หลังการถือกำเนิดของ Android Pay หลายคนอาจสงสัยว่ากูเกิลจะยกเลิก Google Wallet หรือไม่ วันนี้มีคำตอบแล้วว่าไม่เลิก แต่จะเปลี่ยน Google Wallet ไปทำภารกิจใหม่คือการส่งเงินให้เพื่อนแบบ P2P (person-to-person) ลักษณะเดียวกับ PayPal แทน

ผู้ใช้แอพ Google Wallet เดิมจะได้อัพเกรดแอพเป็น Android Pay ทั้งหมด ส่วนแอพ Google Wallet ตัวใหม่จะออกมาให้ดาวน์โหลดต่างหาก มีทั้งบน iOS และ Android แต่ยังไม่บอกว่าจะออกเมื่อไร

การใช้งานคือคนที่มีบัตรเดบิตของสหรัฐอเมริกา สามารถส่งเงินให้เพื่อนได้หมด (ผู้รับไม่ต้องมี Google Wallet) ส่วนฝั่งของผู้รับสามารถเลือกได้ว่าจะเก็บไว้ในบัญชี Google Wallet หรือจะให้โอนเข้าบัญชีก็ได้

กูเกิลเปิดตัว Android Pay บริการจ่ายเงินที่เปิดให้ผู้ใช้ผูกบัตรเครดิตเข้าไว้กับแอพพลิเคชั่นแบบเดียวกับ Apple Pay

จุดสำคัญของ Android Pay คือแอพพลิเคชั่นที่รับบัตรเครดิตอยู่แล้วจะสามารถรับจ่ายเงินผ่าน Android Pay ได้ทันที ทำให้เราไม่ต้องผูกบัตรเครดิตเข้าไว้กับทุกแอพเหมือนเดิมอีกต่อไป บริการที่รองรับ Android Pay แล้ว เช่น Uber, Livingsocial, Groupon และร้านค้าที่เป็นแอพอื่นๆ

ในงานกูเกิลระบุว่า Android Pay จะรองรับโทรศัพท์ทุกรุ่นที่มี NFC แต่ยังไม่ยืนยันว่าโทรศัพท์ที่ไม่มี NFC จะใช้งานไม่ได้เลยหรือใช้ได้เฉพาะการจ่ายในแอพ

ที่มา - Android Official Blog

ที่งาน Google I/O 2015 กูเกิลเผยข้อมูลของ Android "M" โดยบอกว่ารุ่นนี้ไม่เน้นฟีเจอร์ใหม่มากนัก เน้นปรับปรุงคุณภาพและแก้บั๊กเป็นหลัก

ของใหม่หลักๆ ของ Android M มีทั้งหมด 6 อย่าง ดังนี้

App Permission

update: แก้ไขข้อมูลผิดพลาด ส่วนที่หยุดให้บริการคือ e-wallet ไม่เกี่ยวกับแอพพลิเคชั่น

Paysbuy เปิดบริการแอพพลิเคชั่นรับจ่ายเงินโดยสามารถผูกบัตรเครดิตเข้าไว้เป็น e-wallet ได้ แต่มีผู้ใช้หลายรายแจ้งเข้ามาทางเว็บไซต์ Pantip.com ว่าเมื่อผูกบัตรเครดิตแล้วกลับถูกนำข้อมูลออกไปจ่ายเงินซื้อสินค้าโดยไม่รู้ตัว

ตอนนี้แม้ยังไม่มีข้อมูลยืนยันว่าข้อมูลหมายเลขบัตรเครดิตหลุดออกไปได้อย่างไร ทาง Paysbuy ประกาศกับผู้ใช้ว่ากำลังอยู่ระหว่างการตรวจสอบกับธนาคารและผู้ให้บริการที่เกี่ยวข้อง โดยเบื้องต้นจะปิดบริการผูกบัตรเครดิตเอาไว้ก่อน

