LINE ประกาศเพิ่มแพ็คเกจ LINE@ ใหม่มาอีกแพ็คเกจในชื่อ Starter ในราคา 198 บาทต่อเดือน
โดยแพ็คเกจใหม่นี้สามารถส่งข้อความแบบหาทุกคนได้ทั้งในรูปแบบข้อความธรรมดา, Rich Message หรือวิดีโอถึงผู้ติดตามได้ไม่จำกัด และสามารถส่งข้อความไปยังกลุ่มเป้าหมายแบบระบุคุณสมบัติจากเพศและอายุ (Target Reach) ได้ไม่เกิน 200 คน และสามารถเข้าถึงข้อมูลสถิติของบัญชีได้
LINE ประกาศอัพเดตเวอร์ชั่น 8.2.0 โดยในเวอร์ชั่นนี้จะเป็นการอัพเดตตัวสร้างสไลด์โชว์เป็นหลักโดยการเพิ่มธีมใหม่เข้ามาอีก 7 แบบ
ตัวสร้างสไลด์โชว์ของทาง LINE ถ้าจะไม่ได้ถูกใช้งานอย่างแพร่หลายบางคนก็อาจจะเพิ่งรู้จากข่าวนี้ก็ได้ แต่ฟีเจอร์นี้ถูกเพิ่มเข้ามาตั้งแต่ในเวอร์ชั่น 7.14.0 และในฟีเจอร์นี้เป็นการเพิ่มธีมใหม่ๆเข้ามาอีก 7 แบบโดยจะมี Memories, Remembrance, Moments, Cheerful, VCR, Mellow และ Mood เพิ่มเข้ามาในตัวสร้างสไลด์โชว์ และสามารถเปลี่ยนข้อความ และปรับขนาดของรูปภาพในแต่ละรูปเองได้แล้ว
เกมกอล์ฟที่ดังมานานนับสิบปีอย่าง Pangya กลับมาทำตลาดบนโทรศัพท์มือถืออีกครั้ง โดย LINE หลังจากเปิดทดสอบวงปิดมาช่วงหนึ่ง เมื่อสิบโมงที่ผ่านมาก็เปิดให้บริการทั่วไปแล้ว
ขนาดเกมจาก Play Store มีขนาดประมาณ 100MB และต้องดาวน์โหลดเพิ่มอีก 810MB ดังนั้นโทรศัพท์ใครพื้นที่จำกัดก็ต้องเตรียมพื้นที่กันสักหน่อยครับ
ที่มา - Facebook: LINE Pangya TH
บริการจ่ายเงินด้วยโทรศัพท์มือถือ (mobile payment) เริ่มเป็นที่นิยมในแถบเอเชียมากขึ้นเรื่อยๆ จากจีนที่นิยม WeChat/Alipay อย่างมาก ตอนนี้ผลสำรวจในไต้หวันก็พบว่า LINE Pay กำลังกลายเป็นบริการที่นำห่างที่สองอย่าง Apple Pay
ผลสำรวจกลุ่มตัวอย่างผู้ใช้บริการจ่ายเงินด้วยโทรศัพท์มือถือ ในไต้หวันพบว่า 25.2% นิยม LINE Pay ที่สุด, ตามมาด้วย Apple Pay 17.9%, JKo Pay 10.9%, Android Pay 9.9%, และ E.Sun Wallet 5.2%
ตลาดบริการจ่ายเงินยังคงดุเดือดในไต้หวัน ตอนนี้มีผู้ให้บริการรวมกว่า 20 ราย ขณะที่ร้านสะดวกซื้อ 4 เครือใหญ่ในไต้หวันเริ่มติดตั้งเครื่องรับจ่ายทำให้การจ่ายสะดวกขึ้นมาก
ที่มา - Taipei Times
ผมได้รับ LINE@ ตัวนี้จากน้องที่รู้จักคนนึง เนื้อหาคือให้เราแนะนำเพื่อนต่อให้ครบจำนวนเพื่อจะได้รับเงินจาก LINE Pay เป็นการตอบแทน ภาพกราฟฟิกที่นำมาใช้ตั้งใจทำให้เข้าใจผิดว่าเป็นกิจกรรมจากทาง LINE จริงๆ
*** คำเตือน ***
รูปเยอะนะครับ
