จากข่าวลือ แท็บเล็ต Nexus จอ 7 นิ้วราคา 199 เหรียญ โดย ASUS จะเปิดตัวมิถุนายนนี้ ที่มาจากเว็บไซต์ Android and Me
รายงานจากเว็บไซต์ Bits อีกครั้ง หลังจากครั้งก่อนรายงานว่า นักพัฒนาแอพของ iOS สามารถเข้าถึง photo library เมื่อมีการอนุญาตให้เข้าถึงข้อมูล location
แต่ทางฝั่งของ Android เหนือกว่าหนึ่งก้าวโดย Android ไม่ต้องมีการอนุญาตใดๆ เพื่อเข้าถึงรูปถ่ายของผู้ใช้ เพียงแค่แอพนั้นสามารถเชื่อมต่อ Internet ได้ก็สามารถ copy รูปถ่ายไปยัง Server โดยไม่ต้องมีการแจ้งเตือนใดๆ (มีเพียงการขออนุญาตเชื่อมต่อ Internet ก่อนการติดตั้ง) ยังไม่แน่ชัดว่ามีแอพใดใช้ประโยชน์จากช่องโหว่นี้แล้ว
ทาง Google รับรู้ปัญหานี้แล้ว และแจ้งว่าอยู่ระหว่างการพิจารณาแนวทางแก้ไข
เว็บไซต์ New York Post รายงานข่าววงในว่า กูเกิลเตรียมแยกธุรกิจกล่องเซ็ตท็อปสำหรับเคเบิลทีวี (set-top box) ของโมโตโรลาออกไป หลังควบกิจการกับโมโตโรลาเสร็จ
โมโตโรลาถือเป็นผู้ผลิตกล่องเซ็ตท็อปรายใหญ่ของสหรัฐ (อีกรายหนึ่งคือ Scientific Atlanta ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ Cisco) แต่อนาคตของธุรกิจนี้กำลังเริ่มเข้าสู่ขาลง เพราะถูกท้าทายด้วยทีวีแบบใหม่ๆ ที่ดูรายการผ่านอินเทอร์เน็ตได้นั่นเอง
Cisco เองก็พยายามจะแยกธุรกิจ Scientific Atlanta ออกไปเช่นกัน ส่วนบริษัท Infonetics ที่วิเคราะห์อุตสาหกรรมนี้ประเมินว่าปี 2011 ถือเป็นปีสุดท้ายที่ธุรกิจกล่องเซ็ตท็อปไปได้ดี เพราะยอดขายจะเริ่มตกลงเรื่อยๆ นับตั้งแต่ปี 2012 นี้เป็นต้นไป
ไม่ว่าใครจะออกแพลตฟอร์มอะไร เป็นคู่แข่งหรือพันธมิตร กูเกิลก็แทบไม่พลาดที่จะทำระบบค้นหา (ดีหน่อยเป็นแอพ อย่างแย่ที่สุดคือ mobile web) ไปลงแพลตฟอร์มเหล่านี้เสมอ
ล่าสุดกูเกิลประกาศ Google Search App รุ่นใหม่สำหรับ Windows Phone 7.5 Mango นอกจากจะปรับมาใช้ Metro เต็มตัว ออกแบบใหม่ให้หน้าตาสะอาดขึ้น ยังมีฟีเจอร์ใหม่อย่าง autocomplete, voice search และหาข้อมูลจาก location ของผู้ใช้อีกด้วย
พร้อมแล้วก็ดาวน์โหลดได้จาก Windows Marketplace
ที่มา - Google Inside Search
กูเกิลเริ่มทยอยเปลี่ยนหน้าตาของปุ่ม Google +1 แบบเงียบๆ โดยเริ่มจากกลุ่มนักพัฒนาผู้เข้าร่วมโครงการ Google+ Platform Preview ก่อน
เดิมทีปุ่ม +1 ใช้พื้นหลังสีเทาและตัวอักษรสีฟ้า พอกดแล้วจะเปลี่ยนเป็นพื้นหลังสีน้ำเงินและตัวอักษรสีขาว
แต่ปุ่ม +1 ของใหม่จะมีสไตล์ใกล้เคียงกับโลโก้ของ Google+ มากขึ้น (คาดว่าเปลี่ยนด้วยเหตุผลนี้) คือเป็นพื้นหลังสีเทา/ตัวอักษรสีแดง กดแล้วจะเปลี่ยนพื้นหลังเป็นสีแดง/ตัวอักษรสีขาว นอกจากนี้ยังเพิ่มตัวอักษร g เข้ามาอีกด้วย