ถ้ายังจำเรื่องของกลุ่มร้านค้าปลีก MCX ที่ออกมาตรฐาน CurrentC มาสู้กับ Apple Pay และ Google Wallet กันได้ ความพยายามผลักดัน CurrentC ยังไม่ค่อยเห็นผลมากนัก ทำให้เราเริ่มเห็นร้านค้าบางรายเริ่ม "ตีจาก" บ้างแล้ว

สมาชิกของ MCX ที่กลับลำมารองรับ Apple Pay คือร้านขายอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ Best Buy ที่ออกมาประกาศว่าตอนนี้รองรับ Apple Pay สำหรับการซื้อผ่านแอพของ Best Buy แล้ว ส่วนการใช้ Apple Pay จ่ายเงินภายในร้านจะใช้ได้ภายในปีนี้

บริษัทระบบจ่ายเงิน Square เคยเปิดบริการโอนเงินระหว่างเพื่อน Square Cash ตั้งแต่ปี 2013 มาถึงปีนี้ Square ขยายบริการดังกล่าวเป็น Square Cash for Businesses ที่ช่วยให้องค์กรธุรกิจรับการจ่ายเงินได้ง่าย

วิธีการคือผู้ใช้ Square ที่ต้องการรับเงินจะต้องสร้างบัญชี $Cashtag บนเว็บไซต์ cash.me (เข้าได้เฉพาะในสหรัฐ) รูปแบบจะคล้ายการใช้ @ นำหน้าบัญชีทวิตเตอร์ แต่เปลี่ยนมาเป็นตัว $ นำหน้าชื่อแทน

Facebook ได้เปิดตัวฟีเจอร์ด้านการเงินใหม่คือการส่งเงินให้เพื่อนผ่าน Messenger ซึ่งอำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้ Facebook สามารถส่งเงินได้ง่ายๆ ผ่าน Messenger และใช้งานได้ฟรี

วิธีส่งเงิน คือเปิดหน้าแชท กดปุ่ม $ ใส่จำนวนเงิน กดปุ่ม Pay และใส่เลขบัตรเดบิตหากใช้งานเป็นครั้งแรก ก็สามารถส่งเงินไปยังฝ่ายตรงข้ามได้

ส่วนวิธีรับเงิน เพียงเปิดหน้าแชท และใส่เลขบัตรเดบิตหากใช้งานเป็นครั้งแรก ก็ได้รับเงินเรียบร้อย โดยจะใช้เวลา 1-3 วันทำการเงินจะมาถึงบัญชีผู้รับ ขึ้นอยู่กับธนาคาร

PayPal ประกาศเข้าซื้อ Paydiant ผู้พัฒนาระบบชำระเงินผ่านอุปกรณ์พกพาซึ่งอยู่เบื้องหลังหลายบริษัท อาทิ Subway และ Capital One (ธนาคารด้านสินเชื่อและเครดิต) รวมถึงกลุ่ม Merchant Customer eXchange (MCX) (ที่แบน Apple Pay ไปช่วงเวลาหนึ่ง) ประกอบด้วย Walmart และ Exxon เป็นต้น ทั้งสองบริษัทกล่าวว่าดีลนี้จะเสร็จสิ้นราวปลายเดือนนี้ถึงเดือนหน้า

แหล่งข่าวเปิดเผยกับเว็บไซต์ Re/code ว่า ดีลนี้มีมูลค่ากว่า 280 ล้านดอลลาร์ (ราว 9.2 พันล้านบาท)

หลังมีรายงานว่า Apple Pay กลายเป็นแหล่งฉ้อโกงเพราะกระบวนการเพิ่มบัตรเครดิตเข้าระบบง่ายเกินไป วันนี้ Wall Street Journal รายงานว่าธนาคารเริ่มพยายามรับมือกับปัญหานี้ด้วยการเพิ่มมาตรการก่อนยอมให้เพิ่มบัตร

ธนาคารบางแห่งเริ่มเพิ่มคำถามก่อนอนุมัติการเพิ่มบัตรมากกว่าปกติ เช่น รายการซื้อสินค้าล่าสุด บางธนาคารส่งหมายเลขอนุมัติเข้าไปยังโทรศัพท์หรืออีเมล ส่วนลูกค้าที่ใช้ iTunes มาก่อนแล้วมักอนุมัติได้ง่ายกว่า

