Apple เปิดตัว iPad Pro รุ่นใหม่สองขนาด 11 นิ้ว และ 12.9 นิ้ว ที่เปลี่ยนจากชิปตระกูล A มาเป็น M1 พร้อมรองรับ 5G (mmWave รองรับเฉพาะในสหรัฐ) หน้าจอรุ่น 11 นิ้วยังเป็น Liquid Retina ธรรมดา (LCD) พร้อม Pro Motion (120Hz)

รุ่น 12.9 นิ้ว อัพเกรดเป็นหน้าจอ Liquid Retina XDR จอ Mini-LED ใช้หลอดไฟ LED ขนาดเล็กกว่า 10,000 ดวง แบ่งโซน local dimming กว่า 2,500 โซน คอนทราสต์เพิ่มเป็น 1:1,000,000 ความสว่างปกติ 1,000 nits ความสว่างสูงสุด 1,600 nits

หลัง Bloomberg รายงานเมื่อเดือนก่อนว่า Apple เตรียมเปิดตัว iPad Pro รุ่นใหม่สองขนาดพร้อมกันคือ 11 นิ้ว และ 12.9 นิ้วภายในเดือนเมษายน ล่าสุดมีข้อมูลอัพเดตว่า Apple กำลังประสบปัญหาการผลิตจอ MiniLED ที่จะนำมาใช้บนรุ่น 12.9 นิ้ว ทำให้น่าสงสัยว่าแอปเปิลจะยังเดินหน้าเปิดตัวตามกำหนดเดิมหรือไม่ แต่แหล่งข่าวก็ยืนยันกับ Bloomberg ว่าแอปเปิลจะยังเดินหน้างานเปิดตัวต่อไป แค่อาจเลื่อนการจำหน่ายรุ่น 12.9 นิ้วออกไปก่อน (คล้ายตอน iPhone 12 Mini และ 12 Pro Max)

แอปเปิลประกาศว่า Magic Keyboard รุ่นใหม่ สำหรับ iPad Pro ที่มาพร้อมกับ Trackpad เริ่มเปิดให้สั่งซื้อแล้ววันนี้ในช่องทางออนไลน์ผ่าน apple.com/th สินค้ามีพร้อมจัดส่งทันทีใน 2-4 วัน ซึ่งเร็วกว่าที่แอปเปิลบอกก่อนหน้านี้ว่าสินค้าจะเริ่มจำหน่ายเดือนพฤษภาคม

ราคาขายของ Magic Keyboard ใหม่ อยู่ที่ 9,990 บาท สำหรับ iPad Pro รุ่น 11 นิ้ว และ 11,690 บาท สำหรับ iPad Pro รุ่น 12.9 นิ้ว การใช้งานรองรับทั้ง iPad Pro รุ่นที่วางจำหน่ายในปีนี้ และรุ่นเก่าของปี 2018 โดยระบบปฏิบัติการต้องอัพเดตอย่างน้อยเป็น iPadOS 13.4

ต่อจาก MacBook Air คราวนี้ iFixit ก็เริ่มแกะชิ้นส่วนของ iPad Pro รุ่นปี 2020 โดยเป็นรุ่นหน้าจอ 12.9 นิ้ว

ภาพรวมนั้นการจัดวางชิ้นส่วนและองค์ประกอบ เหมือนกับ iPad Pro รุ่นปี 2018 มีของใหม่ที่สำคัญคือเซ็นเซอร์ LiDAR ที่ใช้สำหรับวัดระยะสูงสุด 5 เมตร สำหรับงานด้าน AR ซีพียูในเครื่องเป็นรุ่นใหม่ A12Z Bionic จีพียู 8 คอร์ แรม 6GB (ในรุ่น 2018 แรม 4GB ยกเว้นรุ่นความจุ 1TB ที่แรม 6GB)

Craig Federighi รองประธานอาวุโสฝ่ายวิศวกรรมซอฟต์แวร์ของแอปเปิล ได้เผยแพร่วิดีโอสาธิตการใช้งาน iPad Pro รุ่นใหม่ คู่กับ Magic Keyboard ใหม่ ผ่านเว็บไซต์ The Verge เพื่อให้เห็นภาพเวลาใช้งานมากขึ้น เนื่องจากครั้งนี้แอปเปิลไม่ได้จัดงานเปิดตัวในรูปแบบเดิมเพราะปัญหา COVID-19

