ใครที่คิดว่าหน้าตาของ Google Glass นั้นเชยเกินไป ตอนนี้กูเกิลก็ออกกรอบแว่นสำหรับใช้งานร่วมกับ Google Glass มาแล้วทั้งหมดสี่ลาย ตามที่สัญญาไว้เมื่อปลายปี

แน่นอนว่ากรอบแว่นเองก็มีค่าตัวเช่นกัน กูเกิลตั้งราคาไว้ที่ 225 เหรียญต่อชิ้น แยกกับราคาของ Google Glass ที่ 1,500 อีกด้วย

The Verge ได้ไปลองใช้งานกรอบแว่นของกูเกิลมาบอกว่ากรอบแว่นตัวนี้ถูกออกแบบโดยทีมงานของกูเกิลเอง คุณภาพดีเกินคาด แต่ก็ยังมีปัญหาเรื่องแบตเตอรี่บริเวณด้านขวาที่ทำให้ใส่ไม่ถนัดอยู่ดี

ที่มา - The Verge

จากที่มีข่าว หลุดภาพ Nexus 5 สีต่างๆจากหน้าเว็บ Google Play และ ข่าว หลุดภาพ Nexus 5 สีแดง ตอนนี้ก็มาถึงคิวของภาพกล่องแพ็กเกจของ Nexus 5 สีแดงกันบ้างครับ โดยรูปในคราวนี้มาจาก twitter ของ @artyomstar แสดงให้เห็นรูปกล่องของ Nexus 5 สีแดงพร้อมกล่องอื่นๆจำนวนมากด้านหลัง โดยที่กล่องระบุว่า เป็น Nexus 5 รุ่นสำหรับขายทั่วโลกเครื่องสีแดง พร้อม IMEI และ Serial ตามข่าวลือก่อนหน้าระบุว่า Nexus 5 สีต่างๆจะเริ่มขายในเดือนหน้านี้แล้ว และยิ่งมีภาพหลุดมาขนาดนี้ก็เพิ่มความเป็นไปได้ว่าข่าวลือจะเป็นจริงแล้วครับ

Eldar Murtazin บล็อกเกอร์รัสเซียเจ้าของผลงานข่าวหลุดข่าวลือมากมาย ทวีตข้อความบอกว่ากูเกิลจะหยุดทำมือถือตระกูล Nexus ในปี 2015 โดยจะเปลี่ยนไปทำมือถือตระกูล Google Play Edition แทน (แต่จะไม่เรียก Google Play Edition และใช้ชื่อใหม่)

ข่าวลือนี้อาจเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่ากูเกิลบรรลุภารกิจของการทำมือถือตระกูล Nexus ในฐานะเป็นแพลตฟอร์มอ้างอิง (reference platform) ให้กับผู้ผลิต Android แล้ว ทำให้กูเกิลอาจเปลี่ยนไปใช้วิธีแปลงมือถือของผู้ผลิตฮาร์ดแวร์รายอื่นๆ มาดัดแปลงเป็น Google Play Edition ที่ให้ "ประสบการณ์กูเกิล" แบบเดียวแทน นอกจากนี้การที่กูเกิลมีโมโตโรลาเป็นหน่วยผลิตฮาร์ดแวร์โทรศัพท์ของตัวเอง ก็อาจเป็นอีกเหตุผลที่ทำให้กูเกิลเลิกทำมือถือ Nexus ด้วย

ช่วงหลังมานี้กูเกิลได้ปรับให้ระบบค้นหาของตัวเอง สามารถค้นหาในรูปแบบภาษามนุษย์ได้มากขึ้น วิธีการค้นหาจึงไม่ได้จำกัดอยู่ที่คีย์เวิร์ดอีกต่อไป สามารถถามเป็นประโยคคำถามที่ใช้ในชีวิตประจำวันได้เลย ยกตัวอย่างเช่น "what's the population of China?" แทนที่ระบบจะตอบเป็นลิงก์เข้าเว็บก็จะแสดงผลคำตอบให้ทันที (ในกรณีนี้โชว์กราฟให้ดูด้วย)

