Cisco ออกรายงาน Cisco Global Cloud Index ประเมินสถานการณ์ของ "ข้อมูล" ที่ศูนย์ข้อมูลทั่วโลกระหว่างปี 2011-2016
ตัวเลขของ Cisco ระบุว่า "ปริมาณ" ข้อมูลในศูนย์ข้อมูลจะเพิ่มขึ้นจากปัจจุบันอีกเกือบ 4 เท่าตัว จาก 2.6ZB (1 ZB = 1 พันล้าน TB) ในปี 2012 เป็น 6.6ZB ในปี 2016 (อัตราเติบโตปีละ 31%)
ที่น่าสนใจคือ "ประเภท" ของข้อมูลในศูนย์ข้อมูลหนึ่งแห่ง ถูกส่งออกไปนอกศูนย์ข้อมูลเพียง 24% เท่านั้น โดย 76% ของข้อมูลทั้งหมดจะวิ่งวนอยู่ภายในศูนย์ข้อมูลเอง (ข้ามระหว่างเซิร์ฟเวอร์กัน) ส่วนตัวเลข 24% ก็ยังแบ่งเป็น 7% เป็นการส่งข้อมูลระหว่างศูนย์ข้อมูลคนละแห่ง (เช่น replication) เหลือเพียง 17% ที่ส่งข้อมูลไปยังผู้ใช้ที่ปลายทางจริงๆ
ปัญหาเอกสารหลุดเป็นปัญหาที่บริษัทขนาดใหญ่เจอกันเรื่อยมา บริษัทอย่างซิสโก้ก็เจอปัญหาเดียวกันเมื่อมีเอกสารภายในระบุการอัพเกรดเครือข่ายของ California State University (CSU) แล้วพบว่าราคาที่ซิสโก้สเสนอสูงถึง 122 ล้านดอลลาร์ เทียบกับคู่แข่งอย่าง Alcatel-Lucent ที่เสนอราคาเพียง 22 ล้านดอลลาร์ทำให้ชนะโครงการไป ข่าวนี้สร้างความไม่พอใจกับผู้บริหารของซิสโก้ค่อนข้างมาก มีการส่งจดหมายเวียนภายในเพื่ออธิบาย และระบุว่ากระบวนการพิจารณาน่าจะไม่ได้คำนวณมูลค่ารวมทั้งหมด (Total Cost of Ownership - TCO)
John Chamber ซีอีโอของ Cisco ไปพูดที่งาน Gartner Symposium เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เขาพยากรณ์ว่ายักษ์ใหญ่ของโลกไอทีองค์กร 6 รายคือ Cisco, Microsoft, IBM, HP, Oracle, SAP จะมีบางรายที่ประสบภาวะแข่งขันไม่ไหวในอีก 5 ปีข้างหน้า และเหลือเพียง 3-4 รายที่ยังอยู่ในระดับแนวหน้าต่อไป
Chamber อธิบายว่าธุรกิจเปลี่ยนแปลงรวดเร็วมากและยักษ์ใหญ่บางรายจะปรับตัวไม่ทัน โดยเขาเสนอว่าบริษัทที่จะอยู่รอดได้ต้องมีโซลูชันครบครัน ทั้งฮาร์ดแวร์ ชิป และซอฟต์แวร์ แล้วประสานงานส่วนประกอบเหล่านี้ด้วยกันเป็นแพ็กเกจ
บทสัมภาษณ์นี้ถือเป็นหนึ่งในซีรีส์การสัมภาษณ์ผู้บริหารบริษัทไอทีในประเทศไทย คราวนี้เป็นบริษัทเครือข่ายอย่าง Cisco ที่กำลังเริ่มผันตัวเองไปทำธุรกิจด้านอื่นๆ เช่น ศูนย์ข้อมูล เซิร์ฟเวอร์ กลุ่มเมฆ และวิดีโอ คนที่พูดเรื่องนี้ได้ดีที่สุดคือไม่มีใครอื่นนอกจาก ดร.ธัชพล โปษยานนท์ กรรมการผู้จัดการประจำประเทศไทยของ Cisco
ดร.ธัชพล มีประสบการณ์ด้านไอทีองค์กรมานาน เคยทำงานมาแล้วทั้งกับ EMC, Microsoft, Sun และ DEC นอกจากนี้ยังเป็นอาจารย์พิเศษให้มหาวิทยาลัยหลายแห่งด้วย
