Ming-Chi Kuo นักวิเคราะห์ขาประจำของแอปเปิล (ผลงานล่าสุด) ที่ตอนนี้ทำงานอยู่ที่ TF International Securities ได้ออกบทวิเคราะห์ทำนายสินค้าที่แอปเปิลจะเปิดตัวในงานสัปดาห์หน้า ตลอดจนกำหนดการออกสินค้าตัวอื่น มีรายละเอียดดังนี้

BGR อ้างแหล่งข่าวภายในแอปเปิลว่าแท็บเล็ตหน้าจอ 7.9 นิ้ว iPad mini เตรียมยุติการผลิตและจำหน่ายในเร็วๆ นี้ นั่นคือจะไม่มี iPad mini 5 ออกมานั่นเอง

สำหรับสาเหตุที่แอปเปิลจะเลิกขายนั้นก็ตรงไปตรงมาคือ iPad mini มียอดขายลดลงอย่างชัดเจน โดยแท็บเล็ตรุ่นจอเล็กนี้เริ่มขายในปี 2012 ซึ่งตอนนั้น iPhone ยังหน้าจอเล็ก ไม่มี iPhone 6 Plus หน้าจอ 5.5 นิ้วออกมา และ iPad ยังไม่มี iPad Air จึงมีน้ำหนักเครื่องค่อนข้างมาก พอเวลาสินค้าเหล่านั้นมีการเปลี่ยนแปลง บีบให้ iPad mini เป็นสินค้าที่มีความโดดเด่นน้อยลง

จากข่าว iPad 2-3, iPhone 4S, iPad mini รุ่นแรก ไม่ได้อัพเกรดเป็น iOS 10 คำถามที่ตามมาคือมี iPad จำนวนเท่าไรที่ได้รับผลกระทบจากนโยบายนี้

ถึงแม้แอปเปิลไม่เปิดเผยตัวเลขนี้ แต่สถิติจากบริษัทวิเคราะห์ข้อมูลแอพมือถือ Localytics เมื่อเดือนมีนาคม 2016 (ข้อมูลเก่าไปสองสามเดือน) พอให้เราประเมินได้ว่าน่าจะมี iPad ที่ไม่ได้อัพเดตรวมกันประมาณ 40% ของ iPad ทั้งหมดที่อยู่ในตลาด

ตอนนี้ iPad รุ่นที่ได้รับความนิยมสูงสุดคือ iPad Air รุ่นแรก (18%) แต่อันดับสอง iPad 2 (17%) และอันดับสาม iPad mini (15%) ซึ่งมีสัดส่วนผู้ใช้งานเยอะไม่แตกต่างกันมาก กลับไม่ได้ไปต่อ เมื่อรวมกับ iPad 3 (9%) ก็จะได้สัดส่วน iPad ที่ไม่ได้อัพเดตประมาณ 41%

แอปเปิลประกาศรายชื่ออุปกรณ์ที่จะได้อัพเกรดเป็น iOS 10 ผลคือมีอุปกรณ์สาย iOS หลายตัวที่ได้อัพเกรดต่อเนื่องมานาน แต่สุดท้ายก็ต้องหยุดที่ iOS 9 เท่านั้น

• iPhone: iPhone ต่ำกว่า 4S จะไม่ได้อัพเกรด, ได้อัพที่ iPhone 5 หรือใหม่กว่า
• iPad: iPad 2-3 จะไม่ได้อัพเกรด, ได้อัพที่ iPad 4 หรือใหม่กว่า (รวม iPad Air และ iPad Pro)
• iPad mini: iPad mini รุ่นแรกไม่ได้อัพเกรด, ได้อัพที่ iPad mini 2 หรือใหม่กว่า
• iPod touch: iPod touch 5th gen จะไม่ได้อัพเกรด, เหลือเพียง iPod touch 6th gen เท่านั้นที่ได้ไปต่อ

ถัดจากการเปิดตัว iPad Pro 9.7 นิ้ว แอปเปิลก็ประกาศลดราคา iPad ดั้งเดิมสองตัว คือ iPad mini 2 เหลือ 9,900 บาท (269 ดอลลาร์) ขณะที่ iPad Air 2 ลดราคาจาก 16,900 บาท (499 ดอลลาร์) เหลือ 14,400 บาท (399 ดอลลาร์)