มีรายงานว่า Search Engine ของจีนอย่าง Baidu ได้เริ่มทำระบบค้นหาของประเทศบราซิล อียิปต์ และไทย โดยระบบค้นหาก็เหมือนระบบของ Baidu เดิม แต่เปลี่ยนเป็นภาษาของประเทศนั้นๆ นั่นเอง

น่าเสียดายที่ URL ต่างๆ ถูกระงับการเข้าถึงชั่วคราว เพราะ Baidu บอกว่าระบบยังอยู่ในช่วงทดสอบ แต่ถ้าอยากเห็นว่าระบบการค้นหาหน้าตาเป็นอย่างไรก็ดูได้ที่ท้ายข่าว

ที่มา - Tech in Asia

ซัมซุงประกาศสัญญาแลกสิทธิการใช้สิทธิบัตรกับกูเกิลเป็นระยะเวลาสิบปีทั่วโลก โดยไม่เปิดเผยมูลค่าว่ามีการจ่ายเงินกันหรือไม่อย่างไร

แนวทางการแลกสิทธิบัตรเป็นแนวทางที่ใช้กันทั่วไปเมื่อมีธุรกิจทับซ้อนกัน ซัมซุงเองก็มีสัญญาใช้สิทธิบัตรกับไมโครซอฟท์, โนเกีย, และ Intellectual Ventures บริษัทสุดท้ายนั้นมีธุรกิจหลักคือการซื้อสิทธิบัตรเข้ามารวมกันไว้และขายสิทธิการใช้สิทธิบัตรเป็นหลัก

ซัมซุงระบุว่าแนวทางการทำข้อตกลงกันนี้จะแสดงให้อุตสาหกรรมโดยรวมเห็นว่าความร่วมมือกันมีประโยชน์กว่าการสร้างความขัดแย้งจากสิทธิบัตร

กูเกิลยังคงต่อจิ๊กซอว์สำหรับการสร้างหุ่นยนต์อย่างต่อเนื่อง ล่าสุดมีรายงานว่ากำลังอยู่ในระหว่างเข้าซื้อ DeepMind Technologies บริษัทพัฒนาปัญญาประดิษฐ์สัญชาติอังกฤษเป็นมูลค่ากว่า 400 ล้านเหรียญ

DeepMind เป็นผู้พัฒนาระบบปัญญาประดิษฐ์ที่ควบรวมระหว่างการเรียนรู้ของเครื่องจักรกลเข้ากับประสาทวิทยาศาสตร์ ออกมาเป็นอัลกอริธึมที่สามารถเรียนรู้ด้วยตัวเองได้ DeepMind ไม่ได้ระบุว่ามีการใช้ระบบนี้ที่ใดบ้างแล้ว บอกคร่าวๆ เพียงใช้ในแอพพลิเคชันเกี่ยวกับการจำลองสถานการณ์ อีคอมเมิร์ซ และเกมเท่านั้น

Google ได้สิทธิบัตรใหม่เกี่ยวกับอัลกอริทึมเพื่อให้บริการเดินทางแก่ลูกค้าของร้านค้าที่ซื้อโฆษณาของ Google โดยสิทธิบัตรดังกล่าวถูกเสนอเพื่อขอจดไปตั้งแต่ปี 2011 โดยผู้คิดค้นสิทธิบัตรนี้ล้วนแล้วแต่เป็นผู้ร่วมพัฒนาเทคโนโลยีที่ได้รับสิทธิบัตรหลายรายการสำหรับรถยนต์ไร้คนขับของ Google ด้วย

มีคนพบบั๊กใน Google Calendar เวอร์ชันเว็บ บั๊กนี้จะเกิดขึ้นเมื่อเราใส่ที่อยู่อีเมลลงไปในชื่อ (title) ของนัดหมายนั้นๆ เช่น เขียนนัดหมายว่า "email alice@gmail.com to discuss pay rise"

สิ่งที่เกิดขึ้นคือ กรณีที่อีเมลเป็น Gmail เจ้าของอีเมลนั้นจะเห็นนัดหมายโผล่ขึ้นมาในปฏิทินของตัวเองด้วย (โดยไม่มีอีเมลใดๆ แจ้งเตือน ต้องเข้าไปดูใน Google Calendar ด้วยตัวเอง) แต่ถ้าภายหลังผู้สร้างนัดหมายลบนัดหมายนั้น เจ้าของอีเมลกลับได้รับอีเมลแจ้งเตือนเพื่อยกเลิกนัดหมายอยู่ดี (บั๊กนี้ไม่เกิดบน Google Calendar Android)

