แอปเปิลอัพเดตตัวเลขส่วนแบ่งผู้ใช้งาน iOS แยกตามเวอร์ชันของระบบปฏิบัติการในหน้าของนักพัฒนา โดย iOS 12 มีส่วนแบ่งผู้ใช้รวมทั้งบน iPhone, iPad และ iPod Touch 88% ของผู้ใช้ทั้งหมดแล้ว ณ วันที่ 6 สิงหาคม 2019 ซึ่งสูงกว่า iOS 11 ที่เทียบกับช่วงเวลาใกล้เคียงกัน ทำได้ 85% ในเดือนกันยายน

iOS 11 เวอร์ชันก่อนหน้ามีส่วนแบ่ง 7% และเวอร์ชันเก่ากว่านั้นมีอยู่ 5%

นอกจากนี้หากดูเฉพาะอุปกรณ์ที่มีอายุไม่เกิน 4 ปี ส่วนแบ่งของ iOS 12 ก็อยู่ที่ 90% เรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้คาดว่า iOS 13 รุ่นใหม่ จะเริ่มออกอัพเดตสำหรับผู้ใช้งานทั่วไปช่วงปลายเดือนกันยายนนี้

ในวันนี้แอปเปิลได้ออกอัพเดตซอฟต์แวร์ระบบปฏิบัติการของอุปกรณ์ทั้งหมด มีรายละเอียดดังนี้

• iOS 11.4.1 แก้ไขปัญหาตำแหน่งที่ตั้งสุดท้ายของ AirPods ที่เจอในผู้ใช้บางราย, เพิ่มโหมดจำกัดการเข้าถึง USB ซึ่งทำให้ไม่สามารถใช้อุปกรณ์ภายนอกเข้าถึงข้อมูลได้ผ่านพอร์ตนี้ หากเครื่องถูกล็อกเกิน 1 ชั่วโมง ซึ่งฟีเจอร์ปิดพอร์ต Data นี้ตอนแรกพบใน iOS 12 beta แต่ก็นำมาใส่ใน iOS 11.4.1 เลย
• macOS 10.13.6 รองรับการเชื่อมต่อ AirPlay 2 สำหรับเสียงในหลาย ๆ ห้อง และแก้ไขบั๊กหลายรายการ
• HomePod 11.4.1 ปรับปรุงประสิทธิภาพทั่วไป
• watchOS 4.3.2 แก้ไขบั๊กและปรับปรุงประสิทธิภาพทั่วไป
• tvOS 11.4.1 แก้ไขบั๊กและปรับปรุงประสิทธิภาพทั่วไป

แอปเปิลออกอัพเดตซอฟต์แวร์ชุดใหญ่ โดยคราวนี้เน้นไปที่รายการเกี่ยวข้องกับ HomePod มีรายละเอียดดังนี้

• iOS 11.4 รองรับการเชื่อมต่อ AirPlay 2 สำหรับเสียงในหลาย ๆ ห้อง, รองรับคู่เสียงสเตอริโอ HomePod, รองรับ Message บน iCloud และแก้ไขบั๊กต่าง ๆ
• HomePod 11.4 รองรับ AirPlay 2 และคู่เสียงสเตอริโอ
• tvOS 11.4 รองรับการทำงานของ AirPlay 2
• watchOS 4.3.1 แก้ไขบั๊กและปรับปรุงรายการทั่วไป
• iTunes 12.7.5 ปรับปรุงรายการทั่วไป

สำหรับ iOS สามารถอัพเดตแบบ OTA ได้เลยที่ Settings > General > Software Update

แอปเปิลออกอัพเดต iOS 11.3.1 ในวันนี้ ซึ่งเป็นการแก้ไขปัญหาที่มีรายงานก่อนหน้านี้ หลังผู้ใช้ iPhone 8 พบว่าหน้าจอสัมผัสไม่ทำงาน หากใช้ชิ้นส่วนที่เปลี่ยนจากร้านซ่อมมือถือภายนอก