รายงานระบุว่าข้อมูลบัตรที่ใช้ฉ้อโกงบางส่วนหลุดออกมาตั้งแต่ปี 2013

ที่มา - Wall Street Journal

หลังข่าว กูเกิลซื้อเทคโนโลยี Softcard, ผนึกกำลังโอเปอเรเตอร์สหรัฐดัน Google Wallet อีกรอบ ทางบริษัท Softcard ก็ส่งอีเมลถึงลูกค้าว่าจะปิดบริการแอพและบัญชี Softcard ในวันที่ 31 มีนาคมนี้ และขอให้ลูกค้าย้ายไปใช้ Google Wallet แทน

ต้องรอดูว่า Google Wallet ยุคใหม่ที่ได้เทคโนโลยีจาก Softcard ไปจะเดินหน้าต่อไปทางไหน นี่ยังไม่รวมข่าวลือว่าเราจะได้เห็น Android Pay บริการจ่ายเงินผ่านมือถืออีกตัวของกูเกิล (ที่ไม่รู้ว่าจะออกมาทับกับ Google Wallet หรือไม่) อีกด้วย

บริการ Apple Pay เป็นความภาคภูมิใจอย่างหนึ่งของแอปเปิลที่ปรับระบบการจ่ายเงินให้อยู่ในโทรศัพท์มือถืออย่างสมบูรณ์ และยังปรับระบบจ่ายเงินให้สั่งจ่ายด้วยหมายเลขแบบใช้ครั้งเดียวทิ้งแทนที่จะเป็นหมายเลขบัตรโดยตรง แต่รายงานล่าสุดจาก Wall Street Journal อ้างแหล่งข่าวไม่เปิดเผยตัวตนระบุว่าอัตราการฉ้อโกงด้วย Apple Pay นั้นสูงมาก อาจจะสูงถึง 6% ของจำนวนการจ่ายทั้งหมดเมื่อเทียบกับอัตราการฉ้อโกงด้วยบัตรธรรมดาที่ 0.1% เท่านั้น

dtac เปิดบริการการเงิน แจ๋ว ที่ให้บริการโดยบริษัท Paysbuy อาศัยตัวแทน 7,000 จุดทั่วประเทศในการรับจ่ายเงิน

บริการนี้เน้นการให้บริการเงินจำนวนไม่มากนัก การโอนเงินได้ไม่เกินครั้งละ 5,000 บาท และไม่เกิน 10,000 บาทต่อคนต่อวัน โดยมีค่าธรรมเนียม 30 ถึง 50 บาทต่อครั้ง ส่วนการจ่ายบิล โดยต้องไปรับเงินจากร้านค้าตัวแทน

บริการนี้ไม่ได้เป็นบริการเสริมของ dtac โดยตรง (ใช้งานได้ทุกเครือข่าย) แต่อาศัยช่องทางของ dtac และแจ้งโอนเงินผ่าน SMS เป็นหลัก ตัวร้านค้าที่เป็นตัวแทนรับจ่ายเงินก็จะให้บริการโดยทาง Paysbuy จะยืนยันให้จ่ายเงินได้ผ่าน SMS เช่นเดียวกัน

ที่มา - จดหมายข่าว dtac

PayPal Here เครื่องอ่านบัตรเครดิตรับชำระเงินคู่แข่งโดยตรงกับ Square ออกมาตั้งแต่ปี 2012 ตอนนี้มันมีอัพเดตครั้งใหญ่กลายเป็นเครื่องอ่าน NFC และบัตร EMV แล้ว ทำให้ PayPal รับบัตรรุ่นใหม่ๆ ได้ในที่สุด

เครื่องอ่านนี้รองรับการทำงานแบบ Chip and PIN เมื่อต้องการรับจ่ายเงินก็ยื่นเครื่องให้กับลูกค้าเพื่อยืนยันการจ่ายเงินได้ แต่ตัวเครื่องต้องเชื่อมต่อกับโทรศัพท์มือถือผ่าน Bluetooth เสมอ

