AMD เปิดตัวจีพียู 7 นาโนเมตรตัวแรกของโลก ตามที่เคยประกาศแผนไว้ล่วงหน้า โดยเริ่มจาก Radeon Instinct สำหรับเซิร์ฟเวอร์และเวิร์คสเตชัน
จีพียูรุ่นที่เปิดตัวคือ Radeon Instinct MI60 และ MI50 เป็นรุ่นต่อจาก Radeon Instinct MI25 รุ่นสูงสุดตัวเดิม และนอกจากกระบวนการผลิต 7 นาโนเมตรของ TSMC ก็มีฟีเจอร์อื่นๆ ดังนี้
ในงานแถลงข่าวของแอปเปิลเมื่อคืนนี้ ยังมีผลิตภัณฑ์อีกตัวที่ไม่ได้ประกาศบนเวที แต่อัพเดตสเปกอย่างเงียบๆ คือ MacBook Pro 15 ที่อัพเกรดจีพียูจากเดิม AMD Radeon 500 Series ตัวเก่า โดยเพิ่มตัวเลือก AMD Radeon Pro Vega ตัวใหม่เข้ามา
สเปกนี้เลือกได้เฉพาะใน MacBook Pro 15 คอนฟิกท็อปสุด ซีพียู Core i7 2.6GHz (เริ่มต้น 2,799 ดอลลาร์) โดยลูกค้าสามารถเลือกเปลี่ยน Radeon Pro 560X เป็น Radeon Pro Vega 16 หรือ Vega 20 แทนได้
AMD ไม่เคยเปิดตัว Radeon Pro Vega 16 หรือ 20 มาก่อน แต่คาดว่าจีพียูตัวนี้เป็นตัวเดียวหรือใกล้เคียงกับ Radeon Vega M ที่มาพร้อมกับซีพียูอินเทล ซึ่งมีหน่วยประมวลผลกราฟิก 20 ชุดและแรม 4GB HBM2 เหมือนกัน
AMD หยุดสนับสนุนไดรเวอร์การ์ดจอแบบ 32 บิตแบบเงียบๆ ในทุกระบบปฎิบัติการอย่างเป็นทางการแล้ว โดยคนที่ยังใช้ระบบปฎิบัติการแบบ 32 บิตบน Windows 7 และ Windows 10 จะไม่ได้รับการอัพเดตไดรเวอร์ใดๆ อีกต่อไป
AMD ออกจีพียู Radeon RX 580 รุ่นลดสเปก 2048SP โดยวางระดับสินค้าอยู่ระหว่าง Radeon RX 580 กับ Radeon RX 570
จีพียู Radeon ซีรีส์ 500 ยังใช้สถาปัตยกรรม GCN รุ่นที่สี่ (Polaris 10) และใช้กระบวนการผลิต 14 นาโนเมตร ในขณะที่ Radeon ตัวล่าสุด Vega เปลี่ยนมาใช้สถาปัตยกรรมใหม่ และบางส่วนใช้กระบวนการผลิต 7 นาโนเมตรแล้ว
Radeon RX 580 รุ่นปกติมีจำนวนหน่วยประมวลผล stream processor ที่ 2,304 ตัว ส่วนรุ่นลดสเปกก็ตามชื่อรุ่นคือ 2,048 ตัว
สเปกอย่างอื่นของ Radeon RX 580 2048SP ใกล้เคียงกับ Radeon RX 570 มากกว่า เช่น คล็อค 1168MHz, มีแรมส่งข้อมูลได้ 7Gbps, อัตราการใช้พลังงาน 150 วัตต์ โดยยังไม่ระบุราคา (570 ราคา 169 ดอลลาร์ ส่วน 580 ราคา 199 ดอลลาร์)
หลังเปิดตัว GeForce RTX Series ความสนใจอาจไปโฟกัสอยู่ที่การ์ดจอรุ่นท็อปคือ GeForce RTX 2080 และ 2080 Ti ที่เริ่มวางขายแล้วในตอนนี้
แต่สินค้ารุ่นที่น่าจะขายดีกว่าคือรุ่นรองลงมาอย่าง GeForce RTX 2070 ที่ราคาย่อมเยากว่ากันมาก (499 ดอลลาร์สำหรับรุ่นปกติ และ 599 ดอลลาร์สำหรับรุ่น Founder's Edition -- เทียบกับ 2080 Ti ที่ราคา 1,199 ดอลลาร์) ในขณะที่ประสิทธิภาพลดลงมาจากรุ่นท็อปๆ ไม่มากนัก (ตามสเปกของ 2070 คิดเป็นประมาณ 75% ของ 2080)