อย่างไรก็ตามแม้ iOS 11.3.1 จะแก้ไขปัญหาดังกล่าว แต่แอปเปิลก็ระบุข้อความว่า การใช้ชิ้นส่วนที่ไม่ใช่ของแท้มาเปลี่ยนนั้น อาจส่งผลให้คุณภาพการทำงานลดลงและทำงานผิดปกติ จึงแนะนำให้ใช้ชิ้นส่วนแท้ของแอปเปิล

นอกจาก iOS แล้ว macOS 10.13.4 ก็ออกอัพเดตด้านความปลอดภัย 2018-001 ด้วย

Dropbox ออกอัพเดตแอพบน iOS เวอร์ชัน 92.2 ซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงสำคัญ สำหรับผู้ใช้ iPad มีรายละเอียดดังนี้

• แสดงผลชื่อไฟล์แบบเต็มได้แล้ว มีประโยชน์สำหรับไฟล์ที่มีชื่อยาวมาก
• รองรับ Drag and Drop ไฟล์ข้ามแอพ สำหรับผู้ใช้ iOS 11
• ส่งการแจ้งเตือนให้เราอนุมัติได้ หากมีผู้ร้องขอเข้าถึงไฟล์
• ปรับปรุงการพรีวิวไฟล์ และรองรับการแก้ไขข้อความมากกว่า 120 ไฟล์ฟอร์แมต

ผู้ใช้ Dropbox บน iOS โดยเฉพาะ iPad สามารถอัพเดตได้ที่ App Store

ที่มา: Engadget

มีรายงานว่าผู้ใช้ iPhone 8 ที่มีการเปลี่ยนหน้าจอ โดยใช้หน้าจอจากร้านซ่อมที่ไม่ใช่ศูนย์แอปเปิลเอง พบว่าเมื่ออัพเดต iOS เป็นเวอร์ชันล่าสุด 11.3 ตัวหน้าจอสัมผัสจะไม่สามารถใช้งานได้ตามปกติ แต่หากยังไม่อัพเดตเวอร์ชันก็ยังใช้งานได้

แอปเปิลยังไม่ได้ออกมายอมรับปัญหานี้ แต่ลักษณะอาการนี้ถ้าใครจำได้ เมื่อ 2 ปีที่แล้ว ผู้ใช้ iPhone 6 ที่เปลี่ยนปุ่มโฮมจากร้านซ่อมภายนอก ก็พบปัญหาเครื่องไม่ทำงานหากอัพเดตเป็น iOS 9.2.1 ซึ่งต่อมาแอปเปิลยอมรับว่าเป็นบั๊กในซอฟต์แวร์ ไม่ได้มีเจตนาป้องกันการใช้ฮาร์ดแวร์ภายนอก ปัญหาจึงถูกแก้ไขในอัพเดต iOS เวอร์ชันถัดมา ซึ่งกรณีนี้ก็น่าจะคล้ายคลึงกันคือต้องรอแอปเปิลออกอัพเดตซอฟต์แวร์

แอปเปิลออกอัพเดตใหญ่ iOS เวอร์ชัน 11.3 แล้วในวันนี้ หลังจากปล่อยเวอร์ชันทดสอบมา ซึ่งมีฟีเจอร์สำคัญเพิ่มขึ้นมาหลายรายการ ได้แก่

• เพิ่มหน้าแสดงประสิทธิภาพแบตเตอรี่ และสามารถเปิด/ปิด ตัวเลือกที่ทำให้ iPhone ช้า เพื่อป้องกันปัญหาเครื่องดับได้
• Animoji ใบหน้าใหม่ มังกร, สิงโต, หมี และกะโหลก (เฉพาะ iPhone X)
• ARKit เวอร์ชัน 1.5 ทำให้นักพัฒนาแอพสามารถใส่ลูกเล่นใหม่ๆ เพิ่มเข้ามา