ราคาเครื่องยังไม่แจ้ง แต่ระบุว่าช่วงแรกจะมีส่วนลด ส่วนค่าธรรมเนียมบัตรในสหรัฐฯอยู่ที่ 2.7% ถ้ารับบัตรต่างประเทศจะอยู่ที่ 3.7% เปิดตัวในสหราชอาณาจักรและออสเตรเลียก่อน ส่วนสหรัฐฯ จะเปิดตัวปลายปีนี้

ซัมซุงเพิ่งประกาศซื้อบริษัท LoopPay ไปไม่กี่วัน ตอนนี้ก็ประกาศใช้เทคโนโลยีที่ได้มากับบริษัท Samsung Pay ที่เปิดตัววันนี้แล้ว

Samsung Pay จะทำงานร่วมกับเครือข่าย VISA และ MasterCard ทำให้มีร้านค้ารับบริการนี้ประมาณ 30 ล้านร้านค้าทั่วโลก มากกว่าบริการที่จ่ายผ่าน NFC อื่นๆ เพราะสามารถใช้งานได้ผ่าน Magnetic Secure Transmission (MST) ที่เป็นอุปกรณ์เสริมจาก LoopPay

นอกจากการจ่ายเงินผ่านบัตรเครดิตด้วยโทรศัพท์มือถือแล้ว Samsung Pay จะรองรับการจ่ายผ่านบัตรเติมเงิน, บัตรของขวัญ, และบัตรสะสมแต้มอื่นๆ ได้ด้วย ทำให้ร้านค้ามีตัวเลือกมากกว่าบริการคู่แข่งอย่าง Apple Pay หรือ Google Wallet

Ars Technica อ้างแหล่งข่าววงในว่ากูเกิลจะเปิดตัว Android Pay ในงาน Google I/O เดือนพฤษภาคมนี้

ตามข่าวบอกว่า Android Pay จะเป็น API สำหรับการจ่ายเงินอีกตัวที่แยกจาก Google Wallet เดิม เป้าหมายของ Android Pay คือเป็นระบบจ่ายเงินที่แอพ Android สามารถเรียกใช้งานได้ และสามารถจ่ายเงินกับร้านค้าต่างๆ ผ่านระบบ NFC ได้

จุดต่างที่สำคัญของ Android Pay กับ Google Wallet คือในระบบปัจจุบันของ Google Wallet จะทำงานคล้ายบัตรเติมเงิน นั่นคือเจ้าของบัญชีจะใช้บัตรเครดิตของตัวเองซื้อ "บัตรเสมือน" ของกูเกิล และกูเกิลจะนำบัตรเสมือนไปจ่ายเงินให้ร้านค้าอีกต่อหนึ่ง ในขณะที่ Android Pay จะเป็นการหักเงินจากบัตรเครดิตโดยตรง ผ่านระบบที่เรียกว่า Host Card Emulation (HCE) ของกูเกิลเอง

กูเกิลออก Google Wallet มาตั้งแต่ปี 2011 แต่ยังไม่ประสบความสำเร็จมากนัก เหตุผลหนึ่งคือกลุ่มโอเปอเรเตอร์ในสหรัฐรวมตัวกันทำระบบจ่ายเงิน ISIS (ภายหลังเปลี่ยนชื่อเป็น Softcard) ซึ่งเป็นคู่แข่งกันโดยตรง ส่งผลให้ Google Wallet ถูกกีดกันจากพันธมิตรกลุ่ม ISIS

ซัมซุงประกาศซื้อกิจการบริษัท LoopPay ระบบจ่ายเงินด้วยอุปกรณ์พกพาที่คุยว่ามีร้านค้ารองรับมากที่สุดในสหรัฐอเมริกากว่า 10 ล้านราย และถือเป็นคู่แข่งรายสำคัญของ Apple Pay ด้วย

