Facebook เป็นบริษัทขนาดใหญ่ที่มีพนักงานจำนวนมากต้องใช้ Adobe Creative Cloud โดยซื้อไลเซนส์แบบองค์กร เมื่อมีพนักงานต้องใช้แอพใดสักตัวในชุด Creative Cloud ทีมไอทีของ Facebook ต้องสร้างแพ็กเกจสำหรับติดตั้งด้วยเครื่องมือของ Adobe ที่มีความยุ่งยาก ซับซ้อน และต้องทำแพ็กเกจใหม่ทุกครั้งเมื่อแอพมีอัพเดต

Adobe ประกาศนำแอพสายกราฟิกหลายตัวลง Chrome OS โดยเป็นแอพเวอร์ชันมือถือที่มีอยู่แล้วบน Android (ข่าวเก่า 1, ข่าวเก่า 2) และอาศัยประโยชน์จากฟีเจอร์การรันแอพ Android บน Chrome OS ช่วยให้พอร์ตแอพมาง่ายขึ้น

Adobe บอกว่าแอพเหล่านี้จะถูกปรับแต่งมาให้ทำงานกับจอใหญ่และอินเทอร์เฟซที่เป็นเมาส์-คีย์บอร์ดของ Chrome OS มากขึ้นด้วย เช่น ใช้ปุ่ม Escape แทนปุ่ม Back ได้, รองรับการใช้ปุ่มลัดบนคีย์บอร์ด, แอพสามารถเข้าถึงกล้องหน้าของ Chromebook ได้

แอพที่เปิดตัวมีทั้งหมด 6 ตัวดังนี้

Adobe ประกาศจะเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม (GST - Goods and Service Tax) จากค่าสมาชิก Creative Cloud ในออสเตรเลียตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคมเป็นต้นไป

รัฐบาลออสเตรเลียพยายามจะเก็บภาษีจากการซื้อสินค้าดิจิทัลที่ชาวออสเตรเลียซื้อ (ไม่ว่าจะซื้อที่ไหน) มาซักพักแล้ว แต่ทว่าบริษัทเทคโนโลยีพยายามแย้งว่า การซื้อขายไม่ได้เกิดขึ้นในออสเตรเลีย เพียงเกิดการใช้งานผลิตภัณฑ์เพียงแค่เกิดขึ้นบนแผ่นดินออสเตรเลียเท่านั้น ซึ่งรัฐบาลมองว่าฟังไม่ขึ้น ก่อนจะยกเลิกการละเว้นภาษีดังกล่าว

ที่มา - The Register

Adobe เปิดตัวฟีเจอร์ Team Projects เวอร์ชันเบต้า ซึ่งเป็นบริการบน Creative Cloud ที่รองรับการแก้ไขไฟล์บน Premiere Pro, After Effects และ Prelude ได้หลายคนในเวลาเดียวกัน โดยเปิดให้ทดลองใช้แล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

Team Projects ถูกออกแบบมาโดยป้องกันการทำงานทับซ้อนกัน ด้วยการโคลนไฟล์หรือโปรเจ็คขึ้นมาให้ผู้ใช้คนหนึ่งๆ แก้ไขบนเครื่องของตัวเอง (แบบ sandbox) ก่อนจะตรวจหาว่างานที่แก้แล้วนั้นไม่มีการทับซ้อนหรือ conflict กับคนอื่นที่กำลังแก้ไขงานเดียวกัน และอัพโหลดไฟล์หรือโปรเจ็คที่ถูกแก้ไข ให้เป็นไฟล์เวอร์ชันล่าสุด ซึ่งการเปลี่ยนแปลงนี้จะถูกบันทึกไว้เป็น history และสามารถย้อนกลับไปดูการแก้ไขได้ด้วย ขณะที่ source ของไฟล์ต่างๆ ที่ถูกใช้บน Team Projects ก็สามารถแชร์ให้กับคนในทีมได้

Adobe ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ใน Adobe Cloud Platform ในชื่อว่า Adobe Sensei โดยจะใช้ machine learning เข้ามาช่วยในการปรับปรุงผลิตภัณฑ์ของ Adobe โดยจะนำความสามารถสองอย่าง รวมเข้ากับเทคโนโลยีล่าสุดใน AI ได้แก่

