รัฐบาลอังกฤษเป็นประเทศแรก ๆ หลังสหรัฐที่สั่งแบน Huawei ทำให้โอเปอเรเตอร์ต้องถอดอุปกรณ์ทั้งหมดภายใน 2027 โดยโอเปอเรเตอร์ที่ละเมิดมีสิทธิถูกปรับ (แต่ตัวกฎหมายปรับยังไม่ผ่านสภา)
ล่าสุดรัฐบาลอังกฤษไม่ได้คิดจะปรับอย่างเดียว แต่จะช่วยเรื่องการเปลี่ยนอุปกรณ์ด้วย เมื่อเอกสารรายงานของรัฐมนตรีกระทรวงการคลัง (Chancellor of the Exchequer) ชี้ว่ารัฐบาลเตรียมงบเอาไว้ประมาณ 250 ล้านปอนด์ โดยปีหน้าจะใช้ประมาณ 50 ล้านปอนด์สำหรับการสร้างโครงข่าย 5G ที่ปลอดภัยและยืดหยุ่น
ประหนึ่งพ่ออยากเห็นลูกได้ดีกว่าหรืออาจารย์อยากเห็นลูกศิษย์เก่งกว่า เมื่อ Ren Zhengfei ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ Huawei พูดในงานเลี้ยงอำลา Honor เขาหวังว่า Honor จะเป็นคู่แข่งที่แข็งแกร่งของ Huawei ในอนาคตและล้ม Huawei ได้ในท้ายที่สุด พร้อมขอให้เอาเป้าหมายในการล้ม Huawei เป็นแรงผลักดันต่อไป
นอกจากนี้ Ren ยังพูดถึงการขาย Honor ที่สืบเนื่องจากการแบนของสหรัฐด้วยว่า การแบนดังกล่าวส่งผลกระทบต่อคนงานนับล้าน ทั้งในไลน์ซัพพลายเชนและดีลเลอร์ Huawei ทั่วโลก โดยเจ้าตัวบอกเป็นนัยว่าการขาย Honor ก็เพื่อไม่ให้คนที่ไม่รู้เรื่องเหล่านี้เดือดร้อน
เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2563 บริษัท อินเตอร์เน็ต เบส บิซิเนส กรุ๊ป จำกัด (บริษัท แสนรู้ จำกัด) ร่วมกับ หัวเว่ยคลาวด์ ประเทศไทย สร้างความร่วมมือโดยการลงนามบันทึกความเข้าใจ (MoU) ในการเข้าร่วม “เครือข่ายพันธมิตรหัวเว่ยคลาวด์ (HUAWEI CLOUD Partner Network - HCPN)” การลงนามบันทึกความเข้าใจในครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อผนึกกำลังของเทคโนโลยีการวิเคราะห์ข้อมูลขั้นสูงของบริษัท แสนรู้ จำกัด เข้ากับแพลตฟอร์มข้อมูลมหัต (Big Data) ของหัวเว่ย เพื่อมอบประสบการณ์การตลาดดิจิทัลที่ดีที่สุดบนระบบคลาวด์ให้แก่องค์กรในประเทศไทย ตั้งแต่กลุ่มสตาร์ทอัพและอีคอมเมิร์ซ ไปจนถึงองค์กรขนาดใหญ่
อังกฤษสั่งแบน Huawei ไปเมื่อกรกฎาคมที่ผ่านมา ล่าสุดรัฐบาลยื่นเสนอกฎหมายความมั่นคงด้านโทรคมนาคมฉบับใหม่ เนื้อหาส่วนหนึ่งคือรัฐบาลมีสิทธิปรับโอเปอเรเตอร์ที่ไม่ปฏิบัติตาม
โอเปอเรเตอร์มีเวลาจนถึงสิ้นปีนี้ที่จะยกเลิกการสั่งชิ้นส่วนใหม่จาก Huawei ภายในสิ้นปีนี้ และถอดอุปกรณ์ Huawei ออกทั้งหมดภายใน 2027 ขณะที่กฎหมายฉบับใหม่นี้ รัฐจะสั่งปรับโอเปอเรเตอร์ที่ไม่ทำตามกฎหมายฉบับใหม่ คิดเป็นเงินวันละ 10% ของยอดขายต่อวันหรือไม่เกิน 100,000 ปอนด์ต่อวัน
อย่างไรก็ตามกฎหมายนี้ยังต้องผ่านการถกเถียงและผ่านการรับรองจากสภาก่อน
