Alphabet บริษัทแม่ของกูเกิล รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 4 ปี 2018 มีรายได้รวม 39,276 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 22% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 8,948 ล้านดอลลาร์
ธุรกิจโฆษณาของกูเกิลทำรายได้ไป 32,635 ล้านดอลลาร์ ขณะที่กลุ่มธุรกิจใหม่ Other Bets มีรายได้เพิ่มขึ้นเป็น 6,487 ล้านดอลลาร์ และกลุ่มนี้ยังขาดทุนเพิ่มมากขึ้นเป็น 1,328 ล้านดอลลาร์
ซีอีโอกูเกิล Sundar Pichai กล่าวในช่วงแถลงผลประกอบการว่าทุกอย่างที่กูเกิลทำ มีเป้าหมายคือทำให้การเข้าถึงข้อมูลเป็นไปได้ง่าย และมีประโยชน์สำหรับทุกคน รวมทั้งให้ข้อมูลที่ถูกต้อง เชื่อถือได้ ในสเกลที่วันนี้โลกอินเทอร์เน็ตมีความซับซ้อนและยากขึ้นเรื่อย ๆ
โซนี่รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสเดือนตุลาคม-ธันวาคม 2018 รายได้รวม 2.4 ล้านล้านเยน ลดลง 10% จากช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อน ส่วนกำไรสุทธิอยู่ที่ 4.41 แสนล้านเยน
โซนี่ระบุว่าภาพรวมรายได้ที่ลดลงนั้นมาจากสองกลุ่มธุรกิจ คือกลุ่มการเงิน และกลุ่มโทรศัพท์มือถือ ขณะที่ผลกำไรสุทธิเพิ่มสูงขึ้น มาจากกลุ่มธุรกิจดนตรี ที่ได้ประโยชน์จากการควบรวมกับ EMI
เกมที่ถือเป็นธุรกิจรายได้สำคัญของโซนี่ รายได้โต 10% เป็น 7.9 แสนล้านเยน โดยมาจากยอดขายซอฟต์แวร์เกมที่เพิ่มขึ้น แม้จำนวนเครื่อง PS4 ที่ขายได้จะลดลงเหลือ 8.1 ล้านเครื่อง ซึ่งส่งผลให้กำไรจากการดำเนินงานกลุ่มนี้ลดลง
Amazon รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 4 ของปี 2018 รายได้รวม 72,383 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 20% จากช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อน และมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นเป็น 3,027 ล้านดอลลาร์
ซีอีโอ Jeff Bezos กล่าวในรายงานผลประกอบการโดยพูดถึงภาพรวมของ Alexa ว่า Echo Dot เป็นสินค้าที่ขายดีที่สุดของ Amazon กลุ่มสินค้า Echo มียอดขายเพิ่มขึ้นกว่าล้านชิ้นในปีที่ผ่านมา ทีมนักวิจัยที่ทำงานเกี่ยวข้องกับ Alexa ก็มีจำนวนเพิ่มมากกว่าเท่าตัว ความสามารถในการตอบคำถามก็ดีขึ้นมากกว่า 20% ทักษะที่ทำได้มีมากกว่า 80,000 อย่าง ขณะเดียวกันผู้ใช้งานก็ส่งคำถามหา Alexa เพิ่มมากขึ้นกว่าหลายหมื่นล้านคำถาม
PayPal ได้ออกรายงานไตรมาส 4 ประจำปี 2018 และรายงานการเงินประจำปี 2018 แล้ว โดย PayPal รายงานว่าไตรมาสที่ผ่านมามีรายได้ 4,226 ล้านดอลลาร์ เติบโตจากปีที่แล้ว 14% โดยคิดเป็นกำไรแบบ non-GAAP ประจำไตรมาสอยู่ที่ 824 ล้านดอลลาร์ เติบโตขึ้น 23% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว
ส่วนสถิติของผู้ใช้นั้น ไตรมาส 4 นี้ PayPal มีบัญชีแอคทีฟใหม่ 13.8 ล้านบัญชี โดย 2.9 ล้านบัญชีเพิ่มเข้ามาจากการซื้อ Hyperwallet และ iZettle ส่วนจำนวนครั้งในการทำธุรกรรมอยู่ที่ 2,900 ล้านครั้ง เพิ่มขึ้น 28% และปริมาณการจ่ายเงิน (TPV) ทั้งหมดอยู่ที่ 163,648 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 23%