Tal Ater นักวิจัยด้านความปลอดภัยจากอิสราเอล เปิดเผยบั๊กของ Chrome ที่เปิดช่องให้เว็บไซต์มาสามารถรับคำสั่งเสียงจากผู้ใช้งานได้ โดยที่ผู้ใช้ไม่รู้ตัวว่าถูกอัดเสียงอยู่

Chrome รุ่นใหม่ๆ มีฟีเจอร์ที่ผู้ใช้สามารถสั่งงานด้วยเสียงไปยังเว็บไซต์ได้ (เสียงจะถูกส่งไปยังกูเกิลเพื่อแปลงเป็นข้อความ) โดยผู้ใช้ต้องกดอนุญาตให้สิทธิกับเว็บไซต์นั้นๆ เข้าถึงไมโครโฟนก่อน และทุกครั้งที่เว็บไซต์ฟังเสียงของเรา Chrome จะแสดงไอคอนปุ่มสีแดงบนแท็บของเว็บไซต์นั้นๆ

จากกรณี บริการกูเกิลล่มนาน 25 นาที เมื่อคืนนี้ Gmail, Google+, Calendar ได้รับผลกระทบ คู่แข่งร่วมธุรกิจอย่าง Yahoo! ก็ใช้จังหวะนี้ทวีตแซวกูเกิลโดยมีข้อความว่า Gmail is temporarily unavailable พร้อมภาพหน้าจอ Gmail Error 500

ทวีตนี้ถูก RT มากกว่า 1,500 ครั้ง และถูกนำไปล้อเลียนมากมาย (ยาฮูโดนล้อกลับเองก็เยอะ - ข่าว Yahoo! Mail ล่มเมื่อเร็วๆ นี้) ภายหลัง @Yahoo ลบข้อความนี้ทิ้งไป และโพสต์ข้อความขอโทษทั้งกูเกิลและทีม Gmail

กูเกิลไม่มีการตอบโต้ใดๆ ผ่าน social network ทุกแขนง ส่วน Marissa Mayer ในฐานะอดีตพนักงานกูเกิลและซีอีโอของยาฮู ไม่มีท่าทีใดๆ ต่อเหตุการณ์นี้ครับ

David Peck ซึ่งเป็นผู้ใช้ Hotmail รายหนึ่งเจอว่ามีอีเมลถูกส่งถึงตนเองอย่างมากมายผิดปกตินับหมื่นฉบับ ซึ่งสาเหตุเป็นเพราะบั๊กของระบบค้นหาของ Google

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อมีผู้ใช้ค้นหาข้อมูลจาก Google โดยใช้คำค้นหาว่า "gmail" ซึ่งลิงก์ผลการค้นหาแรกที่ปรากฏก็คือลิงก์ของ Google เองที่กล่าวถึงบริการอีเมลฟรีพร้อมพื้นที่ขนาด 10GB พร้อมสรรพคุณโฆษณาว่าเป็นบริการอีเมลที่ปลอดแสปม ซึ่งเมื่อผู้ใช้คลิกลิงก์ดังกล่าวก็จะมีหน้าต่างสำหรับพิมพ์อีเมลใหม่เด้งขึ้นมา โดยในช่องผู้รับอีเมลนั้นมีที่อยู่อีเมลของ Peck ปรากฏขึ้นมาเป็นค่าปริยาย

เมื่อคืนนี้ประมาณ 2.00 น. ตามเวลาประเทศไทย (ตรงกับเวลาสหรัฐฝั่งแปซิฟิกราว 11 โมงเช้า) บริการหลายตัวของกูเกิลได้แก่ Gmail, Google+, Google Calendar, Google Docs ไม่สามารถใช้งานได้เป็นเวลาประมาณ 25 นาที และผู้ใช้บางกลุ่มก็พบปัญหาว่าใช้งานไม่ได้รวมเกือบ 1 ชั่วโมง