ในวิดีโอนั้น Craig บอกว่าเคอร์เซอร์ที่แสดงบนหน้าจอ ออกแบบมาสำหรับ iPadOS โดยเฉพาะ บนแนวคิด Touch-First คือต้องแตะ Trackpad ก่อนจึงจะปรากฏเคอร์เซอร์ ไม่เหมือนกับเวลาใช้ Mac ที่แสดงเคอร์เซอร์ค้างตลอด

ไฮไลท์หนึ่งของ iPad Pro รุ่นใหม่ที่แอปเปิลเปิดตัวเมื่อคืนนี้ คืออุปกรณ์เสริม Magic Keyboard ใหม่ ที่มาพร้อมกับ Trackpad พร้อมขาตั้งที่ยกหน้าจอ iPad Pro ให้ลอยขึ้นมา และยังมีพอร์ต USB-C สำหรับเชื่อมต่ออุปกรณ์เสริม แต่ข่าวดีคือไม่จำเป็นต้องอัพเกรด iPad Pro เป็นรุ่นใหม่ เพื่อให้รองรับการใช้ Magic Keyboard ใหม่นี้

โดยแอปเปิลระบุว่า Magic Keyboard ใหม่นี้ จะรองรับการใช้งานร่วมกับ iPad Pro ทั้งรุ่นหน้าจอ 12.9 นิ้ว และ 11 นิ้ว ที่วางจำหน่ายในปี 2018 ด้วย (12.9" 3rd Gen และ 11" 1st Gen)

แอปเปิลเปิดตัว iPad Pro รุ่นใหม่แบบเงียบ ๆ การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญคือมาพร้อมเซ็นเซอร์ LiDAR (Light Detection and Ranging) แบบเดียวกับที่ใช้ในรถยนต์ไร้คนขับสำหรับระยะห่างระหว่างเซ็นเซอร์และวัตถุ เพื่อนำมาเสริมประสิทธิภาพของ AR ร่วมกับกล้องและเซ็นเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหว

ตัวอย่างการใช้งาน LiDAR กับแอป Measure คือสามารถวัดส่วนสูงคนได้รวดเร็ว โดยนักพัฒนาสามารถเข้าถึงเซ็นเซอร์นี้ได้ด้วย Scene Geometry API บน ARKit

สำนักข่าว Bloomberg อ้างแหล่งข่าวที่เกี่ยวข้อง ระบุว่าแอปเปิลยังคงแผนกำหนดเปิดตัว iPhone รุ่นใหม่ที่เน้นราคาถูกลง ซึ่งอาจใช้ชื่อ iPhone SE2 หรือ iPhone 9 ในเดือนมีนาคมนี้ ถึงแม้แอปเปิลจะออกมายอมรับว่ามีปัญหาในสายการผลิต จากเหตุ COVID-19

รายงานระบุว่าแอปเปิลคาดจะจัดงานแถลงข่าวในวันที่ 31 มีนาคม และ iPhone รุ่นดังกล่าวจะเริ่มเปิดจำหน่ายในวันที่ 3 เมษายน

นอกจากนี้ยังคาดว่าแอปเปิลจะเปิดตัว iPad Pro รุ่นใหม่ด้วย ซึ่งกรณีดีที่สุดก็คือเปิดตัวในงานมีนาคมนี้เลย แต่ iPad Pro นั้นประสบปัญหาในการผลิตให้พอจำหน่ายมากกว่า จึงอาจเลื่อนการเปิดตัวออกไป แต่ยังคงอยู่ในช่วงครึ่งแรกของปี 2020

หลังจาก Adobe เปิดตัว Photoshop ตัวเต็มบน iPad Pro ไปแล้วในงาน Adobe Max ปี 2018 ล่าสุด Bloomberg รายงานโดยอ้างอิงแหล่งข่าววงในบอกว่าหลังจาก Photoshop ทาง Adobe ก็มีแผนจะเปิดตัว Illustrator อีกหนึ่งแอพพลิเคชั่นออกแบบเรือธงของ Adobe บน iPad ตามกันมา

พบกันอีกครั้งสำหรับข่าวลือสินค้าที่เตรียมออกมาของแอปเปิล คราวนี้ก็ยังเป็นบทวิเคราะห์จากคุณ Ming-Chi Kuo นักวิเคราะห์ที่มีประวัติทายสินค้าได้แม่นยำที่สุดคนเดิม มีรายละเอียดดังนี้

