Chrome OS เพิ่มฟีเจอร์ใหม่เป็นแป้นพิมพ์เสมือนบนหน้าจอ โดยฟีเจอร์ดังกล่าวถูกเพิ่มเข้ามาในซอฟต์แวร์รุ่นสำหรับนักพัฒนาตัวล่าสุด

ผู้ที่ต้องการทดลองใช้ฟีเจอร์ใหม่นี้ สามารถเปิดใช้งานได้จากหน้า chrome://flags ซึ่งก็จะมีแป้นพิมพ์เสมือนปรากฏขึ้นมาบนจอ ซึ่งหน้าตาก็ดูละม้ายคล้ายกับแป้นพิมพ์ของระบบ Android อยู่ไม่น้อย และหากเรียกใช้งานฟีเจอร์ดังกล่าวบนเครื่อง Chromebook Pixel ที่มีหน้าจอสัมผัสด้วยแล้ว ก็น่าจะให้ประสบการณ์เหมือนการใช้งานแป้นพิมพ์บนแท็บเล็ตนั่นเอง

ผู้ใช้ Gmail ที่ได้รับอีเมลนัดหมายวันเวลา-สถานที่สำหรับประชุมบ่อยๆ คงลำบากหน่อยที่ต้องไปเพิ่มนัดหมายลง Google Calendar อีกรอบหนึ่งทุกครั้ง

ล่าสุดกูเกิลเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ให้ Gmail ฉลาดขึ้น เพราะมันจะดักจับข้อมูลที่เป็นเวลา-สถานที่จากเนื้อหาของอีเมล และขีดเส้นใต้เป็นเส้นประเอาไว้ให้ ถ้าผู้ใช้ต้องการเพิ่มลงปฏิทินก็สามารถคลิกที่ข้อความเหล่านั้น แล้วเลือก Add to Calendar ได้โดยไม่ต้องเปิดหน้า Google Calendar ขึ้นมาอีก

กูเกิลบอกว่าเบื้องต้นยังรองรับเฉพาะข้อความภาษาอังกฤษเท่านั้น แต่ก็มีแผนจะเพิ่มภาษาอื่นๆ เข้ามาในอนาคต

ที่มา - Gmail Blog

เมื่อพูดถึงหนึ่งในฟีเจอร์ใหม่ของ Android 4.2 ที่ดูเงียบๆ ไป คงจะปฏิเสธฟีเจอร์ Photosphere ที่เป็นการถ่ายภาพพาโรนามาแบบ 360 องศาที่คล้ายๆ การถ่าย Google Streetview ไม่ได้ ซึ่งก่อนหน้านั้นการจะดูภาพนี้แบบสมบูรณ์ที่สุด จะต้องดูผ่าน Google+, Picasa Web หรือผ่าน Android 4.2 อย่างเดียว ถึงจะสามารถดูภาพให้เป็นแบบวงกลมได้ แต่ถ้าดูภาพจากที่อื่น เราจะเห็นเป็นภาพ Panorama ต่อกันเป็นรูปสี่เหลี่ยมครับ

ล่าสุดกูเกิลได้เผย Widget ตัวใหม่ของ Google+ ที่จะช่วยให้เราสามารถใส่ภาพ Photosphere ลงไปบนเว็บไซต์ และสามารถดูรูปถ่ายแบบวงกลมได้แล้ว แต่ทั้งนี้การที่จะฝังภาพ Photosphere ลงไปได้นั้น ผู้ทำจะต้องมีความรู้เรื่อง Javascript พอสมควร เพราะจะต้องมีการแก้ไขตั้งแต่ตัว Script ของตัวเว็บเลยครับ

Google Glass ไม่สามารถต่ออินเทอร์เน็ตได้ด้วยตัวมันเอง (รวมถึงไม่มี GPS) ต้องใช้วิธี tethering ผ่านโทรศัพท์มือถืออีกทีหนึ่ง ปัจจุบันยังรองรับแค่ Android โดยต้องติดตั้งแอพชื่อ MyGlass ร่วมด้วย

เว็บไซต์ TechCrunch ได้ข้อมูลจากตัวแทนของกูเกิลว่า Glass จะเชื่อมต่อกับ iPhone ได้ในเร็วๆ นี้ แต่ในเบื้องต้นจะยังไม่มีฟีเจอร์การนำทางแบบ turn-by-turn บน Glass ที่ใช้ได้เฉพาะกับ Android

