จากข่าวก่อนหน้านี้ เฟซบุ๊กถอดความสามารถตอบข้อความในแอพพลิเคชั่นออก ต้องใช้ Messenger เท่านั้น วันนี้ปฏิบัติการ "คืนความสุข" ของ Facebook เริ่มต้นขึ้นแล้วครับ โดยผู้ใช้แอพ Facebook บนอุปกรณ์ Android/iPhone จะไม่สามารถแชตกับเพื่อนๆ ได้อีกต่อไป ถ้าอยากคุยจะต้องดาวน์โหลดแอพ Facebook Messenger แยกต่างหากเท่านั้น

Facebook อธิบายถึง "ความจำเป็น" ที่ต้องปรับใช้นโยบายนี้ว่าจากสถิติแล้ว ผู้ใช้แอพ Facebook Messenger ตอบข้อความเร็วขึ้น 20% และการแยกแอพสองตัวออกจากกันทำให้ความซับซ้อนของแอพลดน้อยลง ดูแลรักษาได้ง่ายขึ้น

ดูเหมือนทางเฟซบุ๊กพยายามจะขยายการให้บริการของตัวเอง ให้ครอบคลุมแพลตฟอร์ม e-commerce แบบเดียวกับแอพแชทเชื้อสายเอเชียอย่าง WeChat หรือ LINE เมื่อมีรายงานว่าซีอีโอของเฟซบุ๊กได้เข้าพูดคุยกับซีอีโอของทาง Uber เพื่อหวังให้แอพ Messenger ของตนสามารถบริการเรียกรถ Uber ได้

ทั้งนี้ทาง Re/code วิเคราะห์ไว้ว่าปกติลูกค้า Uber มักจะเรียกใช้บริการอยู่เป็นประจำ และการควบรวมการให้บริการกับ Messenger จะเป็นการเพิ่มยอดผู้ใช้ของ Messenger ไปกลายๆ ซึ่งคล้ายๆ กับการให้บริการเรียกแท็กซี่ของทางฝั่ง WeChat ขณะเดียวกันฝั่ง Uber ก็อาจได้ลูกค้าที่มากขึ้นจากฐานผู้ใช้ Messenger ที่มีจำนวนค่อนข้างมากด้วยเช่นกัน

เป็นอีกครั้งกับความพยายามของ Facebook ในการแข่งขันกับน้องใหม่ในตลาดอย่าง Snapchat หลังจากเคยพลาดไปอย่างไม่เป็นท่าในไม้แรกกับ Poke (เลิกทำไปแล้ว) ล่าสุดมีภาพหลุดของแอพตัวใหม่ที่คาดว่าทำมาเพื่อแข่งกับ Snapchat อีกรอบมาแล้ว

แอพใหม่ที่ว่านี้ใช้ชื่อว่า Bolt เป็นแอพแชร์ภาพอย่างง่ายในสัมผัสเดียว โดยหลุดมากับแถบโฆษณาบนแอพ Instagram for Android ซึ่งเป็นหนึ่งในเครือข่ายโฆษณาของ Facebook อยู่แล้ว จึงพอเดากันได้ว่าเป็นทาง Facebook เองที่เผลอปล่อยข้อมูลของแอพนี้หลุดมา

อีกกระแสนึงมองว่า Bolt อาจเป็นเพียงแค่แอพสำหรับทดสอบเครือข่ายโฆษณาภายในของ Facebook เอง แต่ไม่ได้ทำแอพนี้อยู่จริง

Facebook รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 2 ของปี 2014 มีรายได้รวม 2,910 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 61% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 791 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นถึง 138%

รายได้หลักของ Facebook มาจากการโฆษณา โดยมีรายได้ส่วนนี้ 2,680 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 67% จากปีก่อน และในรายได้โฆษณานั้น 62% เป็นโฆษณาจากแพลตฟอร์มบนมือถือ ซึ่งเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้านี้ที่ 59%