หลังจากมีข่าวว่าสินค้าเน็ตเวิร์คของซิสโก้มีใช้งานในอิหร่านซึ่งผิดกฎหมายการส่งออกของสหรัฐฯ เพราะอิหร่านอยู่ในรายชื่อประเทศที่ถูกคว่ำบาตรและห้ามขายสินค้าเทคโนโลยีชั้นสูงให้ (ประเทศที่มีรายชื่อเหล่านี้ เช่น พม่า, ลิเบีย, เกาหลีเหนือ) ซิสโก้ก็มีการสอบสวนภายในแล้วพบว่าสินค้าที่ถูกส่งไปยังอิหร่านนั้นไปทาง ZTE บริษัทที่เป็นพันธมิตรทางการขายมานานถึงเจ็ดปี
เมื่อไม่นานมานี้เราเห็นข่าว Cisco เปิดตัวเราเตอร์แบรนด์ Linksys รุ่นใหม่ที่มีฟีเจอร์ Cisco Connect Cloud ซึ่งถือเป็นนวัตกรรมใหม่ของโลก home wireless router พอสมควร
ตอนนี้อุปกรณ์เหล่านี้เริ่มวางขายในไทยแล้ว และทาง Cisco ก็ส่งมาให้ผมลองทดสอบหนึ่งตัวคือ Linksys EA4500 ซึ่งเป็นรุ่นรองท็อปที่สุดในขณะนี้ (รุ่นท็อปสุดคือ Linksys EA6500 ใช้ Wi-Fi 802.11ac ด้วย ไม่รู้จะเอาฝั่งรับที่ไหนมาทดสอบ)
เพื่อเป็นการต้อนรับมหกรรมกีฬาแห่งมนุษยชาติ โอลิมปิก 2012 ที่จะเริ่มขึ้นวันนี้ เว็บไอทีอย่าง Blognone ก็ขอพูดถึง "ระบบไอที" ที่ทำงานอยู่เบื้องหลังงานโอลิมปิกครั้งนี้กันสักหน่อยนะครับ
เรื่องโอลิมปิกกับไอทีรอบนี้มีหลายเว็บเขียนถึง ผมขอยึดเวอร์ชันของ Data Center Knowledge เป็นหลัก
การอัพเกรดเฟิร์มแวร์เราท์เตอร์ให้เปลี่ยนจากเฟิร์มแวร์ปกติไปใช้ Cloud Connect สัปดาห์ก่อนสร้างความไม่พอใจให้กับลูกค้าซิสโก้จำนวนมาก
ซิสโก้ระบุว่ากระบวนการอัพเกรดจะดำเนินการกับลูกค้าที่เลือกการอัพเกรดเฟิร์มแวร์อัตโนมัติเท่านั้น อย่างไรก็ดีซิสโก้ยังคงขอโทษลูกค้าสำหรับการอัพเกรดครั้งนี้ และกำลังทำตัวอัพเกรดใหม่ที่ชัดเจนกว่าเดิม
เรื่องสำคัญกว่าคือ Cloud Connect นั้นส่งข้อมูลกลับไปยังซิสโก้มากกว่าเฟิร์มแวร์เราท์เตอร์ปกติ ซิสโก้ระบุว่าข้อมูลเหล่านี้จะถูกใช้งานเพื่อการซัพพอร์ตลูกค้าเท่านั้น จะและไม่มีการใช้งานเพื่อจุดประสงค์อื่นหรือส่งต่อข้อมูลให้หน่วยงานอื่น
ซิสโก้เปิดบริการ Cloud Connect ให้กับเราท์เตอร์ไปเมื่อวันก่อน วันนี้ก็เริ่มมีเสียงบ่นจากผู้ใช้ ที่รายงานว่า เราท์เตอร์รุ่น EA4500 ที่วางขายมาก่อนหน้านี้อัพเกรดเฟิร์มแวร์ตัวเอง ทำให้ผู้ใช้ไม่สามารถจัดการเราท์เตอร์ได้หากไม่ทสมัครใช้งาน Cloud Connect
ที่แย่กว่านั้นคือบริการ Cloud Connect นั้นเป็นการส่งประวัติการใช้งานอินเทอร์เน็ตทั้งหมดไปยังซิสโก้ ทำให้ผู้ใช้ไม่สามารถเลือกขอรักษาความเป็นส่วนตัวของตัวเองได้เลย