LINE รายงานผลการดำเนินงานประจำไตรมาส 4 ของปี 2017 รายได้โต 21.7% จากปีก่อนหน้าเป็น 4.64 หมื่นล้านเยน โดยมีการเติบโตหลักมาจากธุรกิจโฆษณา ที่มีรายได้เพิ่มขึ้น 40.2%
จำนวนผู้ใช้แบบเป็นประจำทุกเดือน (MAUs) ใน 4 ประเทศตลาดหลัก รวมทั้งหมดอยู่ที่ 168 ล้านคน ซึ่งเท่ากับไตรมาสก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตามจำนวนผู้ใช้โดยไม่รวมญี่ปุ่น (ไทย, ไต้หวัน และอินโดนีเซีย) ลดลงอีก 2 ล้าน เป็น 95 ล้านคน ส่วนญี่ปุ่นยังมีจำนวนเพิ่มขึ้น
นอกจาก LINE จะขยายธุรกิจสู่โลกการเงินโดยจัดตั้งบริษัทลูก LINE Finance แล้ว แล้ว ยังเตรียมพร้อมพัฒนาบริการด้านการลงทุนโดยเข้าลงทุนบริษัท FOLIO สตาร์ตอัพญี่ปุ่นที่ให้บริการซื้อขายหลักทรัพย์ พร้อมกับประกาศเป็นพาร์ทเนอร์ร่วมกันพัฒนาบริการด้านการลงทุนเพื่อให้ผู้ใช้ LINE ได้เข้าใช้บริหารการลงทุนจากในแอปพลิเคชันได้สะดวกขึ้น
LINE เปิดบริษัทลูกใหม่ในชื่อ LINE Financial เงินทุนจดทะเบียน 5,000 ล้านเยน เพื่อให้บริการซื้อขายเงินคริปโตและบริการทางการเงินอื่นๆ รวมถึงบริการที่ใช้เทคโนโลยีบล็อคเชน, สินค้าทางการเงินเช่นประกันภัยและเงินกู้
ตอนนี้ LINE Financial ยื่นขอใบอนุญาตจาก Financial Services Agency (FSA) ของญี่ปุ่นอยู่ และจะเปิดบริการทันทีที่ได้รับใบอนุญาต
ที่มา - Nikkei Asian Review
สำนักข่าว Bloomberg รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวภายในว่า LINE กำลังเตรียมนำแนวทาง cryptocurrency เข้ามารวมในแพลตฟอร์ม สำหรับผลิตภัณฑ์และบริการต่างๆ
โดยแหล่งข่าวว่าตอนนี้ LINE ได้เริ่มพูดคุยกับหลายบริษัทแล้ว โดยเฉพาะการนำ cryptocurrency กับบริการจ่ายเงิน LINE Pay ซึ่งมองว่าการมีสกุลเงินเองนั้นทำให้ผู้ใช้ติดอยู่กับแพลตฟอร์มมากขึ้น
การที่ LINE มีความสนใจนำเทคโนโลยีเงินดิจิทัลมาใช้นั้น น่าจะช่วยยืนยันว่าแพลตฟอร์มเครือข่ายสังคมอาจจะมุ่งมาทางผสมผสาน cryptocurrency มากขึ้น แบบที่ Mark Zuckerberg ซีอีโอ Facebook บอกว่าเขากำลังศึกษาเรื่องนี้อยู่
LINE ประเทศไทยประกาศ 5 ชุดสติกเกอร์ที่ได้รับความนิยมสูงสุดในปีที่ผ่านมา โดยไม่ได้เรียงลำดับ ซึ่งสติกเกอร์ยอดนิยมล้วนเป็นสติกเกอร์แจกฟรี แบบมีผู้สนับสนุน ดังนี้
เพื่อเฉลิมฉลอง LINE จึงเปิดให้ผู้ใช้ดาวน์โหลดสติกเกอร์ทั้ง 5 ชุดนี้ได้อีกครั้งฟรี ผ่านทางลิงก์มือถือ http://lin.ee/ariYNS9