• ข้อมูลและคอนเทนต์จำนวนมาก: ใช้ข้อมูลแบบไม่ระบุตัวตนป้อนให้ AI เรียนรู้
• เข้าใจการทำงานมากขึ้น: ใช้ AI ในการเรียนรู้ลักษณะงานของผู้ใช้ เช่น เข้าใจรูปภาพและจัดหมวดหมู่ได้, ระบุฟอนต์ได้ ฯลฯ

สำหรับแพลตฟอร์มคลาวด์ต่าง ๆ ของ Adobe นั้นได้ใช้ Sensei เข้ามาช่วยในการจัดการในฟีเจอร์หลายอย่าง ตั้งแต่คอนเทนต์ไปจนถึงข้อมูล โดยใช้ความฉลาดของ AI ในการช่วยจัดการ เช่น

Creative Cloud

Adobe รายงานผลการดำเนินงานประจำไตรมาสที่ 3 ตามปีการเงินบริษัท 2016 (มิถุนายน-สิงหาคม) มีรายได้รวมทำสถิติใหม่อีกครั้งที่ 1,464 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 20% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อนหน้า และมีกำไรสุทธิ 270.8 ล้านดอลลาร์

Creative Cloud ยังเป็นธุรกิจที่เติบโตอย่างแข็งแกร่ง และเป็นรายได้หลักของ Adobe ไตรมาสที่ผ่านมามียอดขายส่วนนี้ถึง 803 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 39%

Shantanu Narayan ซีอีโอ Adobe กล่าวว่าผลการดำเนินงานที่ออกมานั้น แสดงความแข็งแกร่งทั้งรายได้และกำไรของ Adobe ซึ่งช่วยให้บริษัทไปได้ไกลมากกว่าคู่แข่งขึ้นเรื่อยๆ รวมทั้งคาดว่าไตรมาสถัดไปผลการดำเนินงานก็จะยอดเยี่ยมกว่านี้อีก

ที่มา: Adobe และ Tech Trader Daily

การนำภาพที่เอียงมาปรับแต่งบน Photoshop เพื่อหวังให้มันตรงและมีองค์ประกอบของภาพที่ยังสมบูรณ์อยู่ ปัญหาอย่างหนึ่งคือ เมื่อเราครอปภาพแบบนี้จะทำให้องค์ประกอบบริเวณขอบข้างของภาพหายไปเนื่องจากต้องมีการเอียงภาพเกิดขึ้น ทำให้ล่าสุด Adobe Photoshop CC เตรียมออกฟีเจอร์ปรับแต่งส่วนที่หายไปเพิ่มเติมในอัพเดตเวอร์ชั่นหน้า

Adobe ได้ออกอัพเดตแอพ Capture CC ซึ่งเป็นแอพกล้องพร้อมเครื่องมือตกแต่ง เป็นเวอร์ชัน 2.0 โดยรอบนี้มีฟีเจอร์ที่สำคัญคือ Pattern

ฟีเจอร์ Pattern นี้ Adobe กล่าวว่าให้ผู้ใช้สามารถใส่แพทเทิร์นที่ Adobe ทำไว้ให้แล้วในภาพใดก็ได้และทำให้เป็น organic หรือ geometric pattern ที่สามารถใช้เพื่อทำงานต่อใน Photoshop ได้ทันที

นอกจากนี้ Adobe ยังได้อัพเดตความปลอดภัยและแก้บั๊กอีกหลายรายการ โดย Capture CC 2.0 มีให้ดาวน์โหลดแล้วทั้งบน App Store และ Google Play

Adobe ได้ประกาศเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ให้แอพหลายตัวในตระกูล Creative Cloud โดยรอบนี้เน้นฟีเจอร์ด้านการตัดต่อวิดีโอ

ฟีเจอร์ที่สำคัญของการอัพเดตรอบนี้คือ Premier Pro CC จะรองรับ virtual reality รวมถึงโหมด field of view สำหรับสื่อที่มาเป็นวงกลม, Adobe Stock จะเพิ่มการเชื่อมต่อกับแอพ Creative Cloud ให้มากขึ้น และ workflow แบบใหม่จะทำให้ Bridge และ Lightroom เลือกและใช้งาน asset ของ Adobe Stock จากตัวแอพได้เลย

