ปัจจุบันเรายังอยู่ในยุค Sandy Bridge ที่ใช้กระบวนการผลิตขนาด 32 นาโนเมตร ส่วนปีหน้าจะเข้าสู่ยุคของ Ivy Bridge ซึ่งเปลี่ยนมาเป็น 22 นาโนเมตร (ถ้าอินเทลยังยึดยุทธศาสตร์ Tick Tock ต่อไป ก็จะใช้ 22 นาโนเมตรไปอีกสองปี)
แต่ตอนนี้อินเทลเริ่มมองไปถึง 14 นาโนเมตรแล้ว
Pat Bliemer กรรมการผู้จัดการของอินเทลภูมิภาคยุโรปเหนือ ให้สัมภาษณ์กับเว็บไซต์ NordicHardware ว่าแผนการผลิตของอินเทลเดินหน้าไปตามกำหนด และบริษัทก็พร้อมแล้วสำหรับกระบวนการผลิต 22 นาโนเมตรในปีหน้า ซึ่งจะทำให้อินเทลล้ำหน้าคู่แข่งไป 1.5 ก้าว
อินเทลลดประมาณการณ์รายได้ไตรมาสที่สี่ลงเหลือ 13.4-14 พันล้านดอลลาร์ จากเดิมที่เคยคาดว่าจะมีรายได้ 14.2-15.2 พันล้านดอลลาร์ ผลจากการขาดฮาร์ดดิสก์ที่ส่งผลให้ตลาดพีซีหดตัว สัดส่วนกำไรนั้นลดลงเล็กน้อยจาก 65% เหลือ 64.5%
แม้จะได้รับผลกระทบแต่เราก็อาจจะเห็นว่ากำไรของอินเทลนั้นยังแข็งแกร่งมากจนยังหาใครมาโค่นในอุตสาหกรรมได้ยากอยู่
ที่มา - Intel
ผู้อ่าน Blognone คงรู้จักเทคโนโลยี Splashtop หรือระบบปฏิบัติการลินุกซ์แบบฝังตัวที่รวมเอาความสามารถพื้นฐานอย่างเบราว์เซอร์เข้ามา แล้วพรีโหลดมาใน BIOS เพื่อให้บูตเครื่องเข้าอินเทอร์เน็ตได้เร็วๆ
ที่ผ่านมามีผู้ผลิตฮาร์ดแวร์หลายค่ายนำ Splashtop มาใส่ในโน้ตบุ๊กของตัวเอง เป็นทางเลือกไปจากการบูตเข้าวินโดวส์ตามปกติ แต่ล่าสุดบริษัท Splashtop ได้พันธมิตรใหม่รายสำคัญ นั่นคือ "อินเทล"
อินเทลประกาศว่าจะฝัง Splashtop ลงในเมนบอร์ดของซีพียูสาย Sandy Bridge รุ่นที่จะขายในปีหน้า (เริ่มกุมภาพันธ์ 2012) ด้วยเหตุผลว่า Splashtop จะช่วยให้พีซีกลายเป็นศูนย์กลางของอุปกรณ์พกพาอื่นๆ และช่วยให้การส่งข้อมูล ภาพยนต์ เพลง รูปภาพ จากพีซีไปยังมือถือหรือทีวีทำได้ง่ายขึ้น
นอกจากธุรกิจซีพียูแล้ว ธุรกิจที่สำคัญมากของอินเทลคือหน่วยความจำแบบแฟลชที่ใช้ในการ์ดแบบ CF, micro SD, รวมถึงดิสก์แบบ SSD ทั้งหลาย และวันนี้อินเทลก็ได้เปิดตัวชิปหน่วยความจำรุ่นใหม่ที่มีความจุสูงถึง 128Gb แล้ว โดยธุรกิจส่วนนี้อินเทลร่วมมือกับไมครอนในการพัฒนาในบริษัทที่ชื่อว่า IM Flash Technology (IMFT)
ชิปรุ่นใหม่นี้ใช้กระบวนการผลิตที่ 20 นาโนเมตร สามารถส่งข้อมูลได้ 333 ล้านครั้งต่อวินาที และ High-K metal gate ที่เป็นเทคนิคการผลิตเฉพาะของอินเทล
เทคโนโลยีใหม่นี้จะเริ่มเดินสายการผลิตตัวอย่างในต้นปี 2012 ส่วนระหว่างนี้อินเทลประกาศจะเดินหน้าสายการผลิตชิป 64Gb เป็นปริมาณมาก
วันก่อนเพิ่งมีเอกสารหลุดของอินเทล เผยข้อมูลของซีพียู Ivy Bridge รุ่นเดสก์ท็อป วันนี้มีหลุดมาอีกชิ้น คราวนี้เป็นซีพียู Ivy Bridge เวอร์ชันโน้ตบุ๊กกันบ้าง