ขณะที่ประกาศลดราคาชื่อ iPad ที่แสดงบนเวทีกลับแสดงเพียง iPad mini เท่านั้น แต่หลังจบประกาศก็ยังมีทั้ง iPad mini 2 และ mini 4 ขายคู่กันเหมือนเดิม ที่ประหลาดคือราคาในไทย iPad mini 4 จะอยู่ที่ 13,400 บาท ทั้งที่ราคาในสหรัฐฯ เท่ากับ iPad Air 2

iPad mini 2 เปิดตัวตั้งแต่ปี 2013 การปรับลดราคาเช่นนี้เราคงเห็นมันวางขายไปอีกระยะครับ

DisplayMate ผู้เชี่ยวชาญด้านการแสดงผลหน้าจอ ออกผลการทดสอบเชิงเปรียบเทียบระหว่าง iPad รุ่นล่าสุดทั้ง 2 รุ่นคือ iPad mini 4 และ iPad Pro โดย DisplayMate บอกว่า iPad mini 4 มีผลการแสดงหน้าจอดีกว่า iPad หน้าจอยักษ์ของแอปเปิล

หน้าจอของ iPad mini 4 ถูกยกว่าแทบจะเป็นหน้าจอ LCD ที่เพอร์เฟ็คที่สุด โดยถูกจัดอันดับว่ามีการแสดงผล "ดีที่สุด" ในแทบทุกประเภทการทดสอบเช่น ค่าความถูกต้องของสีดีที่สุด (Color Accuracy) ค่าความสว่างมากที่สุด (Highest Ambient Light) และการสะท้อนแสงของหน้าจอต่ำที่สุด (Lowest Screen Reflectance) มีเพียงค่า Contrast Ratio (จุดที่ดำต้องดำที่สุด จุดที่ขาวต้องขาวที่สุด) เท่านั้น ที่ถูกจัดอันดับไว้เพียง "ดีมาก"

หลังจากแอปเปิลเริ่มวางจำหน่าย iPad mini 4 ผู้เชี่ยวชาญด้านการแกะและการซ่อมอย่าง iFixit ได้จัดแจงงัดแงะภายในของ iPad mini รุ่นล่าสุดมาให้ดูกัน

เนื่องด้วย iPad mini 4 มีขนาดที่บางลงกว่ารุ่นก่อนหน้า ทำให้ภายในของตัวเครื่องมีการเปลี่ยนแปลงด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะหน้าจอ LCD และกระจกด้านหน้าที่ติดกันเป็นแผ่นเดียว ซึ่งทำให้ง่ายต่อการแกะแต่ก็กลายเป็นข้อเสียหากหน้าจอแตก ที่จะทำให้ค่าซ่อมแพงมากขึ้นตามไปด้วย รวมไปถึงแบตเตอรี่ที่เล็กลงและความจุลดลง รวมไปถึงเปลี่ยนมาเป็น single cell ด้วย (รุ่นก่อนหน้าเป็น 2 cell)

ยังคงเป็นรุ่นที่ถูกลืมต่อเนื่องอีกปีสำหรับ iPad mini ที่วันนี้มีเปิดตัว iPad mini 4 แบบเงียบๆ ในช่วงประกาศราคาด้วย หน้าตาโดยรวมยังคงเดิม แต่อัพเดตสเปคให้แรงขึ้นดังนี้

สำหรับสเปคของ iPad mini 4 ถูกอัพเกรดให้เท่ากับ iPad Air 2 ด้วยชิปประมวลผล Apple A8 พร้อมชิปประมวลผลร่วม M8 เพิ่มความละเอียดกล้องเป็น 8 เมกะพิกเซล แต่น้ำหนักเบาลงเล็กน้อยเหลือราว 294 กรัม และยังเป็น iPad mini รุ่นเดียวที่มี Touch ID ดังเดิม (เพราะเลิกขาย iPad mini 3 ไปด้วย)