นินเทนโดรายงานผลการดำเนินงานประจำไตรมาสเดือนตุลาคม-ธันวาคม 2018 ยอดขายรวม 6.1 แสนล้านเยน และมีกำไรสุทธิ 1.04 แสนล้านเยน
Nintendo Switch ขายไปได้อีกในไตรมาสนี้ 9.41 ล้านเครื่อง ทำให้มียอดขายรวมแล้ว 32.27 ล้านเครื่อง ขาดอีกเพียง 6 แสนกว่าเครื่อง ก็จะทำตัวเลขแซงสถิติยอดขายรวม Nintendo 64 ได้สำเร็จ อย่างไรก็ตาม Nintendo เคยประเมินยอดขาย Switch ตลอดปีการเงิน 2019 ไว้ที่ 20 ล้านเครื่อง ซึ่งตอนนี้ผ่านไปแล้ว 3 ไตรมาส ทำได้ 14.48 ล้านเครื่อง จึงไม่น่าจะไปถึงเป้าหมายที่วางไว้
เกมยอดนิยมที่ออกมาในช่วงไตรมาสซึ่งทำได้ยอดขายได้สูง ได้แก่ Super Smash Bros. Ultimate (12.08 ล้านชุด) และ Pokemon: Let's Go (10 ล้านชุด) ส่วน Super Mario Party ขายได้ 5.3 ล้านชุด
LINE รายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 4 ปี 2018 รายได้รวม 72,849 ล้านเยน เพิ่มขึ้น 50% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน แต่หากตัดกำไรจากธุรกิจอื่นที่ไม่ใช่ธุรกิจหลัก (Livedoor, Matome, LINE Part Time Jobs) รายได้รวมอยู่ที่ 55,971 ล้านเยน เพิ่มขึ้น 17% ส่วนกำไรสุทธิอยู่ที่ 1,898 ล้านเยน
จำนวนผู้ใช้งานเป็นประจำทุกเดือน (MAU) ใน 4 ประเทศหลักที่ทำตลาด (ญี่ปุ่น, ไต้หวัน, ไทย และอินโดนีเซีย) มี 164 ล้านบัญชี ลดลง 1 ล้านบัญชีจากไตรมาส 3/2018 อย่างไรก็ตาม LINE บอกว่าอัตราส่วน DAU/MAU ยังสูงและเพิ่มขึ้นเป็น 77%
Tesla รายงานผลการดำเนินงานไตรมาสที่ 4 ปี 2018 รายได้รวม 7,226 ล้านดอลลาร์ และยังคงมีกำไรสุทธิ 139.5 ล้านดอลลาร์ ซึ่ง Tesla บอกว่าปัจจัยสำคัญคือ Model 3 ที่สามารถเริ่มผลิตได้ในจำนวนที่สูงตั้งแต่ช่วงกลางปีที่แล้ว จำนวนรถยนต์ที่ส่งมอบมากกว่า 140,000 คัน ยังทำให้ Model 3 กลายเป็นรถยนต์กลุ่มพรีเมี่ยม ที่มียอดขายสูงสุดในอเมริกาของปี 2018 ด้วย
รายได้ที่เพิ่มขึ้นยังทำให้สถานะทางการเงิน Tesla ดีขึ้นด้วย โดยมีเงินสดเพิ่มขึ้นสุทธิอีก 718 ล้านดอลลาร์ แม้ในไตรมาสที่ผ่านมาต้องจ่ายคืนหุ้นกู้ไปถึง 230 ล้านดอลลาร์
ซัมซุงอิเล็กทรอนิกส์รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 4 ปี 2018 รายได้รวม 59.27 ล้านล้านวอน ลดลง 10% จากช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อน และมีกำไรจากการดำเนินงาน 10.8 ล้านล้านวอน
ซัมซุงให้สาเหตุสำคัญที่รายได้ลดลงในไตรมาสที่ผ่านมา เกิดจากความต้องการชิปหน่วยความจำที่ลดลง ทั้งในกลุ่มลูกค้าศูนย์ข้อมูลและสมาร์ทโฟน ขณะที่กลุ่มชิ้นส่วนหน้าจอรายได้ลดลงเล็กน้อยจากการแข่งขันในอุตสาหกรรม
รายได้ในกลุ่มธุรกิจโทรศัพท์มือถือก็ลดลงเช่นเดียวกัน จากการแข่งขันสูงในตลาด แม้เป็นไตรมาสที่มียอดขายสูง อย่างไรก็ตามสินค้ากลุ่มระบบเครือข่ายมีรายได้สูงขึ้นจากความต้องการอุปกรณ์ 5G และ LTE