เอกสารอย่างไม่เป็นทางการของอินเทลที่ส่งให้พาร์ทเนอร์ในวงการ ได้หลุดออกสู่สาธารณะ และเผยข้อมูลว่า Ivy Bridge ซีพียูรุ่นถัดไปอาจจะเลื่อนวันเปิดตัวจากเดิมช่วงต้นปีหน้า (และขายจริงเดือนมีนาคม) เป็นเปิดตัวในไตรมาสที่สองของปี 2012 แทน
อินเทลนั้นยังตามหลัง ARM ในตลาดอุปกรณ์พกพามาโดยตลอด และเราก็คาดหวังกันทุกปีว่าจะได้เห็นสมาร์ทโฟน-แท็บเล็ตที่ใช้หน่วยประมวลผลสาย x86 ซึ่งอินเทลก็ยังไม่สามารถทำได้
แต่ช่วงต้นปีหน้า เราอาจจะได้เห็นสมาร์ทโฟน-แท็บเล็ตที่เป็น x86 สักที เพราะซีพียู Atom รุ่นถัดไปรหัส "Medfield" มีกำหนดเปิดตัว และในฝั่งซอฟต์แวร์เอง อินเทลก็บอกว่าสามารถนำ Android 4.0 Ice Cream Sandwich ไปรันบน Medfield ได้แล้ว
อินเทลบอกว่าได้แจกจ่ายไดรเวอร์ของ Medfield ให้กับผู้ผลิตฮาร์ดแวร์ต่างๆ แล้ว ซึ่งก็มีลุ้นว่าในงาน CES 2012 เราจะได้เห็นอุปกรณ์ต้นแบบจากบริษัทต่างๆ มาเปิดตัวกัน
ยักษ์สีเขียว AMD ที่ประสบปัญหามากมายในช่วงหลัง (ชนิดว่าแฟนๆ เซ็ง) จะประกาศแผนการปฏิรูปบริษัทครั้งใหญ่ในเดือนกุมภาพันธ์ 2012
AMD ยังไม่เผยข้อมูลอะไรมากนัก แต่โฆษกของบริษัทก็ยอมรับว่ากำลังอยู่ในจุดเปลี่ยนสำคัญ และต้องก้าวข้ามความคิดว่า "AMD vs Intel" ที่ดำเนินมาหลายทศวรรษให้จงได้ เพราะตอนนี้สภาพตลาดเปลี่ยนไปเยอะแล้ว และการแข่งขันระหว่างสองบริษัทไม่สำคัญอีกต่อไป
สถานการณ์ของ AMD ตอนนี้ย่ำแย่ในทุกแนวรบ เพราะสงครามซีพียู x86 ก็ตามหลังอินเทลอยู่ไกล ส่วนตลาดมือถือ/แท็บเล็ตก็ยังไม่มีตัวตนอยู่เลยแม้แต่น้อย
AMD ก่อตั้งเมื่อปี 1969 หลังอินเทลหนึ่งปี
ที่มา - MercuryNews.com
เว็บ VR-Zone ระบุว่าทางเว็บได้รับเอกสารแสดงข้อมูลว่าอินเทลกำลังพัฒนาพอร์ตพิเศษเพื่อทำ docking สำหรับ Ultrabook โดยเป็นพอร์ต Thunderbolt รวมกับพอร์ตเฉพาะอีกอันหนึ่งเพื่อส่งข้อมูลอื่นๆ และพลังงาน
Thunderbolt เป็นพอร์ตที่เหมาะกับการทำ docking มากกว่าพอร์ต USB 3.0 มากเพราะมันสามารถส่งข้อมูล PCI Express และ DisplayPort ออกมาโดยตรง ทำให้สามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์ที่ต้องการส่งข้อมูลกับซีพียูมากๆ เช่นการ์ดจอภายนอกได้ (เช่นที่เราเห็นใน Sony VAIO Z)
หากอินเทลผลักดันพอร์ต docking ที่เป็นมาตรฐานได้จริง ก็มีความเป็นไปได้ที่เราจะมี docking ราคาถูก ใช้ร่วมกับเครื่องหลายยี่ห้อได้ โดยไม่ต้องถูกล็อกกับ docking ของยี่ห้อเครื่องที่ซื้อมาอย่างเดียว