Infosec รายงานการพบช่องโหว่ในแอพกล้องของ iOS 11 ซึ่งเพิ่มคุณสมบัติสแกน QR Code แล้วเข้าไปยังเว็บไซต์ได้โดยตรง โดยพบว่าสามารถแสดง url หลอกเพื่อให้ผู้ใช้เข้าใจผิดกดเข้าไป แต่ความจริงเป็นอีก url หนึ่งได้

ตัวอย่างที่ทดสอบนั้น เจตนาต้องการให้เข้าเว็บไซต์ https://infosec.rm-it.de/ แต่เมื่อใส่ฟอร์แมตใน QR Code เป็น https://xxx\@facebook.com:443@infosec.rm-it.de/ จะพบว่า url ที่แสดงขึ้นมาในแอพกล้องเป็น url แรกนั่นคือ facebook.com

Infosec บอกว่ารายงานปัญหานี้ให้แอปเปิลไปแล้วตั้งแต่ 23 ธันวาคม แต่ยังไม่ถูกแก้ไข

ที่มา: 9to5Mac

มีผู้พบบั๊กใหม่ใน iOS 11 โดยเมื่อแอพส่งข้อความแจ้งเตือน และผู้ใช้ตั้งซ่อนข้อความเตือนไว้ เพื่อให้ไม่ให้ใครมาอ่านได้ขณะล็อกหน้าจอ แต่ปรากฏว่าเมื่อสั่งให้ Siri อ่านข้อความตอนเครื่องล็อก เช่น "Hey Siri, read my notifications." กลับพบว่า Siri จะอ่านข้อความเตือนรวมทั้งเนื้อหาที่ซ่อนไว้ด้วย เท่ากับไม่ตรงวัตถุประสงค์ที่ต้องการซ่อนข้อความ

แอปเปิลออกอัพเดตซอฟต์แวร์ชุดใหญ่วันนี้ ประกอบด้วย iOS 11.2.6, macOS 10.13.3, tvOS 11.2.6 และ watchOS 4.2.3 ซึ่งทั้งหมดออกมาเพื่อแก้ปัญหาบั๊กอักษรภาษาเตลูกูที่สามารถทำให้เครื่องค้างได้

ในข้อมูลอัพเดตของ iOS 11.2.6 ยังระบุว่าในเวอร์ชันนี้ มีการแก้ไขปัญหาที่แอพภายนอกบางตัว ไม่สามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์เสริมได้

ซอฟต์แวร์ทั้งหมดเปิดให้อัพเดตแล้วตามช่องทางเดิม

ที่มา: 9to5Mac

มีการรายงานบั๊กตั้งแต่เมื่อต้นสัปดาห์ว่า iOS จะเกิดอาการเครื่องค้างและไม่สามารถทำงานได้ หากมีการเปิดดูข้อความที่มีตัวอักษรภาษาเตลูกูของอินเดีย ซึ่งกระทบทั้งแอพ iMessage, Facebook Messenger และ WhatsApp ซึ่งอาการเดียวกันนี้เกิดขึ้นได้กับแอพ Message บน macOS และบน Apple Watch อีกด้วย

บั๊กดังกล่าวพบได้ใน iOS เวอร์ชันล่าสุด 11.2.5 แต่ไม่พบใน 11.3 ที่อยู่ในสถานะเบต้า ซึ่งตัวแทนของแอปเปิลออกมายอมรับปัญหานี้และบอกว่าจะออกอัพเดตแก้ไข เร็วกว่ากำหนดออกของ 11.3 แปลว่าเราจะเห็นอัพเดตย่อยอีกครั้งก่อนที่ 11.3 จะออกมา รวมทั้งในระบบปฏิบัติการอื่นด้วย

แอปเปิลได้ออก iOS เวอร์ชัน 11.3 beta สำหรับนักพัฒนาในวันนี้ หลังจากปล่อย iOS 11.2.5 สำหรับผู้ใช้งานทั่วไป โดยมีความน่าสนใจกว่าการปล่อย beta รุ่นอื่นคือแอปเปิลออกมาอธิบายของใหม่ที่จะมีใน 11.3 แบบละเอียดพอสมควร มีรายละเอียดดังนี้

