AIS วางขาย Surface Pro LTE เริ่มต้นเดือนละ 2,599 บาท ในรุ่น 128GB พร้อมแพ็กเกจเล่นเน็ต 4G/3G ความเร็วสูงสุด 4 Mbps แบบไม่ลดสปีด และ AIS WiFi ไม่จำกัด ติดสัญญา 24 เดือน

ไมโครซอฟท์ประกาศวางจำหน่าย Surface Go ในไทยอย่างเป็นทางการในวันที่ 28 ส.ค.นี้ ในราคาเริ่มต้นที่ 14,999 บาท ผู้สนใจสามารถสั่งจองได้ในวันที่ 2 ส.ค.

รุ่นและราคาจำหน่าย

• 64GB eMMC, 4GB RAM 14,999 บาท
• 128GB SSD, 8GB RAM 19,999 บาท

หลังไมโครซอฟท์เปิดตัว Surface Pro with LTE Advanced หรือ Surface รุ่นใส่ซิมได้ มาตั้งแต่เดือนตุลาคม 2017 แต่ในประเทศไทยก็ไม่มีความคืบหน้าอะไร ล่าสุด AIS ได้นำมาจำหน่ายแล้ว โดยระบุว่าเป็นเจ้าแรกที่นำมาขายในประเทศไทย

AIS ระบุว่าจะนำ Surface Pro LTE มาจำหน่ายสำหรับลูกค้าธุรกิจ โดยขายแบบติดสัญญา 24 เดือน มีให้เลือกสองรุ่นคือความจุ 128GB แรม 4GB และรุ่นความจุ 256GB แรม 8GB ที่ราคาเดือนละ 2,599 และ 2,999 บาท ตามลำดับ เน็ต 3G/4G เร็ว 4Mbps แบบไม่ลดสปีด ส่วนซีพียูและสเปกอื่นๆ เหมือนกันหมด คือ Intel Core i5-7300U, หน้าจอ 12.3 นิ้ว ความละเอียด 2736x1824 พิกเซล มี Type Cover รุ่น Signature และปากกา พร้อมประกันให้ 3 ปี (Surface รุ่นวางขายทั่วไปประกัน 1 ปี)

Panos Panay หัวหน้าทีมผลิตภัณฑ์ของไมโครซอฟท์ ให้สัมภาษณ์กับรายการ podcast ของ WIRED ซึ่งผู้ดำเนินรายการก็ถือโอกาสถามคำถามที่หลายคนอยากรู้ ว่าตกลงแล้วไมโครซอฟท์มีแผนทำ Surface Phone หรือไม่

คำตอบของ Panos คือ ไม่มี Surface Phone แต่ก็มีข่าวดีว่า ไมโครซอฟท์กำลังทำอุปกรณ์ Surface ในรูปแบบใหม่ (there will be new form factors) ซึ่งจะเปลี่ยนแปลงสภาพของสินค้าในตลาดปัจจุบัน

เขาขยายความว่าผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ของไมโครซอฟท์ถูกพัฒนาขึ้นตามวิธีการสื่อสารของผู้คนในอนาคต แทนที่จะเป็นการออกแบบตามวิธีการสื่อสารในปัจจุบัน

Panos Panay ผู้บริหารฝ่ายผลิตภัณฑ์ (Chief Product Officer) ของไมโครซอฟท์ ให้สัมภาษณ์กับ Wired หลังเปิดตัว Surface Go มีประเด็นน่าสนใจหลายอย่าง

วันนี้ไมโครซอฟท์เปิดตัว Surface Go ฮาร์ดแวร์ซีรีส์ล่าสุด เป็น Surface ที่เบาและบางที่สุดเท่าที่เคยมีมา หลังจากลงภาพ Surface พร้อมเงาคำใบ้

Surface Go มาพร้อมกับหน้าจอสัมผัส PixelSense ขนาด 10 นิ้ว ความละเอียดภาพสูง 216 PPI รองรับปากกา Surface Pen แบตเตอรี่อยู่ได้นาน 9 ชั่วโมง น้ำหนักเบาเพียง 521 กรัม บาง 8.3 มม. ขาตั้งรุ่นใหม่กางได้สูงสุด 165 องศาสำหรับวาดภาพในโหมดสตูดิโอ รวมถึงมีพอร์ต USB-C 3.1 สำหรับถ่ายโอนข้อมูลและชาร์จ 1 ช่อง พอร์ตแจ็คหูฟัง และช่องอ่านการ์ด MicroSD