ที่มา - TechCrunch

หนังสือพิมพ์ The Korea Times รายงานข่าวไม่ยืนยันว่า Larry Page ซีอีโอของกูเกิลไปเยือนเกาหลีใต้แบบเงียบๆ เมื่อสัปดาห์ก่อน และนัดพบกับผู้บริหารระดับสูงของทั้งซัมซุงและแอลจี

The Korea Times ยังให้ข้อมูลอีกว่าแอลจีกำลังทำสมาร์ทโฟนแบรนด์ Nexus อีกหนึ่งรุ่น (ซึ่งยังไม่ระบุว่าเป็น Nexus 4 รุ่นใหม่หรือ Nexus 5 ตามที่เคยมีข่าว) รวมถึงพูดคุยความเป็นไปได้ด้านสมาร์ททีวี และอุปกรณ์ชนิดใหม่ๆ อย่าง Google Glass

แหล่งข่าวยังบอกอีกว่าเราจะได้เห็นทีวี OLED ที่เป็นแบรนด์ร่วมระหว่างแอลจีกับกูเกิลด้วย

เว็บไซต์ TechCrunch ไปค้นพบว่านักพัฒนาเกมชื่อเก๋าของวงการ Noah Falstein (เคยมีผลงานกับ LucasArts, 3DO, DreamWorks Interactive) เข้าทำงานกับกูเกิลในตำแหน่ง Chief Game Designer ตั้งแต่เดือนเมษายน 2013 ที่ผ่านมา

ในประวัติบน LinkedIn ของเขายังระบุชื่อหน่วยงานว่า Android Play Studio ก่อนจะเปลี่ยนชื่อบริษัทมาเป็น Google ในภายหลัง

ตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลอื่นๆ จากกูเกิล แต่ก็น่าจะเป็นสัญญาณว่ากูเกิลกำลังคิดจะทำเกมบน Android เอง ในลักษณะเดียวกับที่ไมโครซอฟท์ทำผ่านบริษัทลูก Microsoft Games Studio ก็เป็นได้

ที่มา - TechCrunch

Google+ Hangout เพิ่มฟีเจอร์สำคัญคือ Remote Desktop ช่วยให้การล็อกอินเข้าไปช่วยเหลือผู้ใช้พร้อมกับการสนทนาแบบกลุ่มทำได้ง่ายขึ้น

วิธีการใช้งานให้เข้า Hangout ตามปกติ แล้วเลือก View More Apps > Add Apps > Hangouts Remote Desktop จากนั้นก็ส่งคำเชิญหรือรับคำเชิญจากคู่สนทนาเพื่อล็อกอินเข้าเดสก์ท็อปของอีกฝ่ายได้

ฟีเจอร์นี้ใช้เอนจินเดียวกับ Chrome Remote Desktop (น่าจะใช้งานได้เฉพาะ Chrome นะครับ)

ที่มา - +Daniel Caiafa

เมื่อเกือบ 1 ปีที่แล้วในงาน Google I/O 2012 กูเกิลได้ประกาศแอพแบบใหม่ของ Chrome ที่เรียกว่า Package Apps ซึ่งมันคือแอพแบบออฟไลน์ที่เขียนด้วย HTML/JavaScript/CSS (ลักษณะเดียวกับแอพฝั่งไมโครซอฟท์ที่เขียนด้วย XAML) และทำงานเสมือนเป็นแอพแบบ native (โดยมี Chrome ทำตัวเสมือนเป็นรันไทม์)

Package Apps จะติดตั้งไฟล์ทั้งหมดของแอพไปบนเครื่องของผู้ใช้ (ไม่ต้องต่อเน็ตเพื่อใช้งาน) และเข้าถึง API ระดับลึกกว่าเว็บแอพทั่วไป เช่น เรียกใช้ Bluetooth หรือเปิดซ็อคเก็ต TCP/UDP ได้

วันนี้ Google ได้เปิดให้ผู้ใช้ทั่วไปสามารถใช้งานฟอนต์ทั้งหลายใน Google Fonts นอกเหนือจากการใช้งานบนเว็บได้ง่ายขึ้น ด้วยการดาวน์โหลดผ่านเครื่องมือ SkyFonts ที่พัฒนาโดยบริษัทชื่อ Monotype