Facebook รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 4 ปี 2018 รายได้รวมเพิ่มขึ้น 30% จากช่วงเดียวกันในปีก่อนเป็น 16,914 ล้านดอลลาร์ และมีกำไรสุทธิ 6,882 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นถึง 61% ส่วนเงินสดหรือรายการเทียบเท่ามีอยู่ 4.11 ล้านดอลลาร์
ไมโครซอฟท์รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 2 ตามปีการเงินบริษัท 2019 (เดือนตุลาคม-ธันวาคม) รายได้รวม 32,471 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 12% จากช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 8,577 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 14%
ซีอีโอ Satya Nadella กล่าวว่ารายได้จากสินค้ากลุ่มคลาวด์องค์กรที่แข็งแกร่งสะท้อนการเติบโต และความสัมพันธ์ที่ดีกับองค์กรชั้นแนวหน้าในทุกอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็น ค้าปลีก, การเงิน และสุขภาพ โดยไมโครซอฟท์ยังคงส่งมอบคุณค่าที่แตกต่างกันไปสำหรับลูกค้าแต่ละราย ไม่ว่าจะเป็นคลาวด์หรือ edge ในทุกวัน
รายได้ของไมโครซอฟท์ แยกตาม 3 กลุ่มธุรกิจหลัก เป็นดังนี้
eBay ประกาศงบประจำไตรมาส 4 ของปีที่แล้ว โดยทางบริษัทมีรายได้รวม 2,900 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 6% แต่สิ่งที่น่าสนใจของ eBay ในรอบนี้คือ GMV หรือยอดขายรวมสุทธิอยู่ที่ 24,600 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นเพียง 1% ของปีที่แล้วเท่านั้น และมีกำไรสุทธิแบบ non-GAAP อยู่ที่ 670 ล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็น 0.71 ดอลลาร์ต่อหุ้น
ในรายงานของ eBay ระบุว่า ผู้ซื้อสินค้าแบบแอคทีฟมีจำนวนที่ 179 ล้านคน เพิ่มขึ้น 4% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว โดยแพลตฟอร์มหลักคือ Marketplace นั้นมีรายได้ 2,300 ล้านดอลลาร์ และมี GMV หรือยอดขายรวมสุทธิ 23,200 ล้านดอลลาร์ และในส่วนของ StubHub ธุรกิจขายตั๋วมียอดขาย 314 ล้านดอลลาร์ และมีรายได้ 263 ล้านดอลลาร์
Alibaba รายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 4 ปี 2018 รายได้รวม 17,057 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 41% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 4,807 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 37% โดยมีจำนวนลูกค้าประจำเพิ่มขึ้นอีก 35 ล้านคนเป็น 636 ล้านคน ส่วนจำนวนผู้ใช้งานผ่านมือถือมี 699 ล้านคน
ปัจจัยสำคัญที่กระตุ้นยอดขายของ Alibaba ไตรมาสนี้ก็คือเทศกาลลดราคาวันคนโสด 11.11 ซึ่งทำสถิติยอดขายสุทธิ (GMV) สูงกว่า 2.13 แสนล้านหยวน ที่น่าสนใจคือสินค้าที่ขายได้มากกว่า 40% เป็นสินค้าจากต่างประเทศ นอกจากนี้ Alibaba ยังมองว่าเทศกาลลดราคานี้ประสบความสำเร็จในการแสดงให้เห็นการเชื่อมโยงเทคโนโลยี ลอจิสติกส์ ตลอดจนร้านค้าออฟไลน์ เข้ามาเป็นระบบนิเวศเดียวกันในขนาดที่ใหญ่มากได้