LINE ประเทศญี่ปุ่น ลงทุนใน Mobike นำบริการแชร์จักรยานเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการบริการภายในแอพพลิเคชั่น LINE ทางบริษัทระบุในการแถลงว่า พวกเราจะทำงานร่วมกันเพื่อส่งเสริมการแชร์จักรยานในญี่ปุ่น และในอนาคตจะรวมฟังก์ชันการทำงานของ Mobike เป็นบริการแชร์จักรยานสำหรับแอพ LINE ที่มีผู้ใช้งาน 71 ล้านคนในญี่ปุ่น ผู้ใช้งานสามารถกดใช้บริการจักรยานและจ่ายเงินได้ด้วย LINE Pay ถือเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการชำระเงิน
การลงทุนเกิดขึ้นระหว่างรอบการลงทุน ซีรีส์ A ไม่เปิดเผยจำนวนเงิน เป็นการระดมทุนที่มีขึ้นเมื่อ Mobike เตรียมเปิดตัวในฟุกุโอกะ ซึ่งเป็นเมืองที่สองหลังเปิดตัวในซัปโปโรและมีแผนจะขยายไปยังเมืองอื่นอีกในปี 2018
จากที่เคยมีข่าวลือมาสักพัก วันนี้ LINE ประกาศฟีเจอร์สำคัญคือ Unsend หรือการลบข้อความที่ส่งผิดภายใน 24 ชั่วโมงหลังจากส่งไปแล้ว
วิธีการลบคือแตะค้างไว้ที่ข้อความแล้วเลือกเมนู Unsend ข้อความจะถูกลบออกจากทั้งเครื่องของผู้ส่งและผู้รับ โดยมีป้ายบอกระบุว่าเราลบข้อความไปแล้ว
เงื่อนไขของข้อความที่ลบได้คือภายใน 24 ชั่วโมงหลังส่งข้อความนั้น ลบได้ทุกประเภททั้งข้อความ รูป เสียง สติ๊กเกอร์ ภาพ วิดีโอ ฯลฯ ทั้งข้อความที่อ่านแล้ว (read) และยังไม่ได้อ่าน (unread) ใช้ได้กับทั้งข้อความแบบ 1:1 และข้อความแบบกลุ่ม โดยแอพ LINE จำเป็นต้องอัพเดตเป็นเวอร์ชันล่าสุด ทั้งเดสก์ท็อปและมือถือ
LINE ประกาศอัพเดตเวอร์ชั่นใหม่คือ 7.16.0 ออกมาสู่สาธารณะแล้ว โดยสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปในรุ่นนี้มี 3 อย่างหลักๆ
1. เปลี่ยนภาษาหน้าตาของแอพไปเป็นภาษาอื่นได้แล้ว
โดยปกติเมื่อติดตั้งแอพมาแล้ว ภาษาที่ใช้จะยึดตามภาษาที่ผู้ใช้กำลังใช้อยู่ แต่เมื่ออัพเดตนี้มาใหม่สามารถเปลี่ยนภาษาของแอพได้ทันทีจากเมนูตั้งค่าในแอพ ถึงแม้ว่าตัวระบบจะใช้ภาษาไทยแต่ก็สามารถใช้หน้าตาของแอพภาษาอังกฤษได้
ปัญหาการส่งข้อความผิดหรืออยากสารภาพความรู้สึกกับใครแล้วเกิดเปลี่ยนใจอาจหมดไป เมื่อ LINE เตรียมจะอัพเดตฟีเจอร์ใหม่ 'unsend' สำหรับลบข้อความที่ส่งไปแล้วไม่เกิน 24 ชั่วโมง
ที่ผ่านมา LINE มีฟีเจอร์ลบข้อความอยู่แล้ว แต่เป็นข้อความภายในเครื่องของเราเอง แต่ฝั่งผู้ได้รับยังคงอยู่ ขณะที่ unsend จะเป็นการลบข้อความทั้งหมดทั้งผู้ส่ง ผู้รับและบนเซิร์ฟเวอร์ ซึ่งคาดว่าน่าจะปล่อยให้อัพเดตกันภายในเดือนหน้า