เราเห็นผู้ผลิตอุปกรณ์สื่อสารหลายเจ้าส่งเราเตอร์ไร้สาย 802.11ac มาทำตลาดกันพอสมควรแล้ว คราวนี้ยักษ์ใหญ่อย่าง Cisco ก็เริ่มขยับตัว โดยส่งเราเตอร์ Linksys EA6500 ซึ่งรองรับทั้ง 802.11n และ 802.11ac (ความเร็วสูงสุดทางทฤษฎี 1300Mbps) มาทำตลาด
EA6500 มีเสาอากาศภายในถึง 6 เสา และมีพอร์ต Gigabit Ethernet มาให้ตามมาตรฐาน 4 พอร์ต ราคาขาย 219.99 ดอลลาร์ วางจำหน่ายเดือนสิงหาคมนี้
แนวการการกำหนดพฤติกรรมเน็ตเวิร์คด้วยซอฟต์แวร์ หรือ Software Defined Network (SDN) ด้วยแพลตฟอร์มเปิด เช่น OpenFlow นั้นกำลังได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ตอนนี้ทางซิสโก้ก็กระโดดลงตลาดนี้แล้ว ในชื่อแพลตฟอร์ม Open Network Environment (ONE)
โดยหลักแล้ว Cisco ONE คือการเปิด API ให้กับ IOS, IOS-XR, และ NX-OS ให้นักพัฒนาสามารถเข้าไปจัดการการทำงานได้ลึกกว่าปกติ โดยชุดพัฒนานั้นมีชื่อว่า ONE platfrom kit หรือ ONEpk รองรับภาษา C, Java, และ Python
นอกจาก API ของตัวเองแล้วซิสโก้ยังสัญญาว่าจะสร้าง OpenFlow agent สำหรับ Catalyst 3750-X และ 3560-X ด้วยแม้จะเป็นเพียงตัวทดสอบเท่านั้นก็ตาม
เบต้าจะออกปลายปีนี้ บริษัทเน็ตเวิร์คอาจจะต้องเตรียมโปรแกรมเมอร์กันจริงๆ ก็งานนี้
ถ้ายังจำกันได้ ยักษ์สื่อสาร Cisco มีแท็บเล็ตสำหรับตลาดองค์กรชื่อ Cius (ข่าวเก่า) แนวคิดของ Cisco วางแผนให้มันเป็นแท็บเล็ตที่องค์กรสั่งซื้อให้ผู้บริหารและพนักงานใช้ โดยผนวกเอาซอฟต์แวร์สื่อสารในองค์กรอย่าง WebEx หรือ TelePresence มาให้ในตัว
The Verge รายงานบทสัมภาษณ์ที่นักข่าวของ The Wall Street Journal ได้พูดคุยกับ John Chambers CEO ของ Cisco System Inc. บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านอุปกรณ์เครือข่าย ในประเด็นที่เกี่ยวกับ Huawei Technologies Co. บริษัทคู่แข่งจากจีน Chambers ให้ความเห็นว่า "คู่แข่งไม่ค่อยเล่นตามกฎ" โดยเฉพาะเรื่องความคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาและเรื่องระบบความปลอดภัยคอมพิวเตอร์ และยังบอกอีกว่าพวกลูกค้าทั้งภาครัฐและเอกชนรู้ดีว่า "ใครที่เชื่อถือได้และใครชอบสร้างปัญหา"
พร้อมๆ กับที่อินเทลเปิดตัว Xeon รุ่นใหม่ E5-2600 บริษัทผู้ผลิตฮาร์ดแวร์เซิร์ฟเวอร์ทั่วโลกก็ทยอยเปิดตัวเซิร์ฟเวอร์รุ่นใหม่ที่ใช้ Xeon ตัวนี้
Cisco ปรับปรุงการสอบ CCNA และ CCNP รวมทั้งใบรับรองด้านความปลอดภัย เพื่อให้มีความทันสมัยและรองรับอุปกรณ์ด้านความปลอดภัยใหม่ๆ การปรับปรุงด้านการสอบครั้งนี้ล้วนเกิดขึ้นตามแนวโน้มของโลกอินเทอร์เน็ตที่มีความนิยมในการใช้อุปกรณ์พกพา และการประมวลผลบนกลุ่มเมฆที่มากขึ้น