ส่วนฟีเจอร์อื่นๆ เช่น

บริษัทแบ็คอัพ Backblaze รายงานบั๊กของ Adobe Creative Cloud อัพเดตล่าสุด 3.5.0.206 บนแมค หลังจากผู้ใช้ล็อกอินเข้าระบบแล้ว สคริปต์ของ Adobe จะลบไดเรคทอรีแรก (เรียงตามตัวอักษร) ในไดเรคทอรี root ของระบบทิ้ง

กรณีของ Backblaze มีไดเรคทอรีชื่อ .bzvol เป็นไดเรคทอรีซ่อนสำหรับเก็บข้อมูลแบ็คอัพของผู้ใช้ ซึ่งมักเป็นไดเรคทอรีลำดับแรก และโดนลบข้อมูลไปด้วย ส่วนผู้ที่ไม่ได้ใช้ Backblaze มักมีไดเรคทอรี .DocumentRevisions-V100 ที่เก็บข้อมูล autosave และ version history ของระบบแทน

Adobe รับทราบปัญหานี้และหยุดอัพเดตแพตช์ตัวนี้ไปก่อน ทางแก้แบบชั่วคราวสำหรับคนที่อยากใช้ Creative Cloud ตอนนี้คือสร้างไดเรคทอรีหลอกขึ้นต้นด้วย .a เพื่อให้โดนลบแทนครับ

Adobe Portfolio ได้เปิดตัวไปเมื่องาน Adobe Max ที่ผ่านมา ซึ่งวันนี้ Adobe ก็ได้เปิดให้ใช้งาน Portfolio อย่างเป็นทางการ

Portfolio ให้ศิลปินสามารถสร้างเว็บไซต์โชว์ผลงานได้ โดย Adobe บอกว่า Portfolio จะมีความยืดหยุ่น สามารถปรับแต่งได้ตามสไตล์ที่แตกต่างกันของศิลปิน รวมทั้งมีฟีเจอร์อย่าง URL ที่ปรับแต่งเองได้, ฟอนต์แบบ Typekit, หน้าเว็บบางหน้าสามารถล็อกรหัสได้ รวมถึงรองรับ responsive จึงสามารถแสดงผลได้ดีบนหน้าจอทุกแบบ

เมื่อปีก่อน Adobe เปิดตัว Lightrom Mobile แอพจัดการภาพถ่ายซึ่งมีจุดเด่นตรงที่สามารถเชื่อมต่อกับโปรแกรมฝั่งเดสก์ท็อปได้ แต่คนใช้ Lightroom กลับฝันสลายเมื่อการจะใช้งานแอพนี้จะต้องจ่ายค่าบริการรายเดือนอยู่อย่างน้อย 9.99 เหรียญ ล่าสุด Adobe ยอมกลับลำสำหรับฝั่ง Android แล้วหลังจากยอมให้ iOS ใช้ฟรีได้ตั้งแต่เดือนตุลาคม

โดยในอัพเดตล่าสุดของแอพ Android เวอร์ชัน 1.4 ทาง Adobe ได้ประกาศว่าผู้ใช้ Lightroom Mobile จะสามารถใช้งานร่วมกับพีซีได้โดยไม่มีค่าบริการเพิ่มเติมแล้ว รองรับฟีเจอร์พื้นฐานทั้งการจัดการภาพถ่าย แต่งภาพ และแชร์ภาพ ซึ่งถ้าหากล็อกอินใช้งาน Creative Cloud (ทั้งเสียเงิน และใช้ฟรีชั่วคราว) จะได้ฟีเจอร์ซิงก์ไฟล์เพิ่มเข้ามาด้วย

ทีเด็ดอีกอย่างที่ Adobe เปิดตัวในงาน Adobe MAX 2015 เมื่อเดือนตุลาคม คือแอพตัวใหม่ชื่อ Adobe Fuse CC

Fuse CC มาจากการซื้อบริษัท Mixamo เมื่อเดือนมิถุนายน แนวคิดของมันคือการสร้างโมเดล 3 มิติ ที่สามารถปรับแต่งใบหน้าหรือเสื้อผ้า ได้ง่ายๆ จากเทมเพลตที่เตรียมไว้ให้ (คล้ายกับการสร้างตัวละครในเกม RPG ยุคนี้) จากนั้นนำมาดัดท่าทาง ปรับแสงสว่างและมุมกล้อง เพื่อใช้เป็นโมเดลต้นแบบสำหรับงานอื่นๆ (เช่น ทำภาพกราฟิกประกอบโฆษณาใน Photoshop) ได้ทันที โดยไม่ต้องใช้โปรแกรมพวกปั้นโมเดล 3 มิติเลย