ที่มา - RocketNews24
LINE เผยยอดธุรกรรมทั่วโลกใน LINE Pay มี 10 ล้านรายการต่อเดือน รวมมูลค่าเป็น 5 หมื่น 5 พันล้านเยน (ประมาณ 482 ล้านเหรียญสหรัฐฯ) ต่อเดือน และมูลค่าสะสมตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม - 2 พฤศจิกายน 2560 มีประมาณ 3 หมื่นล้านเยน ด้านจำนวนผู้ใช้ LINE Pay ทั่วโลกมี 40 ล้านราย มากขึ้น 4 เท่านับจากเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
แอพแชท LINE ได้ปล่อยอัพเดตเวอร์ชัน 7.15.0 ออกมา โดยจุดเด่นของเวอร์ชันนี้คือฟีเจอร์ปักหมุดข้อความในห้องแชทไว้บนสุดห้อง
ฟีเจอร์นี้ผู้ใช้สามารถเลือกข้อความไหนก็ได้ในห้องแชทมาปักไว้ด้านบนสุด โดยเลือกปักสูงสุด 5 ข้อความ ใช้งานได้ทั้งห้องแชท 1 ต่อ 1 และแบบกลุ่ม วิธีใช้งานคือกดค้างที่ข้อความ เลือกคำสั่ง Announce จากนั้นข้อความที่เลือกก็จะปรากฎอยู่ด้านบนสุดของห้องแชททันที ทั้งนี้สามารถเลือกย่อแถบหรือไม่แสดงแถบประกาศได้อีกด้วย
ส่วนอัพเดทอื่นๆ ที่เพิ่มเข้ามาได้แก่ เพิ่มเอฟเฟ็กต์โมเสกและเบลอในฟังก์ชันแต่งรูป (เฉพาะ iPhone), เพิ่มฟิลเตอร์กล้องถ่ายรูปใหม่อีก 19 แบบ, วิดีโอในห้องแชทตั้งค่าให้เล่นอัตโนมัติได้ (เฉพาะ iPhone), เพิ่มกล้องถ่ายภาพแบบใหม่ลงใน Timelineและสร้าง slideshow จากภาพแล้วส่งในห้องแชท เป็นต้น
อัพเดต LINE เป็นเวอร์ชัน 7.15.0 ได้แล้วทั้งบน iOS และ Android
ที่มา : LINE Blog
บริการแชร์ตำแหน่ง LINE HERE ประกาศปิดตัวลงอย่างเงียบๆ ในวันที่ 15 ธันวาคม 2560 นี้ หลังจากเปิดให้บริการมานานกว่า 2 ปี ตัวโปรแกรมบน Android เองก็ไม่มีการออกเวอร์ชั่นใหม่เลยมา 2 ปีแล้วเช่นกัน (16 ตุลาคม 2558) โดยการปิดบริการลงนี้ทาง LINE ไม่ได้บอกถึงเหตุผลในการปิดตัวแต่อย่างใด
ปล. ส่วนตัวผู้เขียนใช้แชร์ตำแหน่งแบบเรียลไทม์ให้กับภรรยาตลอด 24 ชั่วโมง ต่อไปคงต้องหาโปรแกรมอื่นใช้งานแทนละครับ
ที่มา: ค้นพบด้วยตนเอง, LINE HERE
LINE รายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 3 ปี 2017 จำนวนผู้ใช้ในตลาดหลักไม่รวมญี่ปุ่น (ไทย, ไต้หวัน และอินโดนีเซีย) ยังคงลดลงจาก 99 ล้านคนในไตรมาสที่แล้ว มาอยู่ที่ 97 ล้านคน ส่วนญี่ปุ่นมีจำนวนเพิ่มขึ้น โดยภาพรวมมีผู้ใช้งาน 168 ล้านคน
แม้จำนวนผู้ใช้จะลดลง แต่รายได้ของ LINE ไม่ได้ลดตาม โดยรายได้เพิ่มขึ้น 18.4% จากไตรมาสเดียวกันในปีก่อนอยู่ที่ 42,537 ล้านเยน และมีกำไรสุทธิ 1,635 ล้านเยน