กูเกิลออกมาขอโทษและอธิบายเหตุผล โดยบอกว่าเกิดจากบั๊กระบบซอฟต์แวร์ภายในบริษัทที่เอาไว้สร้างไฟล์ config นั้นสร้างไฟล์ผิดพลาด ทำให้ระบบทำงานผิดพลาด ทีมงานของกูเกิลรับทราบปัญหานี้และแก้ไขอย่างรวดเร็ว แต่ก็ยังมีผู้ได้รับผลกระทบเป็นวงกว้างอยู่ดี

กูเกิลบอกว่าแก้ปัญหาทั้งหมดเรียบร้อยแล้ว และจะพยายามปรับปรุงระบบกู้คืนเมื่อเกิดปัญหาให้สามารถซ่อมแซมได้รวดเร็วกว่าเดิมต่อไป

อีเมลที่ถูกเปิดเผยเนื่องจากการต่อสู้ในชั้นศาลในแคลิฟอร์เนียระบุว่า ผู้ก่อตั้งแอปเปิลอย่าง Steve Jobs และซีอีโอของกูเกิลอย่าง Eric Schmidt สมคบกันในการกดเงินเดือนของพนักงานโดยตกลงกันว่าจะไม่พยายามจ้างพนักงานของอีกฝ่าย รวมไปถึงจะแบ่งปันข้อมูลอัตราค่าแรงและลงโทษผู้ที่ละเมิดข้อตกลง

ข้อตกลงระหว่างยักษ์ใหญ่ในซิลิคอนแวลลีย์ถูกค้นพบครั้งแรกโดยกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ซึ่งสืบสวนคดีต่อต้านการผูกขาดและต่อมาได้เป็นฐานให้เกิดการฟ้องคดีแบบกลุ่มในนามของพนักงานที่ค่าจ้างต่ำกว่าที่ควรจะเป็นกว่า 100,000 คน ส่งผลให้ความเสียหายของพนักงานที่กลายเป็นรายได้ขององค์กรสูงถึง 9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณสามแสนล้านบาทไทย)

เมื่อเร็วๆ นี้เพิ่งมีข้อมูลเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายสำหรับผู้ผลิตที่ต้องการพรีโหลดแอพพลิเคชันของกูเกิล และ Play Store
(เรียกรวมกันว่า Google Mobile Services "GMS") ซึ่งแยกกันกับตัวโครงการแอนดรอยด์ (AOSP) ซึ่งเป็นโอเพนซอร์ส และเป็นที่รู้กันว่าต้องจ่ายเงินเพื่อขอสิทธิ์ใช้บริการดังกล่าว เรื่องนี้รู้กันมานาน แต่ไม่มีใครทราบตัวเลขค่าใช้จ่ายที่แท้จริง จนกระทั่งหนังสือพิมพ์ The Guardian ไปได้ข้อมูลมาจากผู้ผลิตรายหนึ่ง บอกว่าต้องจ่ายค่า GMS เป็นเงิน 75,000 เหรียญต่อหนึ่งแสนเครื่อง คำนวณแล้วตกเป็นเงิน 75 เซนต์ต่อเครื่อง

Nexus 5 วางขายมาก็นานพอสมควร แต่กลับกัน Phone Arena ก็รายงานว่า ผู้อ่านเว็บได้แจ้งเบาะแสเข้ามาใหม่ว่า กูเกิลได้แอบอัพเดตหน้าเว็บ Google Play ใหม่อีกครั้ง และทำให้ภาพสีใหม่ของ Nexus 5 หลุดออกมาโดยไม่ได้ตั้งใจ ซึ่งสีที่เพิ่มเข้ามามีทั้งหมด 6 สีอันได้แก่ สีแดง/ส้ม/เหลือง/เขียว/น้ำเงิน และสีม่วงครับ (ภาพสีใหม่ดูได้ท้ายเบรค)

อย่างไรก็ดียังไม่มีการยืนยันจากกูเกิลว่าจะมีการเปิดตัวสีใหม่จริงหรือไม่ เพราะหน้าเว็บ Google Play ข้อมูลตรงนี้หายไปแล้ว ก็คงต้องรอดูกันต่อไปเร็วๆ นี้ครับ แต่ถ้ามันเปิดตัวจริงก็เท่ากับว่า งานนี้ผู้ใช้ได้เฮตรงที่มีตัวเลือกให้เลือกเพิ่มมากขึ้นนั่นแหละครับ

