แอปเปิลรายงานข้อมูลส่วนแบ่ง iOS ตามเวอร์ชันล่าสุดในหน้านักพัฒนา โดย iOS 11 มีส่วนแบ่งผู้ใช้งานอยู่ 52% ซึ่งถือเป็นการรายงานอย่างเป็นทางการครั้งแรกจากแอปเปิลเอง (ก่อนหน้านี้มาจากบริษัทวิจัย)

ส่วนเวอร์ชันก่อนหน้านี้ iOS 10 อยู่ที่ 38% และเวอร์ชันเก่ากว่านั้นรวมกัน 10%

เมื่อเทียบกับตอน iOS 10 เปิดให้ผู้ใช้ทั่วไปดาวน์โหลดแล้ว ถือว่า iOS 11 มีความเร็วในการถูกอัพเดตที่ช้ากว่า

ที่มา: MacRumors

มีรายงานว่าผู้ใช้ iPhone และ iPad บางส่วนที่อัพเดตซอฟต์แวร์เป็นเวอร์ชันล่าสุด iOS 11.1 พบปัญหาเมื่อพิมพ์ข้อความด้วยอักษร i ตัวเล็ก แล้วระบบแก้ไขคำผิดอัตโนมัติจะเปลี่ยนเป็นอักษร A ตามด้วยสัญลักษณ์เครื่องหมายคำถาม ซึ่งสร้างปัญหาให้ผู้ใช้ไม่น้อยเพราะ i เป็นอักษรเปิดประโยคยอดนิยม

โดย Apple Support ได้เพิ่มเนื้อหาในเว็บ ยอมรับปัญหาดังกล่าวและแนะนำวิธีแก้ไขปัญหาชั่วคราว โดยไปที่ Settings > General > Keyboard > Text Replacement แล้วเพิ่มการแทนที่ข้อความ โดยใส่ค่า Phrase เป็น I ตัวใหญ่ และ Shortcut เป็น i ตัวเล็ก

แอปเปิลออกอัพเดตซอฟต์แวร์ชุดใหญ่ในวันนี้ในทุกระบบปฏิบัติการ มีรายละเอียดดังนี้

• iOS 11.1: เพิ่มอีโมจิกว่า 70 รายการ และแก้ปัญหากับปรับปรุงต่างๆ รวมทั้งช่องโหว่ KRACK
• watchOS 4.1: เพิ่มความสามารถสตรีมเพลงจาก Apple Music บน Apple Watch Series 3 แบบ cellular
• macOS High Sierra 10.13.1: ปรับปรุงการซิงก์ข้อความ Microsoft Exchange และแก้ปัญหา KRACK
• tvOS 11.1: แก้ปัญหา KRACK และอื่นๆ
• iTunes 12.7.1: แก้ไขและปรับปรุงประสิทธิภาพเล็กน้อย

ที่มา: Apple Insider [1], [2], [3], [4], [5]

App Store บน iOS 11 มีการปรับรูปแบบใหม่ โดยเพิ่มแถบแรกที่ชื่อ Today เป็นการแนะนำแอพและเกมประจำวัน ที่คัดสรรโดยกองบรรณาธิการ ซึ่งข้อมูลจากบริษัทวิจัย Apptopia พบว่า แอพที่ได้ลง Today มียอดดาวน์โหลดเพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

โดยค่าเฉลี่ยจากการศึกษาเป็นเวลา 30 วัน พบว่าแอพทั่วไปที่ได้รับการแนะนำมียอดดาวน์โหลดเพิ่มขึ้นจากปกติ 1,747% ส่วนแอพเกมเพิ่มขึ้น 792% จะเห็นว่ายอดดาวน์โหลดแอพนั้นสูงกว่าเกม นอกจากนี้แอพที่ได้รับการแนะนำในวันธรรมดาจะมีตัวเลขสูงกว่าสุดสัปดาห์ และที่สำคัญคือแอพฟรีถูกดาวน์โหลดมากกว่าแอพเสียเงิน

ปกติเวลากดเครื่องคิดเลข เมื่อลำดับการกดคือ 1 + 2 + 3 = ผลลัพธ์ที่ได้ก็ต้องเป็น 6 แต่มีผู้รายงานใน Reddit ว่าสำหรับแอพเครื่องคิดเลข (Calculator) บน iOS 11 ถ้าเราป้อนค่าข้างต้นแบบต่อเนื่อง ผลลัพธ์ที่ได้จะไม่ใช่ 6 แต่เป็น 23 หรือ 24