ล่าสุด NVIDIA ประกาศวันวางขาย GeForce RTX 2070 เป็นวันที่ 17 ตุลาคม ส่วนราคาในไทยก็ต้องรอประกาศจากผู้ผลิตการ์ดรายต่างๆ กันต่อไปครับ
สื่อต่างประเทศเริ่มออกรีวิว NVIDIA GeForce RTX 2080 และ 2080 Ti ที่หลายคนรอคอยกัน ภาพรวมของรีวิวหลายสำนักชี้ตรงกันว่า ประสิทธิภาพดีขึ้นจาก GeForce GTX 1080/1080 Ti อย่างก้าวกระโดด และเราสามารถใช้การ์ดใบเดียวรันเกมที่ความละเอียด 4K เปิดตัวเลือกกราฟิกในเกมแบบสูงสุด แล้วยังรักษาเฟรมเรตเกิน 60 FPS ได้จริงๆ (ในกรณีของรุ่น 2080 Ti)
สถิติของ Engadget ลองเล่น FFXV ที่ความละเอียด 4K และตั้งค่าตัวเลือกกราฟิกเป็น high พบว่า 2080 Ti สามารถรันได้ระดับ 65-75 FPS, 2080 ที่ระดับ 49-54 FPS ในขณะที่ 1080 ทำได้ที่ 30-40 FPS เท่านั้น
ตัวเลขของ Ars Technica เล่น Shadow of Tomb Raider ที่ 4K ตั้งค่าแบบ ultra พบว่า 2080 Ti ทำได้ที่ 70 FPS, 2080 ทำได้ที่ 54 FPS ส่วน 1080 Ti อยู่ที่ 49 FPS
NVIDIA ยังทยอยปล่อยสินค้าตระกูล Turing ออกมาเรื่อยๆ ก่อนหน้านี้เปิดตัวด้วย Quadro RTX จีพียูสำหรับมืออาชีพ และ GeForce RTX สำหรับคอนซูเมอร์
เวลาผ่านมายังไม่ทันครบเดือน NVIDIA ก็เปิดตัว Tesla T4 จีพียูสำหรับศูนย์ข้อมูลตามมา ถือเป็นผู้สืบทอดของ Tesla ซีรีส์ P ที่ใช้สถาปัตยกรรม Pascal และเปิดตัวเมื่อปี 2016
จุดเด่นของ Tesla T4 ไม่ได้อยู่ที่เรื่อง Ray Tracing (เพราะไม่จำเป็นต้องใช้งานและไม่มีมาให้) แต่เป็นเรื่องการประมวลผล AI โดยมันมี Tensor Core จำนวน 320 คอร์ และ CUDA Core อีกจำนวน 2,560 คอร์
Microsoft Azure กลายเป็นผู้ให้บริการคลาวด์รายล่าสุดที่รองรับ NVIDIA GPU Cloud (NGC) ซึ่งเป็นการใช้จีพียูของ NVIDIA เร่งความเร็วการประมวลผลงานต่างๆ
ปกติเราคุ้นกับการใช้จีพียูช่วยเร่งการประมวลผล deep learning แต่มันก็ยังสามารถใช้กับงานด้านอื่นๆ ทั้ง high performance computing (HPC) และ visualization ในระดับมืออาชีพด้วย
เครื่องบน Azure รองรับการใช้จีพียู NVIDIA (ทั้ง Tesla V100, P100, P40) มานานแล้ว ข่าวนี้คือคอนเทนเนอร์จาก NVIDIA ที่ปรับแต่งให้ใช้กับแอพพลิเคชันด้าน deep learning และ HPC สามารถนำมารันบน Azure แล้วเรียกใช้จีพียูได้ทันที
Azure ถือเป็นคลาวด์รายหลังๆ ที่รองรับ NGC เพราะคู่แข่งทั้ง AWS, Google Cloud Platform, Alibaba Cloud ต่างรองรับมาก่อนแล้ว
NVIDIA Turing มาพร้อมกับหน่วยประมวลผล RT Core ที่คุยว่าสามารถประมวลผลกราฟิกแบบใหม่ๆ ได้เร็วกว่า Pascal ถึง 6 เท่า
