ซิสโก้เปิดตัวสถาปัตยกรรมชิปเน็ตเวิร์ค Silicon One โดยระบุว่าเป็นสถาปัตยกรรมที่พร้อมรองรับงานที่หลากหลาย โดยมีความสามารถในการโปรแกรมตัวชิปได้หลากหลาย ขณะที่ประสิทธิภาพการส่งต่อแพ็กเก็ตตามสถาปัตยกกรรมสูงถึง 25 เทราบิตต่อวินาที

ชิปตัวแรกที่สร้างตามสถาปัตยกรรมนี้ คือ Silicon One Q100 ชิปที่สามารถหาเส้นทางแพ็กเก็ตได้ที่ 10 เทราบิตต่อวินาที โดยชิปตัวเดียวสามารถทำงานได้ทั้งอุปกรณ์เดี่ยว (standalone), ทำหน้าที่ส่งต่อแพ็กเก็ตใน line-card, หรือทำหน้าที่ fabric เชื่อมต่อโมดูลเข้าด้วยกันก็ได้ โดยการโปรแกรมชิป ใช้ P4 forwarding code เหมือนกันทั้งหมด

คณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ พัฒนาระบบ Smart Connected Healthcare ร่วมกับ Cisco ผ่านศูนย์พัฒนาเทคโนโลยีแพทยศาสตรศึกษาที่เพิ่งก่อตั้งขึ้น (Medical Technology Education Center – MTEC) ประกอบด้วยโซลูชั่นการแพทย์คือ Live surgery, Tele-consult

เป้าหมายของการสร้างศูนย์ MTEC คือเป็นแหล่งสนับสนุนด้านเทคโนโลยีการศึกษาทางการแพทย์ ให้นักศึกษาแพทย์ที่ไปประจำยังโรงพยาบาลร่วมสอนท้องถิ่นในภาคเหนือ 6 แห่ง (โรงพยาบาลนครพิงค์ โรงพยาบาลลำพูน โรงพยาบาลลำปาง โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ โรงพยาบาลน่าน โรงพยาบาลแม่สอด)ได้เข้าถึงเนื้อหาอย่างเท่าเทียมกันผ่านระบบปรึกษาแพทย์ทางไกล, สอบออนไลน์พร้อมกันได้โดยไม่ต้องเดินทางเข้ามาที่คณะ นอกจากนี้ยังนำ Live surgery ถ่ายทอดสดการผ่าตัดด้วยระบบเสียงและภาพสมบูรณ์เข้ามาใช้ในการศึกษาประจำวันด้วย

ทางคณะมีการสาธิตการใช้งานให้ดู Blognone ได้เข้าร่วมด้วย จึงเก็บรูปภาพและรายละเอียดการทำงานของศูนย์ MTEC มาฝาก

Cisco รายงานผลการดำเนินงานประจำไตรมาสที่ 1 ของปีการเงินบริษัท 2020 (สิงหาคม-ตุลาคม 2019) รายได้รวมเพิ่มขึ้น 1% จากช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อนเป็น 13,159 ล้านดอลลาร์ และมีกำไรสุทธิ 2,926 ล้านดอลลาร์

ซีอีโอ Chuck Robbins ชี้แจงกับนักวิเคราะห์ในช่วงแถลงผลประกอบการว่าภาพรวมเศรษฐกิจโลกมีผลต่อธุรกิจ โดยมีการชะลอการลงทุนจากองค์กร หลายดีลขนาดใหญ่ที่ปิดได้ก็มีการลดขนาดลง

กลุ่มธุรกิจหลัก Infrastructure Platform รายได้ลดลง 1% เป็น 7,538 ล้านดอลลาร์ ส่วนกลุ่ม Applications มีรายได้ 1,499 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 6% และกลุ่ม Security รายได้โต 22% เป็น 815 ล้านดอลลาร์

