อินเทลรายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 3 ปี 2020 มีรายได้รวม 18,333 ล้านดอลลาร์ ลดลง 4% จากช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อน โดยรายได้จากกลุ่มธุรกิจ Data-centric ลดลง 10% ส่วน PC-centric เพิ่มขึ้น 1% และมีกำไรสุทธิ 4,276 ล้านดอลลาร์
อินเทลระบุว่ารายได้กลุ่ม Data-centric ที่ลดลงมาก มาจากกลุ่มลูกค้าองค์และหน่วยงานรัฐที่ชะลอการใช้จ่าย เฉพาะกลุ่มนี้รายได้ลดลงถึง 47% ส่วนกลุ่ม PC-centric รายได้เพิ่มขึ้นจากยอดขายโน้ตบุ๊ก
ที่มา: อินเทล
Tesla รายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 3 ปี 2020 มีกำไรสุทธิ 874 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นไตรมาสที่ 5 ติดต่อกันที่มีกำไร และมีรายได้ 8,771 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 39%
ก่อนหน้านี้ Tesla รายงานตัวเลขการผลิต โดยผลิตรถยนต์ไปได้ 145,036 คัน และส่งมอบให้ลูกค้า 139,300 คัน
ซีอีโอ Elon Musk ให้ข้อมูลในช่วงแถลงผลประกอบการ ว่าโรงงานเบอร์ลินและออสตินคาดว่าเริ่มผลิตรถยนต์ออกมาได้ในปีหน้า แต่ด้วยธรรมชาติของการผลิตรถยนต์ ช่วงแรกจำนวนรถยนต์ที่ผลิตออกมาจะน้อย และเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในเวลาต่อมา ซึ่งใช้เวลา 12-24 เดือน
Netflix รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 3 ปี 2020 รายได้รวมเพิ่มขึ้น 22.7% จากช่วงเดียวกันในปีก่อนเป็น 6,436 ล้านดอลลาร์ และมีกำไรสุทธิ 790 ล้านดอลลาร์
ไตรมาสที่ผ่านมา Netflix มีจำนวนสมาชิกทั่วโลก 195.15 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 2/2020 2.20 ล้านคน ซึ่งเป็นจำนวนเพิ่มขึ้นที่ไม่สูง โดย Netflix มองว่าตัวเลขอยู่ในคาดการณ์ เพราะครึ่งปีแรก จำนวนสมาชิกเพิ่มขึ้นมาสูงกว่าปกติมากจากสถานการณ์โควิด-19 โดยมีสมาชิกเพิ่มรวม 25.86 ล้านคน และหากรวม 3 ไตรมาส ก็มีสมาชิกใหม่เพิ่มมากกว่าเมื่อปี 2019 ตลอดทั้งปีแล้ว
ไอบีเอ็มรายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 3 ปี 2020 รายได้รวม 17,560 ล้านดอลลาร์ ลดลง 2.6% เทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อน มีกำไรสุทธิ 1,698 ล้านดอลลาร์
กลุ่มธุรกิจใหม่ตามกลยุทธ์ของไอบีเอ็มยังคงมีการเติบโตสูง กลุ่ม Cloud & Cognitive Software รายได้เพิ่มขึ้น 7% ถ้าดูเฉพาะรายได้กลุ่มคลาวด์โต 19% ขณะที่ Red Hat รายได้เพิ่มขึ้น 17%
Arvind Krishna ซีอีโอไอบีเอ็ม กล่าวว่าผลการดำเนินงานเติบโตแข็งแกร่งจากธุรกิจคลาวด์ นำโดย Red Hat เป็นผลจากการที่ลูกค้าหันมาเลือกใช้แพลตฟอร์มไฮบริดคลาวด์แบบเปิด (Open Hybrid Cloud) ที่บริษัทเป็นผู้นำในตลาดอยู่ ซึ่งไอบีเอ็มเห็นโอกาสที่ตลาดจะมีขนาดใหญ่ระดับ 1 ล้านล้านดอลลาร์
ดีแทครายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 3 ปี 2563 รายได้รวม 19,053 ล้านบาท ลดลง 6.1% เทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน มีสาเหตุหลักจากการลดลงของรายได้จากการบริการ และรายได้จากการจำหน่ายเครื่องโทรศัพท์และชุดเลขหมาย มีกำไรสุทธิ 1,463 ล้านบาท ลดลง 18.3% สาเหตุหลักจากค่าเสื่อมราคาและค่าจัดจำหน่ายที่เพิ่มขึ้น
ดีแทคให้ข้อมูลที่น่าสนใจว่าไตรมาสที่ผ่านมา มีการแข่งขันสูงขึ้นในตลาดระบบเติมเงิน โดยเฉพาะการนำเสนอแพ็คเกจใช้งานข้อมูลไม่จำกัดด้วยความเร็วที่กำหนด
ซัมซุงรายงานผลประกอบการเบื้องต้นของไตรมาสที่ 3 ปี 2020 คาดมีรายได้ราว 66 ล้านล้านวอน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันในปีก่อน 6% และมีกำไรจากการดำเนินงานประมาณ 12.3 ล้านล้านวอน เพิ่มขึ้น 58%
เนื่องจากยังไม่มีข้อมูลเพิ่มเติม นักวิเคราะห์จึงประเมินว่ากำไรจากการดำเนินงานที่เพิ่มสูง น่าจะมาจากยอดสมาร์ทโฟนระดับกลางที่ซัมซุงทำตลาดมากขึ้น
ทั้งนี้ซัมซุงจะรายงานตัวเลขผลการดำเนินงานแบบละเอียดแยกรายหมวดธุรกิจอีกครั้ง ในช่วงปลายเดือนตุลาคม
Tesla รายงานตัวเลขการผลิตและส่งมอบรถยนต์ประจำไตรมาสที่ 3 ปี 2020 ซึ่งเป็นตัวเลขที่ Tesla จะรายงานก่อนเปิดเผยผลประกอบการทางการเงิน ที่จะรายงานช่วงปลายเดือนนี้
ไตรมาสที่ผ่านมา Tesla ผลิตรถยนต์ไปได้รวม 145,036 คัน ส่งมอบให้ลูกค้าไป 139,300 คัน แบ่งเป็น Model S และ X 16,992 คัน ส่วน Model 3 และ Y มีจำนวน 128,044 คัน
จำนวนรถยนต์ที่ส่งมอบนั้น Tesla ระบุว่ามีระยะเวลาในการขายสั้นลง (days of sales วัดจากวันที่ผลิตรถเสร็จ จนถึงส่งมอบให้ลูกค้า) เนื่องจากการปรับปรุงประสิทธิภาพในการส่งมอบรถยนต์
ที่มา: Tesla
Adobe รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 3 ตามปีการเงินบริษัท 2020 สิ้นสุดวันที่ 28 สิงหาคม 2020 รายได้รวมยังคงทำสถิติใหม่สูงสุดต่ออีกไตรมาสที่ 3,225 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 14% เทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อน กำไรสุทธิ 955 ล้านดอลลาร์
Shantanu Narayen ซีอีโอ Adobe กล่าวว่า Adobe ยังทำผลงานไตรมาสที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์บริษัท ท่ามกลางเศรษฐกิจโลกมีความท้าทาย สะท้อนว่าความต้องการโซลูชันนวัตกรรมยังคงมีอยู่ และบริษัทจะต่อยอดไปตลอดปีการเงินนี้
กลุ่มธุรกิจ Digital Media มีรายได้รวม 2,340 ล้านดอลลาร์ แบ่งเป็น Creative Cloud 1,960 ล้านดอลลาร์ และ Document Cloud 375 ล้านดอลลาร์ ส่วนกลุ่ม Digital Experience มีรายได้ 838 ล้านดอลลาร์
ออราเคิลรายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 1 ตามปีการเงินบริษัท 2021 สิ้นสุดเดือนสิงหาคม รายได้รวม 9,367 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 2% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อน กำไรสุทธิอยู่ที่ 2,251 ล้านดอลลาร์