ถึงแม้ Android เวอร์ชันโอเพนซอร์ส (AOSP) จะเสรีและฟรี แต่ในวงการก็ทราบดีว่าถ้าอยากขายอุปกรณ์ Android โดยที่มีแอพของกูเกิลและ Google Play ติดไปด้วย (คนทำรอมเรียก gapps แต่ชื่อจริงๆ คือ Google Mobile Services) ผู้ขายจะต้องจ่ายเงินให้กูเกิลจำนวนหนึ่งเพื่อขอสิทธิใช้งานแอพเหล่านี้

หนังสือพิมพ์ The Guardian ของอังกฤษไปสืบราคา Google Mobile Services มาจากผู้ผลิตฮาร์ดแวร์ที่ไม่เปิดเผยชื่อ และได้ข้อมูลคร่าวๆ ว่ากูเกิลคิดเงินเป็นรายเครื่อง โดยราคาที่เปิดเผยคือเครื่องละ 0.75 ดอลลาร์

บริการ AdSense ของกูเกิลนั้นปกติแล้วกูเกิลจะตัดสินใจให้เเจ้าของเว็บว่าจะนำโฆษณาใดมาแสดง และโฆษณาที่นำมาจะมีมูลค่าเท่าใด ตอนนี้กูเกิลก็เปิดบริการใหม่ AdSense Direct ที่เปิดให้เจ้าของเว็บสามารถรับโฆษณามาแสดงได้โดยตรง

เจ้าของเว็บสามารถเจรจาพื้นที่โฆษณา, ระยะเวลา, และราคาโฆษณาได้เอง เมื่อเจรจาสำเร็จแล้วจึงนำมากรอกใน AdSense Direct จากนั้น AdSense จะสร้างลิงก์ให้ส่งไปยังลูกค้า ลูกค้าจะสามารถอัพโหลดโฆษณาได้เองและจ่ายเงินผ่าน Google Wallet

กูเกิลคิดค่าบริการ 15% จากราคาขาย และยังใช้งานได้เฉพาะในสหรัฐฯ

ที่มา - AdSense

Google ปล่อยชุดเครื่องมือ Video Quality Report เพื่อไว้ประเมินดูว่าการสตรีมสัญญาณจาก YouTube โดยผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตในท้องถิ่นของผู้ใช้นั้นมีคุณภาพดีร้ายอย่างไร

เครื่องมือดังกล่าวจะแสดงข้อมูลการสตรีมวิดีโอจาก YouTube โดยจำแนกออกเป็นการรับชมในระดับความละเอียดต่างๆ และจัดแบ่งออกตามช่วงเวลาในแต่ละวัน ทั้งนี้ผู้ให้บริการรายใดที่สามารถส่งต่อสัญญาณภาพวิดีโอระดับ 720p ได้อย่างน้อย 90% ของการชมวิดีโอทั้งหมด จะได้รับเครื่องหมาย "YouTube HD Verified" จาก Google เพื่อรับรองคุณภาพในการสตรีมวิดีโอ

DigiTimes รายงานอ้างแหล่งข่าวผู้ผลิตที่อยู่ในห่วงโซ่อุปทานต้นน้ำที่ไม่เปิดเผยตัวตน ระบุว่าแท็บเล็ต Nexus รุ่นต่อไปน่าจะเป็น Nexus 8 โดยใช้แพลตฟอร์ม BayTrail-T จากอินเทล ในส่วนของผู้ผลิตนั้น ASUS น่าจะมีโอกาสดีที่สุดที่จะได้เป็นผู้ผลิตต่อไป

แหล่งข่าวระบุว่ายอดขายของ Nexus 7 2013 มียอดขายที่ไม่ดีเท่ารุ่นแรก ที่มียอดขายถึงหกล้านชุด เพราะแท็บเล็ตแบรนด์อื่นๆ ก็เริ่มลดราคาลงมาไม่ต่างกันมากนัก