จำนวนผู้ใช้งานล่าสุด แบ่งได้เป็นผู้ใช้งานเป็นประจำทุกวัน 829 ล้านคน เพิ่มขึ้น 19% จากปีก่อน โดยเป็นผู้ใช้งานบนมือถือ 654 ล้านคน ขณะที่ตัวเลขผู้ใช้งานเป็นประจำระดับทุกเดือนรวมสูงกว่า 1,320 ล้านคน

Facebook เปิดตัวเลือกใหม่สำหรับผู้ลงโฆษณาและนักพัฒนา สามารถเลือกเป้าหมายของโฆษณาได้ละเอียดขึ้นไปอีกขั้น โดยอนุญาตให้เลือกรุ่นของเป้าหมายที่จะได้รับชมโฆษณาแบบละเอียดได้เลย

ฟีเจอร์นี้เป็นการขยายความสามารถจากเดิมที่เคยเปิดให้ผู้ใช้เลือกได้เพียงระบบปฏิบัติการ (Android หรือ iOS) ให้สามารถเลือกรุ่นเฉพาะได้ด้วย เช่นให้โฆษณานี้เห็นเฉพาะผู้ใช้ iPad รุ่นที่ใช้หน้าจอ Retina Display เท่านั้น หรือเฉพาะ iPad mini เป็นต้น นอกจากนี้ยังสามารถเลือกได้อีกว่าจะให้เป้าหมายที่เห็นโฆษณานั้นผ่านการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตแบบใด ทั้งผ่าน 3G หรือผ่าน Wi-Fi

ปกติเวลาเราจะต้องใช้บริการอะไรบางอย่างในโลกออนไลน์ หรือแม้กระทั่งในคอมพิวเตอร์ สิ่งหนึ่งที่เรามักจะเจอกันอยู่เสมอคือสิ่งที่เรียกว่า “ข้อตกลงการใช้งาน” หรือในภาษาอังกฤษเรียกว่า “Terms and Conditions” ซึ่งคนส่วนมาก มักจะไม่อ่าน และข้ามไปเสมอ (ไม่กด Accept ก็กด Next) ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นข้อตกลงทางกฎหมายที่มีผลผูกพันกับเราทั้งสิ้น

Terms And Conditions May Apply เป็นภาพยนตร์สารคดีที่เกี่ยวกับประเด็นเรื่องของข้อตกลงการใช้งานเหล่านี้ แต่สิ่งที่สำคัญคือการเป็นภาพยนตร์สารคดีที่ชี้ให้เห็นถึงประเด็นปัญหาของสิทธิส่วนบุคคลได้เป็นอย่างดี ซึ่งผมมีโอกาสได้ชมภาพยนตร์นี้ และคิดว่าเนื้อหาสนใจ จึงขอเขียนรีวิวสั้นๆ ครับ

ฟีเจอร์นี้น่าจะถูกใจคนที่ชอบเก็บอะไรไว้อ่านทีหลัง โดย Facebook Save นั้นสามารถทำได้ทั้งบนหน้าเว็บและแอพมือถือ ผู้ใช้จะสามารถเลือกบันทึกลิงก์, สถานที่, ภาพยนตร์, รายการโทรทัศน์ และเพลงที่ชอบไว้ในรายการอ่านทีหลังได้ และรายการที่เราบันทึกไว้นี่ก็สามารถแชร์ให้เพื่อนดูได้เช่นกัน ซึ่งก็เป็นการดีที่เราจะได้มาตามดูสิ่งที่เราชอบได้จากที่เดียว

ทั้งนี้ฟีเจอร์นี้จะเปิดให้ใช้ได้ทั้งบน Android, iOS และเว็บ ในสองสามวันข้างหน้า

ที่มา - The Next Web

Facebook กำลังทดสอบปุ่ม "ซื้อ" ผ่านโฆษณาบน Facebook อยู่ ฟีเจอร์นี้ทำให้ผู้ใช้สามารถซื้อของที่ต้องการได้ทันที โดยไม่จำเป็นต้องออกจาก Facebook ไปยังหน้าเว็บไซต์ของร้านค้า หรือแหล่งอื่นๆ แต่อย่างใด