Google Fonts เป็นโครงการฟอนต์แบบโอเพนซอร์สของ Google ที่เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2011 ซึ่งจนถึงขณะนี้ก็มีฟอนต์รวมแล้ว 624 แบบอยู่ในโครงการ โดยก่อนหน้านี้นักพัฒนาเว็บสามารถใช้ฟอนต์ดังกล่าวบนเว็บได้โดยการแทรกโค้ดเพื่อเรียกใช้ฟอนต์ที่ต้องการ หรือในกรณีที่ผู้ใช้งานต้องการดาวน์โหลดฟอนต์ไว้เพื่อใช้ในเครื่องพีซีก็สามารถทำได้ แต่มีขั้นตอนที่ค่อนข้างยุ่งยากไม่น้อย

กูเกิลประกาศเพิ่มฟีเจอร์ให้ Chrome OS เพื่อเปลี่ยน Chromebook เป็นคอมพิวเตอร์สำหรับหน้าร้าน เช่น คอมพิวเตอร์สำหรับค้นหาหนังสือในห้องสมุด, ค้นหาสินค้าภายในร้าน, คอมพิวเตอร์กลางในศูนย์ธุรกิจของโรงแรม ฯลฯ

ฟีเจอร์นี้เรียกว่า Managed Public Sessions จะช่วยให้แอดมินสามารถปรับแต่งและควบคุม Chromebook ได้จากหน้าเว็บ เช่น ตั้งค่าหน้าแรก, แอพที่สามารถใช้งานได้, บล็อคเว็บที่ไม่ต้องการให้เข้า, ตั้งเวลาการล็อกอินและล็อกเอาท์

ผู้ใช้งานโหมด Managed Public Sessions ไม่จำเป็นต้องล็อกอินและข้อมูลทั้งหมดจะถูกลบทิ้งเมื่อผู้ใช้ล็อกเอาท์

การที่ Chromebook ราคาถูกและมีค่าบำรุงรักษาต่ำ ทำให้มันได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ในตลาดเฉพาะทางลักษณะนี้

หลังจากกูเกิลได้ส่งมอบ Google Glass รุ่นแรก (Explorer Edition) แล้ว ล่าสุดกูเกิลได้อัพโหลดวิดีโอแสดงการใช้งานเบื้องต้น ซึ่งจะสาธิตเกี่ยวกับการควบคุมผ่านแป้นสัมผัส, หน้าไทม์ไลน์ และวิธีการแชร์ วิดีโอตัวอย่างท้ายข่าวครับ

ที่มา : Project Glass

เหลือเวลาอีกครึ่งเดือน ก็จะถึงงานสำคัญประจำปีของกูเกิล หรือนั่นก็คือ Google I/O 2013 ซึ่งล่าสุดก็ได้ปล่อยกำหนดการทั้งหมดออกมาเรียบร้อยแล้วครับ สิ่งที่น่าสนใจก็คือปีนี้กูเกิลลดวันเปิด Keynote จากเดิม 2 วันในปีที่แล้วเป็นวันเดียวคือในช่วงเช้าของวันที่ 15 เวลา 9.00 - 12.00 น. (ตรงกับบ้านเราตอน 5 ทุ่มคืนวันที่ 15 - เวลาตี 2 วันที่ 16) โดยมีความยาวของ Keynote ถึง 3 ชั่วโมง

เบื้องต้นคาดว่าปีนี้กูเกิลรวบ Keynote เป็นวันเดียวเพื่อเพิ่มเนื้อหาในแต่ละแทรคให้มากขึ้น ส่วนตัว Keynote เองก็คงมีสิ่งที่น่าตกใจหลายๆ อย่างรวมอยู่เช่นกัน ก็คงต้องรอชมกันต่อไปครับ

ท้ายที่สุดวันเปิด Keynote จะมี Live Stream ผ่าน YouTube เช่นเคยครับ

จากฟีเจอร์สำหรับการค้นหาที่เป็นจุดเด่นบนแอนดรอยด์เวอร์ชัน Jelly Bean ในที่สุดกูเกิลได้ปล่อย Google Now ให้ดาวน์โหลดผ่าน App Store เป็นที่เรียบร้อย โดยการค้นหาตำแหน่งจะใช้ได้เพียงการระบุตำแหน่งผ่าน Wi-Fi location ไม่ได้ใช้ GPS ซึ่งยังมีการแสดงผลการ์ดได้ไม่ครบ เช่น ตารางเที่ยวบิน, ตารางคอนเสิร์ต, การซื้อตั๋วผ่าน Fandango, เหตุการณ์บริเวณใกล้เคียง เป็นต้น
และตอนนี้ไม่สามารถแจ้งเตือน (push notification) แบบเดียวกับบนแอนดรอยด์ได้