หลังจากที่ไมโครซอฟท์ได้เปิดตัว Surface Laptop เป็นฮาร์ดแวร์ซีรีส์ล่าสุดเมื่อกลางปีที่แล้ว ล่าสุดไมโครซอฟท์ก็ได้ลงภาพอุปกรณ์ตระกูล Surface ทั้ง 4 รุ่น พร้อมเงาคำใบ้วันที่ 7.10.2018 เวลา 6:00 น. และคำบรรยาย "Where will Surface go next?" บน Facebook และ Twitter ของ Microsoft Surface

ข่าวลือล่าสุดเผยว่า ไมโครซอฟท์กำลังจะเปิดตัว Surface รุ่นใหม่ราคาถูกลง เพื่อชิงยอดขายในตลาดล่างและแข่งกับ iPad ที่มีราคาเริ่มต้นที่ 11,500 บาท

ก่อนหน้านี้มี ข่าวลือของอุปกรณ์รหัส Andromeda จากไมโครซอฟท์ ออกมาเป็นพักๆ ล่าสุดเว็บไซต์ The Verge อ้างว่าได้เอกสารภายในของไมโครซอฟท์ที่หลุดออกมา พบว่ามันคืออุปกรณ์ Surface แบบพกพาที่พับจอได้

Andromeda ยังมีสถานะเป็นโครงการทดลองภายในบริษัท ที่อาจจะออกหรือไม่ออกเป็นผลิตภัณฑ์จริงก็ได้ มันถือเป็นอุปกรณ์ชนิดใหม่ที่เป็นลูกผสมระหว่างพีซีกับอุปกรณ์พกพา ไมโครซอฟท์ใช้คำว่า pocketable Surface device และบอกว่ามันเป็นอุปกรณ์ "ส่วนตัว" ที่ตอบโจทย์การใช้งานหลากหลาย

ช่วงนี้มีข่าวลือของฮาร์ดแวร์ใหม่ๆ ไมโครซอฟท์ออกมาหลายตัว เช่น Xbox รุ่นหน้าออกปี 2020 รอบนี้เป็นข่าวลือของผลิตภัณฑ์ตระกูล Surface กันบ้างครับ

การแปลข้อความต้นฉบับจากภาษาอังกฤษเป็นภาษาไทย อาจจะยุ่งยากขึ้นหน่อย โดยเฉพาะหากคำศัพท์ในนั้นเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ (คิดว่าคนแถวนี้คงต้องเจอมาบ้าง) ปัญหาคือถ้าหากคำนั้นเป็นชื่อผลิตภัณฑ์ ก็ไม่ควรถูกแปลความหมาย และน่าจะใช้คำทับศัพท์สะกดภาษาไทยมากกว่า

เรื่องมีอยู่ว่าบัญชีทวิตเตอร์ของฝ่ายบริการลูกค้าของไมโครซอฟท์ประเทศไทย @MSHelpsThai ซึ่งสนับสนุนผลิตภัณฑ์และให้ข้อมูลต่าง ๆ ของไมโครซอฟท์ ได้ทวีตลิงก์การแก้ไขปัญหาเซอร์เฟสที่เปิดไม่ติดหรือไม่กลับสู่การทำงานจากโหมดสลีป แต่ภาพประกอบในทวีตนั้น แสดงข้อความว่า

สำนักข่าว Bloomberg รายงานว่า Microsoft กำลังวางแผนออก Surface รุ่นใหม่มาราคาถูกมาเพื่อแข่งกับ iPad โดยเฉพาะ ซึ่งจากรายงานเผยว่า Microsoft จะตั้งราคา Surface อยู่ที่ราว 400 ดอลลาร์ (ราว 13,000 บาท) เพื่อลงมาแข่งกับ iPad ที่ปัจจุบันขายเริ่มต้น 329 ดอลลาร์ หรือ 11,500 บาท