• ARKit อัพเดตสู่เวอร์ชัน 1.5 โดยสามารถจับภาพวัตถุและแสดงผลในแนวตั้งได้ เช่นโปสเตอร์, ผนัง, ประตู

แอปเปิลปล่อยอัปเดต iOS 11.2.5 แล้ว หลังจากปล่อยอัปเดต iOS 11.2.2 มาเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน รอบรับลำโพงอัจฉริยะ HomePod ที่กำลังจะวางขายในวันที่ 9 นี้ และเพิ่มฟังก์ชันควบคุมลำโพงใน Control Centre หากมีลำโพงต่ออยู่ในระบบหลายตัว สามารถเลือกควบคุมระดับเสียงหรือเลือกที่จะเล่นเพลงบนอุปกรณ์ใดอุปกรณ์หนึ่งได้ เช่น สามารถเลือกฟังเพลงบน Apple TV ในขณะที่ฟังเพลงอื่นบน iPhone ไปด้วยได้ และยังมีรายละเอียดอัปเดตอื่นๆ ดังนี้

แอปเปิลอัพเดตข้อมูลสถิติส่วนแบ่ง iOS ล่าสุดในหน้าเว็บของนักพัฒนา โดย iOS 11 มีส่วนแบ่งผู้ใช้งาน 65% แล้วของอุปกรณ์ iOS ทั้งหมด ตามด้วย iOS 10 ที่ 28% และรุ่นเก่ากว่านั้นรวม 7%

ในเดือนพฤศจิกายนสถิติ iOS 11 นั้นอยู่ที่ 52% และเดือนธันวาคมอยู่ที่ 59% สะท้อนว่ายังมีผู้ใช้เพิ่มขึ้นตลอดเดือนละราว 6-7% แต่สถิตินี้ก็ยังน้อยกว่า iOS 10 ซึ่งในระยะเวลาใกล้เคียงกันมีส่วนแบ่งถึง 76% แล้ว

จากปัญหาบั๊ก chaiOS ที่สามารถทำให้มีลิงก์โจมตีช่องโหว่ใน iPhone จนเกิดปัญหาเครื่องค้างใน Message ล่าสุดตัวแทนของแอปเปิลยืนยันว่าจะออกอัพเดต iOS ที่ปิดช่องโหว่นี้ ภายในสัปดาห์หน้า

ตอนนี้ iOS เวอร์ชันสำหรับนักพัฒนาล่าสุดคือ 11.2.5 แต่เวอร์ชันสำหรับผู้ใช้ทั่วไปคือ 11.2.2 จึงไม่แน่ใจว่าอัพเดตที่จะออกมานี้จะเป็น 11.2.5 เลย หรือจะเป็นอัพเดตย่อยก่อน

เนื่องจากปัญหาช่องโหว่นี้ก็ทดสอบและพบบน macOS ด้วยอาการเดียวกัน จึงเป็นไปได้ว่าแอปเปิลก็จะออกอัพเดต macOS ในสัปดาห์หน้าด้วย

ที่มา: MacRumors

พบลิงค์ที่อาศัยช่องโหว่แอป Message ใน iOS ส่งผลให้ iPhone และ iPad ที่ใช้ iOS 10 และ 11 ค้างทันทีที่ได้รับข้อความแม้จะไม่ได้เปิดเข้าไปดู และจะถูกบังคับรีบูทในไม่กี่นาทีต่อมา นอกจากนี้ยังทำให้แอป Message ไม่สามารถใช้งานได้ ช่องโหว่นี้ยังมีผลกับแอป Message ใน Mac ด้วย

วิธีแก้คือต้องเข้าไปลบข้อความที่ได้รับนั้นออกไปถึงจะทำให้แอปกลับมาทำงานได้ตามปกติ อย่างไรก็ตามบั๊กลักษณะนี้เคยถูกพบมาแล้วหลายครั้ง และไม่ใช่บั๊กร้ายแรง แค่สร้างความน่ารำคาญให้ผู้ได้รับเฉยๆ