วิดีโอแนะนำท้ายข่าว

Google ประกาศว่าจะถอดบริการ Meebo Bar ออกในวันที่ 6 มิถุนายนนี้ หลังจากเปิดให้ใช้งานมาได้เพียงไม่กี่เดือน

Meebo Bar เป็นผลงานของทีม Meebo ที่ถูก Google ซื้อกิจการไปเมื่อปีก่อน โดยช่วงปลายปีได้ปล่อยซอร์สโค้ดให้นักพัฒนาเว็บนำไปใส่ในเว็บไซต์แต่ละแห่งได้เพื่อใช้งาน Meebo Bar ซึ่งเป็นเครื่องมือสำหรับเก็บข้อมูลของผู้เข้าชมเว็บไซต์และช่วยในการแชร์เนื้อหาต่างๆ บนหน้าเว็บนั้น

เว็บไซต์ Android Police ระบุว่าพบการใช้งาน Android เวอร์ชันใหม่ในล็อกของเซิร์ฟเวอร์ตัวเอง โดยเลขเวอร์ชันระบุเป็น Android 4.3 JWR23B

Android Police ค้นข้อมูลเพิ่มเติมแล้วพบว่าอุปกรณ์ที่ใช้ Android 4.3 คือ Nexus 4 และ Nexus 7 นอกจากนี้หมายเลขไอพีของผู้ใช้มาจากกูเกิลซะด้วย

ตามธรรมเนียมของ Android แล้ว เลข build จะใช้ตัวอักษรตัวแรกตรงกับรหัสโค้ดเนมนั้นๆ ซึ่งกรณีนี้ตัว J ใน JWR23B น่าจะหมายถึง Jelly Bean เหมือนกับรุ่น 4.1 และ 4.2

ถ้าข่าวนี้ถูกต้องจริงๆ ในงาน Google I/O เดือนหน้าเราคงเห็น Android 4.3 แทน Android 5.0 ตามที่คาดเดากันครับ

วันนี้กูเกิลประกาศปรับเงื่อนไขการส่งแอพพลิเคชันขึ้นไปแจกจ่ายบน Google Play ใหม่ครับ โดยเพิ่มข้อกำหนดใหม่ว่า ห้ามให้นักพัฒนาใส่คำสั่งที่จะทำให้แอพพลิเคชันทำการอัพเดตตัวเอง และทำการติดตั้งเองโดยอาศัยช่องว่างของ Unknown Sources ครับ

ทั้งนี้การปรับเงื่อนไขเร่งด่วนคาดว่ามีสาเหตุหนึ่งจากการที่ Facebook for Android มีอัพเดตในช่วงเช้าของวันนี้แบบไม่ผ่าน Google Play (ซึ่งเฟสบุ๊คปรับมาใช้วิธีนี้กับอัพเดตย่อย) และมีการรายงานว่าเกิดอาการติด Install Loop ขึ้นด้วยครับ

แน่นอนว่าการปรับเงื่อนไขครั้งนี้ คนที่โดนเต็มๆ คือ Facebook เราก็คงต้องมารอดูกันว่า Facebook จะแก้ปัญหานี้อย่างไรครับ

Google ได้รับการอนุมัติสิทธิบัตรใหม่อีกรายการเกี่ยวกับระบบนำทางที่มีเทคนิคนำเสนอแบบใหม่ และพร้อมกันนั้นก็มีการเปิดเผยว่า Google กำลังยื่นขอจดสิทธิบัตรของแว่นตา Google Glass แบบใหม่ด้วย

สิทธิบัตรการนำเสนอระบบนำทางแบบใหม่นั้น จะใช้ข้อมูลแบบเดียวกับเครื่องนำทางที่ใช้ในรถยนต์ทั่วไปซึ่งอ้างอิงตำแหน่งผู้ใช้งานจากสัญญาณ GPS โดยสิ่งที่พิเศษจากการนำเสนอข้อมูลนำทางแบบเดิม คือการเพิ่มข้อมูลภาพ street view ที่ Google ใช้กับ Google Maps เข้าไปด้วย นอกจากนี้ในการแสดงผลยังใช้เทคนิค augmented reality ซึ่งการแสดงผลดังกล่าวอาจทำผ่านแว่น Google Glass หรือแม้แต่บนกระจกหน้ารถ