• iPad Pro รุ่นปี 2020 จะมาพร้อมกล้องหลังแบบ 3D time-of-flight ซึ่งเป็นกล้องที่สามารถวัดระยะลึกได้ คาดว่าแอปเปิลจะนำมาเป็นส่วนเสริมของงาน AR
• iPhone รุ่นปี 2020 สองรุ่นบน ก็จะมีกล้องหลัง 3D time-of-flight เช่นกัน
• MacBook Pro จอ 16 นิ้ว ที่คาดว่าอาจเปิดตัวภายในเดือนนี้ Kuo อัพเดตว่าจะเป็น MacBook รุ่นแรกที่กลับมาใช้คีย์บอร์ดแบบ Scissor Switch หลังพบปัญหาต่อเนื่องจากคีย์บอร์ดแบบ Butterfly
• iPhone SE2 ยืนยันรายงานเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ว่า iPhone รุ่นนี้จะเปิดตัวต้นปีหน้า

นอกจาก iPhone รุ่นเก่า และ Apple Watch Series 3 แล้ว ล่าสุดมีผู้พบว่าแอปเปิลได้ลดราคา iPad Pro ลงด้วยเช่นกัน โดยมีผลเฉพาะรุ่นพื้นที่หน่วยความจำสูงสุด 1TB เท่านั้น

ซึ่งสำหรับประเทศไทย Apple Store ส่วนออนไลน์ได้ลดราคา iPad Pro รุ่นความจุ 1TB ลงมาแล้ว 7,000 บาท ส่วนรุ่นความจุ 64, 256 และ 512GB ราคาคงเดิมไม่เปลี่ยนแปลง ทำให้ราคาใหม่เป็นดังนี้

ในงาน Adobe Max ปี 2018, Adobe เปิดตัว Project Gemini แอพพลิเคชั่นวาดรูปในตระกูล Adobe Creative Cloud ที่ออกแบบมาเพื่อใช้งานบน iPad และปากกา Apple Pencil โดยเฉพาะ ล่าสุด Adobe เปลี่ยนชื่อ Project Gemini เป็น Adobe Fresco และเริ่มเปิดให้ลงทะเบียนใช้งานเวอร์ชั่นเบต้าแล้ว

จุดเด่นของ Fresco คือฟังก์ชั่นสีน้ำและสีน้ำมันที่ให้ความรู้สึกเหมือนกำลังวาดสีบนปูนหรือผ้าใบจริงๆ โดย Blognone มีโอกาสได้ลองใช้งานแอพเวอร์ชั่นเบต้ามาช่วงสั้นๆ ก่อนจะเปิดให้ใช้งานจริงภายในปีนี้

แอปเปิลได้อัพเดตหน้าสนับสนุนการใช้งานของ Apple Pencil โดยเตือนว่าหากผู้ใช้งานกำลังชาร์จ Apple Pencil รุ่นที่ 2 กับ iPad Pro โดยการแตะกับด้านข้างของตัวเครื่อง อาจเกิดสัญญาณที่รบกวนการทำงานของกุญแจรีโมทรถยนต์ ทำให้กุญแจไม่สามารถใช้งานเปิดประตูรถยนต์ได้ตามปกติ

ทั้งนี้แอปเปิลไม่ได้อธิบายรายละเอียดว่าสาเหตุที่เกิดสัญญาณรบกวนกันเกิดจากอะไร แต่เดาได้ว่าขณะชาร์จ Apple Pencil น่าจะมีคลื่นสัญญาณบางอย่างเกิดขึ้น ซึ่งแนวทางแก้ไขสำหรับใครที่เจอปัญหาก็คือ ย้าย iPad Pro ที่ชาร์จอยู่ออกห่างไป หรือถ้าทำไม่ได้ ก็แค่แยก Apple Pencil ออกจาก iPad Pro ชั่วคราว นอกจากนี้แอปเปิลบอกว่าถ้า Apple Pencil ชาร์จเต็มแล้ว ก็จะไม่มีคลื่นรบกวนสัญญาณออกมา

จากการเปิดตัว iPad ที่มีการอัพเกรดสองรุ่นเมื่อวาน ก็มีข้อสังเกตว่าไลน์สินค้า iPad นั้นมีความหลากหลาย ขณะเดียวกันบนความหลากหลายก็ชวนสับสนอยู่ไม่น้อยทีเดียว โดยเฉพาะสำหรับคนที่กำลังจะซื้อ iPad เครื่องแรก น่าจะรู้สึกเลือกยากมากเลยทีเดียว ซึ่งก็มีสื่อหลายสำนักให้ข่าวเห็นไว้น่าสนใจ