แฮกเกอร์พบช่องโหว่ในเว็บไซต์ Ask.com, AOL.com, Cisco.com และ Intel.com โดยทั้งสี่เว็บเป็นช่องโหว่ Cross-site scripting (XSS) ที่มุ่งโจมตีไปในการดักจับและแก้ไข cookie ของผู้ใช้งาน ทำให้สามารถเข้าถึงบัญชีผู้ใช้รวมไปถึงข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้งานได้
Cisco รายงานผลประกอบการไตรมาสที่สองสิ้นสุดเดือนมกราคม ตามปีปฏิทินการเงินของบริษัท กำไรสุทธิ 2.2 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นถึง 43.5% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อน โดยมาจากรายได้รวม 1.15 หมื่นล้านดอลลาร์ ตัวเลขที่ออกมาดีกว่าการที่นักวิเคราะห์คาดไว้
ความพยายามบุกเข้าบ้านจากซิสโก้ดูจะไปได้ไม่สวยนัก เมื่อสินค้าสำหรับผู้ใช้ทั่วไปอย่าง Flip ถูกหยุดสายการผลิตไปก่อนหน้านี้ และตอนนี้ก็มาถึง Umi ระบบโทรทัศน์สำหรับการพูดคุยออนไลน์
ปัญหาของ Umi คือมันมีราคาแพงมากถึง 599 ดอลลาร์ พร้อมกับราคาค่าใช้งานอีก 10 ดอลลาร์ต่อเดือน ขณะที่บริการคู่แข่งอย่าง Skype, Google Talk, หรือ Google Hangout นั้นฟรีทั้งสิ้น
ความฝันที่จะได้เห็นอุปกรณ์ซิสโก้อยู่รอบตัวแบบในเรื่อง Transformers คงไกลออกไปอีกหลายปี
ที่มา - GigaOM
แนวทางการพัฒนาให้แอนดรอยด์ได้รับการยอมรับในตลาดองค์กรนั้นเป็นแนวทางที่ชัดเจน แต่ฟีเจอร์ที่ถูกเรียกร้องมายาวนานอย่างการรองรับ Cisco AnyConnect ที่ต้องการโปรโตคอล IPSec โดยฟีเจอร์นี้ถูกเรียกร้องมาตั้งแต่ปี 2009 หรือช่วงแรกๆ ของแอนดรอยด์
บั๊กนี้ถูกปล่อยให้อยู่ในสถานะ New มาตลอดเวลาจนหลายคนบ่นว่ากูเกิลปล่อยบั๊กนี้โดยไม่สนใจ แต่ล่าสุดหลังการปล่อย Android 4.0 Ice-Cream Sandwich กูเกิลก็ออกมาบอกสั้นๆ ว่าบั๊กนี้ถูกแก้ไปแล้ว
อย่างไรก็ดีแม้บั๊กนี้จะถูกแก้ไปแล้ว แต่ก็แสดงความ "ปิด" ของแอนดรอยด์ที่ไม่มีการเปิดเผยว่าบั๊กนี้มีการรับไปทำแล้วหรืออยู่ระหว่างการแก้ไข แต่บั๊กถูกปล่อยในสถานะ New แล้วเปิดเผยมาอีกครั้งว่าแก้แล้ว
Cisco เผยแพร่รายงาน Connected World Technology Report ประจำปี 2011 ซึ่งไปสอบถามความเห็นจากนักศึกษามหาวิทยาลัยและพนักงานใหม่ที่เพิ่งสมัครงาน (กลุ่มละประมาณ 1,400 คน) ใน 14 ประเทศ ทั้งยุโรป เอเชีย อเมริกา (ไม่มีประเทศไทย)
สิ่งที่ Cisco สอบถามเป็นประเด็นเกี่ยวกับ "การทำงาน" ในหลายมิติ เช่น นโยบายการจ้างงานของบริษัท การสื่อสารภายในองค์กร และนโยบายด้านไอที-เทคโนโลยี