จากที่เคยลือกันมาได้สักพัก วันนี้ Huawei ประกาศขายธุรกิจฮาร์ดแวร์แบรนด์ Honor ทั้งหมดให้กลุ่มทุนจีน Shenzhen Zhixin New Information Technology Co., Ltd. อย่างเป็นทางการแล้ว
กลุ่มทุน Shenzhen Zhixin New Information Technology Co., Ltd. เป็นการรวมตัวของตัวแทนจำหน่ายสินค้าแบรนด์ Honor กว่า 30 ราย ที่มารับช่วงซื้อแบรนด์ Honor ไปบริหารต่อ โดย Huawei ระบุว่ากลุ่มตัวแทนจำหน่ายเป็นฝ่ายเสนอตัวเข้ามาซื้อก่อน อย่างไรก็ตาม Huawei (ซึ่งเป็นบริษัทที่อยู่นอกตลาดหลักทรัพย์) ไม่ได้เปิดเผยมูลค่าการขายกิจการครั้งนี้
Qualcomm ได้รับใบอนุญาตจากรัฐบาลสหรัฐสามารถขายสินค้าจำนวนหนึ่งให้กับ Huawei ได้ โดยหนึ่งในนั้นคือชิป 4G ซึ่ง Qualcomm ก็ไม่ได้ระบุว่าเป็นชิปอะไร นอกจากบอกว่าเป็นชิปบนอุปกรณ์เคลื่อนที่
นักวิเคราะห์มองว่าการไฟเขียวครั้งนี้ส่งผลกระทบน้อยมาก เพราะตลาดตอนนี้กำลังเปลี่ยนผ่านไป 5G ขณะที่ Huawei เองก็ไม่ใช่ลูกค้ารายใหญ่ของ Qualcomm อยู่แล้วด้วย
ที่มา - Reuters
ค้นพบ 4 แก็ดเจ็ตใหม่ล่าสุดจากหัวเว่ย HUAWEI FreeBuds Pro, HUAWEI FreeBuds Studio, HUAWEI FreeLace Pro และ HUAWEI x Gentle Monster Eyewear II ที่จะมอบความสุนทรีย์ให้กับชีวิต พร้อมซัพพอร์ตการทำงานทุกที่ทุกเวลา
สุนทรียะ on the move ให้ไอเดียบรรเจิด สมาธิไม่มีหลุด ด้วยโลกที่ปราศจากเสียงรบกวน ด้วยเทรนด์โลกวันนี้ การทำงานไม่ได้ถูกจำกัดอยู่แค่ในออฟฟิศและเวลา 9 โมงเช้าถึง 6 โมงเย็นอีกต่อไป ไม่เฉพาะแต่ start-up หรือบริษัทเล็กๆ เท่านั้นที่จะให้อิสระกับคนทำงาน ปัจจุบันบริษัทใหญ่ๆ และบริษัทข้ามชาติต่างก็มีนโยบาย work anywhere, any time เลยไม่ใช่แค่ฟรีแลนซ์ที่จะหิ้วแล็ปท็อปไปฮอปคาเฟ่
วันนี้ในงาน Powering Digital Thailand จัดโดยหัวเว่ย มีพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี มาพูดเปิดงาน, พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีกระทรวงดีอี และณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการ มากล่าวปาฐกถา
ณัฐพล ระบุว่า ประเทศไทยอยากมี Fully Connected Digital Thailand คำถามคือ กระทรวงศึกษาธิการ รวมถึงการศึกษาไทยมีความพร้อมเพียงพอกับเป้าหมายนี้หรือไม่