ก่อนอื่นมาดู iPad 2 รุ่นใหม่ที่เปิดตัวเมื่อวานนี้ได้แก่

• iPad Air (2019) หน้าจอ 10.5 นิ้ว ถูกนำมาทดแทน iPad Pro รุ่นหน้าจอ 10.5 นิ้ว ซึ่งเลิกขายไป
• iPad mini 5 หน้าจอ 7.9 นิ้ว อันนี้ตรงไปตรงมา คือแทนที่ iPad mini 4

ส่วน iPad อีก 3 รุ่นวางจำหน่ายคือ

ผู้เล่นเปียโนหรือนักดนตรีเล่นเปียโนหลายคน น่าจะคุ้นเคยกับ Steinway & Sons ผู้ผลิตเปียโนชื่อดัง และบางคนก็อาจเคยมีประสบการณ์ได้เล่นหรือจับจองเป็นเจ้าของมาแล้ว ล่าสุด บริษัทได้ทำการเปิดตัวเปียโนรุ่นใหม่ "Spirio | r"

สำหรับเปียโนรุ่นนี้เป็นการพัฒนาต่อจากรุ่น Spirio เมื่อปี 2015 ที่สามารถเล่นเพลงแล้วเชื่อมต่อกับ iPad ทำให้เครื่องเล่นเพลงเองได้เสมือนหนึ่งนักดนตรีมาเล่นเอง ส่วนความสามารถพิเศษของรุ่นนี้ที่เพิ่มเข้ามาคือการบันทึกการเล่นสดของนักดนตรีหรือผู้เล่นได้ เล่นกลับ (playback) ค้นหา แล้วบันทึก รวมถึงแก้ไขรายละเอียดต่างๆ ได้เพิ่มเติมจากแอพของบริษัทใน iPad Pro ที่เชื่อมต่อเข้ากับเปียโนโดยเฉพาะ

จากปัญหาที่ผู้ใช้งาน iPad Pro รุ่นใหม่จำนวนหนึ่งพบว่าเครื่องมีการงอ ไม่เป็นแนวเสมอกัน บางรายเจอกระทั่งตอนเปิดกล่องใหม่เลย ซึ่งต่อมาผู้บริหารแอปเปิลได้อีเมลตอบคำถามลูกค้าว่าเป็นการออกแบบตามาตรฐานนั้น ล่าสุดแอปเปิลก็ชี้แจงประเด็นนี้อย่างเป็นทางการมากขึ้น

โดยแอปเปิลเพิ่มเติมเนื้อหาในหน้า Support อธิบายรายละเอียดด้านการออกแบบ iPad Pro รุ่นใหม่ โดยประเด็นวัสดุระบุว่า วัสดุของตัว iPad Pro เป็นอลูมิเนียมแบบ Unibody ที่แข็งแรง เบา และทนทาน ขอบเหลี่ยม ซึ่งแตกต่างจากรุ่นก่อนหน้านี้ขอบโค้ง

จากปัญหาผู้ใช้ iPad Pro บางคนพบว่าเครื่องมีการงอเล็กน้อย ไม่เรียบเสมอเป็นแนวกัน และแอปเปิลก็ยืนยันว่าสามารถใช้งานได้ตามปกติไม่ส่งผลต่อประสิทธิภาพแต่อย่างใด ล่าสุดมีคนอีเมลไปสอบถามผู้บริหารระดับสูงของแอปเปิลเพื่อขอความเห็น

โดย Dan Riccio รองประธานฝ่ายวิศวกรรมฮาร์ดแวร์ของแอปเปิลได้ตอบอีเมลจากลูกค้าชื่อ Craig (แอปเปิลยืนยันว่าเป็นอีเมลจริง) ถึงปัญหาดังกล่าว เขาอธิบายว่าการออกแบบ iPad Pro รุ่นใหม่แบบ unibody นั้นเป็นไปตามมาตรฐานหรือสูงกว่า รวมไปถึงความเที่ยงตรงในการผลิตเช่นกัน ซึ่งการผลิตนั้นมีการควบคุมอย่างละเอียดในทุกขั้นตอน