สาเหตุเนื่องจากเมื่อเรากด 1 + 2 แล้วกด + ครั้งที่สองนั้น ปุ่ม + ในแอพจะไม่ตอบสนองในทันที ผลจึงเป็นการข้าม + ไป กลายเป็นกด 2 3 ต่อเนื่อง ได้ค่า 23 เข้าไปแทน ฉะนั้นปัญหานี้จะไม่เกิดหากเราค่อยๆ กด หน่วง และเว้นจังหวะให้โปรแกรมสักหน่อย

ปัญหานี้น่าจะถูกแก้ไขใน iOS 11.1

มีรายงานว่าผู้ใช้แอพ GarageBand บน iOS พบปัญหาแอพเด้งไม่สามารถใช้งานได้ตามปกติ หลังจากอัพเดตเป็น iOS 11 โดยแอปเปิลได้อธิบายได้ในหน้า Support ว่าเกิดจากปัญหาเชื่อมต่อกับ iCloud

โดยแนวทางแก้ไขเบื้องต้นนั้น แอปเปิลแนะนำให้ผู้ใช้ปิดการเข้าถึง iCloud ของ GarageBand ก่อน ซึ่งจะส่งผลให้ไม่สามารถเข้าถึงไฟล์ที่อยู่ใน iCloud Drive ได้ แต่ไฟล์ไม่หายไป และแอปเปิลจะออกตัวอัพเดตที่แก้ไขปัญหาเร็วๆ นี้

GarageBand ออกอัพเดตครั้งสุดท้ายเมื่อเดือนมิถุนายน

ที่มา: Apple Insider

Apple ปล่อยอัปเดต iOS 11.0.3 หลังจากปล่อยอัปเดต iOS 11.0.2 ไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยแก้ปัญหาเล็กน้อยที่พบในเวอร์ชันก่อนหน้า ผู้ใช้สามารถกดดาวน์โหลดอัปเดตได้ทันทีในอุปกรณ์ที่รองรับ

• แก้ปัญหาเสียงและระบบสั่นไม่ทำงานซึ่งพบใน iPhone 7 และ iPhone 7 Plus
• แก้ปัญหาระบบสัมผัสไม่ทำงานบน iPhone 6s บางเครื่องเนื่องจากไม่ได้ใช้ชิ้นส่วนแท้จาก Apple

EFF (Electronic Frontier Foundation) ออกมาให้ความเห็นเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงใน Control Center ของ iOS 11 ที่เมื่อปิด Wi-Fi หรือ Bluetooth แล้ว ไม่ได้ปิดการทำงานอย่างสมบูรณ์จริง (อยากปิดให้หมดต้องไปที่ Settings) ตามข่าวก่อนหน้านี้ว่า จะสร้างปัญหาทั้งความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวกับผู้ใช้งาน เนื่องจาก UI ไม่ได้ทำงานอย่างที่มันแสดงออกมา ผู้ใช้งานเองก็จะสับสนสถานะของอุปกรณ์ในตอนนั้น

นอกจากนี้ EFF ยังมองว่าการออกแบบที่ให้ iOS 11 พยายามเชื่อมต่อกับอุปกรณ์และบริการอื่นตลอดเวลานั้น ทำให้มีโอกาสถูกโจมตีจากบุคคลภายนอกได้ง่ายขึ้น ซึ่งมองว่าแอปเปิลสามารถแก้ไขเรื่องนี้ได้ไม่ยาก

Apple ปล่อยอัปเดต iOS 11.0.2 หลังจากปล่อยอัปเดต iOS 11.0.1 ไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยแก้ปัญหาเล็กน้อยที่พบในเวอร์ชันก่อนหน้า ผู้ใช้สามารถกดดาวน์โหลดอัปเดตได้ทันทีในอุปกรณ์ที่รองรับ