เทคโนโลยีของ LoopPay ไม่ได้ส่งข้อมูลจากมือถือไปยังเครื่องคิดเงินด้วย NFC แบบเดียวกับ Apple Pay หรือ Google Wallet แต่ใช้หลักการว่ามือถือต้องใส่เคสพิเศษของ LoopPay ที่กระจายสัญญาณแม่เหล็กไฟฟ้าแบบเดียวกับการรูดบัตรแทน (Magnetic Secure Transmission) ข้อดีคือ LoopPay สามารถใช้งานได้กับเครื่องคิดเงิน 90% ที่มีอยู่ในตลาด (ร้านค้าไม่ต้องทำอะไรเพิ่ม) ส่วนผู้ใช้งานก็ซื้อเคสหรือพวงกุญแจของ LoopPay แทน

เทคโนโลยีการจ่ายเงินด้วยอุปกรณ์โมบายโดยเฉพาะสมาร์ตโฟนที่เราถือกันตลอดเวลา ทั้งแอพพลิเคชั่นจากต่างประเทศ Apple Pay, LINE Pay, หรือ Google Wallet ในไทยเองมีผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือรายสำคัญทั้ง AIS, dtac, และ Truemove ก็ลงมาตลาดนี้เต็มตัวทั้งสามราย

ในงาน Tech Trend Thailand ที่ผ่านมา ทีมงานได้มีโอกาสพูดคุยกับคุณสุปรีชา ลิมปิกาญจนโกวิท กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอดวานซ์ เอ็มเปย์ จำกัด และคุณสมหวัง เหลืองไพบูลย์ศรี ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เพย์สบาย จำกัด ในเครือดีแทค ถึงประสบการณ์การทำบริการจ่ายเงินด้วยอุปกรณ์โมบายในไทย และอนาคตที่จะเกิดขึ้นในบ้านเรา

บัตรเครดิต Visa เตรียมเลิกระบุหมายเลขบัตรเครดิต 16 หลักของลูกค้าในการจ่ายเงินออนไลน์หรือผ่านอุปกรณ์พกพา ด้วยเหตุผลเรื่องความปลอดภัยในกรณีข้อมูลบัตรเครดิตโดนแฮ็ก

ทางออกของ Visa คือใช้รหัส token แบบใช้ครั้งเดียวแทน บริการนี้ใช้ชื่อว่า Visa Token Service (VTS) โดยเริ่มใช้มาตั้งแต่ปีที่แล้วกับ Apple Pay บริษัทระบุว่าตอนนี้มีสถาบันการเงินกว่า 500 แห่งเริ่มรองรับระบบ VTS ของตัวเองแล้ว และในปี 2015 นี้เราจะเห็นผู้ผลิตฮาร์ดแวร์อีกหลายรายเริ่มใช้ระบบ VTS กับแพลตฟอร์มจ่ายเงินผ่านอุปกรณ์พกพาของตัวเอง

เว็บไซต์ The Information รายงานข่าวลือว่าบริษัท Square เริ่มลดการพึ่งพิงฮาร์ดแวร์ของแอปเปิลในโซลูชันเครื่องคิดเงิน Square Register ของตัวเอง ที่เป็นฮาร์ดแวร์เสริมกับแท็บเล็ต iPad

แหล่งข่าวของ The Information บอกว่า Square กระจายความเสี่ยงของตัวเองโดยพัฒนา Square Register รุ่นที่ใช้บนแท็บเล็ต Android เพียงแต่โครงการยังอยู่ในระยะเริ่มต้นเท่านั้น

ช่วงหลัง Square เริ่มไม่ไว้ใจแอปเปิลที่ลงมาทำ Apple Pay ที่เป็นคู่แข่งกันโดยตรง และพยายามหาทางเลือกสำรองไว้ถ้าหากในอนาคตแอปเปิลบล็อคไม่ให้ Square เข้าถึงระบบของตัวเอง