เมื่อคืนที่ผ่านมาผู้ใช้เว็บซิสโก้จำนวนมากพบว่าบริการไม่สามารถล็อกอินได้ หรือแม้แต่บล็อกซิสโก้เองก็กลายเป็นหน้าติดตั้ง WordPress และตอนนี้ได้แก้หมดแล้ว โดยระบุว่าเกิดจากการแก้ไขระบบภายใน (internal system change)

ระยะเวลาที่ระบบมีปัญหาเริ่มตั้งแต่ช่วงสี่ทุ่มที่ผ่านมาตามเวลาประเทศไทย และบางระบบเริ่มกลับมาเรื่อยๆ จนกระทั่งทางซิสโก้แจ้งผ่านทวิตเตอร์ว่าแก้ไขทั้งหมดแล้วเมื่อประมาณตีสองครึ่งที่ผ่านมา

หลายบริการไม่ได้รับผลกระทบจากเหตุครั้งนี้ เช่น WebEx ที่ใช้งานได้ต่อเนื่อง

ที่มา - TechCrunch

Bloomberg อ้างแหล่งข่าวไม่เปิดเผยตัว ระบุว่าซิสโก้ยื่นเสนอซื้อบริษัท Datadog ผู้ให้บริการเก็บล็อกและวิเคราะห์ระบบ ด้วยมูลค่าสูงกว่า 7 พันล้านดอลลาร์ หรือกว่า 210,000 ล้านบาท

Datadog อยู่ระหว่างการยื่นเข้าตลาดหลักทรัพย์ โดยคาดว่าบริษัทจะมีมูลค่ารวมสูงกว่า 7,500 ล้านดอลลาร์เมื่อเข้าตลาดหลักทรัพย์

ธุรกิจการมอนิเตอร์แอปพลิเคชั่นมีความสำคัญขึ้นอย่างมากในช่วงหลังที่แอปพลิเคชั่นออกแบบแบบ microservice ที่ต้องเชื่อมต่อระหว่างบริการมากขึ้นเรื่อยๆ ตอนนี้กลุ่มคู่แข่งของ Datadog เช่น New Relic, Zenoss, AppDynamics ที่ซิสโก้เองซื้อไปก่อนหน้านี้, จนถึง Splunk ที่มักใช้งานในความปลอดภัยไซเบอร์

Cisco รายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 4 ตามปีการเงินบริษัท 2019 (เดือนพฤษภาคม-กรกฎาคม 2019) รายได้รวม 13,428 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 5% จากช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อน กำไรสุทธิอยู่ที่ 2,206 ล้านดอลลาร์

Chuck Robbins ชี้แจงกับนักวิเคราะห์ว่า Cisco ได้รับผลกระทบจากปัญหาเศรษฐกิจโลก โดยรายได้จากจีนลดลง 25% ซึ่งเป็นผลกระทบจากสงครามการค้าสหรัฐ-จีน

กลุ่มธุรกิจ Infrastructure Platform ที่เป็นรายได้หลักของ Cisco (ฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์เครือข่าย) เติบโต 6% เป็น 7,876 ล้านดอลลาร์ กลุ่มธุรกิจ Applications โต 11% เป็น 1,487 ล้านดอลลาร์ ส่วนกลุ่ม Security โต 14% เป็น 714 ล้านดอลลาร์

Cisco ประกาศซื้อกิจการ Voicea เจ้าของเทคโนโลยีแปลงเสียงพูดเป็นข้อความแบบเรียลไทม์ เพื่อนำมาใช้กับโซลูชันการประชุม WebEx ให้สามารถสรุปข้อความจากเสียงสนทนาระหว่างการประชุม ไฮไลท์ประเด็นสำคัญ และค้นหาในภายหลังได้

เป้าหมายของ Cisco คือแปลงการประชุมในระบบ WebEx ให้เป็นบันทึกการประชุมดิจิทัล เพื่อให้ผู้เข้าร่วมประชุมสามารถต่อยอดงานต่างๆ จากการประชุมได้ทันที