แต่ในยุคที่เกมเกือบทั้งหมดยังไม่ทำ ray tracing คำถามที่ทุกคนสงสัยคงเป็นว่า Turing เร็วกว่า Pascal สักเท่าไร ล่าสุด NVIDIA แง้มคำตอบออกมาแล้วว่าประมาณ 1.5 เท่า (ตัวเลขเปรียบเทียบ GeForce RTX 2080 vs GeForce GTX 1080) และตัวเลขนี้จะขยับขึ้นเป็น 2 เท่าหากเกมนั้นใช้ฟีเจอร์ Deep Learning Super Sampling (DLSS) บน 2080 ด้วย
NVIDIA ยังบอกว่าสมรรถนะของ GeForce 2080 ยังช่วยเรื่องเฟรมเรตด้วย โดยเกมจำนวนมากสามารถรัน 4K ที่เฟรมเรต 60FPS ได้สบายๆ และบางเกมอย่าง Call of Duty: WWII สามารถอัดไปได้ถึง 100FPS
ข่าวที่น่าสนใจของโลกกราฟิกช่วงนี้หนีไม่พ้นการเปิดตัวจีพียูสถาปัตยกรรม NVIDIA Turing ที่ยักษ์เขียว NVIDIA ทยอยเปิดตัวการ์ดจอทั้ง Quadro RTX สำหรับมืออาชีพ และ GeForce RTX สำหรับเกมมิ่ง ในเวลาห่างกันเพียงไม่กี่วัน
NVIDIA ชูว่า Turing เป็นการอัพเกรดครั้งใหญ่นับตั้งแต่การเปิดตัว CUDA Core ในช่วงปลายปี 2006 หรือประมาณ 12 ปีก่อน และโดยเนื้อในแล้ว Turing ก็มีความแตกต่างจากรุ่นพี่ Pascal (GeForce 10) ที่ออกในปี 2016 อย่างมีนัยสำคัญ บทความนี้จะอธิบายข้อมูลโดยสรุปว่า Turing มีอะไรบ้าง
หลังจาก NVIDIA เปิดตัว GeForce RTX 2080 Ti ในราคาประมาณ 40,000 บาท ล่าสุด JIB เปิดจองการ์ดจอรุ่นดังกล่าวแล้ว โดยราคาสูงสุดเป็นรุ่น Galax RTX 2080 Ti Dual Black แรม 11GB DDR6 อยู่ที่ 47,900 บาท
NVIDIA เปิดชิปกราฟิกตระกูล GeForce RTX พร้อมกัน 3 รายการ ได้แก่ GeForce RTX 2080 Ti, GeForce RTX 2080, และ GeForce RTX 2070 ทั้งใช้คอร์ Turing แบบเดียวกับ Quadro RTX ที่เปิดตัวไปสัปดาห์ที่แล้ว
ความเปลี่ยนแปลงของชิป RTX ได้แก่
ก่อนที่ NVIDIA จะประกาศเปิดตัวการ์ดจอ GeForce 20 Series อย่างเป็นทางการในคืนนี้ ระหว่างนี้เว็บไซต์ Wccftech อ้างข้อมูลจากแหล่งข่าวที่ไม่เปิดเผยชื่อ ระบุว่าการ์ดจอรุ่นใหม่จะมีถึง 5 รุ่น และจะเริ่มต้นขายบางรุ่นเดือนสิงหาคมนี้เลย
Honor เปิดตัว Honor Play ในไทย เป็นสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ที่ถูกออกแบบเพื่อการเล่นเกมอย่าง PUBG ได้ลื่นไหล ภายใต้ GPU Turbo เทคโนโลยีที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการประมวลผลกราฟิกให้ดียิ่งขึ้น 60% และลดการใช้พลังงานลง 30%
รอคอยกันมานานกับ Turing สถาปัตยกรรมจีพียูรุ่นใหม่จากค่าย NVIDIA ที่ต่อจากยุคของ Pascal (GeForce 10)