โฆษณาคือส่วนที่ทำรายได้หลักให้กับ LINE เพิ่มขึ้น 60.5% ขณะที่รายได้จากสติกเกอร์ค่อนข้างคงที่ และ LINE Pay มีปริมาณการใช้จ่ายผ่านแพลตฟอร์ม 115,000 ล้านเยน ซึ่งการเติบโตหลักมาจากไต้หวัน
ในประเทศญี่ปุ่นจะมีบริการให้คำปรึกษาปัญหาต่างๆ เพื่อแก้ปัญหาความเครียดในชีวิตประจำวันโดยเฉพาะกับเด็กมัธยม ไม่ว่าจะจากโรงเรียน จากงาน สังคมหรือแม้แต่การถูกแกล้ง (bully) ในลักษณะคล้ายจิตแพทย์แต่ไม่ใช่จิตแพทย์ (แต่ผู้ให้คำปรึกษาต้องมีใบอนุญาต) โดยตอนนี้รูปแบบการให้คำปรึกษานี้เริ่มเปลี่ยนแปลง จากที่มีแค่ผ่านทางโทรศัพท์ ตอนนี้หนึ่งในผู้ให้บริการนี้ในจังหวัดนางาโนะ เริ่มปรับรูปแบบการให้บริการจากโทรศัพท์มาเป็นผ่านทาง LINE แทนแล้ว
ที่งาน LINE Developer Day วันนี้ หัวข้อใหญ่หัวข้อหนึ่งคือการประกาศวางขายลำโพงอัจฉริยะ WAVE อย่างเป็นทางการ แต่ภาษาที่รับได้ตอนนี้มีเพียงภาษาญี่ปุ่นเพียงอย่างเดียว
อึยบิน ปาร์ค ประธานเเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มเทคโนโลยีระบุในช่วงถามตอบว่าแนวแผนการสำหรับ Clova ในตอนนี้ยังมุ่งเป้าไปยังตลาดญี่ปุ่นและเกาหลีเป็นหลัก แต่ก็เริ่มเก็บข้อมูลภาษาอื่นๆ เช่น จีน (ไต้หวัน), อินโดนีเซีย, และไทยแล้ว
ในแง่ความปลอดภัยทาง LINE ระบุว่าพยายามออกแบบให้มีความปลอดภัยในระดับเดียวกับแอป LINE ที่มีการเข้ารหัสแบบ end-to-end อย่างไรก็ดี โดยตัวเทคโนโลยี ไทอิชิ ฮาชิโมโตะ หัวหน้าฝ่ายพัฒนา Clova ระบุว่า Clova ยังส่งข้อมูลเสียงไปประมวลผลยังเซิร์ฟเวอร์แบบเดียวกับ Google Home หรือ Amazon Echo
LINE เตรียมเปิดช่องทางเชื่อมต่อนักพัฒนาภายนอกเพิ่มเติม โดยประกาศแผนการเปิด API ที่จะเปิดตัวเร็วๆ นี้ไปจนถึงปีหน้า
API ชุดแรกที่จะปรับปรุงคือ Messaging API โดยจะเพิ่ม Rich Menu API ทำให้นักพัฒนาสามารถกำหนดเลย์เอาท์ของเมนูได้ด้วยตัวเอง รวมถึงซ่อนเมนูออกไปจากหน้าจอแชต ตัวอย่างที่ LINE สาธิตคือการสั่งเนื้อ ที่สามารถทำเมนูเป็นส่วนต่างๆ ของวัวได้เลย ตัว Messaging API คนไทยน่าจะได้เห็นกันบ่อยๆ เช่น SCB Connect หรือ Wongnai Chatbot
งาน LINE Developer Day วันนี้ทาง LINE ประกาศความสำเร็จของ Messaging API ระบบสร้างแชตบอตของ LINE ที่ได้รับความนิยมอย่างสูงโดยตอนนี้มีบอตกว่า 130,000 ตัวแล้ว รวมผู้ใช้ที่เป็นเพื่อนกับบอตเหล่านี้สองพันล้าน (คนหนึ่งอาจจะเป็นเพื่อนกับบอตหลายตัว) รวมข้อความทั้งหมดที่พูดคุยกันกับบอตกว่าหมื่นล้านข้อความ