ผู้โดยสารสายการบิน JetBlue ในสหรัฐอเมริกาจะสามารถซื้ออาหารและเครื่องดื่ม และอัพเกรดไปยังเก้าอี้พรีเมี่ยมที่ว่างบนเครื่องบินผ่าน Apple Pay ได้แล้ว

พนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน จะรับชำระค่าสินค้าและบริการบนเครื่องด้วย iPad mini ที่ใส่เคสพิเศษที่สามารถอ่านบัตรเครดิตธรรมดา และรองรับ NFC อีกทั้งยังมีซอฟต์แวร์พิเศษที่ทำให้พนักงานต้อนรับสามารถระบุผู้โดยสารที่เป็นสมาชิกสะสมแต้มของสายการบิน และสามารถระบุผู้โดยสารที่กำลังฉลองวันคล้ายวันเกิดอีกด้วย ทั้งนี้ iPad mini กว่า 3,500 เครื่องจะถูกนำมาใช้แทนระบบ Payment Terminal ปัจจุบันของสายการบิน

เมื่อกลางปีที่แล้ว Amazon เปิดตัว Wallet แอพรวมบัตรสะสมแต้ม-บัตรสมาชิก โดยไม่มีฟังก์ชันด้านการจ่ายเงิน โดยมีสถานะเป็นรุ่น Beta ให้คนทั่วไปได้ทดสอบ

เวลาผ่านมา 6 เดือน Amazon พับแผนและถอดแอพออกจากหน้าร้านแล้ว โดยโฆษกของบริษัทยอมรับว่า Amazon Wallet ไม่ประสบความสำเร็จ และบริษัทจะนำบทเรียนที่ได้จากแอพนี้ไปพัฒนาผลิตภัณฑ์อื่นๆ ต่อไป

ที่มา - CNET

เว็บไซต์ TechCrunch รายงานข่าววงในว่ากูเกิลสนใจซื้อกิจการ Softcard (หรือชื่อเดิม Isis) ระบบจ่ายเงินบนอุปกรณ์พกพาที่ลงขันโดยโอเปอเรเตอร์

เมื่อปี 2012 PayPal เคยออกฮาร์ดแวร์เครื่องรูดบัตรเครดิตชื่อ PayPal Here โดยใช้ได้กับอุปกรณ์ iOS และ Android

ล่าสุด PayPal ประกาศว่า PayPal Here สามารถใช้กับอุปกรณ์สายวินโดวส์ได้แล้ว โดยออกแอพสำหรับแท็บเล็ต Windows 8.1 (Surface Pro 3), สมาร์ทโฟน Lumia บางรุ่นคือ 830 และ 635 รวมถึงออก PayPal Here SDK สำหรับวินโดวส์มาด้วย

PayPal ยังประกาศว่าจะรองรับการรูดบัตรแบบฝังชิป (EMV) ที่จะกลายเป็นมาตรฐานของบัตรเครดิตในสหรัฐอเมริกาในเร็วๆ นี้อีกด้วย

เพิ่งเริ่มเปิดให้บริการมาสองเดือนเศษ บริการจ่ายเงินผ่านอุปกรณ์พกพาของแอปเปิลอย่าง Apple Pay ก็เริ่มขยับเข้าไปกินส่วนแบ่งของการจ่ายเงินแบบดิจิทัล 1% แรกในรายงานของ ITG ประจำเดือนพฤศจิกายนแล้ว (หรือนับเป็นเดือนนิดๆ ของ Apple Pay นั่นเอง)

นอกจากเรื่องส่วนแบ่งของ Apple Pay แล้ว รายงานชิ้นนี้ยังเจาะไปยังรายละเอียดอื่นๆ เช่นผู้ใช้ Apple Pay ราว 60% ใช้บริการหลายครั้งต่อเดือน ซึ่งเหนือกว่าคู่แข่งพอสมควร (ในที่นี้ยก PayPal ที่ทำได้ราวๆ 20% มา) โดยมีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 1.4 ครั้งต่อสัปดาห์ โดยมีแนวโน้มใช้ซ้ำเมื่อใช้บริการสถานที่เดิมราว 66%