระบบนำทางด้วยการใช้ AR บนพื้นที่จริงได้เริ่มทดลองใช้งานมาสักระยะแล้ว และวันนี้ Google ได้เปลี่ยนชื่อโหมดนี้ใหม่เป็น Live View รวมถึงเปิดให้มือถือใช้งานได้อีกหลายรุ่น

Google Maps โหมด Live View จะเป็นการนำทางที่ใช้ได้ในโหมดเดินเท้าเท่านั้น โดยวิธีใช้งานคือปักหมุดสถานที่ที่จะไป จากนั้นกดปุ่ม Live View ระบบจะเปิดกล้องและวางลูกศรนำทางบนสิ่งแวดล้อมจริง และจะมีหมุดขนาดใหญ่ปักเพื่อบอกว่ามาถึงที่หมายแล้ว

หลังอยู่ในโหมดในทดสอบมากว่าสองปี Google Maps ก็เริ่มแสดงข้อมูลการจำกัดความเร็ว (Speed Limit) เมื่อผู้ใช้งานเข้าสู่โหมดนำทางแล้ว โดยมีผลทั้งกับผู้ใช้บน Android และ iOS อย่างไรก็ตามข้อมูลการจำกัดความเร็วตอนนี้ มีเฉพาะในอเมริกา, อังกฤษ และเดนมาร์ก ก่อน

นอกจากเริ่มต้นในข้อมูลจำกัดความเร็ว Google Maps ยังเริ่มทดสอบการแสดงข้อมูลตำแหน่งกล้องตรวจจับความเร็วอีกด้วย ซึ่งเริ่มต้นในผู้ใช้งานจำนวนหนึ่งของ อเมริกา, อังกฤษ, ออสเตรเลีย, รัสเซีย, บราซิล, เม็กซิโก, แคนาดา, อินเดีย และอินโดนีเซีย

การแสดงข้อมูลดังกล่าวถือเป็นข้อมูลพื้นฐานในโปรแกรมแผนที่นำทางอยู่แล้ว เพียงแต่ Google Maps เพิ่มนำมาเพิ่มเติมนั่นเอง

ทีมวิจัยจาก Imperial College ประกาศความสำเร็จในการสร้าง quantum accelerometer ระบบจับความเคลื่อนไหวในทิศทางต่างๆ แบบเดียวกับ accelerometer ในโทรศัพท์มือถือ แต่มีความแม่นยำสูงอย่างมากจนสามารถใช้คำนวณพิกัดปัจจุบันได้อย่างแม่นยำ

quantum accelerometer อาศัยการหยุดอะตอมให้นิ่ง (เย็น) จนกระทั่งมีคุณสมบัติควอนตัมที่มีลักษณะเป็นคลื่น เมื่อมีการเคลื่อนที่ ลักษณะของคลื่นจะเปลี่ยนไปและสามารถวัดความเปลี่ยนแปลงได้อย่างแม่นยำ

ตอนนี้เครื่อง quantum accelerometer ยังสามารถวัดการเคลื่อนที่ได้แกนเดียวเท่านั้น การใช้งานจริงต้องวัดการเคลื่อนที่ให้ได้ทั้งสามมิติแบบเดียวกับโทรศัพท์มือถือ

เดือนกรกฎาคมนี้จีนยิงดาวเทียม BeiDou-3 สองครั้งภายในเดือนเดียว ทำให้ดาวเทียม BeiDou-3 ขึ้นสู่วงโคจร 10 ดวงแล้ว และคาดว่าจะขึ้นสู่วงโคจรภายในปีนี้ 18 ดวง ครอบคลุมพื้นที่ตามแผนการ Belt and Road ของจีน

กำหนดการยิงดาวเทียมในระบบ BeiDou-3 จะครบ 35 ดวง ให้บริการได้ทั่วโลกในปี 2020 นับเป็นระบบดาวเทียมนำทางระบบที่สี่ในโลกที่ให้บริการครอบคลุมทั้งโลก ต่อจาก GPS, GLONASS, และ Galileo

Galileo ของสหภาพยุโรปเพิ่งยิงครบ 24 ดวงตามที่ออกแบบไว้ในเดือนนี้ แต่กว่าจะเริ่มให้บริการทั้งโลกได้จริงน่าจะช่วงปลายปี