ข้อมูลในรายงานเผยว่า เนื่องจากยอดขายที่สูงมากของ iPad ส่งผลให้ Microsoft สนใจและอาจต้องออกแบบ Surface ใหม่ในแนวที่คล้ายกับ iPad มากยิ่งขึ้น เพื่อชิงยอดขายในตลาดล่าง ซึ่ง Surface รุ่นใหม่นี้น่าจะมีหน้าจอขนาด 10 นิ้ว มีขอบมน และแบตเตอรี่อยู่ได้นาน 10 ชั่วโมง (ปัจจุบัน Surface อยู่ได้ 13.5 ชั่วโมง) รวมถึงมีพอร์ตเชื่อมต่อ USB-C ด้วย ส่วนน้ำหนักของตัวเครื่องก็จะบางลงเหลือเพียง 1.4 ปอนด์ แต่ยังคงมีขาตั้งตัวเครื่องอยู่

ไมโครซอฟท์เปิดตัวจอภาพกระดานขนาดใหญ่ Surface Hub 2 ซึ่งพัฒนาจาก Surface Hub รุ่นแรกที่วางขายในปี 2016 มีรายละเอียดสเป็ก หน้าจอ 50.5 นิ้ว, ความละเอียด 4K+, อัตราส่วน 3:2 พร้อมกล้องความละเอียด 4K สามารถนำจอมาเรียงต่อกันเพื่อเพิ่มพื้นที่ได้สูงสุด 4 จอ

Surface Hub 2 ใช้ระบบปฏิบัติการ Windows 10 พร้อมทั้ง Microsoft Teams, Microsoft Whiteboard, Office 365 ฯลฯ โดยไมโครซอฟท์บอกว่าปี 2018 นี้ Surface Hub 2 จะอยู่ในขั้นตอนการทดสอบกับลูกค้าเฉพาะกลุ่มก่อน จากนั้นเริ่มวางจำหน่ายทั่วไปในปี 2019 ซึ่งยังไม่ได้ระบุราคา แต่บอกว่าใกล้เคียงกับรุ่นแรก (เริ่มต้น 8,999 ดอลลาร์ หรือเกือบ 3 แสนบาท)

ข้อมูลน่าสนใจจากผลประกอบการไมโครซอฟท์ไตรมาสล่าสุด คือธุรกิจฝั่งเกม (นับรวม Xbox + Windows) ที่ยังเติบโตต่อเนื่อง ทำรายได้รวม 2.25 พันล้านดอลลาร์ต่อไตรมาส เพิ่มขึ้น 18% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน

ไมโครซอฟท์ไม่เผยรายได้เฉพาะส่วนของ Xbox ออกมาเป็นตัวเลข บอกแค่ว่ารายได้ส่วนนี้โต 24% โดยมีปัจจัยหลักมาจากยอดขายเกมของ third party ซึ่งก็คือเกม Fortnite ที่กำลังได้รับความนิยมอย่างสูง

ไมโครซอฟท์ไม่เปิดเผยยอดขายเครื่อง Xbox One มานานแล้ว (และยังไม่บอกเช่นเดิม) ส่วนยอดผู้ใช้งาน Xbox Live อยู่ที่ 59 ล้านคน ไม่โตขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้านี้

ไมโครซอฟท์ประกาศวางจำหน่าย Surface Book 2 เพิ่มอีก 17 ประเทศและมีประเทศไทยแล้ว โดยจะวางขายทั้งรุ่น 13 นิ้วและ 15 นิ้ว ช่วงเริ่มวางจำหน่ายตั้งแต่กุมภาพันธ์ไปจนถึงเมษายนตามแต่ละประเทศ ซึ่งรอประกาศจากไมโครซอฟท์ไทยเรื่องวันและราคาอีกครั้ง (ณ เวลาเขียนสโตร์ไทยยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง)

ส่วนอีก 16 ประเทศที่เหลือได้แก่ บาห์เรน, จีน, ฮ่องกง, อินเดีย, อิตาลี, เกาหลีใต้, คูเวต, มาเลเซีย, โอมาน, โปรตุเกส, กาต้า, ซาอุดิอาระเบีย, สิงคโปร์, สเปน, ไต้หวัน, และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