ตลาด micro server เป็นตลาดที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูงในช่วงหลัง จากความต้องการเซิร์ฟเวอร์แยกเฉพาะแต่ไม่ต้องการพลังประมวลผลสูงๆ เช่นเว็บขนาดเล็กที่ต้องการเลือกเทคโนโลยีต่างๆ ด้วยตัวเอง และต้องการ I/O มากกว่าที่เครื่องเสมือนทั่วไปจะให้ได้ ที่ผ่านมา Atom เป็นชิปที่ได้รับความนิยมสำหรับทำ micro server อย่างมาก แต่แม้ Atom จะเหมาะสมแต่อินเทลก็กำหนดสเปคหลายอย่างให้ไม่เหมาะกับงานเซิร์ฟเวอร์เช่นบีบขนาดแรมที่รองรับ ด้วยเหตุผลว่า Atom นั้นมีราคาขายต่ำมาก แต่วันนี้อินเทลก็ออกชิปสำหรับงานนี้มาโดยเฉพาะแล้วนั่นคือ Pentium 350
สงครามระหว่างออราเคิลกับเอชพีนั้นเงียบไปนานมาก โดยเป็นคดีที่ออราเคิลประกาศเลิกซัพพอร์ตชิป Itanium ของเอชพีและอินเทล โดยระหว่างนี้เป็นการรอการพิจารณาคดีในปีหน้า แต่เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาทางออราเคิลก็ได้ยื่นเอกสารให้การเพิ่มเติมไปยังศาลทำให้เราเห็นข้ออ้างของออราเคิล
อินเทลวางขาย Sandy Bridge-E ซีพียูรุ่นปรับปรุงจาก Sandy Bridge เดิม (ข่าวเก่อนหน้านี้)
ซีพียูสำหรับเดสก์ท็อปที่อินเทลจะเปิดตัวในปีหน้าคือ Ivy Bridge (Sandy Bridge ที่เปลี่ยนกระบวนการผลิต) ส่วนปีถัดไป 2013 อินเทลจะเปลี่ยนสถาปัตยกรรมย่อยอีกครั้ง โดยซีพียูตัวใหม่มีรหัสว่า Haswell
ยุทธศาสตร์ซีพียูสำหรับอุปกรณ์พกพา [โทรศัพท์|แท็บเล็ต] ของอินเทลนั้นระบุชัดว่าจะรุกตลาดด้วย Atom แต่ที่ผ่านๆ มา Atom ยังเจาะตลาดนี้ได้ไม่ดีนัก เนื่องจากความสามารถด้านพลังงานยังสู้เจ้าตลาดอย่าง ARM ไม่ได้ ซึ่งอินเทลเองก็ตั้งเป้าจะแก้ปัญหานี้ใน Atom รหัส "Medfield" ที่มีกำหนดเปิดตัวปีหน้า (ข่าวเก่าแผ
โตโยต้ากับอินเทลประกาศสั้นๆ ว่าสองบริษัทกำลังร่วมกันพัฒนาระบบคอมพิวเตอร์ในรถ โดยจะพัฒนา "กระบวนการแสดงข้อมูลให้กับผู้ขับขี่อย่างเหมาะสม และการสื่อสารระหว่างระบบต่างๆ" ระบบคอมพิวเตอร์ในรถเป็นความฝันของทั้งผู้ผลิตรถที่ต้องการเพิ่มมูลค่าสินค้าและผู้ผลิตอุปกรณ์คอมพิวเตอร์เช่นอินเทลมานาน อย่างไรก็ดีระบบคอมพิวเตอร์ในรถยังคงจำกัดอยู่เฉพาะงานเช่นระบบนำทาง หรือระบบวิทยุโทรทัศน์เท่านั้น
หนังสือชีวประวัติของสตีฟ จ็อบส์ ได้เผยรายละเอียดเกี่ยวกับสาเหตุที่สตีฟ จ็อบส์ ไม่เลือกใช้ชิปของอินเทลในไอโฟน และได้ตัดสินใจที่จะผลิตชิปเสียเอง แม้ว่าตั้งแต่ปี 2005 ผลิตภัณฑ์คอมพิวเตอร์ของแอปเปิลทั้งหมดจะใช้ชิปจากอินเทลทั้งหมดก็ตาม
จ็อบส์เผยว่าสาเหตุดังกล่าวมีอยู่สองข้อ ข้อแรกคืออินเทลทำงานช้ามาก เปรียบได้เหมือนกับเรือที่เดินเครื่องด้วยไอน้ำที่เมื่อก่อนดูเหมือนจะแล่นเร็ว ส่วนข้อที่สองแอปเปิลไม่ต้องการ "สอน" อินเทลทุกอย่าง แล้วให้อินเทลเอาสิ่งที่เราสอนไปไปขายให้กับคนอื่น