ซีอีโอ Jensen Huang ใช้เวทีงานสัมมนาด้านกราฟิก SIGGRAPH 2018 เปิดตัว Turing สถาปัตยกรรมจีพียูรุ่นที่แปด โดยสินค้าชุดแรกเป็นการ์ดจอสำหรับมืออาชีพตระกูล Quadro ได้แก่ Quadro RTX 8000, 6000, 5000 (สังเกตว่าเปลี่ยนมาใช้ตัวห้อยท้ายเป็น RTX ตรงตามข่าวลือก่อนหน้านี้
มีข่าวลือออกมาว่า จีพียูรุ่นถัดไปของ NVIDIA ที่ใช้โค้ดเนม Turing จะเปลี่ยนชื่อแบรนด์เล็กน้อย จาก GeForce GTX ที่เราคุ้นเคย กลายมาเป็น GeForce RTX
ข่าวนี้มาจากช่อง YouTube ชื่อ AdoreTV โดยมีเหตุผลสนับสนุนว่า NVIDIA จดเครื่องหมายการค้า GeForce RTX และ Quadro RTX ไว้เรียบร้อยแล้ว ส่วนตัว R ยังไม่แน่ชัดว่ามาจากอะไร แต่ก็คาดเดากันว่า NVIDIA จะชูฟีเจอร์ ray tracing
ส่วนเลขรุ่นจากที่มีข้อมูลหลายทาง ว่าจะนับเป็นซีรีส์ 11 หรือ 20 กันแน่ ข้อมูลของ AdoreTV บอกว่าจะเป็นซีรีส์ 20 โดยยังคงระบบตัวท้าย 2 หลักแบบเดิม เช่น GeForce RTX 2080
มีข่าวหลุดออกมาอย่างต่อเนื่อง สำหรับการ์ดจอเรือธงตัวใหม่ของค่าย NVIDIA ที่ล่าสุดเว็บไซต์ Wccftech รายงานข้อมูลหลุดอีกครั้ง แสดงวันเปิดตัวที่จะเริ่มต้นตั้งแต่เดือนสิงหาคมเป็นต้นไป
เริ่มตั้งแต่
เว็บไซต์ Wccftech ระบุว่าข้อมูลดังกล่าวนี้ได้รับการเปิดเผยจากยูทูบเบอร์ ที่ชื่อ Gamer Meld ซึ่งได้รับอีเมลจากพาร์ทเนอร์ของ NVIDIA และมีการยืนยันว่าข่าวลือก่อนหน้านี้ เรื่องการเปิดตัวการ์ดจอรุ่นใหม่ล่าช้า เพราะสต๊อกสินค้าเก่าเหลือเยอะเกินนั้นเป็นเรื่องจริง
นอกจากเปิดตัว Nova 3 และ Nova 3i แล้ว Huawei ยังประกาศปล่อย GPU Turbo อัพเดตตัวใหม่ เพื่อการเล่นเกมบนสมาร์ทโฟนที่ลื่นขึ้น พร้อมรายชื่อเกมกลุ่มแรกที่สนับสนุนกับอัพเดตนี้
ก่อนที่ Battlefield V จะถึงกำหนดวางขายในวันที่ 19 ตุลาคม 2018 ระหว่างนี้ทีมงานจากเว็บไซต์ PCGames ได้นำจีพียูจาก AMD และ NVIDIA มาทดสอบประสิทธิภาพกับเกมดังกล่าวที่ตอนนี้เป็นเวอร์ชัน Closed Alpha
ช่วงนี้มีข่าวลือค่อนข้างถี่สำหรับจีพียูตัวใหม่จาก NVIDIA ที่ก่อนหน้านี้มีข่าวว่าเตรียมเปิดตัว GeForce GTX 1180 ในเดือนสิงหาคม แต่ข่าวใหม่ระบุเพิ่มเติมว่าในปลายปีนี้จะมีเปิดตัวอีกรุ่น คือ GeForce GTX 1160
ข้อมูลจากเว็บไซต์ Wccftech เปิดเผยว่า จีพียู GeForce GTX 1160 จะมีแรม GDDR6 6GB แบนด์วิดธ์ 336 GB/s เร็วกว่า GTX 1080 โดยจะใช้กับโน้ตบุ๊ก Lenovo Legion Y530 รุ่นใหม่ช่วงปลายปีนี้ (รุ่นปัจจุบันที่เพิ่งเปิดตัวในไทยเป็นจีพียู GTX 1050 / 1050 Ti)
หลังมีข่าวลือของ GTX 1180 การ์ดจอเรือธงตัวใหม่ ก่อนจะตามมาด้วยข่าวลือว่าต้องเลื่อนเปิดตัวเพราะสต๊อกสินค้าเก่าเหลือเยอะเกิน