ในประกาศเดียวกันนี้ ไมโครซอฟท์ยังระบุว่าเริ่มวางขาย Surface Book 2 ขนาด 15 นิ้วในกลุ่มประเทศแรกนอกจากสหรัฐที่วางขาย 13 นิ้วไปแล้วด้วย

ไมโครซอฟท์เปิดตัว Surface Pro with LTE Advanced รุ่นต่อเน็ตได้ในตัว โดยจะเริ่มขายในเดือนธันวาคมนี้ ในราคาเริ่มต้นที่ 1,149 ดอลลาร์ สำหรับรุ่น Core i5/แรม 4GB (สเปกเดียวกันรุ่นไม่มี LTE ขาย 999 ดอลลาร์)

กลุุ่มเป้าหมายของ Surface Pro with LTE Advanced คือลูกค้าธุรกิจ จุดเด่นของมันคือรองรับ LTE Cat. 9 ความเร็วดาวน์โหลดสูงสุด 450 Mbps และรองรับความถี่ LTE กว่า 20 ย่าน

ที่มา - Microsoft, TechCrunch

จากการเปลี่ยนแปลงชื่อ Windows Store มาเป็น Microsoft Store ล่าสุดมีคนไปค้นพบว่าแอพ Microsoft Store จะไม่ได้ขายแต่สินค้าดิจิทัลอย่างแอพ เกม เพลง หนัง แต่เพียงอย่างเดียว แต่มีลิงก์ลับที่ขายฮาร์ดแวร์ตระกูล Surface หรือสมาร์ทโฟน Windows 10 Mobile ด้วย

ในแง่เทคนิคคงไม่มีอะไรใหม่ เพราะหน้าเว็บของ Microsoft Store ก็มีขายทั้งฮาร์ดแวร์ และสินค้าดิจิทัลอยู่แล้ว เพียงแต่งานนี้ไมโครซอฟท์กำลังจะปรับให้แอพ Microsoft Store ขายสินค้าฮาร์ดแวร์เพิ่มเข้ามาในแบบเดียวกัน

อุปกรณ์ไอทีใหม่ๆ มีแนวโน้มออกแบบด้วยการใช้ผ้ามากขึ้น ตัวอย่างคือ Surface Pro laptop ปูพื้นแป้นพิมพ์ด้วยผ้า Alcantara เนื้อนิ่มคล้ายกำมะหยี่ เป็นวัสดุเดียวกับที่ใช้ในรถยนต์และกระเป๋าหรู ต่อมา Google เปิดตัว Google Home Mini และ Max ที่มาพร้อมกับผ้าบุห่อรอบตัว ทางบริษัทบอกว่าเป็นผ้าไนลอนและโพลีเอสเตอร์

เมื่อเรานึกถึงอุปกรณ์ไอที เราจะคิดถึงวัสดุเหล็ก อลูมิเนียม แต่เริ่มมีวิธึคิดแบบใหม่เกิดขึ้นคือ ผู้ใช้ควรรู้สึกสบายผ่อนคลายเมื่อได้จับอุปกรณ์ของตน เหมือนเวลาอยู่บ้านบนโต๊ะอาหารที่มีผ้าปูรองโต๊ะ

เรื่องมีอยู่ว่าเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา The Register ได้เสนอข่าว โดยรวมความเห็นจากผู้บริหารในธุรกิจพีซีหลายราย และประเมินว่าไมโครซอฟท์น่าจะเลิกธุรกิจฮาร์ดแวร์ตระกูล Surface ในปี 2019 เนื่องจากกลุ่มธุรกิจนี้ไม่ทำกำไรมาก อีกทั้งราคาสินค้าก็สูงเกินไป และอีกเหตุผลสำคัญคือซีอีโอ Satya Nadella มาจากสายซอฟต์แวร์และคลาวด์