อาเบล เติ้ง ประธานกรรมการบริหาร หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) เผยในงาน Powering Digital Thailand ว่า ในปี 2564 หัวเว่ยมีแผนจะตั้งศูนย์ข้อมูลแห่งที่สามในปี 2564 เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเก็บข้อมูลในประเทศ พร้อมเพิ่มการลงทุนอีกมากกว่า 700 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีรายละเอียดว่าศูนย์ข้อมูลแห่งที่สามจะจัดตั้งที่ไหน โดย อาเบล ระบุด้วยว่า หัวเว่ยประเทศไทย ได้ผลักดันการลงทุนในระยะยาวอย่างมีนัยสำคัญสำหรับธุรกิจคลาวด์นับตั้งแต่เดือนกันยายน พ.ศ. 2562 และในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา หัวเว่ยได้ส่งมอบ Cloud Hub ในประเทศไทย เพื่อนำเทคโนโลยีคลาวด์ไปใช้ประโยชน์กับศูนย์ข้อมูลอีกสองแห่ง
วันนี้ในงาน Powering Digital Thailand จัดโดยหัวเว่ย มีพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี มาพูดเปิดงาน, พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีกระทรวงดีอี และณัฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการ มาบรรยาย Blognone ได้เก็บรายละเอียดมาฝาก
Powering Digital Thailand 2021 : Huawei Cloud เป็นงานแสดงเทคโนโลยีที่ใหญ่ที่สุดของหัวเว่ยในปีนี้ โดยจะเปิดสู่สายตาสาธารณะตั้งแต่วันที่ 12 พ.ย. ไปจนถึง 14 พ.ย.
ในงานนี้ทางหัวเว่ยจะทำการจัดแสดงเทคโนโลยีล่าสุดของคลาวด์และ AI ที่สามารถช่วยธุรกิจไทยด้วยเทคโนโลยี 5G ซึ่งนิทรรศการนี้จะถูกจัดขึ้นที่โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ และบางกอก คอนเวนชัน เซ็นเตอร์ แอท เซ็นทรัลเวิลด์
Financial Times รายงานข่าวว่า Huawei เตรียมสร้างโรงงานผลิตชิปของตัวเองที่เซี่ยงไฮ้ เพื่อแก้ปัญหาโดนสหรัฐอเมริกากีดกันเรื่องเทคโนโลยี
ตามข่าวบอกว่าโรงงานแห่งนี้จะดำเนินการโดยบริษัทพาร์ทเนอร์ Shanghai IC R&D Center (IRDC) ซึ่งเป็นบริษัทชิปจีนที่ได้รับการลงทุนจากรัฐบาลนครเซี่ยงไฮ้ ในระยะเริ่มต้นจะทดลองผลิตชิปที่ 45 นาโนเมตรก่อน แล้วเริ่มขยับเป็น 28 นาโนเมตรในช่วงปลายปี 2021 ซึ่งจะทำให้ Huawei สามารถผลิตสินค้ากลุ่มสมาร์ททีวีและ IoT ได้เอง จากนั้นจะเป็น 20 นาโนเมตรช่วงปลายปี 2022 สำหรับอุปกรณ์โทรคมนาคม 5G
หัวเหว่ยรายงานผลการดำเนินงานบริษัทในช่วง 9 เดือนของปี 2020 มีรายได้รวม 6.71 แสนล้านหยวน เพิ่มขึ้น 9.9% เทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีที่แล้ว มีอัตรากำไรสุทธิ 8.0% โดยหัวเหว่ยบอกว่าผลลัพธ์ที่ออกมาเป็นไปตามที่บริษัทคาดการณ์ไว้
ในตัวเลขการรายงานประจำไตรมาสนี้ หัวเหว่ยไม่ได้แยกรายได้ออกมาตาม 3 กลุ่มธุรกิจหลักคือ โทรศัพท์มือถือ, ลูกค้าองค์กร และลูกค้ารายย่อย
หัวเหว่ยกล่าวว่าเทคโนโลยีและการสื่อสารเข้ามามีบทบาทสูงขึ้น ทั้งต่อเศรษฐกิจและสังคม ไม่ว่าจะเป็น AI, คลาวด์ หรือ 5G ซึ่งบริษัทก็ได้ร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ในการพัฒนาเทคโนโลยี เพื่อสร้างคุณค่าให้กับลูกค้าสูงสุด ท่ามกลางสถานการณ์โลกที่ซับซ้อนมากขึ้น