Facebook กล่าวว่า จะทำฟีเจอร์นี้โดยระมัดระวังเรื่องความเป็นส่วนตัวถึงที่สุด มีขั้นตอนในการจ่ายเงินที่ปลอดภัยและเชื่อถือได้ จะไม่มีข้อมูลบัตรเครดิตหรือเดบิตของผู้ใช้หลุดไปยังผู้ลงโฆษณาเป็นอันขาด และผู้ใช้สามารถเลือกได้ว่าจะปกปิดข้อมูลธุรกรรมของตัวเองในการจ่ายเงินได้

การทดสอบนี้ยังอยู่ในธุรกิจกลุ่มจำกัดในอเมริกา แต่จะมีการรายงานความคืบหน้าของการทดสอบเมื่อเก็บข้อมูลเสียงตอบรับได้มากพอ

หากยังจำกันได้ เมื่อปีที่แล้วมีข่าวว่า Facebook ทดสอบทำแอพสำหรับผู้มีชื่อเสียง และตอนนี้ก็ได้ฤกษ์เปิดตัวแล้วในชื่อแอพว่า "Mentions" ซึ่งเป็นแอพที่จัดการเพจสำหรับผู้มีชื่อเสียงเท่านั้น โดยความสามารถของแอพก็คือ

• ดูได้ว่าแฟนๆ พูดถึงเรายังไง และสามารถเริ่มบทสนทนากับแฟนๆ ได้
• สามารถเล่าเรื่องราวของตัวเอง แชร์รูป วิดีโอ รวมถึงเปิดถามตอบกันสดๆ ได้ผ่านโทรศัพท์
• ดูเทรนด์บน Facebook รวมไปถึงโพสต์ล่าสุดของคนที่เราติดตาม

คนดังสามารถโหลดแอพนี้ได้จาก App Store ในเบื้องต้นใช้ได้เฉพาะในอเมริกา แต่ Facebook บอกว่าจะเปิดให้ทั่วโลกใช้ในอีกไม่นานนี้

คดี 4 บริษัทไอทีรายใหญ่ ได้แก่ กูเกิล, แอปเปิล, อินเทล, และ อโดบี ร่วมมือกันทำสัญญาไม่ชิงตัวพนักงานระหว่างกัน มีการเปิดเผยหลักฐานใหม่เป็นอีเมลภายในของกูเกิลที่พูดถึงการชิงตัววิศวกรกับเฟซบุ๊กที่ได้อยู่ในกลุ่มพันธมิตรไม่ชิงตัวพนักงาน

อีเมลระบุว่ากูเกิลมีนโยบายยื่นข้อเสนอให้กับพนักงานของตัวเองเพื่อดึงตัวพนักงานไว้ภายในหนึ่งชั่วโมงหลังทราบว่าพนักงานคนใดได้รับเสนอตำแหน่งงานจากเฟซบุ๊ก แสดงให้เห็นว่าการที่มีบริษัทขนาดใหญ่นอกกลุ่มพันธมิตรไม่แย่งตัวพนักงานกันเช่นนี้ทำให้กูเกิลต้องแข่งขันด้วยการเพิ่มผลตอบแทนให้พนักงาน

หลังจากไมโครซอฟท์อัพเดตแอพ Facebook Beta for Windows Phone ไปคราวก่อน โดยปรับหน้าตาใหม่และรองรับอัพโหลดวิดีโอแล้ว ล่าสุดบริษัทได้อัพเดตแอพดังกล่าวอีกครั้ง

เราเห็นข่าว สถิติ Twitter ฟุตบอลโลก 2014 ไปแล้ว คราวนี้มาดูสถิติของฝั่ง Facebook บ้างครับ (สถิตินี้เฉพาะนัดชิงชนะเลิศเท่านั้น)