Panos Panay รองประธานฝ่ายฮาร์ดแวร์ของไมโครซอฟท์ออกมาโต้ข่าวนี้โดยบอกว่ามันคือ ข่าวลือสไตล์แท็บลอยด์ และไม่ได้ใกล้เคียงกับความจริงเลย ธุรกิจฮาร์ดแวร์ของไมโครซอฟท์ยังไปได้ดีและเป็นการดำเนินงานในระยะยาว โดยมุ่งหวังยกมาตรฐานใหม่ของธุรกิจพีซี

ปีนี้ไมโครซอฟท์เปิดตัว Surface Pro รุ่นที่ห้า (ที่ไม่เรียกว่า Surface Pro 5) ซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงจาก Surface Pro 4 ไม่เยอะนัก อย่างไรก็ตาม มันยังถือเป็นผลิตภัณฑ์หลักของแบรนด์ Surface ที่ช่วงหลังเริ่มมีอุปกรณ์แขนงใหม่ๆ อย่างเดสก์ท็อป (Surface Studio) หรือโน้ตบุ๊ก (Surface Book/Laptop) เพิ่มเข้ามาด้วย

Surface Pro (2017) (บ้างก็เรียก New Surface Pro หรือ Surface Pro 5th Gen) เพิ่งเริ่มวางขายในไทยเมื่อเดือนที่แล้ว ซึ่ง Blognone ก็ได้รับเครื่องรีวิวจากไมโครซอฟท์ประเทศไทยมาใช้งานประมาณหนึ่งสัปดาห์

เว็บไซต์ The Verge รายงานว่าไมโครซอฟท์เตรียมจัดงานอีเวนท์ Future Decoded ในลอนดอนวันที่ 31 ตุลาคมถึง 1 พฤศจิกายนนี้ โดยทางไมโครซอฟท์ยืนยันกับ The Verge ว่า Panos Panay หัวหน้าทีมฮาร์ดแวร์จะขึ้นพูดคีย์โน้ตด้วย ซึ่งก็ไม่น่าพลาดว่าผลิตภัณฑ์ Surface จะถูกเปิดตัว

อุปกรณ์ Surface ที่ถูกคาดว่าจะเปิดตัว Surface Book และ Surface Hub รุ่นใหม่ ไปจนถึงอุปกรณ์ Windows 10 on ARM ที่ถูกพูดถึงตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว ซึ่งก็ต้องรอดูกันต่อไปว่าจะเป็นอุปกรณ์สาย Surface หรือผ่านแบรนด์อื่น

ที่มา - The Verge

หลังจากมีภาพหลุดของ Surface Mini ที่มีข่าวว่าไมโครซอฟท์จะเปิดตัวแต่ต่อมาโดนยกเลิกโครงการไป ล่าสุด @evleaks เจ้าเก่า ได้เผยภาพเรนเดอร์และสเปคฉบับเต็มของ Surface Mini แล้ว โดยสเปค มีดังนี้

• หน้าจอ 7.5 นิ้ว ที่ความละเอียด 1440x1080 พิกเซล
• ตัวเครื่องหนา 8.89 มม.
• ชิป Snapdragon 800
• มีสองรุ่นย่อย คือ รุ่นแรม 1 กิกะไบต์ ความจุ 32 กิกะไบต์ กับ รุ่นแรม 2 กิกะไบต์ ความจุ 64 กิกะไบต์
• กล้องหลัก 5 ล้านพิกเซล ส่วนกล้องหน้า 2.1 ล้านพิกเซล
• ระบบเสียง Dolby
• มีสามสีให้เลือก คือ ดำ แดง น้ำเงิน
• Windows RT 8.1 พร้อม Office 2013 RT
• มี Surface Pen ติดมากับชุดจำหน่าย

ที่มา: @evleaks (ภาพ, สเปค)

ไมโครซอฟท์ออกอัพเดตให้แอพ Surface ที่มีไว้ตั้งค่าการใช้งานต่างๆ บนอุปกรณ์ตระกูล Surface โดยเฉพาะ โดยได้เพิ่มหน้ารายงานระดับแบตเตอรี่ของอุปกรณ์เสริมที่ผลิตโดยไมโครซอฟท์และเชื่อมต่อกับ Surface ผ่านบลูทูธ ช่วยให้ผู้ใช้สามารถวางแผนเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้สะดวกขึ้น