ต่อเนื่องจากข่าวสวีเดนสั่งแบน Huawei และ ZTE ห้ามใช้อุปกรณ์ในเครือข่าย 5G ที่กำลังประมูล ล่าสุด Zhao Lijian โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนออกมาเรียกร้องแสดงความไม่เห็นด้วยท่าทีของสวีเดน พร้อมเรียกร้องสวีเดนยกเลิกคำสั่งแบน
Zhao บอกว่าสวีเดนควรแสดงจุดยืนที่เป็นธรรมและยืนอยู่บนฐานของความจริงมากกว่านี้ และแก้ไขการตัดสินใจที่ผิดพลาดทันที เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบต่อความร่วมมือทางการค้าและเศรษฐกิจระหว่างจีน-สวีเดน รวมถึงหลีกเลี่ยงผลกระทบต่อการดำเนินงานของบริษัทสวีเดนในจีนด้วย
Huawei เปิดตัวเรือธงครึ่งหลังของปี Mate 40 Series โดยมีทั้งหมด 4 รุ่นย่อยคือ Mate 40, Mate 40 Pro, Mate 40 Pro+ และ Mate 40 RS (Porsche Design)
การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญคือดีไซน์กล้องหลัง เปลี่ยนมาใช้รูปวงแหวนที่เรียกว่า Space Ring Design (รุ่นก่อน Mate 30 เป็นกล้องอยู่ในวงกลมตรงกลาง แต่พอเป็น Mate 40 กล้องย้ายไปอยู่วงแหวนรอบๆ แทน)
จุดเด่นของ Mate 40 Series คือหน่วยประมวลผล Kirin 9000 ตัวใหม่ 5nm และระบบกล้องที่ปรับปรุงเพิ่มเติม มีจำนวนกล้องสูงสุด 5+2 ตัว และได้คะแนนรีวิว DXOMARK เป็นอันดับหนึ่งทั้งหมวดกล้องหน้าและกล้องหลัง
สวีเดนเป็นประเทศล่าสุดที่ประกาศแบนอุปกรณ์เครือข่ายจาก Huawei และ ZTE แล้ว
คำสั่งแบนมาจาก Swedish Post and Telecom Authority (PTS) ซึ่งเปรียบได้กับ กสทช. ของสวีเดน ระบุว่าในการประมูลคลื่น 5G ย่าน 3.5GHz และ 2.3GHz ที่จะมีขึ้นในวันที่ 10 พฤศจิกายนนี้ มีเงื่อนไขว่าโอเปอเรเตอร์ที่ประมูลชนะจะต้องไม่ใช้อุปกรณ์จาก Huawei หรือ ZTE ด้วย
ในกรณีที่โครงข่ายเดิมมีอุปกรณ์ของสองยี่ห้อนี้อยู่ จะอนุญาตให้ใช้ต่อได้จนถึง 1 มกราคม 2025 เป็นอย่างช้าที่สุด
Reuters รายงานอ้างอิงคนใกล้ชิดกับข้อมูลระบุว่า Huawei กำลังเจรจาอยู่กับผู้ที่สนใจหลายราย สำหรับการขายบางส่วนของธุรกิจสมาร์ทโฟนแบรนด์ Honor ซึ่งดีลนี้อาจมีมูลค่าสูงสุดไม่เกิน 3.7 พันล้านเหรียญ
ส่วนที่ Huawei ขายไปอาจประกอบไปด้วยแบรนด์ Honor, R&D และซัพพลายเชน โดยตอนนี้มี Digital China ที่เป็นตัวแทนจำหน่ายหลักของ Honor เป็นตัวเต็ง ส่วนผู้ที่สนใจรายอื่น ๆ ที่คุ้นชื่อก็มี TCL และ Xiaomi