ในแง่ตัวเลขผู้ใช้ทั่วไป ตอนนี้อยู่ที่ 169 ล้านคน (ตัวเลขเดิมจากการแถลงผลประกอบการ) ข้อความ 25,000 ล้านข้อความต่อวัน ในช่วงเวลาที่ผู้ใช้สูงสุด มีข้อความถึง 420,000 ข้อความต่อวินาที
ที่งาน LINE Developer Day 2017 ปีนี้ Park Euivin ผู้บริหารฝ่ายเทคโนโลยีของ LINE ประกาศว่ากำลังเปิดศูนย์พัฒนาอีกสามศูนย์ ได้แก่ เกียวโต, ฮานอย, และกรุงเทพฯ
สำนักงานของ LINE ในกรุงเทพฯ มีนักพัฒนาอยู่แล้ว และเมื่อปลายปีที่แล้วทาง LINE ก็เคยระบุว่าเป็นไปได้ที่จะตั้งศูนย์พัฒนาในไทยและอินโดนีเซีย
วันนี้ทางโรงพยาบาลสมิติเวชและ LINE ประเทศไทย ได้แถลงข่าวร่วมกันที่โรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท เปิดตัว Official Account ของเครือโรงพยาบาลสมิติเวช และ LINE Beacon เพื่อให้บริการผู้ป่วยของโรงพยาบาล
นพ.ชัยรัตน์ ปัณฑุรอัมพร ซีอีโอของเครือสมิติเวช ระบุว่าบริการดังกล่าวจะทำให้คนไข้ได้รับประสบการณ์ใหม่จากโรงพยาบาล ตั้งแต่ข้อความต้อนรับ แจ้งการนัดหมาย จนถึงการชำระเงิน ทั้งหมดใช้ผ่าน Official Account ควบคู่ไปกับ LINE Beacon โดยจะนำร่องที่สาขาสุขุมวิท และศรีนครินทร์ ก่อน
LINE ประเทศไทยจับมือกับตู้เติมเงินออนไลน์บุญเติม เปิดให้ผู้ใช้ LINE เลือกซื้อสติกเกอร์และชำระเป็นเงินสดผ่านทางตู้บุญเติมได้แล้ว
คุณอริยะ พนมยงค์ กรรมการผู้จัดการบริษัท LINE ประเทศไทยได้อธิบายว่า คนไทยมีอัตราการใช้โทรศัพท์มือถือระบบเติมเงินสูงและเติมเงินจากตู้บุญเติมเป็นส่วนใหญ่ และเล็งเห็นว่าคนไทยยังใช้เงินสดในการชำระสินค้าอยู่ การร่วมมือกับทางตู้เติมเงินออนไลน์บุญเติมนี้จึงเป็นช่องทางที่จะตอบโจทย์ผู้ใช้ LINE ในประเทศไทยให้ได้รับความสะดวกสบายและเลือกซื้อสติกเกอร์ไปใช้งานได้อย่างรวดเร็ว
นอกจากนี้ระบบการซื้อสติกเกอร์ LINE ผ่านตู้บุญเติม นับเป็นการซื้อสติกเกอร์ด้วยเงินสดเป็นครั้งแรกของโลก และยังเป็นผลงานต้นแบบของทีมพัฒนาในประเทศไทยที่จะนำไปใช้กับประเทศอื่นๆ ได้อีกด้วย
ผู้ใช้ LINE ประเทศไทยสามารถซื้อสติกเกอร์ผ่านทางตู้บุญเติมได้แล้วตั้งแต่วันนี้ (ยกเว้นตู้หน้าร้าน 7-eleven และตู้ที่ BTS) สามารถดูรายละเอียดได้ที่หน้าตู้เติมเงินบุญเติม หรือ http://www.boonterm.com
ที่มา : เมลข่าวประชาสัมพันธ์ LINE ประเทศไทย, LINE Creators Magazine