AMD รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 4 ประจำปี 2018 รายได้รวม 1,419 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 6% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 38 ล้านดอลลาร์
สำหรับรายได้แยกตามส่วนธุรกิจ กลุ่ม Computing and Graphics รายได้เพิ่มขึ้น 9% เป็น 986 ล้านดอลลาร์ ขณะที่กลุ่ม Enterprise รายได้ 433 ล้านดอลลาร์ ใกล้เคียงกับปีก่อน นอกจากนี้ AMD บอกว่า EPYC มีจำนวนที่ส่งมอบเพิ่มขึ้นมากกว่าสองเท่าจากไตรมาสที่ 3/2018 ทำให้รายได้ GPU สำหรับศูนย์ข้อมูลทำสถิติสูงสุดใหม่
แอปเปิลรายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 1 ตามปีการเงินบริษัท 2019 (ตุลาคม-ธันวาคม 2018) มีรายได้รวม 84,310 ล้านดอลลาร์ ลดลง 5% จากช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อน และบริษัทมีกำไรสุทธิ 19,965 ล้านดอลลาร์
ไตรมาสนี้เป็นไตรมาสแรกที่แอปเปิลเลือกไม่รายงานจำนวนเครื่อง iPhone, iPad และ Mac ที่ขายได้ โดยบอกเพียงยอดขายรวม ซึ่ง iPhone ก็มียอดขายลดลงมากจนส่งผลต่อรายได้รวมดังที่แอปเปิลออกมาให้ข้อมูลก่อนหน้านี้ ซึ่ง iPhone มียอดขาย 51,982 ล้านดอลลาร์ ลดลงถึง 15% ส่วน iPad, Mac, อุปกรณ์สวมใส่ และรายได้จากบริการ ต่างเพิ่มสูงขึ้น นอกจากนี้รายได้จากตลาดจีนก็ลดลงถึง 27%
ดีแทครายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 4 ประจำปี 2561 มีรายได้รวม 19,196 ล้านบาท ลดลง 5.3% จากช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อน และขาดทุนถึง 4,941 ล้านบาท ซึ่งเป็นการขาดทุนที่สูงมากขึ้นจากไตรมาส 3/2561 เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายในการระงับข้อพิพาทที่เกี่ยวข้องกับกรรมสิทธิ์ในเสาโทรคมนาคมกับ กสท. เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 9,510 ล้านบาท
จำนวนลูกค้าดีแทค ณ ไตรมาส 4/2561 มีจำนวน 21.2 ล้านเลขหมาย ลดลง 97,000 เลขหมาย แบ่งเป็นลูกค้าระบบเติมเงินลดลง 191,000 เลขหมาย ขณะที่ลูกค้ารายเดือนเพิ่มขึ้น 94,000 เลขหมาย ส่วนรายได้เฉลี่ยต่อเลขหมาย (ARPU) เพิ่มขึ้น 2.5% เป็น 243 บาทต่อเลขหมายต่อเดือน
อินเทลรายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 4 ปี 2018 รายได้รวม 18,657 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 9% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 5,195 ล้านดอลลาร์
รายงานในไตรมาสนี้ของอินเทล ก็ยังไม่มีอัพเดตใด ๆ เกี่ยวกับซีอีโอคนใหม่ที่จะมาทำหน้าที่แทน Brian Krzanich โดยยังคงเป็นซีเอฟโอ Bob Swan ที่รับบทบาทเป็นซีอีโอรักษาการต่อไป
รายได้แยกตามหมวดธุรกิจ กลุ่ม Client Computing มีรายได้ 9,800 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 10%, กลุ่ม Data Center รายได้ 6,100 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 9% ส่วนกลุ่มหน่วยความจำรายได้ 1,100 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 25%