Honor เป็นแบรนด์ลูกของ Huawei ที่เน้นทำสมาร์ทโฟนราคาประหยัดและทำตลาดออนไลน์เป็นหลัก แต่ดำเนินงานแยกส่วนกับ Huawei ขณะที่สาเหตุของการขาย Honor ก็หนีไม่พ้นการถูกสหรัฐแบน ทำให้ Huawei ต้องปรับกลยุทธหันไปโฟกัสเฉพาะสมาร์ทโฟนตัวท็อปอย่างเดียวแทน
Huawei ออกประกาศเตรียมเปิดตัว Huawei Mate 40 Pro วันที่ 22 ตุลาคมนี้ พร้อมประโยค “Leap Futher Ahead” หรือแปลเป็นไทยว่า ก้าวไปให้ไกลกว่า ตรงกับข่าวลือก่อนหน้านี้ว่า Mate 40 Pro จะเปิดตัวในเดือนตุลาคม แต่จะมาพร้อมกับชิป Kirin 9000 กล้องคุณภาพสูง และที่การชาร์จแบบ 66W หรือไม่ ต้องติดตามกันต่อไป
ศูนย์ตรวจสอบความปลอดภัยไซเบอร์หัวเว่ย (Huawei Cyber Security Evaluation Centre - HCSEC) เป็นศูนย์ที่หัวเว่ยตั้งขึ้นในอังกฤษเพื่อให้ผู้เชี่ยวชาญเข้าตรวจสอบซอร์สโค้ดของอุปกรณ์เครือข่ายว่ามีความปลอดภัยจริง และทางศูนย์ก็เพิ่งออกรายงานออกมา โดยแสดงความกังวลต่อคุณภาพซอฟต์แวร์ที่ส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยของอุปกรณ์หัวเว่ยหลายประการ เช่น
อัปเดต: Reuters แก้ไขข่าวเพิ่มเติมว่าหน่วยดับเพลิงตงก่วนพบผู้เสียชีวิตสามราย เป็นเจ้าหน้าที่บริษัทจัดการทรัพย์สินของศูนย์ฯ ด้านล่างเป็นเนื้อหาข่าวเก่า
เกิดเหตุเพลิงไหม้อาคารของ Huawei ในเมืองตงก่วน (Dongguan) ทางตอนใต้ของจีน ซึ่ง Reuters รายงานโดยอ้างอิงข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นตงก่วน ระบุว่าเป็นอาคารโครงสร้างเหล็กที่ยังก่อสร้างไม่เสร็จ และวัสดุหลักของอาคารเป็นใยฝ้ายดูดซับเสียงในอาคาร
สื่อในท้องถิ่นของตงก่วนรายงานว่าจุดที่เกิดไฟไหม้เป็นศูนย์วิจัยของ Huawei ภายในแคมปัสทะเลสาบซงชาน ที่มีพนักงานรวมกว่า 25,000 คน โดยเป็นศูนย์วิจัยเกี่ยวกับวัสดุศาสตร์และเครือข่าย 4G/5G
สำนักข่าวจีนรายงานอ้างแหล่งข่าวไม่ระบุตัวตน ระบุว่าอินเทลได้ใบอนุญาตขายซีพียูให้กับหัวเว่ยได้ต่อไป ทำให้หัวเว่ยสามารถพัฒนาโน้ตบุ๊กต่อไปได้
แม้ว่าจะได้ชิปจากอินเทล แต่กฎห้ามบริษัทนอกสหรัฐฯ ขายชิปให้หัวเว่ยก็เพิ่งมีผลบังคับเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา และบริษัทผู้ผลิตชิปอื่นๆ ก็เข้าคิวรอใบอนุญาตจากสหรัฐฯ กันอยู่ ไม่ว่าจะเป็น Macronix, Micron, SK Hynix, Qualcomm, Samsung, และ SMIC ไปจนถึงผู้ผลิตชิ้นส่วนเทคโนโลยีสูงอื่นๆ ที่ไม่ใช้แค่ชิป เช่น เลนส์กล้อง หรือแผงวงจร หากบริษัทเหล่านี้ไม่ได้รับใบอนุญาตแบบเดียวกับอินเทลก็น่าจะกระทบธุรกิจโดยรวมอย่างหนักอยู่ดี
Huawei Central รายงานข่าวที่แปลจากเว็บภาษาเยอรมัน Winfuture.de ว่ามือถือตระกูล Huawei Mate 40 จะมาพร้อมชิปที่มีโมเด็ม 5G ในตัว บนสถาปัตยกรรม 5 นาโนเมตรชิ้นแรกของโลก และจะใช้ชื่อว่า Kirin 9000