• แก้ปัญหาเสียงแตกระหว่างโทรศัพท์ซึ่งพบใน iPhone 8 และ iPhone 8 Plus
• แก้ปัญหารูปภาพโดนซ่อน
• แก้ปัญหาการเปิดไฟล์แนบในอีเมลที่ถูกเข้ารหัส

iOS 11 เปิดให้ผู้ใช้ทั่วไปดาวน์โหลดมาได้ 2 สัปดาห์แล้ว ข้อมูลล่าสุดจากบริษัทวิจัย Mixpanel บอกว่าส่วนแบ่ง iOS 11 ตอนนี้อยู่ที่ 36% แล้ว

ถึงแม้ส่วนแบ่งจะอยู่ในระดับที่สูง แต่ก็ยังไม่เร็วเท่ากับเมื่อตอน iOS 10 ออกมา โดยใช้เวลาเพียง 7 วันก็มีส่วนแบ่งถึง 30% แล้ว

ที่มา: BGR

หลังจากที่แอปเปิลได้ปล่อย iOS 11 เมื่อวันที่ 19 กันยายนไปนั้น วันนี้ทางแอปเปิลได้ปล่อย iOS เวอร์ชัน 11.0.1 ซึ่งไล่หลังกันเพียงหนึ่งอาทิตย์

โดยเวอร์ชันนี้เป็นการแก้ไขบั๊กต่างๆ ที่ค้นพบจาก iOS 11 ผู้ใช้งานทุกคนสามารถอัพเดตเพื่อทำการแก้ไขได้เองทันทีจากตัวอุปกรณ์

ที่ผ่านมาผู้ใช้ Uber บน iOS จะมีตัวเลือกในการให้แอพเข้าถึงพิกัดได้เพียง 2 ตัวเลือกคือ ไม่ให้เลย กับให้ตลอดเวลา ซึ่งกลายเป็นประเด็นตั้งแต่ปีที่แล้ว โดย Uber ให้เหตุผลในตอนนั้นว่าเพื่อการปรับปรุงคุณภาพการบริการ

อย่างไรก็ตามใน iOS 11 ซึ่งมีเงื่อนไขว่า ทุกแอพที่ต้องการเข้าถึงข้อมูลพิกัด ต้องมี 3 ทางเลือกคือ Always, Never และ While Using the App นั่นก็ทำให้ Uber ต้องยอมเปลี่ยนวิธีการ

โดยในอัพเดตแอพ Uber เวอร์ชันล่าสุดของ iOS 3.261.4 นั้น ระบุว่าผู้ใช้งานสามารถเลือกความเป็นส่วนตัวในการแชร์ข้อมูลพิกัดได้ โดยเพิ่มตัวเลือก ขณะที่ใช้แอพ ได้แล้ว ซึ่งอัพเดตนี้ก็มีผลแม้จะใช้ iOS เวอร์ชันก่อนหน้า

แอปเปิลอัพเดตข้อมูลในหน้า Support ระบุว่าการปิด Wi-Fi หรือ Bluetooth ผ่านส่วน Control Center (ศูนย์ควบคุม) บน iOS 11 จะไม่ได้ปิดการทำงาน Wi-Fi หรือ Bluetooth อย่างสมบูรณ์ โดยคุณสมบัติหลายอย่างจะยังทำงานได้ต่อเนื่องตามปกติ อาทิ AirDrop, AirPlay, Apple Pencil, Apple Watch, Handoff ฯลฯ

แล้วอะไรที่ปิดการทำงานไปบ้าง? แอปเปิลบอกว่า การเชื่อมต่อ Wi-Fi และการเชื่อมต่ออุปกรณ์เสริม Bluetooth จะเป็นส่วนที่ปิดการทำงานไป โดยการเชื่อมต่อนี้จะกลับคืนมาได้ก็ต่อเมื่อทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งคือ: เปิดคืนใน Control Center หรือ รีสตาร์ทอุปกรณ์ หรือ เปิดคืนใน Settings หรือ เวลาท้องถิ่นเป็นเวลา 5 นาฬิกา หรือ อยู่ในสถานที่ใหม่ (เฉพาะ Wi-Fi)

จากงาน WWDC 2017 เมื่อช่วงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา แอปเปิลได้เปิดตัว iOS 11 สำหรับนักพัฒนา มีฟีเจอร์ออกมามากมาย และหนึ่งในความสามารถใหม่ ๆ นั่นคือ ได้ปล่อยชุด ARKit หรือชุดสำหรับใช้พัฒนาแอปประเภท AR (Augmented Reality) ออกมาให้เหล่านักพัฒนาสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับแอปของตนได้ โดยแอปที่จะนำเสนอในวันนี้คือแอป AirMeasure AR จาก Laan Labs