หลังจากที่ไมโครซอฟท์ได้ปล่อยอัพเดต Windows Phone 8.1 ออกมา ปรากฎว่า IE (Internet Explorer) ที่ถูกอัพเดตพร้อมกับตัวระบบปฏิบัติการนั้นกลับมีปัญหาในการใช้งานบางอย่างกับโซเชียลเน็ตเวิร์คยอดนิยมอย่าง Facebook โดยปัญหาส่วนมากเกิดจาก Facebook ยังคงใช้โค้ดชุดเดิมที่ใช้กับ Windows Phone 8 อยู่ ทำให้แสดงผลบน Windows Phone 8.1 ผิดพลาด

ช่วงหลังเราเห็นบริษัทสายโซเชียลทั้ง Facebook และ Twitter ไล่ซื้อบริษัทโฆษณาขนาดเล็กกันเป็นว่าเล่น แสดงให้เห็นทิศทางตลาดว่าการโฆษณาผ่านโซเชียลนั้น "มาแน่"

ล่าสุด Facebook ประกาศข่าวการซื้อกิจการอีกครั้ง โดยซื้อ LiveRail บริษัทที่ทำโซลูชันโฆษณาแบบวิดีโอ และมีผลงานทำระบบโฆษณาให้สื่อรายใหญ่ของอเมริกาหลายแห่ง เช่น CBS, ABC, Conde Nast, MLB.com เป็นต้น

LiveRail ก่อตั้งเมื่อปี 2007 ปัจจุบันมีพนักงาน 170 คน มีโฆษณาวิดีโอวิ่งผ่านระบบของตัวเอง 7 พันล้านครั้งต่อเดือน มีรายได้เกิน 100 ล้านดอลลาร์ต่อปี (สถิติปี 2013) ก่อนหน้านี้เคยมีแผนจะขายหุ้น IPO แต่สุดท้ายเปลี่ยนใจขายให้ Facebook แทน

Facebook Messenger ออกเวอร์ชันใหม่ 7.0 ของใหม่ที่สำคัญคือรองรับหน้าจอขนาดใหญ่ของ iPad แล้ว (สักที) โดยหน้าตาของเวอร์ชันจอใหญ่ก็คล้ายกับแอพแชตตัวอื่นๆ คือแสดงแถบรายชื่อที่ sidebar ฝั่งซ้ายมือ และหน้าต่างแชตฝั่งขวามือ

ส่วนฟีเจอร์ใหม่อีกอย่างหนึ่งคือสามารถเก็บไฟล์วิดีโอที่กดถ่ายจากหน้าแอพ Messenger ลงใน camera roll ของระบบได้แล้ว

ที่มา - TechCrunch

เดิมทีนั้น Instagram ใช้ระบบเซิร์ฟเวอร์ Amazon Web Services (EC2) แต่หลังการขายกิจการให้ Facebook ในปี 2012 มาได้สักระยะหนึ่ง ก็ได้เวลาย้ายมาใช้ศูนย์ข้อมูลของ Facebook แทนด้วยเหตุผลด้านค่าใช้จ่ายและการบริหารจัดการ

Instagram เริ่มคิดเรื่องนี้ในเดือนเมษายน 2013 และเพิ่งย้ายระบบเสร็จทั้งหมดเมื่อไม่นานมานี้เอง (เตรียมการย้ายกันนานเป็นปี) ข้อจำกัดของการย้ายระบบครั้งนี้คือข้อมูลของ Instagram มีจำนวนมหาศาล และทีมงานก็ตั้งเป้าว่าจะย้ายระบบทั้งหมดโดยไม่ต้องหยุดให้บริการเลย

