ภาพยนตร์ Oppenheimer ที่กำลังเข้าฉายในช่วงนี้ ถ่ายทำโดยใช้ฟิล์ม IMAX ขนาด 70 มิลลิเมตรทั้งเรื่อง (ใหญ่กว่าฟิล์มทั่วไป 35 มิลลิเมตร) ทำให้แบรนด์ IMAX มาช่วยโปรโมทหนังผ่านช่องทางโซเชียลต่างๆ และเราได้เห็นเบื้องหลังการฉายหนังมากขึ้น

ตัวอย่างหนึ่งที่ IMAX โพสต์คลิปวิดีโอให้ดูใน TikTok คือการฉาย Oppenheimer ด้วยฟิล์มจริงๆ ซึ่งม้วนฟิล์มมีขนาดใหญ่มากจนต้องเสริมจานรองม้วนฟิล์มให้ใหญ่ขึ้น

สิ่งที่น่าสนใจคือการทำงานของเครื่องฉายภาพยนตร์ IMAX แบบฟิล์มที่สร้างขึ้นมานานแล้ว (สมัยยุค 90s/2000s) ว่าจำเป็นต้องใช้แอพบนเครื่อง Palm Pilot PDA ยุค 2000 ในการควบคุมที่หมุนม้วนฟิล์ม (Quick Turn Reel Units) ด้วย

ดิสนีย์ และ IMAX ร่วมกันปรับปรุงคุณภาพหนัง Marvel บนแพลตฟอร์ม Disney+ ให้มีคุณภาพระดับ IMAX Expanded Aspect Ratio พื้นที่หน้าจอกว้างขึ้น มีผลในวันที่ 12 พ.ย. ซึ่งเป็นวัน Disney+ Day

ตัวหนังที่คนดูจะได้รับชมในคุณภาพ IMAX คือ Ant-Man and the Wasp, Avengers: Endgame, Avengers: Infinity War, Black Panther, Black Widow, Captain America: Civil War, Captain Marvel, Doctor Strange, Iron Man, Guardians of the Galaxy, Guardians of the Galaxy Vol. 2, Shang-Chi and the Legend of the Ten Rings, Thor: Ragnarok

เมื่อสองปีก่อน โรงภาพยนตร์ IMAX เคยระดมทุนกว่า 50 ล้านดอลลาร์ไปสร้างคอนเทนต์พร้อมสนับสนุนการใช้เทคโนโลยี VR ในโรงภาพยนตร์อย่างเต็มรูปแบบ แต่ดูเหมือนว่าการลงทุนครั้งนี้อาจไม่ได้ผลลัพธ์ที่ดีนัก เพราะมีรายงานล่าสุดว่า IMAX กำลังจะปิด IMAX VR ทั้งหมดที่กำลังดำเนินกิจการอยู่ ซึ่งรวมถึง AIS IMAX VR ในกรุงเทพ และเตรียมตัดจำหน่ายเงินลงทุนในส่วนนี้ด้วย

Netflix จากเดิมที่เป็นแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งซีรีส์และภาพยนตร์ดังที่เคยฉายในโรง เริ่มมาเป็นผู้สร้างและเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์คอนเทนต์บ้างแล้ว ที่เรารู้จักกันดีก็มี Stranger Things, 13 Reasons Why นอกจากซีรีส์แล้ว Netflix ก็ผันตัวมาเป็นผู้สร้างภาพยนตร์ด้วย และแน่นอนว่าหาดูได้ที่เดียวไม่มีฉายในโรง เช่น Okja, True Detective, Death Note (2017 film)

แนวคิดดังกล่าวของ Netflix มีผู้กำกับชื่อดังบางคนไม่ปลื้ม เขาคือ คริสโตเฟอร์ โนแลน ผู้กำกับหนัง Dunkirk ที่กำลังเข้าฉายอยู่ตอนนี้

IMAX บริษัทเจ้าของเทคโนโลยีโรงภาพยนตร์ประกาศความร่วมมือกับบริษัทด้านสื่อและเทคโนโลยีและนักลงทุน ในการนำเงินที่ระดมทุนได้กว่า 50 ล้านเหรียญสหรัฐ ไปสร้างคอนเทนต์ด้าน VR พร้อมโรงภาพยนตร์ในเครือที่รองรับ VR

ในการสร้างคอนเทนต์ IMAX ระบุว่าจะร่วมมือกับทั้งฮอลลีวู้ดและบริษัทผลิตหนังที่ใช้กล้อง IMAX ในการถ่ายทำ รวมทั้งผู้ผลิตเกมด้วย

ที่มา - PR Newswire via Engadget

ปกติแล้วเราจะคุ้นเคยกับเทคโนโลยีฉายภาพยนตร์สามมิติอย่าง IMAX ซึ่งมีแต่ใช้ฉายในโรงภาพยนตร์ขนาดใหญ่ แต่ล่าสุดทาง IMAX ประกาศวางจำหน่ายระบบฉายภาพยนตร์ของตัวเองสำหรับใช้ตามโรงภาพยนตร์ส่วนตัวตามบ้านแล้ว โดยเรียกว่า IMAX Private Theatre

ระบบดังกล่าวนี้ ทาง IMAX จะเป็นคนดำเนินการติดตั้งให้กับลูกค้าทั้งหมด ทั้งระบบฉายภาพ ไปจนถึงการออกแบบพื้นที่ของโรงภาพยนตร์ (ว่าง่ายๆ คือรับทำโรงหนังทั้งหมดให้กับลูกค้าเลย) โดยระบบทั้งหมดจะได้รับการสนับสนุนจากทาง IMAX ตลอด 24 ชั่วโมง ทุกวัน

สำหรับราคาการก่อสร้างทั้งหมดเริ่มที่ 1.8 ล้านปอนด์ (ประมาณ 87 ล้านบาท) ใครที่อยากได้คงต้องติดต่อสอบถามเอาเอง