ชิปเซ็ต Ivy Bridge นั้นไม่ใช่แค่การอัพเกรดตามรอบของอินเทลตามปรกติ แต่จะเป็นชิปเซ็ตชุดแรกที่ออกแบบมาเพื่อ Ultrabook โดยเฉพาะ เพื้่อเร่งการเติบโตของตลาดพีซีให้กลับมาอยู่ในระดับสูงเมื่อเทียบกับอุปกรณ์อื่นๆ โดยเฉพาะแท็บเล็ต ระหว่างนี้จึงเป็นช่วงเวลาสำคัญที่อินเทลจะเร่งออก Ivy Bridge ออกมาให้เร็วที่สุด และกำหนดการล่าสุดคือเดือนมีนาคมปีหน้า
ข่าวนี้มาจากแหล่งข่าวของ DigiTimes ที่ทำงานอยู่ในบริษัทผลิตเมนบอร์ดแห่งหนึ่ง
ชิปรุ่นใหม่จะใช้กระบวนการผลิต 22 นาโนเมตรและเทคโนโลยีเกต 3D ทำให้มีอัตราการกินพลังงานที่ต่ำลงมาก ในงาน AppUp Element อินเทลก็ระบุว่า Ultrabook รุ่นต่อไปที่เป็น Ivy Bridge นั้นจะมีฟีเจอร์คล้ายแท็บเล็ตเพิ่มเข้ามาเรื่อยๆ เช่นเซ็นเซอร์ต่างๆ และจอสัมผัส
แผนการออกสินค้าของอินเทลหลุดออกมาอีกครั้งทำให้เรารู้ว่าในไม่กี่เดือนข้างหน้าอินเทลกำลังปล่อย SSD รุ่นใหม่ในตระกูล 700 ออกมานั่นคือ Intel SSD 720 "Ramsdale" ที่ใช้ PCIe แทนพอร์ต SATA
SSD 720 จะมีขนาด 400GB และ 200GB ออกมาพร้อมกัน มันจะช่วยให้อินเทลสามารถแข่งขันกับผุ้ผลิตรายอื่นๆ ที่มี SSD แบบ PCIe ออกมาก่อนหลายเดือนแล้ว ขณะเดียวกันมันก็จะช่วยให้อินเทลแบ่งสินค้าในตระกูล SSD ออกอย่างชัดเจน คือตระกูล 700 จะกลายเป็นตระกูลความเร็วสูงสุดและใช้ PCIe ทั้งหมด, ตระกูล 500 จะใช้ SATA 6Gbps, และตระกูล 300 จะใช้ SATA 3Gbps หรือ mSATA สำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่
อินเทลเตรียมประกาศอัพเกรด SSD ยกแผงในไม่กี่เดือนข้างหน้า และตระกูล 500/700 นั้นจะมีการอัพเกรดอีกครั้งในไตรมาสที่สองของปีหน้า
อินเทลรายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 3 ด้วยยอดขายทำสถิติใหม่สูงสุดต่ออีกไตรมาส โดยมียอดขาย 1.42 หมื่นล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 28% จากไตรมาสเดียวกันในปีก่อน และเพิ่มขึ้น 9.2% จาก
ขณะที่ Cedar Trail กำลังวางตลาดทั่วโลกในเร็วๆ นี้ เว็บ Netbook Live ก็ได้รับเครื่อง Asus Lamborghini VX6S มารีวิวก่อนใครทำให้ได้ผลทดสอบเบื้องต้นออกมา
เครื่อง VX6S แสดงให้เห็นความเปลี่ยนแปลงใน Atom ตัวใหม่นี้หลายอย่าง ได้แก่
ผลเทียบกันกับ Asus 1215B นั้นปรากฏว่า VX6S ทำคะแนนดีกว่าในทุกการทดสอบ คงต้องยกความดีให้กับ GPU ของ AMD เองด้วยส่วนหนึ่ง
อินเทลปิดเแผนก Digital Home Group (DHG) ซึ่งมีผลงานคือทำ Atom SoC (Atom CE4100) ที่ใช้ในอุปกรณ์อย่าง Google TV และ D-Link Boxee Box