ราคาเริ่มต้นของ iPad mini 4 จะเปิดมาที่ 399 เหรียญเท่ากับ iPad mini 3 ที่เลิกขายไปแล้ว ส่วน iPad mini 2 รุ่นสเปคต่ำกว่าแต่ยังเป็นหน้าจอ Retina Display ลดราคาไปเหลือ 269 เหรียญ

ผ่านมาถึง 10 เดือนหลังจากที่ Tactus ได้นำเอางานต้นแบบเคส iPad mini ที่มีหน้าจอแบบเปลี่ยนรูปยุบได้พองได้ออกมาโชว์ ตอนนี้ Tactus ก็ได้วางจำหน่ายเคสที่ว่านี้แล้ว

หนึ่งในฟีเจอร์ใหม่ที่มาพร้อมกับ iPad Air 2 และ iPad mini 3 คือ Apple SIM หรือ Universal SIM ที่ทางแอปเปิลติดมาให้กับเครื่อง ทำให้ผู้ใช้สามารถเปลี่ยนเครือข่ายได้โดยไม่ต้องเปลี่ยนซิม แต่ทว่าเมื่อใช้งานจริง หากผู้ใช้เลือกที่จะใช้แผนดาต้ากับเครือข่าย AT&T กลายเป็นว่า Apple SIM จะถูกล็อกไว้กับ AT&T เพียงเจ้าเดียว

แม้ว่าวันนี้แอปเปิลจะเปิดตัวแท็บเล็ตรุ่นใหม่ทั้ง iPad Air 2 และ iPad mini 3 แต่ทว่ารุ่นก่อนหน้าของทั้งสองซีรีส์นี้ยังคงวางขายอยู่ดังเดิม (รวมถึง iPad mini รุ่นแรกด้วย) โดยลดราคาลงไปพอสมควร ไล่ตามรุ่นดังนี้ครับ

เปิดตัวอย่างเป็นทางการตามคาดสำหรับ iPad Air 2 แท็บเล็ตจอใหญ่รุ่นใหม่ของแอปเปิลที่ยังคงเน้นความบางเช่นเคย (ของเดิมก็บางมากอยู่แล้ว) และยังเพิ่มฟีเจอร์เพื่อความปลอดภัยแบบสะดวกนิ้วอย่าง Touch ID มาเป็นครั้งแรกของซีรีส์ iPad อีกด้วย

อย่างที่บอกไปว่า iPad Air 2 เน้นความบางเป็นพิเศษ เทียบกับรุ่นก่อนแล้วบางกว่ากัน 18% ไปอยู่ที่ 6.1 มม. ซึ่งแอปเปิลเทียบกับดินสอไม้ว่า iPad Air เนี่ยบางเสียยิ่งกว่าดินสอไม้อีกนะ (มีเปรียบเทียบกับ iPad รุ่นแรกด้วยการวางสองเครื่องซ้อนกันก็ยังบางกว่า)

สเปคของ iPad Air นั้นตรงเป๊ะกับที่หลุดมาจากข่าวลือช่วงหลังๆ ดังนี้ครับ

แอปเปิลเผลอหลุดภาพและข้อมูลของ iPad Air 2 และ iPad mini 3 ในคู่มือการใช้งาน iOS 8.1

จากภาพ iPad Air 2 และ iPad mini 3 จะมีปุ่มโฮมเป็นเซ็นเซอร์ลายนิ้วมือ Touch ID แน่นอนแล้ว ส่วนหน้าตาและการออกแบบภายนอกยังเหมือนรุ่นก่อนแทบทุกประการ ฟีเจอร์ใหม่อีกตัวที่ระบุคือ iPad Air 2 จะได้โหมดถ่ายภาพ Burst Mode ที่เคยมีครั้งแรกใน iPhone 5s ด้วย

เอกสารหลุด iOS 8.1 ออกมาแบบนี้ ก็คาดว่างานแถลงข่าวคืนนี้ของแอปเปิลจะออก iOS 8.1 เพิ่มมาอีกอย่างด้วยครับ