ล่าสุดมีข่าวลือชุดใหม่ออกมาว่า NVIDIA เริ่มส่งหมายเชิญสื่อไปร่วมงาน Gamescon ที่จะเริ่มในวันที่ 21 สิงหาคมนี้ โดยมีการพูดถึงฮาร์ดแวร์ใหม่และ GeFroce รุ่นใหม่ ก็ทำให้คาดว่าน่าจะเป็น GTX 1180 ที่มีข่าวมาหลายเดือน
ที่มา - VideoCardz via The Verge
AMD เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับจีพียู 7 นาโนเมตรครั้งแรกเมื่อต้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ทั้ง Vega ที่ใช้เทคโนโลยี 7 นาโนเมตรและจีพียูใหม่ภายใต้โค้ดเนม Navi
ล่าสุดมีข้อมูลหลุดจากแหล่งข่าวที่ค่อนข้างมีประวัติในการปล่อยข่าวลือ Ryzen ที่ค่อนข้างแม่นยำ โดย Vega รุ่น 7 นาโนเมตรแหล่งข่าวระบุว่าเป็นรุ่น Vega 20 เป็นการ์ดจอสำหรับเล่นเกม คล็อกสปีดสูงขึ้น กินพลังงานและปล่อยความร้อนน้อยลง ใช้แรม HBM2 ขนาด 16GB บัสแบนด์วิธขนาด 4096 บิต คาดเปิดตัวไตรมาสแรกปีหน้า
ก่อนหน้านี้ ซีอีโอ NVIDIA ระบุการ์ดจอ GeForce GTX รุ่นใหม่ ยังต้องรอกันอีกนาน สร้างความผิดหวังให้แฟนๆ ที่คาดว่าเราจะได้เห็นจีพียูตัวใหม่รหัส Turing ช่วงกลางปีนี้ตามที่เคยมีข่าวหลุดออกมา
ล่าสุดมีข่าวลือมาจากผู้ผลิตฮาร์ดแวร์ฝั่งไต้หวันว่า เหตุผลที่ NVIDIA เลื่อนการเปิดตัว GeForce รุ่นใหม่ออกไป อาจเป็นเพราะสต๊อกสินค้าเก่าเหลือเยอะเกินไป
อินเทลประกาศในงานประชุมกับนักวิเคราะห์วันนี้ว่าบริษัทจะเข้าสู่ตลาดชิปกราฟิกเฉพาะทาง (การ์ดจอแยก) ในปี 2020 แม้ว่ายังไม่มีรายละเอียดใดๆ แต่อินเทลก็ระบุว่าแผนการของบริษัทนั้นจะบุกทั้งตลาดเซิร์ฟเวอร์ที่เน้นงานประมวลผลปัญญาประดิษฐ์ และตลาดไคลเอนต์ที่เน้นเกม
ในแง่บุคลากร อินเทลเพิ่งได้ตัว Raja Koduri หัวหน้าฝ่าย Radeon ของเอเอ็มดีไปเมื่อปลายปีที่แล้ว หลังจากประกาศใช้ชิปกราฟิกเอเอ็มดีบนแพ็กเกจเดียวกับซีพียู
นอกจาก AMD โชว์ Threadripper รุ่น 32 คอร์ ในงานแถลงข่าวยังพูดถึงจีพียู Radeon Vega รุ่นใหม่ด้วย
AMD เคยประกาศแผนการออก Radeon ว่าจะออกรุ่นใหม่เป็นประจำทุกปี และจะใช้ระบบ Tick-Tock แบบเดียวกับซีพียูอินเทลในอดีต นั่นคือสลับการเปลี่ยนสถาปัตยกรรม และเปลี่ยนกระบวนการผลิตในแต่ละปี สำหรับปีนี้จะเป็นการลดขนาดของ Radeon Vega ลงมาใช้ระดับ 7 นาโนเมตร และจะออก Radeon Vega Instinct รุ่น 7nm ในครึ่งหลังของปีนี้ และเน้นลูกค้ากลุ่มเวิร์คสเตชันและ AI เป็นหลัก
Radeon Instinct รุ่นใหม่ของปี 2018 จะยังมีฟีเจอร์ใหม่ๆ อย่างการใช้บัส Infinity Fabric (IF) ที่ใช้กับซีพียู Ryzen มาใช้กับจีพียู Radeon ด้วย เพื่อให้การทำงานหลายจีพียูทำได้ดีขึ้น