ที่มา - beidou.gov.cn

วันนี้องค์การอวกาศยุโรป (European Space Agency - ESA) ส่งดาวเทียม Galileo สี่ดวงขึ้นไปกับจรวด Ariane 5 ทำให้ดาวเทียมในวงโคจรมีทั้งหมด 26 ดวง ครบเครือข่าย 24 ดวง และ 2 ดวงสำรองเป็นครั้งแรก ใกล้จบเฟสการนำส่งดาวเทียมนำร่องของยุโรปเองที่เริ่มส่งขึ้นไปตั้งแต่ปี 2011

ดาวเทียมทั้งสี่ดวงต้องทดสอบอีก 6 เดือนก่อนเริ่มใช้งานนำร่องตามระบบ

แม้จะครบเครือข่ายแล้ว แต่ทาง ESA ก็เตรียมโครงการขั้นต่อไป โดยดาวเทียม Batch 3 อีก 12 ดวงกำลังอยู่ระหว่างการเตรียมการ เพื่อจะยิงขึ้นไปช่วงกลางทศวรรษ 2020 ทดแทนดาวเทียมชุดแรกๆ ที่ยิงไปตั้งแต่ปี 2011

ที่มา - ESA

มีผู้ใช้รายงานว่า Google Maps เริ่มบอกเส้นทางโดยขึ้นกับจุดสังเกตข้างถนนแล้ว จากปกติที่จะบอกเส้นทางโดยขึ้นกับระยะทางหรือถนน เพื่อให้มีลักษณะคล้ายกับมนุษย์มากยิ่งขึ้น และช่วยในการขับรถของผู้ใช้ได้ดีกว่าเดิมเนื่องจากจุดสังเกตต่าง ๆ มักจะเห็นได้ง่ายกว่าป้ายบนถนน โดยเฉพาะเมื่อขับรถไปยังสถานที่ที่ไม่คุ้นเลย

ตัวอย่างที่ Google Maps บอกทางผู้ใช้ตามรายงาน เช่น “เลี้ยวขวาหลังเบอร์เกอร์คิง” หรือ “เลี้ยวขวาหลังร้าน White Castle” เป็นต้น

คาดว่าฟีเจอร์นี้ Google น่าจะเพิ่งเริ่มทดสอบในกลุ่มเล็ก ๆ แล้ว แต่ยังไม่มีข้อมูลว่า Google ใช้วิธีเลือกแลนด์มาร์กอย่างไร และเริ่มทดสอบที่ไหนแล้วบ้าง

ท่าอากาศยานลอนดอนแกตวิก (London Gatwick Airport) ซึ่งนับเป็นสนามบินที่ใหญ่อันดับ 2 ของสหราชอาณาจักรได้นำ beacon เทคโนโลยีบอกพิกัดผ่าน Bluetooth มาใช้งานสำหรับการนำทางภายในตัวสนามบิน ซึ่งมีการติดตั้ง beacon ไปแล้วกว่า 2,000 ภายในอาคารผู้โดยสารทั้งสองอาคาร

ทางสนามบินมีแผนจะนำ beacon เหล่านี้มาเสริมระบบนำทางแบบ Augmented Reality ที่กำลังร่วมพัฒนากับสตาร์ทอัพ รวมไปถึงจะเปิดให้สายการบินหรือร้านค้าสามารถใช้งาน beacon เหล่านี้ได้ด้วย ทั้งการแจ้งเตือนผู้โดยสารหรือโฆษณาประชาสัมพันธ์ก็ตาม

อย่างไรก็ตามสนามบินยืนยันว่าจะไม่มีการเก็บข้อมูลส่วนตัวผู้ใช้แต่อย่างใด มีเพียงการนำข้อมูลความหนาแน่นของผู้โดยสารตามตำแหน่งหรือโซนต่างๆ มาวิเคราะห์เพื่อปรับปรุงการให้บริการภายในสนามบินเท่านั้น

แอพนำทางบนมือถือ Waze ได้เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ให้ผู้ใช้คือการอัดเสียงเพื่อทำเป็นเสียงพูดในการนำทางของโหมด turn-by-turn ในแอพได้ เป็นทางเลือกเพิ่มเติมจากเสียงของเซเลบหลายคนที่มีให้เลือกในแอพ Waze