iPad Pro รุ่นใหม่ของปี 2018 ถูกตั้งข้อสังเกตว่าตัวเครื่องบิดงอได้ง่ายตั้งแต่เริ่มวางจำหน่าย ยิ่งเมื่อยูทูบเบอร์ JerryRigEverything ได้ทดสอบหักเองก็ยิ่งทำให้คนแชร์ปัญหาดังกล่าวมากขึ้น บางคนบอกว่ายังไม่ทันเริ่มใช้งาน แค่เปิดกล่องมาก็เจอเครื่องงอเล็กน้อยแล้ว ล่าสุดแอปเปิลก็ออกมาชี้แจงเรื่องนี้

แอปเปิลได้ยืนยันกับ The Verge ว่า iPad Pro รุ่นปี 2018 อาจมีตัวเครื่องงออยู่ในระดับที่เล็กน้อยมาก ๆ โดยเกิดบริเวณตัวขอบอะลูมิเนียม ซึ่งเป็นผลจากกระบวนการผลิต แต่ตัวเครื่องก็จะไม่งอมากขึ้นไปกว่าเดิม หรือส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพการทำงานของ iPad Pro สามารถใช้งานได้ตามปกติ

แอปเปิลออกวิดีโอโฆษณาตัวใหม่บนช่อง YouTube ในชื่อวิดีโอที่ตรงไปตรงมาเลยคือ 5 เหตุผลที่ iPad Pro สามารถเป็นคอมพิวเตอร์เครื่องถัดไปของคุณ (5 Reasons iPad Pro can be your next computer) ซึ่งเป็นอีกครั้งที่แอปเปิลพยายามชูจุดขาย iPad ในแง่การใช้งานทดแทนคอมพิวเตอร์เดิม

เนื้อหาในวิดีโอก็ไล่เหตุผลมาเป็นข้อ ๆ ตั้งแต่ ประสิทธิภาพที่สูงกว่าคอมพิวเตอร์ทั่วไป, ความสามารถในการใช้งานที่หลากหลาย, พกพาไปใช้งานติดตัวเชื่อมต่อได้ทุกที่, ใช้ง่าย และดีมากขึ้นเมื่อใช้ร่วมกับ Apple Pencil

สุดท้ายวิดีโอปิดท้ายว่า iPad Pro นั้นสามารถทดแทนคอมพิวเตอร์ได้ แม้จะแตกต่างจากคอมพิวเตอร์ทั่วไปนั่นเอง

iPad Pro รุ่นใหม่ของปี 2018 นั้นมาพร้อมความบางเพียง 5.9 มิลลิเมตร ด้วยความบางระดับนี้จึงมียูทูบเบอร์ช่อง JerryRigEverything โดย Zack Nelson ซึ่งมักทดสอบฮาร์ดแวร์ด้วยวิธีการแปลก ๆ อยู่แล้ว นำ iPad Pro มาทดสอบหลายอย่างดู

ในการทดสอบหลายอย่างนั้น Nelson ปิดท้ายด้วยการจับ iPad Pro มาลองบิดงอดู ซึ่งจากคลิปท้ายข่าวจะเห็นได้ว่า iPad Pro สามารถงอได้ง่ายมาก ไม่ได้ดูออกแรงมากนัก ซึ่งก็น่าสงสัยว่า iPad Pro อาจงอได้ง่ายเพียงแค่พกพาไปมา คล้ายกรณี iPhone 6 Plus

อย่างไรก็ตาม วิธีเสริมความแข็งแรงให้ iPad นั้นก็ตรงไปตรงมา คือการซื้อเคสมาใส่นั่นเอง

เว็บไซต์ iFixit ได้แกะ iPad Pro รุ่นใหม่ขนาดหน้าจอ 11 นิ้ว ให้คะแนนความง่ายในการซ่อมเพียง 3/10 โดยมีประเด็นที่น่าสนใจดังนี้

• พอร์ต USB-C สามารถถอด และเปลี่ยนเฉพาะชิ้นส่วนได้
• การถอดปุ่มโฮมออกทำให้ไม่มีปัญหาปุ่มโฮมเสียอีกต่อไปแล้ว และทำให้แกะง่ายขึ้น
• หน้าจอ LCD และกระจกด้านหน้าถูกรวมเป็นชิ้นเดียวกัน เวลาเปลี่ยนต้องเปลี่ยนทั้งหมด
• มีการติดกาวไว้แทบจะทุกๆ ส่วน ทำให้การซ่อมยากขึ้น