สำหรับอุปกรณ์ที่แอพรองรับการเช็กแบตเตอรี่ก็อย่างเช่น Surface Pen, Surface Dial จนไปถึงเมาส์ / คีย์บอร์ดไร้สายอย่าง Surface Mouse และ Ergonomic Keyboard โดยเมื่อเชื่อมต่ออุปกรณ์ดังกล่าวเข้ากับ Surface ตัวแอพจะแสดงผลทั้งระดับแบตเตอรี่ที่เหลืออยู่, เวลาที่เช็กระดับแบตเตอรี่ครั้งล่าสุด รวมไปถึงหมายเลขซีเรียลของอุปกรณ์เสริม

ผู้ใช้งานอุปกรณ์ตระกูล Surface สามารถเข้าไปดาวน์โหลดแอพข้างต้นได้ที่ Windows Store ครับ

ที่มา - Windows Central

นิตยสาร Consumer Reports ที่ได้รับความน่าเชื่อถือสูงในแง่รีวิวที่เป็นกลาง ตัดสินใจถอดสถานะ Recommended จากออกจากสินค้ากลุ่ม Surface ของไมโครซอฟท์ (Recommended ของ Consumer Reports ไม่ขึ้นกับคะแนนรีวิว เช่น กรณี Tesla Model S ได้คะแนนสูงมากแต่สถานะคือไม่แนะนำ)

เหตุผลคือ Consumer Reports สำรวจความเห็นจากผู้ใช้ประจำปี และพบปัญหาเสถียรภาพของฮาร์ดแวร์กลุ่ม Surface มากเกินค่าปกติ (25% ระบุว่าพบปัญหาภายในสองปีหลังซื้อ) จึงตัดสินใจถอดสถานะ Recommended ออก

Consumer Reports ระบุว่าไมโครซอฟท์เพิ่งเข้ามาในตลาดฮาร์ดแวร์ยังไม่นาน และนี่เป็นครั้งแรกที่ Consumer Reports มีข้อมูลของผู้ใช้ Surface มากพอที่จะใช้พิจารณาเรื่องเสถียรภาพ

ไมโครซอฟท์เปิดตัวโครงการ Surface Plus ผ่อนจ่ายค่าอุปกรณ์ตระกูล Surface แบบรายเดือน และสามารถนำฮาร์ดแวร์เก่าไปเปลี่ยนเป็น Surface รุ่นใหม่ได้หลังใช้งานไปแล้ว 18 เดือนโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม หากฮาร์ดแวร์ยังอยู่ในสภาพดี

อุปกรณ์ที่เข้าข่ายคือ Surface ทุกรุ่นที่วางขายอยู่ในสหรัฐตอนนี้ ทั้ง Surface Pro/Book/Laptop/Studio ส่วนเงื่อนไขการผ่อนจ่ายคือให้ดอกเบี้ย 0% นาน 24 เดือน (หลังจากนั้น 19.99%)

ไมโครซอฟท์ออกโครงการนี้มาสำหรับนักเรียนนักศึกษา ที่ต้องการซื้อฮาร์ดแวร์ใหม่ต้อนรับช่วงเปิดเทอม (ของสหรัฐ) แต่อาจมีเงินไม่มากสำหรับการจ่ายเงินเพียงครั้งเดียว

หลังขึ้นหน้าเว็บภาษาไทยมาตั้งแต่เดือนที่แล้ว วันนี้ไมโครซอฟท์ไทยเปิดราคาของ Surface Pro รุ่นใหม่ พร้อมอุปกรณ์เสริม Signature Type Cover ที่เป็นวัสดุผ้า Alcantara ดังนี้

• Core m3, SSD ขนาด 128GB แรม 4GB การ์ดจอ Intel HD Graphic 615 ราคา 30,900 บาท
• Core i5, SSD ขนาด 128GB แรม 4GB การ์ดจอ Intel HD Graphic 620 ราคา 38,900 บาท
• Core i5, SSD ขนาด 256GB แรม 8GB การ์ดจอ Intel HD Graphic 620 ราคา 49,900 บาท