ในกลุ่มกล้อง mirrorless นั้นซัมซุงบุกตลาดนี้มาตั้งแต่ปีที่แล้วด้วย NX100 แต่ดูไม่ได้รับความนิยมนัก แต่ซัมซุงก็ยังบุกตลาดนี้ต่อด้วย NX200 ที่เป็นการอัพเกรดตามรอบปี

NX200 ถูกออกแบบใหม่ให้มีรูปร่างดูเป็นมืออาชีพขึ้น สีดำทั้งตัวและที่จับที่กระชับขึ้น เซ็นเซอร์รุ่นใหม่ที่ให้ความละเอียดภาพถึง 20.3 ล้านพิกเซล โดยตัวเซ็นเซอร์เป็นขนาด APS-C เช่นเดียวกับ Sony NEX สามารถปรับความไวแสงได้ตั้งแต่ ISO 100 ถึง 12,800 จุดขายสำคัญคือมันรองรับการถ่ายวิดีโอที่ 1080P แล้วและมีไมโครโฟนแบบสเตอริโอมาในตัว น่าเสียดายที่ไม่มีช่องต่อไมค์ภายนอกมาให้ ที่สำคัญคือจอภาพขนาด 3 นิ้วเป็นจอ AMOLED แต่ความละเอียดกลับเหลือเพียง 640x480

สงครามกล้องกลุ่ม EVIL ยังคงอยู่ระหว่างค่ายโซนี่และ Micro4/3 ที่ร่วมมือกันระหว่างโอลิมปัสและพานาโซนิค วันนี้พานาโซนิคก็ออกกล้องในสายนี้ตัวใหม่คือ Lumix GF3 ออกมาแล้ว โดยมีจุดเด่นคือน้ำหนักที่เบาลงเหลือ 222 กรัม ทางพานาโซนิคยืนยันว่า GF3 คือกล้องที่เบาที่สุดในสายนี้ที่มีแฟลชในตัว

กล้อง NEX เป็นหนึ่งในความสำเร็จของโซนี่ในช่วงปีที่ผ่านมา ด้วยการตัดสินใจทำกล้องในตระกูลไม่มีกระจกสะท้อนภาพ (mirrorless) ที่มีเซ็นเซอร์ขนาดใหญ่เท่า APS-C แต่ลดขนาดกล้องจนเล็กทำให้มันได้รับความนิยมจากกลุ่มผู้ใช้ทั่วไปที่ต้องการภาพคุณภาพสูงแต่ไม่ต้องการแบกน้ำหนัก และ NEX-C3 ซึ่งเป็นรุ่นต่อจาก NEX-3

จุดที่เปลี่ยนแปลงสำคัญคือ NEX-C3 จะมีน้ำหนักเบาลง 6%, อายุแบตเตอรี่นานขึ้น 20%, และที่สำคัญคือปรับชื่อค่าต่างๆ ให้เป็นมิตรกับผู้ใช้มากขึ้นเช่น "background defocus" มาแทน "aperture" ทำให้ผู้ใช้เข้าใจว่าการปรับรูรับแสงคือการปรับระดับความเบลอของวัตถุนอกระยะโฟกัส หรือ "brightness" มาแทน "exposure" ซึ่งก็ตรงไปตรงมาว่าการปรับเวลาชัตเตอร์คือการปรับความสว่างภาพ

กล้อง EVIL ในตระกูล NEX ของโซนี่นั้นประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก แต่ด้วยเลนส์น้อยรุ่นทำให้ข้อจำกัดของ NEX ยังเป็นจุดให้คนใช้งานต้องคิดกันมากสักหน่อย แต่ล่าสุดโซนี่ก็ประกาศว่าบริษัทเตรียมจะเปิดสเปค "พื้นฐาน" ของเมาน์ E ให้ผู้ผลิตรายอื่นๆ เข้าใช้งานได้

ไม่มีรายละเอียดอื่นๆ ว่า "พื้นฐาน" ที่ว่านี้หมายถึงข้อมูลส่วนใดบ้าง แต่เราเดาได้ว่าโซนี่น่าจะเก็บบางฟีเจอร์ไว้สำหรับเลนส์ของโซนี่เท่านั้น ที่แน่ๆ อาจจะต้องลุ้นให้มีโปรโตคอลออโตโฟกัสและการปรับรูรับแสงเข้ามาด้วย

ที่มา - DPReview

UPDATE: ที่จริงแล้วกล้องตัวใหม่นี้เป็นการดัดแปลงของผู้ใช้เอง โดยใส่เมาน์เข้าไปในกล้อง (ดูความเห็นของคุณ agent5 และกระทู้ฟอรั่ม xitek.com)

ผู้ผลิตเลนส์อิสระอย่าง SIGMA นั้นมีกล้องเป็นของตัวเองมานาน แม้จะไม่ได้รับความนิยมนัก แต่กระแสกล้อง EVIL ช่วงหลังๆ ก็ทำให้ช่างภาพกล้ามไม่โตอย่างเราๆ พร้อมจะเปลี่ยนค่ายกันได้ง่ายขึ้น ดังนั้นมันอาจะเป็นโอกาสใหม่ให้กับแบรนด์รองๆ อย่าง SIGMA ได้