Fuse CC เปิดให้ทดสอบรุ่นพรีวิวแล้ว ตอนนี้สามารถใช้งานได้ฟรี เพียงแค่มี Adobe ID โดยไม่ต้องสมัคร Creative Cloud แต่อย่างใด

Adobe เปิดให้สมาชิก Creative Cloud ดาวน์โหลด Photoshop CC 2015 ที่เปิดตัวในงาน Adobe MAX เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา

ของใหม่ใน Photoshop CC 2015 (November Update) มีหลายอย่าง ที่สำคัญคือ "Design Space" หรือ UI แบบใหม่ที่ผู้ใช้สามารถนำงานและไฟล์ต่างๆ ในโครงการมาวางเรียงกันเพื่อจัดระเบียบได้ง่าย, การปรับแต่งปุ่มบนทูลบาร์ (เพิ่งมี!), ปรับ UI ให้รองรับหน้าจอสัมผัสอย่างเต็มที่ ทดสอบกับ Surface Pro เรียบร้อยแล้ว, สามารถปักหมุดฟอนต์ที่ใช้บ่อยเป็น favorite และรองรับการนำเข้าไฟล์ SVG ได้โดยตรง

ที่มา - Photoshop Blog

ชาว Android อาจน้อยใจค่าย Adobe ที่ออกแอพให้น้อยเหลือเกิน แต่ดูเหมือนว่าบริษัทจะยังไม่ลืมเลือนกัน (แม้จะช้าไปเยอะ) แอพล่าสุดที่ออกบน Android คือแอพตัดต่อวิดีโอ Premier Clip (Play Store) สำหรับงานตัดต่อวิดีโอแบบง่ายๆ บนอุปกรณ์พกพา ที่สามารถนำไปทำงานต่อบน Premier Pro ได้ด้วย

ฟีเจอร์ของ Adobe Premier Clip มีทั้งการสร้างวิดีโออัตโนมัติจากภาพนิ่งและเพลงที่เลือก, ตัดต่อคลิป, ปรับแสง, สโลว์โมชัน, ซิงก์กับเพลง, ปรับระดับเสียงอัตโนมัติ, ใส่เอฟเฟคต์ต่างๆ รวมถึงเชื่อมต่อกับ Adobe Capture CC และ Adobe Creative Sync

Adobe เตรียมปิดบริการ Revel ในวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2016 โดยแนะนำให้ผู้ใช้ย้ายข้อมูลที่อยู่ในบริการ Revel ไปยัง Creative Cloud Photography Plan

บริการ Revel ของ Adobe (หรือชื่อเดิมตอนเปิดตัวคือ Carousel) เป็นบริการสำหรับอัพรูปถ่ายขึ้นไปเก็บไว้บนกลุ่มเมฆของ Adobe เพื่อดูบนอุปกรณ์อื่นๆ โดยเหตุผลที่ Adobe ตัดสินใจปิดบริการ Revel เนื่องจาก Lightroom ก็มีบริการลักษณะเดียวกันโดยมีพื้นฐานจากเทคโนโลยีของ Revel และ Adobe จะนำทรัพยากรส่วนนี้ไปพัฒนา Lightroom และ Creative Cloud Photography Plan ได้เต็มที่

ที่มา - MacWorld

หลายปีผ่านมาแล้วที่ iPad เกิดมาเพื่อเปิดตลาดแท็บเล็ตอีกครั้ง ช่วงแรกอุปกรณ์ตระกูลนี้ทำได้เพียงเข้าเว็บ เล่นเกม ทำงานพื้นฐาน แต่หลังจากนั้นประสิทธิภาพของอุปกรณ์ตระกูลนี้ก็สูงขึ้นเรื่อยๆ จนสามารถทำงานหนักได้ในระดับหนึ่ง ช่วงหลังจึงเห็นซอฟต์แวร์ที่ใช้สำหรับการจดโน้ตหรือเติมเต็มการทำงานมาลงบนแท็บเล็ตมากขึ้น