หากข่าวนี้ถูกต้อง Nexus 8 น่าจะเปิดตัวหลังเดือนกุมภาพันธ์

ที่มา - DigiTimes

ผู้สร้างมัลแวร์ใช้เทคนิคใหม่ในการกระจายมัลแวร์ โดยใช้วิธี "ซื้อ" ความเป็นเจ้าของส่วนเสริมหรือ extension บางตัวของ Chrome (ที่มีช่องโหว่เพราะถูกอัพเดตไฟล์อัตโนมัติผ่าน Chrome) เมื่อความเป็นเจ้าของเปลี่ยนมือแล้ว เจ้าของใหม่ก็จะเริ่มฝังโค้ดโฆษณาและมัลแวร์ลงไปใน extension ตัวนั้นๆ

เว็บไซต์ Ars Technica พบว่า extension ที่เจอปัญหานี้มี 2 ตัวคือ Add to Feedly กับ Tweet This Page ซึ่งเดิมทีเป็น extension ปกติ แต่เมื่อเจ้าของเปลี่ยนมือ (โดยไม่มีใครทราบ เพราะชื่อบัญชีในระบบของ Chrome Web Store ยังเป็นชื่อเดิม) พฤติกรรมของ extension พวกนี้ก็เริ่มเปลี่ยนไป

Google เพิ่งประกาศข่าวการลงทุนในฟาร์มผลิตไฟฟ้าจากพลังงานลมชื่อ Panhandle 2 ซึ่งตั้งอยู่นอกเมือง Amarillo ในรัฐ Texas ด้วยเงินมูลค่า 75 ล้านดอลลาร์ ถือเป็นการลงทุนในธุรกิจพลังงานทางเลือกแห่งที่ 15 ของ Google

เมื่อ Panhandle 2 เริ่มดำเนินการ มันจะสามารถผลิตจ่ายไฟฟ้าด้วยกำลังงาน 182 เมกะวัตต์ โดยอาศัยกังหันผลิตไฟฟ้าของ Siemens ขนาด 2.3 เมกะวัตต์ จำนวน 79 ตัว ซึ่งเพียงพอสำหรับการใช้งานของบ้านพักอาศัยราว 56,000 หลังคาเรือน ทั้งนี้กำหนดการแล้วเสร็จของงานก่อสร้างของโครงการนี้คือช่วงปลายปี 2014

Schemer เว็บแอพสำหรับช่วย "หาอะไรทำ" จากกูเกิลที่เปิดตัวตั้งแต่ปี 2011 (และแทบไม่มีใครพูดถึงอีกเลย) มีอันต้องลาจากแล้ว โดยกูเกิลประกาศว่าจะปิดบริการในวันที่ 7 กุมภาพันธ์นี้

กูเกิลยังเปิดให้ผู้ใช้ดาวน์โหลดข้อมูลของตัวเองกลับไปได้ และแนะนำให้ผู้ใช้ค้นหาสถานที่ใหม่ๆ ด้วย Google Field Trip หรือแถบ Explore ของ Google Maps แทน

ที่มา - Google, Engadget

กูเกิลออกมาเผยสถิติด้านโฆษณา-เนื้อหาที่ผิดกฎ (bad ads/content) ตลอดทั้งปี 2013

จากกรณี รถบัสรับส่งพนักงานกูเกิลถูกประท้วง จนกูเกิลต้องปรับมาตรการโดยใช้เรือมาขนส่งพนักงาน และจ่ายเงินค่าจอดรถบัสที่ป้ายกับเมืองซานฟรานซิสโก

ล่าสุดมีรายงานว่ารถบัสรับส่งพนักงานของกูเกิลมี "ชายใส่หูฟัง" พร้อมสมุดโน้ตประจำกาย 2 คน ขึ้นมาบนรถและจับตาดูผู้โดยสารเผื่อมีเหตุการณ์ผิดปกติเกิดขึ้น ผู้ชายพวกนี้ไม่ได้แต่งเครื่องแบบพิเศษแต่ใส่กางเกงยีนส์ สวมหมวกหรือฮู้ดสีดำ เรียกได้ว่าแต่งกายไม่ผิดแปลกไปจากพนักงานกูเกิลคนอื่นๆ บนรถมากนัก