พนักงานที่อยู่ในทีมนี้จะถูกโอนไปทำเรื่องแท็บเล็ตแทน อินเทลจะยังทำชิปสำหรับอุปกรณ์ด้านทีวีต่อไป แต่จะเน้นอุปกรณ์พวกเซ็ตท็อปบ็อกซ์สำหรับเคเบิลทีวีอย่างเดียว ผลิตภัณฑ์สายสมาร์ททีวีคงไม่ทำต่อแล้ว
ส่วนอนาคตของ Google TV และ Boxee Box ก็คงต้องหนีไปใช้ ARM แทน
หมายเหตุ: AppUp เป็นสปอนเซอร์ของ Blognone โดยมีข่าวเชิง advertorial เผยแพร่อยู่เป็นระยะ (ดูข่าวในหมวด AppUp) แต่อินเทลไม่ได้เกี่ยวข้องกับเนื้อหาในข่าว AppUp ที่ไม่ใช่ advertorial ครับ
หลังจากโนเกียประกาศถอนตัว (พูดตามมารยาทของโนเกียคือลดการลงทุน) จาก MeeGo อินเทลก็ค่อนข้างเคว้งว่าจะทำยังไงต่อกับ MeeGo ต่อไปเพราะเทคโนโลยีแกนของ MeeGo คือ Qt+QML นั้นอยู่กับโนเกียทั้งหมด และค่อนข้างเคว้งไม่ต่างกับ MeeGo นัก แต่วันนี้ทางอินเทลก็ประกาศแล้วว่าจะร่วมมือกับซัมซุงเพื่อพัฒนาระบบปฎิบัติการใหม่ที่ชื่อว่า Tizen
Tizen จะมีแกนกลางเป็นลินุกซ์และแอพพลิเคชั่นจะถูกพัฒนาด้วย HTML5 ทั้งหมด โดยเพิ่ม API เพื่อให้ทำงานกับอุปกรณ์ต่างๆ ได้ครบถ้วนเช่น กล้อง, โทรศัพท์, SMS, เน็ตเวิร์ค ฯลฯ
Tizen รุ่นแรกจะออกต้นปี 2012 อินเทลสัญญาว่าจะทำให้นักพัฒนาบน MeeGo พอร์ตไปยัง Tizen ได้โดยไม่ลำบากมากนัก
รอบการอัพเกรดซีพียูของอินเทลเริ่มเข้ามาใกล้ขึ้นทุกที โดย Ivy Bridge นั้นจะเป็นการคงสถาปัตยกรรมในส่วนของซีพียูไว้ตามเดิมแต่อัพเกรดกระบวนการผลิต และที่สำคัญคืออัพเกรดส่วน GPU ไปพร้อมกัน ล่าสุดในงาน IDF อินเทลก็เริ่มโชว์ศักยภาพของ GPU ออนบอร์ดของ Ivy Bridge ว่ามันจะรองรับวิดีโอ 4K ในตัว
ส่วนใหม่ที่อินเทลเปิดตัวในงานคือ Multi-Format Codec Engine (MFX) ที่เป็นฮาร์ดแวร์สำหรับเร่งความเร็วในการถอดรหัสวิดีโอโดยเฉพาะแบบเดียวกับที่ชิปกราฟิกอื่นๆ เช่น AMD UVD หรือ NVIDIA PureVideo
ฟอร์แมต 4K นั้นมีขนาดภาพถึง 4096 x 2304 หรือประมาณ 10 ล้านพิกเซลต่อเฟรม โดยมีกล้องวิดีโอเช่น RED สนับสนุนอยู่ก่อนแล้ว กระทั่ง YouTube ก็มีวิดีโอบางส่วนที่เป็น 4K
คำถามสำคัญของ Android ที่ทำงานบนสถาปัตยกรรม x86 คือผู้ผลิตซอฟต์แวร์ที่เป็น native เช่นเกมและเบราเซอร์นั้นจะลงทุนกับการพอร์ตโค้ดมายัง x86 กันมากน้อยแค่ไหน แต่ที่งาน IDF 2011 ปีนี้ Opera ก็แสดงเบราเซอร์ของตัวเองบนแท็บเล็ต x86 แล้ว
ทาง Engadget ได้ลองเล่นเบราเซอร์ดูแล้วให้ความเห็นว่า "มันเร็ว" ทางโอเปร่าเองระบุว่ารุ่นที่นำมาแสดงนี้ยังไม่ให้ใช้ฮาร์ดแวร์เร่งความเร็วเต็มที่ โดยตอนนี้กำลังพัฒนาอยู่พร้อมๆ กับการรองรับ Adobe Flash
ปีหน้าอาจจะเป็นปีที่ x86 กลับมาประกาศความยิ่งใหญ่ในตลาดแท็บเล็ตอีกครั้งก็ได้
ที่มา - Engadget