ปัจจุบัน แท็บเล็ตมีประสิทธิภาพสูงขึ้นมาก แต่ซอฟต์แวร์ที่จะทำงานสร้างสรรค์ได้ระดับต้นจนจบบนแท็บเล็ตยังน้อย เพราะแอพส่วนใหญ่ แม้กระทั่งแอพของ Adobe ก่อนหน้านี้ยังคงทำงานเป็นส่วนเติมเต็มเท่านั้น แต่ตอนนี้ Adobe กำลังบุกตลาดงานสร้างสรรค์บนแท็บเล็ตเต็มตัวด้วย Creative Cloud ซึ่งจะทำให้การทำงานระหว่างแอพบนอุปกรณ์พกพาและคอมพิวเตอร์เชื่อมต่อกันเพื่อความสะดวกยิ่งขึ้น

ตอนนี้กำลังมีโปรโมชั่นลดราคาค่าเข้าใช้แอพตระกูล Adobe Creative Cloud ได้พื้นที่คลาวด์ 20GB และได้เว็บพอร์ตโฟลิโอสำเร็จรูป เหลือเพียงเดือนละ 480 บาท (เฉพาะปีแรก, เฉพาะนักเรียนและครู) ซึ่งราคาน่าสนใจมากเมื่อเทียบกับแพคเกจ Photography ที่ใช้งานได้แค่บางแอพในราคาเดือนละ 300 บาท

ส่วนราคาของผู้ใช้ปกติตอนนี้จะเป็นราคาเดือนละ 1,200 บาท (ลดลง 20%) ซึ่งโปรโมชั่นทั้งหมดนี้จะสิ้นสุดในวันที่ 27 พ.ย. นี้แล้ว

รายละเอียดน่าสนใจของการเคลมสิทธิ์ครูและนักเรียนคือ ต้องมีเอกสารรับเงินจากสถาบันการศึกษา (ดังนั้นถ้าสอนพิเศษก็คงต้องมีหัวบิล) ถ้าเป็นนักเรียนก็ต้องใช้อีเมลของสถาบัน และเตรียมเอกสารบางอย่างเพิ่มเติมครับ

Adobe เปิดตัวแอพแต่งภาพรุ่นใหม่ Photoshop Fix (หรือชื่อเดิม Project Rigel) พร้อม iPad Pro ของแอปเปิลแล้ว

Photoshop Fix เป็นแอพรุ่นใหม่ในชุด Creative Cloud mobile ที่เน้นการทำงานร่วมกันของแอพต่างๆ ในชุด บทเวทีงานเปิดตัว iPad Pro ผู้บริหารของ Adobe ได้สาธิตการใช้แอพ 3 ตัวคือ Adobe Comp จัดเลย์เอาต์, ร่างภาพด้วย Photoshop Sketch และ รีทัชภาพด้วย Photoshop Fix ส่วนไฟล์ทั้งหมดถูกบันทึกบนบริการ Creative Cloud เพื่อให้ workflow ต่อเนื่องกันหมด

Adobe รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 2 ของปีการเงินบริษัท 2015 (มีนาคม-พฤษภาคม) โดยมีรายได้ 1,162 ล้านดอลลาร์ เป็นสถิติสูงสุดของบริษัทภายในไตรมาสเดียว ส่วนกำไรสุทธิอยู่ที่ 147.5 ล้านดอลลาร์ ขณะที่จำนวนผู้สมัครใช้ Creative Cloud ก็มีสูงถึง 4.61 ล้านคน เพิ่มขึ้นประมาณ 639,000 คน

ซีอีโอ Shantanu Narayen กล่าวว่ากลยุทธ์ของบริษัทที่มุ่งเน้นไปที่ผลิตภัณฑ์ Creative Cloud สะท้อนผลสำเร็จออกมาได้ชัดเจน รวมถึงธุรกิจอื่นที่สนับสนุนกันอย่าง Document Cloud, Marketing Cloud และล่าสุด Adobe Stock ที่เพิ่งเปิดตัวไป