แอป AirMeasure AR เป็นแอปที่ใช้วัดความยาวของวัตถุหรือสิ่งของได้อย่างสมจริง เพียงแค่ยกกล้องแล้วโฟกัสไปยังจุดที่เราจะวัดความยาว โดยแตะจุดเริ่มและจุดสุดท้าย เราก็จะได้ขนาดความยาวของวัตถุออกมา ซึ่งมีความแม่นยำเกือบ 99% เลยทีเดียว

Apple ปล่อย iOS 11 และ watchOS 4 ให้ดาวน์โหลดแล้ววันนี้ โดยมีฟีเจอร์ใหม่หลักๆ เช่น

iOS 11

• Control Centre แบบใหม่

• ปรับปรุงหน้าตาโดยรวม

• ฟังก์ชัน Drag and Drop
• Dock ใน iPad
• ปรับปรุง Siri
• โหมด Do not disturb ขณะขับรถ

แอปเปิลประกาศวันออกอัพเดตซอฟต์แวร์ระบบปฏิบัติการรุ่นล่าสุดทั้งหมด หลังจากปล่อยรุ่นทดสอบสำหรับนักพัฒนาตั้งแต่งาน WWDC ที่ผ่านมา ดังนี้

• iOS 11 ออกอัพเดตวันที่ 19 กันยายน
• macOS High Sierra ออกอัพเดตวันที่ 25 กันยายน
• watchOS 4 ออกอัพเดตวันที่ 19 กันยายน
• tvOS 11 ออกอัพเดตวันที่ 19 กันยายน

นอกจากนี้แอปเปิลยังปล่อยอัพเดตเวอร์ชันสุดท้าย หรือ Golden Master ออกมาให้กับนักพัฒนาด้วยในวันนี้

ที่มา: TechCrunch [1], [2]

ก่อนหน้านี้เราเห็นข่าวว่าแอปเปิลจะเปิดตัว iPhone ใหม่ 3 รุ่น ซึ่งตอนแรกระบุชื่อเป็น iPhone 7s, 7s Plus, 8 แล้วกลายมาเป็น iPhone 8, 8 Plus, Edition

ล่าสุดมีคนไปค้นพบข้อความใน iOS 11 ว่าชื่อรุ่นจะเป็น iPhone 8, 8 Plus และ iPhone X ซึ่งแหล่งที่มาของข้อมูลจากตัว iOS เองมีความน่าเชื่อถือมากกว่าข่าวหลุดก่อนหน้านี้อย่างมาก อย่างไรก็ตาม ยังมีความเป็นไปได้ว่า iPhone X อาจเป็นรหัสเรียกชื่ออุปกรณ์ และไม่ใช่ชื่อที่ใช้ทำตลาดจริงก็ได้เช่นกัน

ข้อมูลอื่นที่พบใน iOS 11 คือฟีเจอร์ปลดล็อคหน้าจอด้วยใบหน้า จะใช้ชื่อว่า Face ID และมีฟีเจอร์ Animoji ที่เป็น emoji แบบแอนิเมชัน+3D

Federico Viticci แห่ง MacStories พบฟีเจอร์ใหม่ใน Safari บน iOS 11 เวอร์ชันสำหรับนักพัฒนา beta 7 โดยเมื่อเราแชร์เว็บจาก Safari ไปยัง iMessage (หรือแอพอื่น) หากเว็บนั้นแสดงผลแบบ AMP ซึ่งอาจมี url รูปแบบพิเศษ ตัว Safari จะทำการแปลง url แบบ AMP คืนเป็น url แบบปกติแทน

ต่อมา Malte Ubl หัวหน้าทีม AMP ของกูเกิลออกมาเปิดเผยว่ากูเกิลเองที่เป็นฝ่ายขอให้แอปเปิล รวมทั้งผู้ผลิตเบราว์เซอร์รายอื่นเพิ่มคุณสมบัตินี้ เพราะเมื่อเราดูเนื้อหาแบบ AMP เวลาแชร์ต่อออกไป url ก็ควรเปลี่ยนกลับเป็นแบบเดิมจึงจะเหมาะสมกว่า