ฟีเจอร์นี้ Waze เรียกว่า the Waze voice recorder ซึ่งวิธีตั้งค่าคือเมื่อผู้ใช้อัพเดตแอพเป็นเวอร์ชันใหม่ล่าสุด (ปัจจุบันยังรองรับเฉพาะ Android เท่านั้น) จากนั้นไปที่การตั้งค่าของแอพ เลือก Sound & Voice จะเห็นตัวเลือกให้อัดเสียงของตัวเอง โดย Waze จะมีคำสั่งที่ใช้งานบ่อย ๆ มาแสดง และผู้ใช้จะต้องอัดเสียงลงไปในแต่ละคำสั่ง ซึ่งจะเป็นเสียงตัวเองหรือเป็นเสียงของใครก็ได้

J.D. Power and Associates บริษัทวิจัยการตลาดเปิดเผยผลสำรวจจากผู้ใช้รถ ที่เพิ่งซื้อรถใหม่ไม่เกิน 90 วันเกี่ยวกับเทคโนโลยีบนรถพบว่า ส่วนใหญ่ค่อนข้างพอใจกับเทคโนโลยีต่างๆ ที่มีอยู่บนรถยนต์ในปัจจุบัน โดยคะแนนเฉลี่ยอยู่ที่ราว 730 จาก 1,000 โดยเทคโนโลยีที่มีคะแนนรั้งท้ายคือระบบนำทางบนรถ ที่ได้คะแนนความพึงพอใจอยู่แค่ 687 คะแนน

ผลสำรวจชี้ว่าเกินกว่า 50% ของผู้ใช้รถที่มีระบบ GPS ติดตั้งมาให้ใช้ ไม่เคยใช้งานระบบนำทางบนรถเลย ขณะที่ 2/3 ระบุว่าใช้สมาร์ทโฟนหรืออุปกรณ์นำทางพกพาแทน ส่วนอีกเกือบๆ 1/3 ระบุว่าเคยใช้งานระบบนำทางบนรถราว 2 อาทิตย์ ก่อนจะล้มเลิกและหันมาใช้สมาร์ทโฟนแทน

ฟีเจอร์สำคัญมากอย่างหนึ่งของระบบนำทางคือการแสดงการจำกัดความเร็ว (speed limit) ของถนนเส้นนั้นๆ ซึ่งซอฟต์แวร์นำทางหลายเจ้าก็มีกันนานแล้ว เช่น HERE We Go (HERE Maps เดิม) หรือระบบนำทางที่ฝังมากับรถยนต์ แต่ Google Maps ซึ่งเป็นหนึ่งในระบบแผนที่และการนำทางที่มีผู้ใช้มากที่สุดกลับไม่เคยมีฟีเจอร์นี้ ล่าสุดมีรายงานว่ากูเกิลเริ่มนำฟีเจอร์นี้เข้ามาแล้ว

ผู้ใช้ Reddit คนหนึ่งได้โพสต์รูปจากหน้าจอแอพ Google Maps บนแอนดรอยด์ที่แสดงความเร็วสูงสุดที่กฏหมายกำหนดบริเวณมุมล่างซ้าย พร้อมเล่าว่ามันขึ้นมาตอนกำลังเดินทางในช่วงเช้า หลังจากนั้นก็มีรายงานว่าระบบนำทางบน Android Auto ก็เริ่มแสดงความเร็วสูงสุดแล้วเช่นกัน

สำหรับคนที่ชอบเดินท่องเที่ยวชมวิวทิวทัศน์ในเมืองที่ไม่คุ้นเคย การที่ต้องมัวเดินไปและก้มดูแผนที่ไปคงทำให้ความรื่นรมย์ในการท่องเที่ยวลดน้อยไปพอควร ด้วยเหตุนี้จึงมีผู้คิดค้นรองเท้าที่จะช่วยบอกทางได้โดยไม่ต้องเสียเวลาเปิดดูแผนที่ ชื่อของมันคือ Sneakairs

Sneakairs นี้เป็นรองเท้าที่พัฒนาขึ้นภายใต้โครงการ BarcelonaStreetProject ซึ่งเป็นโครงการที่ EasyJet สายการบินราคาประหยัดจากอังกฤษ จัดทำขึ้นด้วยไอเดียส่งเสริมการท่องเที่ยวสำหรับนักท่องเที่ยวที่นิยมการเดินเท้าชมเมืองต่างๆ

เว็บไซต์นิตยสาร TIME ระบุว่า Google ได้เพิ่มเสียงของ Morgan Freeman นักแสดงชื่อดังของอเมริกา เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของระบบช่วยนำทางโดยใช้เสียง (voice navigation) ของแอพ Waze แอพนำทางแจกฟรีของตนเองแล้ว