Logitech รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 3 ตามปีการเงินบริษัท 2019 (ตุลาคม-ธันวาคม) มียอดขาย 864 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 6% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 113 ล้านดอลลาร์
ที่น่าสนใจคือ Logitech บอกว่ากลุ่มสินค้าเกมมิ่ง ซึ่งเป็นรายได้สำคัญของบริษัท ยังมีการเติบโตที่สูงมากในปีที่ผ่านมา เฉพาะไตรมาสนี้รายได้เพิ่มถึง 23% โดยสินค้ากลุ่มดังกล่าวรวมทั้งคีย์บอร์ด, หูฟัง และเมาส์ ที่ออกแบบเฉพาะสำหรับการเล่นเกม
Logitech ประเมินว่าสินค้ากลุ่มเกมมิ่งจะยังรักษาระดับการเติบโตได้สูง โดยคาดว่าภาพรวมตลอดปีจะมีรายได้เติบโตราว 9-11%
ไอบีเอ็มรายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 4 ปี 2018 มีรายได้รวม 21,760 ล้านดอลลาร์ ลดลง 3% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 1,951 ล้านดอลลาร์
ถึงแม้ภาพรวมรายได้จะลดลง แต่กลุ่มธุรกิจใหม่ที่ไอบีเอ็มโฟกัสก็ยังมีการเติบโต โดยเฉพาะกลุ่ม Cognitive Software ซึ่งรวมถึงผลิตภัณฑ์ด้าน AI (Watson), Analytics และความปลอดภัยทางไซเบอร์ มีรายได้ 5,460 ล้านดอลลาร์ เติบโต 4% ส่วนกลุ่ม Global Business Services รายได้เพิ่มขึ้น 4% เป็น 4,320 ล้านดอลลาร์
Andrew Hou ประธาน Acer ส่วนเอเชียแปซิฟิกเปิดเผยว่า บริษัทคาดรายได้ในปี 2019 นี้ จะเติบโตในระดับที่สูงเมื่อเทียบกับปี 2018 โดยวางแผนโฟกัสที่พีซีเกมมิ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ขับเคลื่อนรายได้ ซึ่งคาดว่าเฉพาะพีซีเกมมิ่งจะเติบโตราว 50%
เขายังบอกว่าในปี 2018 ที่ผ่านมา สินค้าด้านพีซี 2 อย่างที่ทำให้รายได้ Acer เติบโตสูงคือพีซีเกมมิ่ง และโน้ตบุ๊กบางพิเศษ (Ultra-Thin) ซึ่งช่วงปลายปีตัวเลขยอดขายทำได้ต่ำกว่าที่ประเมิน เนื่องจากปัญหาซีพียูของอินเทลขาดตลาด
ในปีที่ผ่านมา พีซีเกมมิ่ง เป็นส่วนที่ทำเงิน 12% ของรายได้รวมธุรกิจพีซีของ Acer ขณะที่โน้ตบุ๊กบางพิเศษคิดเป็น 35% ซึ่ง Acer วางแผนเพิ่มรายได้ให้เป็น 20% และ 40% ตามลำดับ
TSMC บริษัทผู้ผลิตชิป รายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 4 ปี 2018 โดยรายได้รวม 289,771 ล้านดอลลาร์ไต้หวัน เพิ่มขึ้น 4.4% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 99,984 ล้านดอลลาร์ไต้หวัน
ประเด็นที่น่าสนใจในช่วงแถลงผลประกอบการณ์ คือรายได้จากกลุ่มชิปประมวลผลประสิทธิภาพสูง (HPC) นั้นลดลงมาก ซึ่งซีอีโอ C. C. Wei บอกว่าเป็นเพราะรายได้ที่ลดลงของกลุ่มชิปที่ใช้สำหรับเหมืองเงินคริปโต หากตัดส่วนนี้ออกไป ภาพรวมกลุ่ม HPC ก็จะมีรายได้เติบโตเล็กน้อย
Netflix รายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 4 ปี 2018 รายได้รวม 4,187 ล้านดอลลาร์ เติบโต 27.4% จากช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 134 ล้านดอลลาร์