ที่มา - Search Engine Watch
ต่อจากข่าว หลายบริษัทบอกตรงกัน "Google+ เป็นสังคมออนไลน์ที่รกร้างไร้ผู้คน" ทางผู้บริหารของกูเกิลออกมาตอบโต้ข่าวนี้แล้ว
คล้อยหลัง อเมซอนลดราคา EC2 สูงสุดถึง 37% เพียงวันเดียว ฝั่งกูเกิลก็ประกาศลดราคาลงบ้าง โดยลดราคาพื้นที่เก็บข้อมูลออนไลน์สำหรับนักพัฒนาแอพคือ Google Cloud Storage (เทียบได้กับ Amazon S3 มันเป็นคนละอย่างกับ Google Drive ที่มีข่าวลือนะครับ)
จากข่าวก่อนหน้านี้ กูเกิลเปิดตัว Google Play กูเกิลก็ได้ลดราคาแอพใน Play Store กว่า 25 ตัว เหลือเพียง $0.49 (คิดเป็นเงินไทยขณะที่เขียนข่าวคือ 15.02 บาท) ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นเกม โดยแอพบางตัวก็เคยถูกจัดโปรโมชันลดราคามาแล้ว
ผมขอแยกเป็นสองหมวดคือเกมกับแอพทั่วไปครับ
รายชื่อเกมลดราคา
เพิ่งมีข่าวที่กูเกิลไล่จดชื่อโดเมนเกี่ยวกับ Google Play ไปได้ไม่นาน ในที่สุดก็ถูกเฉลยแล้วโดยกูเกิลเอง และเจ้า Google Play ที่ว่าก็คือการรวมบริการดิจิทัลคอนเทนต์ทั้งหมดที่กูเกิลเคยมี ไม่ว่าจะเป็น Android Market, Google Music, Google Books และบริการให้เช่าวิดีโอ (ใช้ชื่อว่า Video เฉยๆ) มารีแบรนด์รวมกันในชื่อใหม่ Google Play Store
ในแง่ฟีเจอร์ไม่มีอะไรใหม่มาก แต่เป็นการพัฒนาทุกสโตร์ให้ไปในทิศทางเดียวกันคือสามารถเข้าถึงคอนเทนต์ได้ทั้งสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต และคอมพิวเตอร์ การแชร์คอนเทนต์ขึ้นบน Google+ รวมถึงปรับหน้าตาให้เข้ากันยิ่งขึ้น
นักพัฒนาที่ทำแอพลงแอนดรอยด์คงทราบกันดีกว่าขนาดของแอพที่จะส่งขึ้น Android Market ต้องมีขนาดไม่เกิน 50MB ทำให้ผู้ผลิตเกมหลายค่ายต้องทำส่วนเสริมของแอพนั้นแยกให้ดาวน์โหลดต่างหากในการรันแอพครั้งแรก
ล่าสุดกูเกิลได้ประกาศเพิ่มขนาดของแอพไปเป็น 4GB แล้ว มีรายละเอียดดังนี้
การปรับในครั้งนี้เป็นการแก้ปัญหาที่ถูกติติงมาเป็นเวลานานอย่างการเรียกคืนเงินภายใน 15 นาทีหลังจากดาวน์โหลดตัวแอพเสร็จ ซึ่งเป็นไปไม่ได้เลยหากต้องดาวน์โหลดไฟล์เสริมขนาดมหึมาหลังจากนั้น
ความคืบหน้าของโครงการ App Inventor ที่สร้างโดยกูเกิล แต่ภายหลัง
หลังจากมีข่าวลือเรื่องแท็บเล็ตตัวใหม่ของกูเกิลตั้งแต่เมื่อปีที่แล้ว และ
มีข่าวของ ISIS ไปแล้ว มาดูคู่แข่งอย่าง Google Wallet บ้างนะครับ
Android 5.0 ยังไม่ทันจะเปิดตัวสักเท่าไร (ยังไม่ยืนยันว่าจะใช้ชื่อ Jelly Bean หรือไม่ด้วยซ้ำ) ก็มีข่าววงในออกมาว่ากูเกิลตัดสินใจเลือกชื่อสำหรับ Android รุ่นถัดไปที่ใช้ตัวอักษร "K" ได้แล้ว