อย่างไรก็ตาม ด้วยข้อจำกัดทางเทคนิคทำให้ Instagram ไม่สามารถย้ายระบบจาก EC2 ไปยัง Facebook โดยตรงได้ ทำให้ต้องย้ายกันถึง 3 ทอดครับ (ถือเป็นกรณีศึกษาที่น่าสนใจของการย้ายระบบขนาดใหญ่บนกลุ่มเมฆ)

ก่อนหน้านี้ ถ้าใครยังจำได้ Facebook ได้ลุยตลาด Android ด้วยการเปิดตัว launcher ที่ชื่อ Facebook Home และพร้อมทั้งเปิดตัว HTC First มือถือที่จะพรีโหลด Facebook Home รวมถึงเซ็นสัญญากับผู้ผลิตหลายรายในการผลิตมือถือที่จะพรีโหลด Facebook Home มาให้

เรื่องราวก็ดูจะราบรื่นดี แต่หลังจากนั้น Facebook Home ก็เงียบหายไปพักใหญ่ มีเพียงอัพเดตย่อยๆ ตามมานานๆ ครั้ง และยังรองรับเฉพาะมือถือ Samsung และ HTC บางรุ่นเท่านั้น

การพิจารณาคะแนน News Feed จะเน้นให้ความสำคัญกับโพสต์ประเภทวิดีโอมากขึ้น โดยวิดีโอที่มีคนดูนานขึ้นเท่าไหร่ ก็จะมีคะแนนของโพสต์มากขึ้นเท่านั้น แต่จะต้องเป็นวิดีโอที่ถูกอัพโหลดขึ้น Facebook นั่นแปลว่าหากโพสต์ลิงก์ยูทูบหรือเว็บวิดีโออื่นๆ ก็จะถูกจัดคะแนนเป็นโพสต์ธรรมดาตามปกติ

ที่มา - Facebook Newsroom

สิ่งที่เพิ่มใหม่ในเวอร์ชัน 4.0 คือ

• ปรับปรุงดีไซน์ใหม่ โทนสีแอพเป็นสีขาว จากเดิมเป็นสีน้ำเงิน
• ดูกิจกรรมและสถิติของเพจได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม
• มีส่วนที่ระบุว่าผู้ดูแลเพจโพสต์ในนามของเพจหรือเปล่า
• แก้โพสต์ได้แล้ว
• ตอบกลับผู้ที่มีปฏิสัมพันธ์กับเพจในรูปของคอมเมนต์ย่อยได้

สนใจก็อัพเดตได้จาก App Store หรือ Google Play

ขอมาเก็บตกข่าวเก่าเกี่ยวกับเฟซบุ๊กที่สำคัญกับผู้ใช้เพราะเกี่ยวเนื่องกับสิทธิส่วนบุคคล (privacy) ครับ

เมื่อวันที่ 12 มิ.ย. ที่ผ่านมา เฟซบุ๊กประกาศขยายขอบเขตการเก็บข้อมูลเพื่อแสดงโฆษณาตามความสนใจของผู้ใช้ (interest-based advertising) จากเดิมอิงแค่เว็บไซต์ที่ผู้ใช้กดไลค์และสิ่งที่ผู้ใช้ระบุว่าสนใจในโปรไฟล์เท่านั้น เป็นรวมถึงประวัติการใช้งานแอพบางแอพของผู้ใช้และการท่องเว็บบางเว็บไซต์ถึงแม้ผู้ใช้จะไม่ได้กดไลค์เว็บไซต์นั้นก็ตาม

ทีมพัฒนาแอพ Facebook สำหรับอุปกรณ์พกพา ได้เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับการพัฒนาปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานของแอพ Facebook สำหรับ Android โดยลงทุนเดินทางไปทวีปแอฟริกาเพื่อไปทดสอบการใช้งานจริงที่นั่น