Adobe ยังคงเป้าหมายมีผู้สมัครใช้ Creative Cloud จำนวน 6 ล้านคนภายในสิ้นปีนี้

Adobe ปล่อยอัพเดต Adobe CC ครบชุด เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ๆ เช่น Dehaze ลบหมอกควันออกจากภาพ, Morph Cut ใน Premier Pro CC ตัดต่อการสัมภาษณ์เชื่อมการตอบคำถามหลายๆ ชุดเข้าด้วยกัน, Character Animator ใน After Effect ทำอนิเมชั่นหน้าตาได้ง่ายๆ ด้วยการจับภาพหน้าคนแสดงจากเว็บแคม

บริการใหม่ที่เปิดตัวพร้อมๆ กับอัพเดตครั้งนี้คือ Adobe Stock บริการภาพถ่าย ที่ Adobe ไปซื้อมาจากบริษัท Fotolia ขายภาพราคาเดียวคือ 9.99 ดอลลาร์ต่อภาพ ลูกค้า Creative Cloud หากสมัครรายเดือนเดือนละ 29.99 ดอลลาร์จะใช้ ภาพได้สิบภาพต่อเดือน หากไม่ได้ใช้จะสะสมเครดิตได้รวมไม่เกิน 120 ภาพ ลูกค้าทั่วไปเดือนละ 49.99 ดอลลาร์

หลังจากมีข่าวลือและเลื่อนมาหลายรอบ วันนี้ Adobe ได้ฤกษ์เปิดตัว โปรแกรมตกแต่งภาพนิ่งสำหรับช่างภาพ Adobe Photoshop Lightroom เวอร์ชัน 6 (รุ่นขายขาด) และอัพเดต Adobe Photoshop Lightroom CC (รุ่นเช่ารายเดือน) โดยทั้งสองเวอร์ชันมีความสามารถเท่าเทียมกัน

โดยสิ่งที่ปรับปรุงขึ้นจากเวอร์ชั่น 5 ได้แก่

ช่วงหลัง Adobe หันมาทำแอพลงอุปกรณ์พกพาชุดใหญ่ แต่แอพส่วนใหญ่ยังจำกัดเฉพาะบนแพลตฟอร์ม iOS ทำให้ชาว Android มีคำถามว่าตกลงแล้วจะได้ใช้แอพเท่าเทียมกันหรือไม่

วันนี้ Adobe ออกมาแถลงแล้วว่าไม่ลืม Android แน่นอน ตอนนี้กำลังทุ่มพัฒนาแอพบางตัวบนมือถือ Android อยู่ คาดว่าเราจะเริ่มเห็นแอพเหล่านี้ออกสู่ตลาดในช่วงฤดูร้อน (ช่วงกลางปี) ของปี 2015 นี้ นอกจากนี้ Adobe ยังจะออก Creative SDK เวอร์ชัน Android ให้นักพัฒนาแอพอื่นๆ เข้าถึง API ของ Creative Cloud ด้วย

Adobe ไม่ได้ระบุชื่อว่ากำลังสร้างแอพตัวใดอยู่บ้าง และไม่ได้กล่าวถึงแท็บเล็ต Android ครับ

ที่มา - Adobe Creative Cloud

Adobe เปิดตัวแอพใหม่ Comp CC บน iPad

Comp CC ถูกสร้างขึ้นเป็นแอพให้ดีไซเนอร์ (ไม่ว่าจะทำแอพ เว็บ หรืองานออกแบบกระดาษ) วาด "ต้นแบบ" ของงานดีไซน์ได้เร็วขึ้น จากนั้นสามารถส่งงานต้นแบบเหล่านี้เข้าไปแก้ไขใน Photoshop, InDesign, Illustrator ต่อได้เลย

จุดเด่นของ Comp CC คือระบบ gesture ที่ช่วยให้เราวาดวัตถุต่างๆ ได้รวดเร็วมาก เช่น ลากขีดสองขีดแทนการวางข้อความตัวอย่าง lorem ipsum (ดูวิดีโอประกอบ)

โปรแกรมแต่งภาพ Photoshop เพิ่งมีอายุครบ 25 ปี ไปเมื่อเร็วๆ นี้ ทางเว็บไซต์ VentureBeat ก็มีบทสัมภาษณ์ Stephen Nielson ผู้บริหารของ Adobe ว่าอนาคตของ Photoshop จะเป็นอย่างไรต่อไปครับ