เว็บไซต์ The Verge อ้างแหล่งข่าวรายเดียวกับที่เคยเปิดเผยข้อมูลชื่อ Jelly Bean ว่า Android "K" (ซึ่งยังไม่รู้ว่าจะเรียกเป็น Android 6.0 หรือไม่) จะใช้ชื่อว่า Key Lime Pie หรือ "พายมะนาว" (key lime เป็นพืชตระกูลหนึ่งของมะนาวที่ใช้ทำพาย - Wikipedia)
ตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลใดๆ ของ Key Lime Pie (ตัวย่อคงเป็น KLP ถ้าข่าวเป็นจริง) และถ้ากูเกิลยังใช้หลักการออกปีละรุ่นต่อไป เราก็คงเห็นมันในปี 2013 ครับ
เว็บไซต์ TechCrunch อ้างแหล่งข่าววงในว่ากูเกิลกำลังทำโครงการ Google Assistant โปรแกรมสั่งการด้วยเสียงที่พัฒนาขึ้นจากของเดิม เพื่อแข่งกับ Siri ของแอปเปิล ซึ่งเคยมีข่าวมาก่อนหน้าว่าโครงการนี้ชื่อว่า Majel
ถ้ายังจำกันได้ เมื่อตอนต้นปีมีข่าว กูเกิลปรับข้อตกลงการใช้งาน รวมทุกบริการเข้าภายใต้ข้อตกลงเดียว ซึ่งการเป
ย้อนกลับไปนานพอสมควร ภายหลังที่กูเกิลเจรจาซื้อ Slide เป็นผลสำเร็จ หลังจากนั้นทีม Slide ได้สร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ภายใต้แบรนด์กูเกิลเองในชื่อ Photovine แอพแชร์รูปภาพที่ความสามารถคล้ายกับ Instragram ที่หลายคนรู้จักกันดี
ล่าสุดทั้ง Slide และ Photovine ได้ประกาศทางหน้าเว็บแล้วว่าจะปิดตัวลงในวันที่ 6 มีนาคม ที่จะถึงนี้ และเปิดให้ผู้ใช้บริการ export ข้อมูลออกมาได้ ซึ่งเส้นตายก็คือวันเดียวกันกับวันปิดตัว
คนที่เคยอ่านประวัติของ Linux คงทราบดีว่า ต้นกำเนิดของมันมาจาก Linus ลองเขียนโค้ดเลียนแบบ Minix ซึ่งเป็นระบบปฏิบัติการ Unix เพื่อการศึกษาวิชาระบบปฏิบัติการ (ในขณะนั้น) แต่ภายหลังโครงการขยายใหญ่โตจนเกินระดับของ Minix ไปมาก
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ Minix จะโดน Linux กลบรัศมีไปเยอะ แต่ตัวระบบปฏิบัติการก็ยังคงอยู่และพัฒนาเรื่อยมาในฐานะซอฟต์แวร์โอเพนซอร์ส และภายหลังเมื่อ Minix เริ่มขยายตัวออกมาจากวงการการศึกษา มันก็ได้รับความนิยมในวงการอุปกรณ์ฝังตัว (เพราะออกแบบมาให้มีขนาดเล็ก ไม่ค่อยมีอะไรซับซ้อน เดี๋ยวนักศึกษางง)
Alain Mutricy ผู้บริหารของ Motorola ให้สัมภาษณ์เว็บไซต์ FierceWireless ที่งาน MWC ว่าบริษัทจะยังไม่เปลี่ยนแปลงยุทธศาสตร์ของตัวเองในระยะอันใกล้นี้ ถึงแม้จะเข้าไปอยู่ใต้ร่มเงาของกูเกิลแล้วก็ตาม
เขาบอกว่า Motorola จะเข้าไปอยู่ในฐานะบริษัทลูกที่มีการบริหารงานของตัวเอง และยังไม่น่าจะมีการเปลี่ยนแผนการออกมือถือใดๆ ตลอดปี 2012 นี้ อย่างไรก็ตามเขาก็ยอมรับว่าการทำงานร่วมกับกูเกิลในเรื่อง Google+ และ YouTube ถือเป็นโอกาสของ Motorola เช่นกัน