แอปเปิลออกอัพเดต iOS เวอร์ชัน 11.2.2 ซึ่งถือเป็นการอัพเดตครั้งที่ 9 ของระบบปฏิบัติการ iOS 11 รอบนี้ทิ้งช่วงจาก iOS 11.2.1 ไปเกือบหนึ่งเดือน

ในรายละเอียดส่วนผู้ใช้นั้นแอปเปิลไม่ได้ระบุมากไปกว่า บอกว่าเป็นการอัพเดตเรื่องความปลอดภัย และแนะนำให้ผู้ใช้ทุกคนอัพเดต แต่อัพเดตครั้งนี้ก็เป็นการแก้ไขปัญหาเพิ่มเติมของ Meltdown และ Spectre ซึ่งมีการแก้ไขไปแล้วใน 11.2 โดยใน 11.2.2 เป็นการปรับปรุงส่วนของ Safari และ Webkit เพื่อปิดช่องโหว่ Spectre

ที่มา: MacRumors

แอปเปิลออกอัพเดต iOS เวอร์ชัน 11.2.1 มีรายละเอียดว่าเป็นการแก้ไขข้อบกพร่องต่างๆ รวมทั้งปัญหาที่อาจทำให้การเข้าถึงระยะไกลจากผู้ใช้ที่แชร์ของแอพ Home ถูกปิดใช้งาน

นอกจากนี้ยังมีรายงานว่า iOS 11.2.1 นี้ ได้แก้ไขปัญหากล้องใน iPhone X, iPhone 8 Plus และ iPhone 8 ที่ไม่สามารถโฟกัสได้ตามปกติ ซึ่งเป็นปัญหาที่พบใน iOS 11.2

ผู้ใช้ iOS สามารถอัพเดตได้ที่หน้า Software Update ใน Settings

นอกจากนี้แอปเปิลยังออกอัพเดต tvOS 11.2.1 มาพร้อมกัน ซึ่งแก้ปัญหา HomeKit เหมือนกัน

ที่มา: MacRumors

เมื่อครู่ผมได้ลอง build iOS application จากโปรแกรม Xcode เพื่อทำการทดสอบโดยมี target ไปที่ iPhone 6s Plus ที่ติดตั้ง iOS 11.2 แล้วพบว่าไม่สามารถติดตั้ง application ได้ ทั้งที่ใช้ Xcode 9.1 ซึ่งเป็นรุ่นล่าสุดแล้ว

ทั้งนี้หากต้องการติดตั้ง application บน iOS 11.2 จริง ต้องติดตั้ง Xcode 9.2 beta ที่มีให้สำหรับนักพัฒนาไปก่อน

มีรายงานจากผู้ใช้ iPhone X บางคน ว่าหลังจากอัพเดต iOS เป็นเวอร์ชันล่าสุด 11.2 ที่ออกมาแบบกะทันหันเมื่อวานนี้ ก็ทำให้ไม่สามารถใช้งาน Face ID ได้ตามปกติ โดยขึ้นข้อความเตือนว่า "Face ID is Not Available"

แอปเปิลไม่ได้ออกรายละเอียดอย่างเป็นทางการ แต่วิธีแก้ไขที่มีรายงานออกมานั้นสามารถทำได้ไม่ยาก โดย ปิดและเปิด iPhone X ขึ้นมาใหม่ ก็จะสามารถใช้งาน Face ID แต่หากยังใช้งานไม่ได้อีก ให้ตรวจสอบดูว่าได้ตั้งวันและเวลาในโทรศัพท์เป็นอัตโนมัติหรือไม่ เนื่องจากปัญหาดังกล่าวนี้พบมากในผู้ใช้ iPhone X ที่แก้ปัญหาเครื่องรีบูทชั่วคราวด้วยการเปลี่ยนวันที่ก่อนหน้านี้