นอกจากนี้ยังเปิดเผยว่ามือถือตระกูล Huawei Mate 40 จะมาพร้อมกล้องคุณภาพสูง และรองรับการชาร์จแบบ 66W รวมทั้งมาพร้อมเทคโนโลยีใหม่ที่จะทำให้การโต้ตอบระหว่างผู้ใช้กับระบบ UI ทำได้ง่ายขึ้น แต่ยังไม่เปิดเผยว่าคือเทคโนโลยีอะไร และจะเปิดตัวช่วงกลางเดือนตุลาคมในประเทศจีน ซึ่งตรงกับข่าวลือก่อนหน้านี้ แต่อาจวางจำหน่ายทั่วโลกในปี 2021 เลยทีเดียว
ในวันพฤหัสบดีที่ 24 กันยายน เวลา 15.00 น. HUAWEI CLOUD ประเทศไทย จะจัด Cloud Diary Special Session ซึ่งเป็นการสัมมนาออนไลน์ฟรีผ่านการสตรีมสดบนหน้า Facebook (@HuaweiCloudTH) หัวข้อนี้มีชื่อว่า “KBTG x HUAWEI CLOUD: Eatable by KBank Food Ordering Platform in the New Normal” โดยมีวิทยากรพิเศษคือ คุณเจนวิทย์ จันทรโชติ (โอ๊ต) หัวหน้าฝ่ายวิจัยเทคโนโลยีของกลุ่มเทคโนโลยีธุรกิจ ธนาคารกสิกรไทย (KASIKORN Business-Technology Group) จะมาบรรยายเกี่ยวกับแพลตฟอร์มการสั่งอาหารแบบใหม่ “Eatable” ซึ่งรองรับทางเลือกในการสั่งอาหารทุกประเภท ตั้งแต่การสั่งเพื่อจัดส่งไปรับประทานที่บ้านหรือในร้านอาหาร
ปัจจุบันอินเทอร์เน็ตกลายเป็นส่วนสำคัญอย่างมากในชีวิตประจำวันของเรา เราดูวีดีโอ เล่นเกมส์ อ่านข่าว และซื้อสินค้าผ่านทางอินเทอร์เน็ตแทบทุกวัน ในช่วงหลายปีนี้การศึกษาผ่านทางอินเทอร์เน็ต การทำงานทางไกล และการให้บริการสุขภาพแบบออนไลน์ (eHealth) ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ สิ่งที่อยู่เบื้องหลังบริการออนไลน์เหล่านี้ก็คือ Content Delivery Network หรือ CDN ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ช่วยส่งคอนเทนต์ประเภทต่างๆ ผ่านทางอินเทอร์เน็ตได้อย่างรวดเร็ว แม้ว่าเราอาจไม่สนใจหรือไม่รู้ว่ามี CDN ทำงานอยู่เบื้องหลังก็ตาม
Huawei เพิ่งเปิดตัว EMUI 11 เวอร์ชันใหม่ ที่น่าสนใจคือมันไม่ได้พัฒนาขึ้นจากซอสโค้ด Android 11 ตามชื่อเหมือนปีที่ผ่านมา แต่ยังคงพัฒนาจาก Android 10 เหมือน EMUI 10 แค่มีการเพิ่มฟีเจอร์ใหม่บน Android 11 เข้ามา
โฆษก Huawei บอกว่าที่ EMUI 11 ยังใช้ซอสโค้ดจาก Android 10 เพราะคำสั่งแบนของสหรัฐ ทำให้ Huawei เพิ่งได้เข้าถึงซอสโค้ด Android 11 (AOSP) เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทำให้ที่ผ่านมาทีมพัฒนาเลยต้องอาศัยการเพิ่มฟีเจอร์ที่มีมาให้ Android 11 เข้าไปแทน และการพัฒนา EMUI บนฐานของซอสโค้ด Android 11 จริง ๆ น่าจะกินเวลาอีกหลายเดือน
การเปลี่ยนแปลง EMUI 11 หลัก ๆ คือการปรับแต่ง Always-on-Display, Multi-windows ที่ดีขึ้นและการปรับปรุงความเป็นส่วนตัว