ที่มา: 9to5Mac

Apple ปล่อย iOS 11 beta 6 สำหรับนักพัฒนาบน iPhone และ iPad แล้ว อัพเดตในเวอร์ชันนี้นอกจากจะปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้งานรวมไปถึงแก้ไขบั๊ก สิ่งหนึ่งที่เปลี่ยนไปแบบเห็นได้ชัดนั่นก็คือไอคอนแอพ App Store และ Maps แบบใหม่นั่นเอง

สำหรับไอคอนใหม่ของ App Store ได้เปลี่ยนจากรูปที่เราคุ้นเคยอย่างดินสอ, แปรงและไม้บรรทัดเป็นเส้น 3 เส้นปลายมนแทน ส่วนสีพื้นหลังยังเช่นเดิม และแอพ Maps เองก็เปลี่ยนพื้นหลังแอพใหม่ โดยใช้เส้นทางพื้นที่โดยรอบของ Apple Campus แทน

อัพเดตอื่นๆ ที่น่าสนใจได้แก่ ตัวเลือกปรับความสว่างหน้าจออัตโนมัติถูกย้ายเข้าไปในเมนู Accessibility แทน, live wallpaper รูปปลากัดถูกเอาออกไป, เปลี่ยนหน้าต้อนรับของแอพ Photos ใหม่, ตัวเลขบนแอพ Clock หนาขึ้นและมีอนิเมชันใหม่เมื่อเชื่อมต่อกับ AirPods

สำหรับอัพเดตนี้เปิดให้ทดสอบกับนักพัฒนาและนักทดสอบที่เข้าร่วม Beta Software Program เท่านั้น สามารถอัพเดตผ่านทาง OTA ได้แล้ว

ที่มา : GSMArena, iCulture

แอพ Google Earth ที่มีผู้ใช้งานอยู่มากบนระบบปฏิบัติการ iOS ของ Apple ได้ออกอัพเดตให้รองรับการใช้งานแบบ 64 บิต บน iOS 11 ซึ่งเป็นระบบปฏิบัติการรุ่นต่อไปของ Apple แล้ว รวมถึงการใช้งานที่ดียิ่งขึ้นกับคุณสมบัติใหม่ๆ ของ Google Earth อย่าง Flyover-esque 3D views (การบินดูวิวของเมืองในมุมมองนก) และ Voyager (การพาชมสถานที่จริงบนโลกผ่านทาง Google Earth)

เริ่มอัพเดตจากเวอร์ชัน 9.0.78 เป็นต้นไป ซึ่งสามารถดาวน์โหลดได้แล้วตั้งแต่วันนี้

ที่มา - 9to5mac

iOS 11 ซึ่งตอนนี้อยู่ในสถานะเบต้าได้เพิ่มคุณสมบัติใหม่ โดยมีแถบสีฟ้าด้านบนเตือนผู้ใช้งาน พร้อมระบุว่าแอพตัวใดที่ทำงานในแบ็คกราวด์ ที่กำลังใช้ข้อมูลพิกัด (Location) อยู่ในขณะนี้ แต่เดิมนั้น iOS จะขึ้นการเตือนแบบนี้เช่นกัน แต่เป็นเพียงสัญลักษณ์ลูกศรเล็กๆ บอกว่ามีแอพใช้งานข้อมูลพิกัด ถ้าอยากรู้ว่าแอพไหนต้องตามเข้าไปตรวจสอบใน Settings เอง การขึ้นข้อความเตือนแบบนี้จึงน่าจะทำให้ผู้ใช้เกิดความระวังมากขึ้น

iPhone มีการเพิ่มขนาดความจุขั้นต่ำจาก 16GB มาเป็น 32GB ตั้งแต่ iPhone 7 ปีที่แล้ว แต่ดูเหมือนให้พื้นที่เท่าใดก็ไม่น่าจะพอ แม้หลายเว็บจะมีคำแนะนำต่างๆ นานา ว่าเราจะลบอะไรเพื่อให้ได้พื้นที่คืน แต่ก็ไม่พออีก สาเหตุหนึ่งก็เพราะแอพบน iPhone เดี๋ยวนี้มีขนาดใหญ่ขึ้นกว่าเดิมมาก