Apple ออกอัพเดต iOS 11.2 แล้ว โดยมาพร้อมกับการรองรับฟีเจอร์สำคัญหลายอย่าง และแก้ปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น ดังนี้

มีรายงานจากผู้ใช้ iPhone จำนวนหนึ่งที่เป็น iOS 11.1.2 โดยพบว่าเครื่องจะรีสตาร์ทตัวเองตลอดทุกราว 1 นาที (เป็นรีบูทแบบ springboard ที่ขึ้นวงกลม ไม่ใช่โลโก้แอปเปิล) ซึ่งต่อให้ Restart เครื่องทั้งหมดก็ไม่ทำให้ปัญหาหายไป

เบื้องต้นสาเหตุนั้นมาจากผู้ใช้มีการแจ้งเตือนผ่านแอพที่ใช้ Local Notification แบบแจ้งเตือนซ้ำทุกวัน โดยบั๊กนี้จะเริ่มทำงานในเวลา 00:15น. ของวันที่ 2 ธันวาคม ซึ่งสามารถแก้ไขได้โดยการปิด Notification ของแอพเหล่านั้นไปก่อน หรืออาจปิด Notification ทั้งหมดเลยก็ได้หากไม่แน่ใจว่าแอพไหนที่ใช้ Local Notification

หากยังไม่หาย ทางแก้หนึ่งคือเปลี่ยนวันที่ในโทรศัพท์เป็น 1 ธันวาคมไปก่อน

ก่อนหน้านี้มีบั๊กแก้คำผิดเมื่อพิมพ์ i กลายเป็น A บน iOS 11.1 ที่ต่อมาได้รับการแก้ไขใน iOS 11.1.1 แต่ล่าสุดมีผู้ใช้ iOS บางส่วนบอกว่ายังพบปัญหาการแก้ไขคำผิด ซึ่งคราวนี้แก้ไขคำว่า it เป็น I.T ให้เสียอย่างนั้น

โดยพบว่าเมื่อพิมพ์คำว่า it ซึ่งเป็นคำสรรพนามพื้นฐานในการสนทนาภาษาอังกฤษ แล้วเคาะเว้นวรรคเพื่อพิมพ์คำถัดไป ตัวแก้คำอัตโนมัติจะปรับเป็น I.T ให้ทุกครั้ง นอกจากนี้ผู้ใช้บางรายยังพบปัญหาคล้ายกันเมื่อพิมพ์คำว่า is ก็แก้ไขเป็น I.S ด้วย

เรียกว่ามีอัพเดตถี่กว่าใครๆ แล้ว โดยล่าสุดแอปเปิลได้ออกอัพเดต iOS เวอร์ชัน 11.1.2 ซึ่งเป็นการแก้ไขปัญหาของ iPhone X ที่มีรายงานออกมาก่อนหน้านี้

• แก้ปัญหาหน้าจอ iPhone X ไม่ตอบสนองชั่วคราว หากอุณหภูมิรอบๆ ลดลงอย่างรวดเร็ว
• แก้ไขภาพเบี้ยวใน Live Photos และวิดีโอ บน iPhone X

ผู้ใช้ iOS สามารถอัพเดตได้ที่หน้า Software Update ใน Settings

ที่มา: Ars Technica

แอปเปิลออกอัพเดต iOS เวอร์ชันเลขสวย 11.1.1 ซึ่งไม่เกี่ยวอะไรกับวันพรุ่งนี้ (11 เดือน 11) โดยอัพเดตนี้เป็นการแก้ไขบั๊ก ตัวแก้คำผิด i กลายเป็น A ที่มีรายงานออกมา และแก้ไขปัญหาที่ทำให้ Hey Siri หยุดทำงาน

ผู้ใช้ iOS สามารถอัพเดตได้ที่หน้า Software Update ใน Settings ซึ่งอัพเดตครั้งนี้มีขนาดไฟล์ไม่ใหญ่มาก

ที่มา: Apple Insider