Safra Catz ซีอีโอออราเคิลกล่าวว่าออราเคิลมีลูกค้า Fusion ERP แล้ว 7,300 ราย และ NetSuite ERP 23,000 ราย บน Oracle Cloud นอกจากนี้ธุรกิจ Infrastructure ยังเติบโตอย่างรวดเร็วจาก Zoom
รายได้แบ่งตามกลุ่มธุรกิจ ค่าบริการบนคลาวด์และค่าสนับสนุนไลเซนส์ เพิ่มขึ้น 2% เป็น 6,947 ล้านดอลลาร์ รายได้จากการขายไลเซนส์คลาวด์และออนพรีมิส อยู่ที่ 886 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 9% ส่วนฮาร์ดแวร์และรายได้ค่าบริการเป็น 814 และ 720 ล้านดอลลาร์ ตามลำดับ
Slack รายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 2 ตามปีการเงินบริษัท 2021 สิ้นสุดวันที่ 31 กรกฎาคม 2020 รายได้รวม 215.9 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 49% เทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อน และขาดทุนสุทธิ 73.1 ล้านดอลลาร์
จำนวนผู้ใช้งานแบบเสียเงินนั้น Slack บอกว่ามีมากกว่า 130,000 องค์กร เพิ่มขึ้น 30% มีลูกค้า 985 ราย ที่จ่ายค่าบริการมากกว่า 1 แสนดอลลาร์ต่อปี และ 87 ราย ที่จ่ายมากกว่า 1 ล้านดอลลาร์ต่อปี ทั้งนี้ Slack ไม่ได้เปิดเผยจำนวนผู้ใช้งานรวมทั้งหมดว่ามีอยู่เท่าใด
มีข้อมูลที่น่าสนใจจาก Allen Shim ซีเอฟโอของ Slack ในช่วงแถลงผลประกอบการ ว่าในกลุ่มลูกค้าที่จ่ายค่าบริการมากกว่า 1 ล้านดอลลาร์ต่อปี ส่วนใหญ่ก็เป็นลูกค้าของ Office 365 ซึ่งมีบริการ Teams รวมอยู่มาด้วยนั่นเอง
Zoom Video Communications เจ้าของแอป Zoom รายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 2 ตามปีการเงินบริษัท 2021 สิ้นสุดวันที่ 31 กรกฎาคม 2020 มีรายได้เพิ่มขึ้นเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อนถึง 355% เป็น 663.5 ล้านดอลลาร์ และมีกำไรสุทธิ 185.7 ล้านดอลลาร์
ตัวชี้วัดด้านจำนวนลูกค้าก็เติบโตสูงเช่นกัน โดยมีผู้ใช้งานแบบองค์กรที่มีพนักงานมากกว่า 10 คน 370,200 ราย เพิ่มขึ้น 458% มีลูกค้า 988 ราย ที่จ่ายเงินมากกว่า 100,000 ดอลลาร์ ในช่วง 12 เดือน
ซีอีโอและผู้ก่อตั้ง Eric S. Yuan กล่าวว่าองค์กรต่างต้องการเครื่องมือสนับสนุนการทำงานที่ต่อเนื่อง โดยสามารถทำงานได้ทุกที่ เรียนได้ทุกที่ เชื่อมต่อได้ทุกที่ บนแพลตฟอร์มของ Zoom ที่พัฒนาเริ่มต้นจากวิดีโอก่อน
Dell Technologies รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 2 ตามปีการเงินบริษัท 2020 สิ้นสุดวันที่ 31 กรกฎาคม 2020 มีรายได้ 22,733 ล้านดอลลาร์ และมีกำไรสุทธิ 1,099 ล้านดอลลาร์
ซีโอโอ Jeff Clarke กล่าวว่า Dell Technologies ได้นำเสนอโซลูชันเทคโนโลยี ที่ลูกค้าต้องการไม่ว่าจะเป็นเรื่องทำงานหรือการเรียน ไตรมาสที่ผ่านมา Dell Technologies มีรายได้เพิ่มขึ้นจากลูกค้าหน่วยงานรัฐและภาคการศึกษา 16% และ 24% ตามลำดับ เนื่องจากทั้งผู้ปกครองและโรงเรียนต่างต้องการเครื่องมือ สำหรับจัดการเรียนการสอนแบบ Virtual
เอชพีรายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 3 ตามปีการเงินของบริษัท 2020 สิ้นสุดเดือนกรกฎาคม รายได้สุทธิ 14,294 ล้านดอลลาร์ ลดลง 2.1% เทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 734 ล้านดอลลาร์
กลุ่มธุรกิจ Personal Systems มีรายได้เพิ่มขึ้น 7% ที่น่าสนใจคือลูกค้าองค์กรนั้นรายได้ลดลง 6% แต่ลูกค้าทั่วไปรายได้เพิ่มขึ้นถึง 42% ซึ่งในภาพรวมนั้นโน้ตบุ๊คมีจำนวนขายได้เพิ่มขึ้นถึง 32% ส่วนเดสก์ท็อปลดลง 30%
แนวโน้มก็เป็นเช่นเดียวกันกับกลุ่มธุรกิจ Printing ภาพรวมรายได้ลดลง 20% จำนวนฮาร์ดแวร์ที่ขายได้ของลูกค้าองค์กรลดลง 32% ขณะที่กลุ่มลูกค้าทั่วไปเพิ่มขึ้น 3%
Palantir Technologies บริษัทซอฟต์แวร์ด้านวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อความมั่นคง ยื่นเอกสารเตรียมเข้าตลาดหลักทรัพย์ต่อ ก.ล.ต. สหรัฐอย่างเป็นทางการ หลังมีข้อมูลหลุดออกมาก่อนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
Palantir เป็นบริษัทที่ก่อตั้งโดย Peter Thiel นักลงทุนชื่อดังของซิลิคอนวัลเลย์ (เป็นนักลงทุนรายแรกๆ และปัจจุบันยังเป็นบอร์ดของ Facebook) แต่ด้วยแนวทางของบริษัทที่เต็มไปด้วยความลับ เพราะลูกค้าส่วนใหญ่เป็นหน่วยงานด้านความมั่นคงของรัฐ อีกทั้งตัว Thiel เองก็มีสายสัมพันธ์อันดีกับ Donald Trump จึงทำให้การเข้าตลาดหลักทรัพย์ของ Palantir ถูกจับตาอย่างมาก
Xiaomi รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสเดือนมิถุนายน 2020 รายได้รวม 5.354 หมื่นล้านหยวน เพิ่มขึ้น 3.1% เทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อนหน้า และมีกำไรสุทธิ 4.49 พันล้านหยวน เพิ่มขึ้น 129.8%
บริษัทระบุว่าแม้สถานการณ์โควิด-19 ทำให้ภาพรวมตลาดสมาร์ทโฟนมีความท้าทายสูง แต่บริษัทยังมียอดขายเพิ่มขึ้นเป็น 3.163 หมื่นล้านหยวน โดยมีส่วนแบ่งการตลาดทั่วโลก 10.1% ในอันดับที่ 4 ตามข้อมูลของ Canalys นอกจากนี้ยอดขายสมาร์ทโฟนระดับพรีเมียมยังเพิ่มขึ้นถึง 99.2% สำหรับตลาดต่างประเทศ
Palantir บริษัทให้บริการซอฟต์แวร์ประมวลผลข้อมูลขนาดใหญ่ที่เน้นลูกค้าหน่วยงานรัฐกำลังเตรียมเข้าซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ปีนี้โดยยื่นเอกสารงบดุลแบบเป็นความลับ แต่ล่าสุดทาง TechCrunch ได้เห็นหน้าจอเอกสารงบดุลทำให้ข้อมูลหลุดออกมาและพบว่าอัตราขาดทุนยังสูงมากอยู่
ในปี 2019 ทาง Palantir มีรายได้รวม 742 ล้านดอลลาร์ เติบโตกว่าปี 2018 อยู่ 25% แต่กลับขาดทุนถึง 580 ล้านดอลลาร์ ใกล้เคียงกับปี 2018 โดยมีค่าใช้จ่ายด้านการตลาดและการขายสูงถึง 450 ล้านดอลลาร์
สำหรับครึ่งแรกของปี 2020 บริษัททำรายได้ 481 ล้านดอลลาร์ เติบโตขึ้น 49% และมีโอกาสว่าจะทำรายได้เกิน 1,000 ล้านดอลลาร์ก่อนสิ้นปี