เนื่องจากพื้นที่ส่วนใหญ่แอฟริกายังห่างไกลความเจริญ ระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตโดยทั่วไปไม่ได้มีความเร็วสูงดังเช่นในประเทศพัฒนาแล้วอย่างสหรัฐอเมริกาและหลายประเทศในยุโรป อีกทั้งอุปกรณ์พกพาของผู้คนที่นั่นก็มีความหลากหลายและไม่ได้มีสเปคที่แรงนัก นี่จึงเป็นโจทย์ท้าทายสำหรับ Facebook ว่าทำอย่างไรจึงจะให้ผู้คนเหล่านั้นยังคงได้รับประสบการณ์ใช้งานที่ดีในการใช้งานแอพ Facebook

จากเหตุการณ์ Facebook ล่มทั่วโลกเมื่อวานนี้ ตัวแทนของ Facebook อธิบายปัญหาผ่านเว็บไซต์ TechCrunch อย่างสั้นๆ ว่า สาเหตุเกิดจากการอัพเดตคอนฟิกในระบบซอฟต์แวร์ผิดพลาด (ไม่บอกว่าส่วนไหน) แต่ทีมงานก็พบปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ระบบกลับมาทำงานได้ 100% ภายในเวลาไม่ถึง 30 นาที

Facebook ยังขอโทษทุกคนที่พบปัญหาใช้งานไม่ได้ในช่วงนั้น และยืนยันว่า Facebook จะให้ความสำคัญกับการเข้าถึงระบบของตัวเองมากที่สุดเสมอ

ที่มา - TechCrunch

โครงการ Open Compute เริ่มต้นจากการออกแบบเซิร์ฟเวอร์ แต่ภายหลังก็ประกาศขยายมาทำอุปกรณ์เครือข่ายเป็นลำดับต่อไป (ข่าวเก่า 1, ข่าวเก่า 2) วันนี้มีผลงานเป็นรูปเป็นร่างออกมาโชว์แล้วครับ

อุปกรณ์ตัวแรกคือ "สวิตช์" ที่อยู่ภายใต้แนวคิดใหม่คือแยกส่วนการทำงานเป็นระดับฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ (ตามแนวคิด software-defined networking) ผลงานที่ออกมาจึงถูกแยกเป็น 2 ส่วนด้วยเช่นกัน

ฮาร์ดแวร์: Wedge

ฮาร์ดแวร์สวิตช์ของ Facebook ใช้โค้ดเนมว่า "Wedge" มันคือสวิตช์เครือข่ายแนวใหม่ที่ใช้ชิ้นส่วนที่หาได้ทั่วไป

เมื่อเวลา 14.55 จนถึงขณะนี้ (15.00 น.) Facebook หนุึ่งในผู้ให้บริการ Social network ไม่สามารถให้บริการได้ทั่วโลก ไม่ใช่เพียงแค่ในประเทศไทยเหมือนที่เคยเกิดขึ้นก่อนหน้านี้ สาเหตุยังไม่เป็นที่แน่ชัด
ขณะที่เขียนข่าวและทดสอบเข้า Facebook ผู้เขียนใช้บริการอินเทอร์เน็ตของ TOT 3G อยู่ หากผู้อ่านพบการบล็อก Facebook ผ่าน ISP อื่น สามารถแจ้งเข้ามาได้ครับ ถ้ามีรายละเอียดเพิ่มเติมจะรายงานให้ทราบต่อไป
ที่มา -- ตัวผู้เขียนเอง, รายงานข่าวของ softpediia

เมื่อเวลา 14.54 น. โดยประมาณ พบว่าเว็บไซต์ Facebook เข้าไม่ได้ โดยจะขึ้นหน้าแจ้งว่ามีบางอย่างผิดพลาดทางเทคนิค เบื้องต้นคาดการณ์ว่าน่าจะประสบปัญหานี้เหมือนกันทั่วโลก จึงขอประกาศให้ทราบโดยทั่วกัน

ถ้า Facebook กลับมาใช้งานได้เมื่อไหร่ จะกลับมารายงานข่าวให้ทราบต่อไป

เพิ่มเติม: ราวๆ 15:26 น. Facebook กลับมาใช้งานได้ตามปกติ