ที่มา - 9to5mac

ใกล้ถึงงานของแอปเปิลวันที่ 16 ซึ่งคาดกันว่าจะเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่หลายชิ้น หนึ่งในนั้นคือ iPad Air รุ่นใหม่ที่เคยมีข่าวลือถึงสเปคที่อัพเกรดขึ้นอย่างมาก ตอนนี้ก็มีภาพยืนยันถึงสเปคที่เพิ่มขึ้นออกมาให้เห็นกันจะๆ แล้ว

ภาพบอร์ดของ iPad Air รุ่นใหม่หลุดมาจากเว็บไซต์ไต้หวัน Apple.club.tw เผยให้เห็นถึงชิปตัวใหม่ที่เป็น Apple A8X อย่างแน่นอนแล้ว เหนือขึ้นไปเป็นแรมจาก Elpida ที่คาดว่าจะความจุเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 2GB (ที่มาพูดถึงเลขรหัสตัวที่สองที่ควรจะเป็น 8 ถ้าหากแรม 1GB ซึ่งในภาพน่าจะเป็น A ซึ่งหมายถึง 2GB มากกว่า)

เราเคยเห็นกล้องสำหรับมองภาพในระบบ VR จากหน้าจอสมาร์ทโฟนมาแล้ว คราวนี้จึงมีคนคิดทำกล้องสำหรับมองภาพ VR จากหน้าจอแท็บเล็ตอย่าง iPad mini กันบ้าง ชื่อของมันคือ AirVR

AirVR เป็นผลงานการพัฒนาของ Metatecture ซึ่งเป็นทีมพัฒนาจากประเทศแคนาดา มันเป็นอุปกรณ์สำหรับสวมใส่ศีรษะที่มีช่องสำหรับใส่ iPad mini และมีช่องเลนส์เพื่อมองภาพ VR จากหน้าจอของอุปกรณ์ iOS นั้น โดยขณะนี้ Metatecture กำลังระดมทุนผ่าน Kickstarter (เป้าหมายคือ 20,000 ดอลลาร์แคนาดา หรือประมาณ 590,000 บาท) เพื่อโอกาสในการทำ AirVR เป็นผลิตภัณฑ์ออกวางขายจริง

ในปีนี้แอปเปิลอาจจะทำการปล่อย iPad Air รุ่นใหม่ออกมาอีกครั้ง และจะเลื่อนการเปิดตัว iPad Pro ขนาด 12.9 นิ้วและ iPad mini รุ่นใหม่ออกไปปีหน้า โดย iPad Air รุ่นใหม่นี้น่าจะมาพร่้อมกับเซ็นเซอร์อ่านลายนิ้วมือ Touch ID และชิป Apple A8 และจะเป็นแท็ปเล็ตเพียงรุ่นเดียวที่แอปเปิลเลือกที่จะเปิดตัวภายในปีนี้

Ming-Chi Kuo จาก KGI Securities ซึ่งเป็นผู้ให้ข้อมูลในครั้งนี้ ได้ออกมาบอกว่าแอปเปิลมีแผนที่จะปล่อย iPad Air ใหม่ภายในครึ่งแรกของปีนี้ และจะเร่งพัฒนา iPad รุ่นที่มีหน้าจอขนาดใหญ่ถึง 12.9 นิ้วออกมา อีกทั้งยังมีทีมงานหลายส่วนที่ต้องไปพัฒนา iWatch แทน ทำให้ทรัพยากรไม่เพียงพอต่อการพัฒนา iPad mini รุ่นใหม่

ข้อมูลล่าสุดจาก InfoScout สำนักวิจัยตลาดแห่งหนึ่ง เปิดเผยว่าในเทศกาล Black Friday (เทศกาลจับจ่ายสินค้าในช่วงวันหยุดขอบคุณพระเจ้า) สินค้าตระกูล iPad สามารถสร้างยอดขายได้ดีที่สุดในช่วงนี้