Alibaba รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสเดือนเมษายน-มิถุนายน 2020 รายได้รวมเพิ่มขึ้น 34% เทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อนเป็น 21,762 ล้านดอลลาร์ และมีกำไรสุทธิ 5,587 ล้านดอลลาร์
Maggie Wu ซีเอฟโอของ Alibaba ให้ข้อมูลที่น่าสนใจว่าธุรกิจอีคอมเมิร์ซในจีน ซึ่งเป็นธุรกิจหลักนั้น ตอนนี้กลับสู่สภาพปกติเหมือนกับช่วงก่อนเกิดการระบาดของโควิด-19 แล้ว
ข้อมูลตัวเลขผลการดำเนินงานอื่นที่น่าสนใจมีดังนี้
NVIDIA รายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 2 ปี 2021 ตามปีการเงินบริษัท สิ้นสุดวันที่ 26 กรกฎาคม 2020 รายได้รวมยังเติบโตทำสถิติใหม่ เพิ่มขึ้น 50% เทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อน เป็น 3,866 ล้านดอลลาร์ และมีกำไรสุทธิ 622 ล้านดอลลาร์
ซีอีโอ Jensen Huang กล่าวว่าสินค้าของ NVIDIA มีการนำไปใช้งานที่เพิ่มสูงขึ้นมาก จึงทำให้บริษัทมีรายได้ที่เติบโตก้าวกระโดด ทั้งการ์ดจอสำหรับเกม ไปจนถึง GPU สำหรับลูกค้ากลุ่มศูนย์ข้อมูลและผู้ให้บริการคลาวด์
กลุ่มธุรกิจศูนย์ข้อมูล (Data Center) ตอนนี้เป็นรายได้ที่ใหญ่ที่สุดของ NVIDIA แล้ว เติบโตถึง 167% ที่ 1,752 ล้านดอลลาร์ ส่วนกลุ่มธุรกิจเกมเติบโต 26% เป็น 1,654 ล้านดอลลาร์
Sea กลุ่มบริษัทที่มี Garena และ Shopee อยู่ในเครือ รายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 2 ปี 2020 รายได้รวมทั้งหมด เพิ่มขึ้น 93.4% เทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อน เป็น 1,287.2 ล้านดอลลาร์ และขาดทุนสุทธิ 393.5 ล้านดอลลาร์
กลุ่มสื่อบันเทิงดิจิทัล (Garena) รายได้เพิ่มขึ้น 61.6% เป็น 716.2 ล้านดอลลาร์ มีจำนวนผู้ใช้งานเพิ่มขึ้น 61.0% เป็น 499.8 ล้านบัญชี และเกม Free Fire ทำสถิติสูงสุดอีกครั้ง โดยมีผู้เล่นเกมภายในวันเดียวกันรวมมากกว่า 100 ล้านบัญชี
ธุรกิจอีคอมเมิร์ซ (Shopee) รายได้รวมเพิ่มขึ้น 187.7% เป็น 510.6 ล้านดอลลาร์ จำนวนคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้นเป็น 615.9 ล้านคำสั่ง และมียอดขายสุทธิ (GMV) แตะ 8 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 109.9%
JD.com อีคอมเมิร์ซรายใหญ่ของจีน รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 2 ปี 2020 รายได้รวม 28,457 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 33.8% เทียบกับไตรมาสเดียวกันในปี 2019 และมีกำไรสุทธิ 2,328 ล้านดอลลาร์
Sandy Xu ซีเอฟโอ JD.com กล่าวว่าการลงทุนที่ผ่านมา ทำให้บริษัทมีข้อได้เปรียบด้านต้นทุน และสามารถมอบข้อเสนอที่ดึงดูดลูกค้าได้ในเทศกาลลดราคาวันที่ 18 มิถุนายนที่ผ่านมา รวมกับสถานการณ์การระบาดของโควิดที่ผ่านมา จึงทำให้ผลประกอบการออกมาดีทุกส่วน