ก่อนหน้านี้ Andy Rubin เพิ่งให้สัมภาษณ์ว่ากูเกิลจะสร้าง "กำแพง" กั้นระหว่างสององค์กร ให้มีระยะห่างกันพอสมควร
ไม่ได้มีแต่เพียง LG ที่อยากทำมือถือ Nexus เพียงรายเดียว เพราะ HTC ที่เคยทำ Nexus One มาแล้วก็ออกมาให้ข่าวว่า "ยังมีหวัง" ที่จะได้ทำ Nexus อีกรอบ
Jeff Gordon ผู้บริหารของ HTC ให้สัมภาษณ์กับเว็บไซต์ TechRadar ว่าตอนนี้กูเกิลยังไม่ตัดสินใจเลือกพาร์ทเนอร์สำหรับ Nexus ภาค Jelly Bean ทำให้ผู้ผลิตทุกราย "ยังมีลุ้น" ว่าจะได้ทำ Nexus เครื่องต่อไป
กูเกิลได้เปิดเว็บช่วยนักพัฒนาออกแบบอินเทอร์เฟซบน ICS เพื่อหวังให้นักพัฒนาทำแอพที่มีหน้าตาสวยงามไปได้ซักระยะแล้ว ล่าสุดได้ปล่อย Stencil เพื่อช่วยให้นักพัฒนาสามารถจำลองหน้าตาแอพของตัวเองได้ง่ายยิ่งขึ้น
Google TV เป็นผลิตภัณฑ์ที่ล้มเหลวอีกตัวหนึ่งของกูเกิล แต่บริษัทเองก็ไม่เคยบอกตัวเลขว่ามันขายได้เท่าไร
อย่างไรก็ตาม เนื่องจาก Google TV ใช้ระบบปฏิบัติการ Android และติดตั้งแอพสำหรับช่วยดูรายการทีวีชื่อ TV & Movies for Google TV ที่อยู่ใน Android Market ทำให้เราพอรู้ตัวเลขคร่าวๆ ของอุปกรณ์ที่ติดตั้งแอพตัวนี้ว่าอยู่ที่ 500,000-1,000,000 ราย
นอกจากนี้ยังมีตัวเลขของบริษัท Xyologic ที่ประเมินจากแอพต่างๆ ที่พรีโหลดมากับ Google TV และสรุปได้ว่ายอดขายจะอยู่ระหว่าง 600,000-900,000 เครื่อง
ก็เป็นข่าวประชาสัมพันธ์จาก Blog ของ Google ประเทศไทยนะครับ คิดว่าในที่นี้ คงจะมีนักศึกษาเยอะอยู่เหมือนกัน ก็เลยเอาข่าวมาฝาก
โครงการ Google Campus Ambassador รับสมัครนักศึกษาในระดับอุดมศึกษาขึ้นไป คุณสมบัติในการสมัครหลัก ๆ คือเป็นนักศึกษาในหลักสูตร ศิลปศาสตร์บัณฑิต, วิทยาศาสตร์บัณฑิต หรือ วิทยาศาสตร์มหาบัณฑิต (ป.โท) โดยที่ไม่จำเป็นจะต้องเรียนเอกเกี่ยวกับด้านคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยีแต่อย่างใด
โดยจะได้ทำหน้าที่ในการประชาสัมพันธ์โครงการ, ทุนต่าง ๆ จากทาง Google ให้กับมหาวิทยาลัย และจะมีโอกาสได้นำเสนอความคิด หรือไอเดียต่าง ๆ ให้กับทาง Google ด้วย
รายละเอียดทั้งหมด กับลิ้งค์สมัครโครงการ ก็ดูได้จากที่มานะครับ
ท่ามกลางกระแสข่าวแพร่สะพัดว่า Android 5.0 Jelly Bean จะออกในเร็วๆ นี้ ผู้บริหารของกูเกิลคือ Hiroshi Lockheimer (รองประธานฝ่ายวิศวกรรมอุปกรณ์พกพา) ก็ให้สัมภาษณ์ตอบปฏิเสธว่า กูเกิลยังไม่มีแผนการใดๆ ในเรื่องนี้ รวมถึงยังไม่ตัดสินใจว่าจะเลือกใช้โค้ดเนมอะไรสำหรับตัวอักษร J อีกด้วย