เสียงของ Freeman ที่ถูกเพิ่ม เป็นส่วนหนึ่งของการตลาด (tie-in) ของภาพยนตร์เรื่อง London Has Fallen ที่กำลังจะฉาย โดย Freeman รับบทเป็นรองประธานาธิบดีในหนังเรื่องนี้ เสียงที่ถูกเพิ่มเข้ามาจะใช้ในการนำทาง (navigation) เสมือนหนึ่งว่ามีรองประธานาธิบดีมาช่วยนำทางให้ไปถึงจุดหมาย

คงไม่มีคำพูดว่า "I'm taking a vacation." ระหว่างการนำทางครับ

ที่มา - TIME

iPark ระบบค้นหาที่จอดรถจากความร่วมมือระหว่าง BMW กับ Inrix บริษัทด้านข้อมูลการจราจร เพื่อใช้งานจริงในรถยนต์ที่ผลิตออกสู่ตลาดภายในสิ้นปีนี้

การทำงานของ iPark รุ่นต้นแบบใน BMW i3 จะโชว์ข้อมูลบนหน้าจอของรถในลักษณะเดียวกับการแสดงข้อมูลการจราจรของ Google Maps แต่แถบสีบ่งบอกถึงโอกาสของที่ว่างแทนความหนาแน่นของการจราจร ระบบยังแสดงราคา บริเวณที่จอด และข้อกำหนดต่างๆ และหากไม่มีที่ว่างบริเวณถนน ระบบจะค้นหาในพื้นที่จอดรถให้แทน

หมวกกันน็อคพร้อมระบบนำทาง และสั่งงานด้วยเสียงนี้ถูกออกแบบโดยบริษัทสตาร์ทอัพแห่งหนึ่งของรัสเซียชื่อ Livemap ใช้ระบบปฏิบัติการ Android เป็นฐาน มี GPS ในตัว และรองรับการสั่งงานด้วยเสียง ตัวหมวกทำด้วยคาร์บอนไฟเบอร์ที่แข็งแรงทนทาน ผ่านมาตรฐาน DOT ของสหรัฐอเมริกา, ECE 22.05 ของยุโรป, JIT T 8133 ของญี่ปุ่น และ FCC ของสหรัฐอเมริกา น้ำหนักประมาณ 1.4 กิโลกรัม ขนาดใหญ่กว่าหมวกกันน็อคแบบเต็มใบทั่ว ๆ ไปเล็กน้อย

นอกจากระบบนำทางที่สั่งการด้วยเสียง ที่สามารถสั่งงานได้ในสภาพแวดล้อมที่มีเสียงรบกวนสูง และใช้คำสั่งที่เข้าใจได้ง่าย พร้อมแผนที่ทั่วโลกแล้ว Livemap ยังสามารถรายงานสภาพการจราจร สภาพอากาศ จุดที่น่าสนใจในบริเวณนั้นได้อีกด้วย

งาน WWDC 2014 ที่ผ่านไปเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว Apple ได้เปิดตัวและแนะนำอัพเดตต่างๆ มากมายไม่ว่าจะเป็น OS X และ iOS เวอร์ชันใหม่ ภาษา Swift ใหม่ และการให้บริการบนคลาวด์เป็นต้น แต่สิ่งหนึ่งที่หลายคนคาดหวังว่าจะได้รับการปรับปรุงอย่างมาก แต่ทาง Apple แทบไม่พูดถึงเลยคือ การบริการด้านแผนที่

หลังจากที่ Google ได้เพิ่มแผนที่ของเกาหลีเหนือลงใน Google Maps ไปเมื่อปีที่แล้ว ล่าสุดระบบนำทาง (navigation) สามารถใช้งานบนแผนที่ของเกาหลีเหนือได้แล้วเช่นกัน

การใช้งานระบบนำทางนี้ ถึงแม้ทาง Google จะแสดงเส้นทางของรถไฟและรถรางในกรุงเปียงยาง แต่จะมีเพียงตัวเลือกเส้นทางของรถยนต์และการเดินเท้าเท่านั้นที่ใช้งานได้ ถึงกระนั้น การเปิดใช้งานระบบนี้ก็ดูจะไม่มีประโยชน์สำหรับคนในประเทศอยู่ดี อาจทำได้เพียงทำให้คนนอกรู้เส้นทางคมนาคมของเกาหลีเหนือมากขึ้นนิดหน่อยเท่านั้น

ที่มา - The Next Web