วันนี้กูเกิลประกาศปล่อย Extension ตัวใหม่ที่พอร์ทฟีเจอร์ออกมาจาก Chromebook นั่นก็คือ Chrome Office Viewer โดย Extension ตัวนี้ จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถเปิดดูไฟล์เอกสารของ Microsoft Office ผ่าน Chrome บน Windows และ Mac ได้โดยตรง

และแน่นอน Chrome Office Viewer จะทำงานอยู่บน Sandbox ของ Chrome อีกชั้น จึงทำให้มั่นใจได้ว่าต่อให้เอกสารชิ้นนั้นติดไวรัสมาด้วย มันก็จะไม่ส่งผลต่อการทำงานของเครื่องของผู้ใช้แน่นอนครับ

โดยในตอนนี้ Chrome Office Viewer สามารถทำงานได้บน Chrome Beta และ Chrome Dev เท่านั้น ยังไม่มีการปล่อยตัว Extension สำหรับ Chrome Stable ออกมาครับ

การใช้รหัสผ่านเป็นวิธีการยืนยันตัวตนที่ใช้กันมานานมาก จุดอ่อนของมันคือความยุ่งยากของฝั่งผู้ใช้เองที่ต้องจำรหัสผ่านหลายๆ ชุด และถูกเจาะหรือขโมยได้ง่ายมาก

ทางออกที่ปลอดภัยกว่าคือการใช้วิธียืนยันตัวตนแบบอื่นๆ (เช่น ลายนิ้วมือ เสียง หรืออุปกรณ์ฮาร์ดแวร์) เข้าช่วยยืนยันอีกชั้นหนึ่ง แต่ปัญหาคือยังไม่มีมาตรฐานกลางสำหรับการยืนยันตัวตน 2 ชั้นลักษณะนี้ ทำให้ผู้ใช้ยุ่งยากและพลอยไม่ใช้งานไปในที่สุด

บริษัทไอทีอย่าง Lenovo, Infineon, PayPal จึงรวมกันตั้งกลุ่มมาตรฐานอุตสาหกรรมชื่อ FIDO Alliance ขึ้นมาเพื่อสร้างแพลตฟอร์มกลางสำหรับเว็บไซต์หรือเบราว์เซอร์ เพื่อให้รองรับวิธีการยืนยันตัวตนที่หลากหลายมากขึ้น

หลังจากที่ Google Glass ถูกส่งถึงมือนักพัฒนาผู้สั่งซื้อกันไปแล้วหลายราย ก็มีคนค้นพบ Easter Egg ที่ Google แอบซ่อนไว้จนได้ โดยผู้ใช้สามารถมองเห็นภาพถ่ายทีมงาน Google ผู้พัฒนา Google Glass นี้ขึ้นมา

ช่องทางในการเข้าไปดูนั้นผ่านทางเมนู Settings -> Device info -> View licenses จากนั้นแตะแป้นสัมผัสบริเวณขาแว่น 9 ครั้ง จะมีหน้าจอ Meet Team ปรากฏ หลังจากนั้นแตะแป้นสัมผัสอีกครั้งเพื่อชมภาพถ่ายที่ทีมงานพัฒนา Google Glass ถ่ายร่วมกัน นำทีมโดย Sergey Brin หนึ่งในผู้ก่อตั้ง Google นั่งเด่นอยู่กลางภาพ ทั้งนี้ภาพดังกล่าวถูกถ่ายในแบบพาโนรามา โดยเมื่อผู้ใช้หันศีรษะไปในด้านซ้ายและขวา ภาพก็จะเลื่อนตามสัมพันธ์กันไปด้วย

Google Drive ปรับปรุงการใช้งานในโหมดทำงานร่วมกันเล็กน้อย โดยแสดงรูปโปรไฟล์ของผู้ที่ทำงานร่วมกัน และเพิ่มความสามารถในการสนทนาภายในกลุ่มผู้ที่ทำงานร่วมกันนั้นได้

แต่เดิมทีเมื่อผู้ใช้เปิดเอกสารใน Google Drive ที่มีผู้ร่วมแก้ไขหลายคน จะมีการแสดงรายชื่อของผู้ร่วมงานที่เข้าถึงเอกสารดังกล่าวเป็นข้อความชื่อบุคคลเท่านั้น แต่ตอนนี้ Google ปรับให้มีการแสดงรูปโปรไฟล์ของผู้ใช้งานแต่ละคนได้ จะทำให้การตรวจสอบการทำงานของผู้ใช้แต่ละคนได้ง่ายขึ้น และหากนำเม้าส์ไปชี้ที่รูปโปรไฟล์ดังกล่าวก็จะมีกล่องข้อความเล็กปรากฏขึ้นมาซึ่งสามารถคลิกเพื่อเพิ่มผู้ร่วมงานคนดังกล่าวเข้าในรายชื่อผู้ติดต่อได้ทันที ส่วนผู้ร่วมงานนิรนามที่ไม่เปิดเผยข้อมูล ก็จะมีรูปโปรไฟล์เป็นสัตว์ต่างๆ โผล่ขึ้นมาแทน