ผลการวิจัยมีสิ่งที่น่าสนใจหลายอย่าง เช่น
ไมโครซอฟท์เพิ่งเปิดตัว Windows Server 8 มาได้ไม่กี่วัน ซิสโก้ก็ประกาศทันทีว่าจะมีสินค้าสำหรับลูกค้าที่ต้องการใช้ Hyper-V ให้สามารถทำงานร่วมกับสวิตซ์ตระกูล Nexus ได้ทันที โดยมีสินค้าสองแบบให้ลูกค้าเลือกคือแบบซอฟต์แวร์และแบบการ์ด
Cisco รายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 4 ตามปีการเงินของบริษัท มีรายได้รวม 1.12 หมื่นล้านดอลลาร์ กำไรสุทธิ 1.2 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 36.3% จากไตรมาสเดียวกันในปีก่อน ซึ่งสะท้อนให้เห็นสถานการณ์ที่เริ่มดีขึ้นของบริษัท หลังปรับโครงสร้างองค์กรและลดค่าใช้จ่ายที่ผ่านมา
ซีอีโอ John Chambers กล่าวว่าจากนี้ Cisco จะปรับโครงสร้างองค์กรโดยลดจำนวนแผนกและพนักงานระดับผู้จัดการลง, ตั้งเป้าหมายลดค่าใช้จ่ายในปีนี้ให้ได้มากกว่า 1 พันล้านดอลลาร์ และตัดกลุ่มสินค้าที่ไม่สร้างผลกำไรออกไป อย่างไรก็ตามนักลงทุนยังมีความกังวลต่ออนาคตในระยะสั้น เพราะรายได้ถึง 1 ใน 5 ของ Cisco มาจากการขายอุปกรณ์ให้หน่วยงานของรัฐทั่วโลก และล่าสุดอเมริกาได้ประกาศตัดงบประมาณค่าใช้จ่ายรัฐบาลลงเพื่อพยุงเศรษฐกิจ
ปีนี้ข่าวแท็บเล็ต Android ถล่มตลาดกันเป็นว่าเล่นแต่ Cisco Cius (อ่านว่า see-us) ที่เปิดตัวมาแล้วเงียบไปเกือบปีก็ได้เวลาวางตลาดแล้ว
Cius เป็นแท็บเล็ต Android 2.2 ที่มีขนาดหน้าจอ 7" น้ำหนัก 680 กรัม มีจุดเด่นคือทำงานร่วมกับระบบสื่อสารทางไกลระดับองค์กรได้หลายตัวไม่ว่าจะเป็น WebEx, Jabber, Quad social, หรือ TelePresence พร้อมกับฟีเจอร์ระดับองค์กรเช่นการควบคุมด้านความปลอดภัยและการจัดการ เช่น AppHQ ที่เป็นชุดเครื่องมือสำหรับสร้าง app store ในองค์กรและให้ผู้จัดการฝ่ายไอทีเลือกได้ว่าจะเปิดให้พนักงานลงแอพลิเคชั่นอะไรกันบ้าง
มีข่าวลือว่า Cisco เตรียมขายสองกิจการในมือออกไปคืออุปกรณ์เครือข่ายภายใต้แบรนด์ Linksys และซอฟท์แวร์การประชุม WebEx ภายในไม่กี่สัปดาห์จากนี้ ซึ่งถ้าจริงก็จะเป็นการลดกลุ่มสินค้าลงไปอีกหลังจากก่อนหน้านี้ Cisco ได้ประกาศเลิกผลิต Flip ไป
ทั้งนี้ข่าวดังกล่าวก็สอดคล้องกับแผนการที่ซีอีโอ John Chamber ประกาศไว้ก่อนหน้าว่าจะปรับยุทธศาสตร์กลุ่มสินค้าและลดจำนวนพนักงานลง อย่างไรก็ตามทาง Cisco ได้ปฏิเสธที่จะให้ความเห็นต่อข่าวลือดังกล่าว
Cisco ซื้อ Linksys มาเมื่อปี 2003 ด้วยมูลค่า 500 ล้านดอลลาร์ ส่วน WebEx ซื้อมาในปี 2007 ด้วยมูลค่าสูงถึง 2,900 ล้านดอลลาร์