จำนวนสมาชิกทั่วโลกเพิ่มขึ้น 8.84 ล้านบัญชี แบ่งเป็นอเมริกา 1.5 ล้านบัญชี และต่างประเทศ 7.3 ล้านบัญชี ทำให้มีจำนวนสมาชิกรวมเป็น 139.26 ล้านบัญชี และเพิ่มขึ้นสุทธิ 29 ล้านคน ตลอดปี 2018
เว็บไซต์ TechCrunch รวบรวมสถิติรายได้ของ HTC ประจำปี 2018 (เปิดเผยบนเว็บไซต์ของ HTC) พบว่ารายได้ลดลงจากปี 2017 ถึงเกือบ 62%
HTC มีรายได้ในปี 2017 ที่ 6.2 หมื่นล้านดอลลาร์ไต้หวัน ส่วนปี 2018 ตกลงอย่างหนักเหลือเพียง 2.3 หมื่นล้านดอลลาร์ไต้หวัน (หายไป 61.78%) หรือราว 770 ล้านดอลลาร์ ถือเป็นครั้งแรกที่บริษัทมีรายได้ทั้งปีน้อยกว่า 1 พันล้านดอลลาร์
ณ จุดสูงสุด HTC เคยมีรายได้เกินกว่า 4 แสนล้านดอลลาร์ไต้หวันในปี 2011 จากนั้นรายได้ก็ลดลงต่อเนื่องทุกปี จนต่ำเป็นประวัติการณ์ในปี 2018 ที่ผ่านมา
Tim Cook ซีอีโอแอปเปิล ออกรายงานต่อนักลงทุนวันนี้ โดยปรับลดตัวเลขคาดการณ์ผลการดำเนินงานประจำไตรมาสเดือนตุลาคม-ธันวาคม 2018 จากที่ประเมินว่าจะมียอดราว 89,000-93,000 ล้านดอลลาร์ เป็น 84,000 ล้านดอลลาร์ ส่วนรายการอื่นเช่น อัตรากำไร และค่าใช้จ่าย ตัวเลขยังคงใกล้เคียงกับข้อมูลเดิม
แอปเปิลระบุว่ามีหลายปัจจัยที่กระทบต่อรายได้ซึ่งทำให้น้อยกว่าที่เคยคาดไว้ เช่น จังหวะเวลาการออกสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ที่ต่างจากปีก่อน (XS เริ่มขายกันยายน ขณะที่ปีก่อน iPhone X เริ่มขายธันวาคม), เงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น, ปัญหาซัพพลายในการผลิตทำให้ Apple Watch Series 4 และ iPad Pro มีจำหน่ายไม่ทันความต้องการ
ออราเคิลรายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 2 ตามปีการเงินบริษัท 2019 (กันยายน-พฤศจิกายน 2018) มีรายได้ใกล้เคียงกับช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อนที่ 9,562 ล้านดอลลาร์ แต่หากตัดปัจจัยค่าเงินต่างประเทศ รายได้ก็เพิ่มขึ้น 2% และมีกำไรสุทธิ 2,333 ล้านดอลลาร์
กลุ่มธุรกิจหลักของออราเคิลคือบริการคลาวด์และสนับสนุนไลเซนส์ มีรายได้เพิ่มขึ้น 3% เป็น 6,637 ล้านดอลลาร์ ขณะที่รายได้จากไลเซนส์คลาวด์และไลเซนส์แบบ on-premiseลดลง 9% เป็น 1,217 ล้านดอลลาร์ ธุรกิจฮาร์ดแวร์ รายได้ลดลง 5% เป็น 891 ล้านดอลลาร์ และธุรกิจบริการรายได้ 817 ล้านดอลลาร์ ลดลง 5%
อโดบีรายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 4 ตามปีการเงินบริษัท (เดือนกันยายน-พฤศจิกายน) รายได้รวมทำสถิติใหม่อีกครั้งที่ 2,464.6 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 23% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 678.2 ล้านดอลลาร์
ส่วนหนึ่งของรายได้อโดบีไตรมาสนี้เพิ่มขึ้นมาจาก Marketo ที่ซื้อกิจการไปเมื่อเดือนกันยายน โดย Marketo ทำรายได้ให้อโดบีแบบไม่เต็มไตรมาส 21 ล้านดอลลาร์ ซึ่งอโดบีบอกว่าจะเป็นรายได้สำคัญอีกแหล่งในอนาคต
กลุ่มธุรกิจสื่อดิจิทัล ซึ่งรวมถึงผลิตภัณฑ์หลักอย่าง Creative Cloud มีรายได้เพิ่มขึ้น 23% ขณะที่กลุ่ม Digital Experience มีรายได้เพิ่มขึ้น 25%