โดยสินค้าที่ขายดีที่สุดอันดับหนึ่งในห้าง Target ตามการวิเคราะห์ของ InfoScout ระบุว่าเป็น iPad Air รุ่น Wi-Fi ขนาดความจุ 16 GB (ที่ราคาในเทศกาลนี้ลงเหลือ 479 ดอลลาร์สหรัฐ) 8.2% รองลงมาก็คือ iPad mini รุ่น Wi-Fi ความจุ 16 GB 7.5% ขณะที่อันดับ 3 คือ iPad Air รุ่น Wi-Fi ความจุ 32 GB 2.4%

DisplayMate ผู้เชี่ยวชาญด้านหน้าจอที่มีผลงานการทดสอบหน้าจออุปกรณ์พกพาชื่อดังหลายรุ่น ล่าสุดเพิ่งหยิบแท็บเล็ตหน้าจอขนาดเล็กสามรุ่นเด่นอย่าง Amazon Kindle Fire HDX 7, Retina iPad mini และ Nexus 7 (2013) มาทำการทดสอบร่วมกัน ซึ่งผลการทดสอบออกมาค่อนข้างน่าสนใจดังนี้ครับ

เริ่มต้นกันที่ภาพรวมของหน้าจอของทั้งสามรุ่นเสียก่อนฝั่ง Amazon Kindle Fire HDX 7 เป็นหน้าจอ iPS LCD ที่ใช้เทคโนโลยีการผลิต a-Si ส่วน iPad mini นั้นมีหน้าจออยู่สองแบบ แบบหนึ่งเป็น IPS LCD ที่ใช้เทคโนโลยี IGZO และอีกแบบเป็น FFS LCD ที่ใช้เทคโนโลยี a-Si ปิดท้ายด้วย Nexus 7 ที่ใช้ IPS LCD แบบ LTPS (Low Temperature Poly Silicon) ในแง่ของความละเอียดนั้นกินกันไม่ลงเพราะมีค่าความหนาแน่นอยู่ที่ 320+ PPI ทั้งสิ้น

หลังจากวันเปิดตัว iPad Air แอปเปิลไม่ได้ให้รายละเอียดว่า iPad mini รุ่น Retina Display จะวางจำหน่ายจริงเมื่อใด แต่อยู่ ๆ แอปเปิลก็เปิดวางจำหน่าย iPad mini รุ่นนี้ผ่านหน้าร้าน Apple Online Store ของตัวเองเมื่อซักครู่นี้ โดยเมืองไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่สามารถเลือกซื้อ iPad mini with Retina Display นี้ได้ทันที! ส่วน iPad Air ก็เริ่มจำหน่ายอย่างเป็นทางการพร้อม ๆ กัน

iPad mini with Retina Display มีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 13,400 บาทสำหรับรุ่น 16GB และสูงสุดที่ 23,900 บาทสำหรับรุ่น 128GB ส่วน iPad Air มีราคาเริ่มต้น 16,900 บาทสำหรับรุ่น 16GB และ 27,400 บาทสำหรับรุ่น 128GB

หลังเปิดตัว iPad mini รุ่นใหม่ได้ไม่กี่วัน Tim Cook ก็ออกมาใบ้คร่าวๆ ว่า iPad mini อาจจะของไม่พอ แต่ฝั่ง iPad Air นั้นมีของแน่นอน ตอนนี้เงื่อนงำเริ่มคลี่คลายแล้วว่าทำไมของถึงได้มีน้อย

เมื่อสักครู่นี้แอปเปิลได้ออกมารายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่สี่ ประจำปี 2013 แล้ว โดยทิม คุก ซีอีโอของแอปเปิล ได้ออกมาบอกว่าเขาไม่มั่นใจว่า Retina iPad mini ที่แอปเปิลเตรียมวางจำหน่ายอยู่ในขณะนี้ จะมีสต็อคมากเพียงพอกับความต้องการหรือไม่

ก่อนหน้านี้มีข่าวลือออกมาบอกว่าข้อจำกัดทางการผลิต ทำให้แอปเปิลไม่สามารถผลิต iPad mini รุ่นนี้ให้มากเพียงพอต่อความต้องการได้ สำนักข่าวบางแห่งอ้างว่า iPad mini จะหาซื้อได้ยากมากไปจนถึงต้นปีหน้า