บริษัทวิจัย Sensor Tower เปิดเผยผลการสำรวจแอพยอดนิยมบน iPhone ในอเมริกา 10 อันดับแรก พบว่าใช้พื้นที่เพิ่มขึ้นถึง 12 เท่าในเวลา 4 ปี กล่าวคือเมื่อปี 2013 แอพเหล่านี้ใช้เนื้อที่รวม 164MB แต่ตอนนี้ต้องการพื้นที่ถึง 1.9GB เลย

เก็บตกจากงาน WWDC เมื่อเล็กน้อยจากการเปิดตัว iPad Pro รุ่นใหม่ ที่มาพร้อม iOS 11 ซึ่งนอกเหนือจากฟีเจอร์ที่ระบุมาให้ข่าวข้างต้นแล้ว iOS 11 บน iPad ยังมีฟีเจอร์ใหม่เพิ่มเข้ามาดังนี้

• Dock รองรับแอพได้มากขึ้น ทำให้มีความใกล้เคียงกับ Dock บน macOS และสามารถเรียก Dock ขึ้นมาได้โดยการปาดนิ้วจากล่างขึ้นบน โดยตัว Dock รองรับ multitasking ด้วยการลากแอพจาก Dock มาเปิดเป็น Split-View
• App Switcher ใหม่ที่แสดงหน้าต่างแอพเป็นตารางเหมือนกับใน macOS ขณะที่ Control Center ย้ายมาอยู่ในหน้านี้แทน เนื่องจาก gesture ถูกแทนที่ด้วยการเรียก Dock

ในงาน WWDC นอกจากแอปเปิลจะเปิดตัวระบบปฏิบัติการ iOS 11 แล้ว ยังเปิดตัวโฉมใหม่ของ App Store โดยเพิ่มหมวดหมู่ใหม่เข้ามา มีเป้าในการเปลี่ยนประสบการณ์ค้นหาแอพและเกมให้ง่ายขึ้นกว่าเดิม

โดยแถบซ้ายมือสุดชื่อว่า Today ประกอบด้วยเนื้อหาแนะนำแอพน่าสนใจ โดยมีทีมบรรณาธิการคัดเลือกและนำเสนอเรื่องราวของการพัฒนาแอพเหล่านั้น ตลอดจนแนะนำแอพสำหรับไอเดียต่างๆ

ที่น่าสนใจคือ App Store แยกแถบ Games ออกมาเลยจากแถบ Apps ทั่วไป เป็นการตอกย้ำว่าแอพเกมถือเป็นหมวดที่ได้รับความนิยมสูง

แอปเปิลเปิดตัว iOS 11 ในงาน WWDC ตามคาด อัพเดตความสามารถรอบด้าน

• Apple Pay รองรับการโอนเงินระหว่างบุคคลแล้ว โดยสามารถโอนผ่านทาง iMessage ฝ่ายที่รับเงินจะได้รับเป็น Apple Pay Cash Card สามารถใช้ซื้อของหรือถอนเงินออกไปยังธนาคารก็ได้
• Siri รองรับการแปลภาษา จีน, ฝรั่งเศส, เยอรมัน, อิตาลี, และอังกฤษ
• Control Center ปรับหน้าจอแบบใหม่ให้อยู่หน้าเดียว แต่เมื่อคลิกที่โซนต่างๆ จะเห็นปุ่มควบคุมเพิ่มเติม
• ฟีเจอร์ป้องกันการใช้โทรศัพท์ขณะขับรถ iOS สามารถเรียนรู้ได้ว่ากำลังอยู่ในรถหรือไม่ หากอยู่ในรถหน้าจอจะดับ หากเปิดหน้าจอขึ้นมาจะต้องกดยืนยันว่าไม่ได้ขับรถอยู่
• Apple Music เปิด API ให้แอปอื่นสามารถเข้ามาเชื่อมต่อได้มากขึ้น
• ARKit API ชุดใหม่เปิดให้นักพัฒนาสามารถสร้างแอป augemented reality ที่สมจริงกว่าเดิม เช่น Pokemon ที่ยืนอยู่บนพื้นจริงๆ และลูกบอลที่เด้งกับพื้น