จำนวนลูกค้าของ JD.com มีจำนวนเพิ่มขึ้นเป็น 417.4 ล้านบัญชี จำนวนผู้ใช้งานบนมือถือเพิ่มขึ้น 40%
ที่มา: JD.com
ทรู คอร์ปอเรชั่น รายงานผลการดำเนินงานประจำไตรมาสที่ 2 ปี 2563 มีรายได้รวม 33,573 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.9% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปี 2562 ส่วน EBITDA (กำไรก่อนดอกเบี้ย-ภาษี-ค่าเสื่อมราคา-ค่าใช้จ่ายตัดจ่าย) อยู่ที่ 7,905 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 1,060 ล้านบาท
ผลการดำเนินงานแยกตามกลุ่มธุรกิจเป็นดังนี้
ซิสโก้ประกาศผลประกอบการไตรมาสสี่ของปีบัญชี 2020 ที่สิ้นสุดเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา โดยรายได้รวมลดลง 9% เหลือ 12.2 พันล้านดอลลาร์ ส่งผลให้ทั้งปีรายได้ลดลง 5% เหลือ 49.3 พันล้านดอลลาร์ แต่กำไรไตรมาสสี่เพิ่มขึ้นถึง 19% เป็น 2.6 พันล้านดอลลาร์
ธุรกิจที่กระทบหนักที่สุดคือกลุ่มโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure Platform) ที่รายได้ลดลงถึง 16% เหลือ 6,626 ล้านดอลลาร์ ขณะที่รายได้ฝั่งธุรกิจความมั่นคงปลอดภัยเติบโตถึง 10% เป็น 814 ล้านดอลลาร์
Tencent รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 2 ปี 2020 รายได้รวมเพิ่มขึ้น 29% เทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อนเป็น 1.15 แสนล้านหยวน และมีกำไรสุทธิ 3.02 หมื่นล้านหยวน
รายได้จากธุรกิจเกมเติบโตถึง 40% แต่ลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 1 เนื่องจากคนเริ่มกลับไปทำงานตามปกติ มีเกมเด่นในไตรมาสคือ Honour of Kings และ Peacekeeper Elite (PUBG Mobile เวอร์ชันจีน)
กลุ่ม Social Media รายได้เพิ่มขึ้น 29% รายได้หลักมาจาก Huya แพลตฟอร์มไลฟ์ที่ Tencent ถือหุ้นใหญ่ ส่วนรายได้จากโฆษณาลดลง 25% ส่วนใหญ่กระทบจากบริการ Tencent Video
Uber รายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 2 ปี 2020 รายได้ 2,241 ล้านดอลลาร์ ลดลง 29% เทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อนหน้า แบ่งเป็นรายได้จากบริการรถโดยสารลดลง 67% (790 ล้านดอลลาร์) ส่วนบริการเดลิเวอรี่เพิ่มขึ้น 103% (1,211 ล้านดอลลาร์) สุทธิแล้วขาดทุน 1,775 ล้านดอลลาร์ ซึ่งลดลงจากปีก่อน
ซีอีโอ Dara Khosrowshahi กล่าวว่าการระบาดของโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อธุรกิจรถโดยสารโดยตรง แต่ก็ทำให้ธุรกิจเดลิเวอรี่เติบโตสูง เนื่องจากคนต้องอยู่ที่บ้าน แต่ก็สั่งอาหารมาทานมากขึ้นอย่างไม่เคยมีมาก่อน โดยเขาอธิบายเพิ่มเติมในช่วงแถลงผลประกอบการว่า ธุรกิจเดลิเวอรี่ถูกเปลี่ยนมาเป็นสิ่งจำเป็นในชีวิตประจำวันของลูกค้า จากเดิมที่เป็นทางเลือก
AIS ประกาศผลประกอบการประจำไตรมาส 2/2020 ซึ่งเป็นไตรมาสที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ COVID-19 เข้าเต็มๆ