วันนี้ Frank Shaw ประธานอาวุโสฝ่ายการติดต่อสื่อสารของไมโครซอฟท์ ได้เขียนบล็อกลงใน The Official Microsoft Blog เพื่อโจมตีซอฟต์แวร์ iWork ของแอปเปิลและ iPad รุ่นใหม่โดยเฉพาะ มีเนื้อความสำคัญ ดังนี้

ต่อเนื่องจาก iPad Air แอปเปิลก็ปล่อยของต่อเนื่องด้วยการเปิดตัว iPad mini with Retina Display (iPad mini 2) มาพร้อมกัน ด้วยสเปคที่คาดเดากันได้ครับ

หน้าตาตัวเครื่องของ iPad mini 2 เหมือนเดิมเป๊ะๆ ส่วนที่เปลี่ยนไปมีเพียงหน้าจอที่เพิ่มความละเอียดเป็น 2048x1536 พิกเซล (324 PPI) และปรับซีพียูเป็น Apple A7+M7 เท่ากับ iPhone 5s และ iPad Air ครับ

สเปคอื่นเท่าเดิมเป๊ะ กล้องหลังความละเอียด 5 เมกะพิกเซล ใช้งานได้ 10 ชั่วโมง รองรับ LTE เช่นเคย

iPad mini 2 เปิดราคามาที่ 399 เหรียญสำหรับรุ่น Wi-Fi ความจุ 16GB และ 529 เหรียญสำหรับรุ่น LTE+Wi-Fi ความจุ 16GB ส่วนรุ่นก่อนหน้าอย่าง iPad mini ตัวแรก ลดราคาลงเหลือ 299 เหรียญ เริ่มขายเดือนพฤศจิกายนครับ

The Wall Street Journal รายงานว่าแอปเปิลจะเปิดตัว iPad รุ่นใหม่ที่บางกว่าเดิมในวันอังคารนี้ ในขณะที่ iPad mini รุ่นใหม่จะมาพร้อมกับจอภาพความละเอียดสูง Retina display ซึ่งตรงกับข่าวลือจากแหล่งอื่น ๆ ก่อนหน้านี้ที่ได้รายงานไปแล้ว

ส่วนที่เพิ่มมาคือรายละเอียดเกี่ยวกับชิป ซึ่งแหล่งข่าวใหม่นี้เชื่อว่า iPad mini ใหม่จะมาพร้อมกับชิปชุดเดียวกับที่ใช้บน iPhone 5s นั่นคือชิป A7 ส่วน iPad รุ่นใหญ่จะมาพร้อมกับชิป A7X ซึ่งจะมีพลังในการประมวลกราฟฟิคสูงกว่า A7

iPad ทั้งสองรุ่นใหม่นี้ จะมาพร้อมกับกล้องถ่ายภาพที่ดีกว่าเดิม และมาพร้อมกับชิป M7 เช่นเดียวกับ iPhone 5s

เมื่อสักครู่นี้แอปเปิลได้ประกาศเชิญชวนสื่อมวลชนให้ไปร่วมงานเปิดตัว iPad ในวันอังคารที่ 22 ตุลาคมที่จะถึงนี้ ที่มีแท็กไลน์ของงานว่า We still have a lot to cover โดยงานจัดขึ้นที่ Yerba Buena Center for Arts ในกรุงซานฟรานซิสโก

เชื่อว่าในงานนี้ แอปเปิลจะเปิดตัว iPad รุ่นใหม่ (หลายคนเรียกว่า iPad 5) ที่จะมาพร้อมกับรูปร่างและหน้าตาที่ใกล้เคียงกับ iPad mini มากขึ้น ขอบด้านซ้ายและขวาจะมีขนาดเล็กลง ในขณะเดียวกัน iPad mini ใหม่จะมาพร้อมกับหน้าจอความละเอียดสูง Retina Display

นอกจาก iPad แล้ว แอปเปิลน่าจะเผยวันและราคาจำหน่าย OS X Mavericks และเปิดตัวชุดซอฟต์แวร์ iWork รุ่นใหม่ รวมไปถึง MacBook Pro และ Mac Pro ใหม่อีกด้วย