นอกเหนือจากตัวไอแพดเองแล้ว iFixit ก็ได้ลองแกะ Apple Pencil รุ่นที่ 2 อีกด้วย ซึ่งมีแนวโน้มคล้ายกับของเดิม ที่แทบแกะอะไรไม่ได้เลย แต่ว่ามีโมดูลชาร์จไร้สาย, แม่เหล็ก และโมดูลตรวจจับการแตะเพิ่มขึ้นมา

น่าจะเป็นสินค้าแอปเปิลที่เปิดตัวใหม่ในปีนี้ที่หลายคนรอคอย โดย iPad Pro รุ่นใหม่ปี 2018 ได้เริ่มเปิดให้สั่งจองสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ Apple Online Store แล้วในวันนี้ โดยสินค้ามีกำหนดเริ่มจัดส่งตั้งแต่วันศุกร์ที่ 16 พฤศจิกายน 2561 เป็นต้นไป หรือสามารถเลือกรับสินค้าได้ที่ Apple Store สาขา Iconsiam

iPad Pro มีให้เลือกสองขนาดหน้าจอคือ 11 นิ้ว และ 12.9 นิ้ว ความจุเริ่มต้นตั้งแต่ 64GB ไปจนถึงสูงสุด 1TB ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 28,900 สำหรับจอ 11 นิ้ว และ 35,900 บาท สำหรับจอ 12.9 นิ้ว

ทั้งนี้ในเว็บ Apple Online Store จะมีตัวเลือกให้สั่งซื้อเฉพาะ iPad Pro รุ่น Wi-Fi เท่านั้น ส่วนรุ่น Wi-Fi + Cellular ยังไม่มีจำหน่าย

iPad Pro 2018 ที่หลายๆ คนน่าจะว้าวมากกว่า iPhone รุ่นใหม่เริ่มได้รับการรีวิวจากสื่อต่างประเทศแล้วก่อนวางจำหน่ายจริงวันที่ 7 พฤศจิกายนนี้

ในภาพรวมคือดีไซน์สวย หน้าจอดีแต่ไม่ได้ดีขึ้นกว่า iPad Pro ปีที่แล้วขนาดเห็นความแตกต่าง Apple Pencil ใหม่คือความดีงามโดยเฉพาะการชาร์จแบบไร้สายเวลาติด Apple Pencil ไว้กับ iPad Pro ทว่าการเพิ่มการควบคุมปากกาด้วยระบบสัมผัส The Verge ระบุให้ความรู้สึกแปลกๆ และไม่เป็นธรรมชาติเท่ากับปุ่มจริง ขณะที่ Face ID ก็ยังคงทำงานได้ดีเหมือน iPhone แต่ที่เพิ่มเข้ามาคือสามารถสแกนหน้าแบบกลับหัวได้ด้วย กรณีที่ถือ iPad กลับด้าน

ไฮไลท์หนึ่งของงานเปิดตัว iPad Pro รุ่นใหม่เมื่อวานนี้ คือ Apple Pencil 2 ที่มีการเปลี่ยนแปลง โดยมีแม่เหล็กไว้ยึดกับตัวเครื่องและชาร์จไฟ และมีทางลัดในการสลับเครื่องมือด้วยการแตะสองครั้ง

อย่างไรก็ตาม เนื่องจาก Apple Pencil 2 นี้มีการเปลี่ยนแปลงมาก แอปเปิลจึงระบุในเว็บไซต์ไว้ชัดเจนว่าสามารถใช้งานได้กับ iPad Pro รุ่นใหม่ 11 นิ้ว และ 12.9 นิ้วเท่านั้น ไม่สามารถนำไปใช้งานกับ iPad รุ่นเก่าที่รองรับ Apple Pencil ได้ และในทางกลับกัน Apple Pencil รุ่นแรก ก็ไม่สามารถนำใช้งานกับ iPad Pro รุ่นใหม่ได้เช่นกัน

ไม่เพียงแค่ Macbook Air กับ Mac mini รุ่นใหม่ แอปเปิลยังเปิดตัว iPad Pro รุ่นใหม่ มีสองขนาด ได้แก่ 11 นิ้ว กับ 12.9 นิ้ว ใช้ชิป A12X Bionic มาพร้อม USB-C และไร้ปุ่มโฮม