เชื่อว่าหลายๆ คนคงได้เห็นกันบ้างแล้วนะครับกับแผนที่ปรับปรุงใหม่ของกูเกิล งานนี้จัดเต็มให้ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะไทยกับอินโดนีเซียเลยทีเดียว

โดยการปรับปรุงครั้งนี้กูเกิลได้เพิ่มความละเอียด และรายละเอียดต่างๆ ที่เคยขาดหาย และยังไม่ครบลงไปในแผนที่เป็นจำนวนมาก เช่นเส้นทางเดินเรือ ชื่อท่าเรือ รายละเอียดวิธีการเดินทางข้ามเส้นทางต่างๆ เช่นการนั่งเฟอร์รี่ข้ามฝั่งเจ้าพระยา รวมถึงรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ เช่นผังตึก รายละเอียดคลอง แหล่งน้ำต่างๆ

@comex หรือ Nicholas Allegra ผู้สร้างเว็บไซต์ JailbreakMe ที่แอปเปิลเคยจ้างไปทำงานในตำแหน่งเด็กฝึกงาน แต่ต่อมาก็ต้องออกจากแอปเปิลเพราะลืมตอบอีเมล ได้ทวีตข้อความว่าเขาจะไปทำงานในตำแหน่งเด็กฝึกงานที่กูเกิล ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า

เรื่องมันมีอยู่ว่ามีบล็อกเกอร์ชาวญี่ปุ่นนาม Rbmen ไปเหลือบเห็นผลทดสอบของ Google X (หรือ Motorola X Phone) ขึ้นแสดงอยู่ใน AnTuTu Benchmark โดยข้อมูลคร่าวๆ ก็คือใช้ซีพียูความเร็ว 1.5 GHz รัน Android 5.0.1 และทำคะแนนไปได้ 15479 คะแนน

ทั้งนี้ Android and Me คาดการณ์ว่า การที่ Google X ทำคะแนนได้แค่ 15479 คะแนน นั่นหมายความว่าประสิทธิภาพโดยรวมของตัวเครื่อง จะอยู่ในระดับเดียวกันกับเรือธงปีที่แล้ว (เช่น Galaxy S3/HTC One X) และเมื่อพิจารณาดูแล้ว ที่เป็นไปได้มากที่สุดก็คือ Google X ตัวนี้ ใช้ซีพียู Snapdragon 400 แบบเดียวกับ HTC First นั่นเองครับ

ท้ายที่สุดแล้ว X Phone จะออกมาในทิศทางไหน คงต้องรอดูกันในงาน Google I/O 2013 หรือไม่ก็ IFA 2013 กันอีกทีล่ะครับ

Google ซื้อกิจการสตาร์ทอัพ Wavii ผู้พัฒนาแอพสรุปข่าวด้วยเงินสดประมาณ 30 ล้านดอลลาร์

Wavii เป็นบริษัทใน Seattle ถูกก่อตั้งขึ้นในปี 2009 โดยการระดมเงินทุนราว 2 ล้านดอลลาร์ ปัจจุบันมีทีมงาน 25 คน ทำธุรกิจโดยการพัฒนาแอพสำหรับอ่านข่าว โดยหน้าตาของซอฟต์แวร์จะแสดงข่าวต่างโดยอาศัยการสรุปข้อมูลจากแหล่งข่าวหลายแห่งเพื่อนำเสนอข้อมูลอย่างย่อให้แก่ผู้ใช้งาน

การเข้าซื้อกิจการในครั้งนี้ Google ต้องแข่งขันกับ Apple ซึ่งให้ความสนใจใน Wavii เช่นเดียวกันเพราะต้องการได้ทีมงานไปช่วยพัฒนา Siri แต่ทว่าในท้ายที่สุดก็เป็น Google ที่ประสบความสำเร็จในการทำข้อตกลงกับ Wavii ซึ่ง Google จะให้ทีม Wavii นี้เข้าไปทำงานในแผนกของ Knowledge Graph ต่อไป