Cisco ไม่ได้เปิดเผยมูลค่าการซื้อกิจการครั้งนี้ แต่หลังจากเสร็จสิ้นกระบวนการซื้อกิจการแล้ว พนักงานของ Voicea จะเข้ามาทำงานในทีม WebEx

ที่มา - Cisco

Cisco ร่วมมือกับ ม.สงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ (ม.อ.) พัฒนาโมเดลสมาร์ทซิตี้ครอบคลุมหลายด้าน โดยทำเป็นโครงการนำร่องเฟสแรกในเขตมหาวิทยาลัยก่อน Blognone มีโอกาสได้ลงไปยังพื้นที่และดูตัวอย่างสมาร์ทซิตี้ในด้านต่างๆ ด้วยจึงเขียนเป็นบทความมาฝาก

Cisco รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 3 ตามปีการเงินบริษัท 2019 (กุมภาพันธ์-เมษายน 2019) รายได้รวมเพิ่มขึ้น 6% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน เป็น 12,958 ล้านดอลลาร์ และมีกำไรสุทธิ 3,044 ล้านดอลลาร์

กลุ่มธุรกิจหลักของ Cisco ที่เป็นการขายฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์เครือข่าย Infrastructure Platform มีรายได้เพิ่มขึ้น 5% เป็น 7,545 ล้านดอลลาร์ ส่วนกลุ่มธุรกิจอื่นก็มีการเติบโต โดยกลุ่ม Applications โต 9% เป็น 1,431 ล้านดอลลาร์ กลุ่ม Security โต 21% เป็น 707 ล้านดอลลาร์

อีกตัวเลขที่น่าสนใจคือการเติบโตของซอฟต์แวร์แบบ Subscription ซึ่งตอนนี้คือเป็น 65% ของรายได้ซอฟต์แวร์รวม ส่วนกลุ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ Catalyst 9000 ก็มีออกมาครอบคลุมทั้งพอร์ตโฟลิโอแล้ว

ทีมนักวิจัยจาก Red Balloon Security รายงานถึงช่องโหว่ 2 รายการของเราท์เตอร์ซิสโก้ และระบบปฏิบัติการ Cisco IOS XE 16 ที่เมื่อใช้ร่วมกันแล้วจะเปิดทางให้ผู้ดูแลเครือข่ายสามารถฝังโค้ดที่ระดับลึกกว่าระบบปฏิบัติการเอาไว้ในตัวเราท์เตอร์ได้ โดยตั้งชื่อชุดการโจมตีนี้ว่า ??? (ชื่อเป็นอีโมจิ อาจจะเรียกว่า The Angry Cat)

ช่องโหว่มีสองช่อง ตัวแรกคือ CVE-2019-1862 เป็นช่องโหว่ของเว็บคอนโซลที่ทำให้ผู้ดูแลระบบสามารถรันคำสั่งที่สิทธิ์ root บนตัวระบบปฏิบัติการได้ ช่องโหว่ที่สองคือ CVE-2019-1649 ที่ผู้ใช้ระดับ root สามารถเข้าแก้ไขเฟิร์มแวร์ของชิป Trust Anchor module (TAm) ที่ทำหน้าที่ตรวจสอบความน่าเชื่อถือของระบบก่อนเริ่มบูต

ซิสโก้ออกแพตช์ระดับวิกฤติให้ Cisco Nexus 9000 เฟิร์มแวร์ต่ำกว่ารุ่น 14.1 (1i) เนื่องจากมีกุญแจสำหรับล็อกอิน SSH เป็นกุญแจเริ่มต้นติดมาทุกเครื่อง โดยแฮกเกอร์สามารถล็อกอินเข้าสวิตช์ได้ทาง IPv6 เท่านั้น แต่เมื่อเข้ามาได้แล้ว จะได้สิทธิ์ root ของ NX-OS สามารถควบคุมเครื่องได้ทั้งระบบ

ตอนนี้แพตช์ออกแล้ว ทุกคนควรอัพเดตโดยเร็ว แม้ยังไม่พบว่ามีการโจมตีแต่อย่างใด

ช่องโหว่ความร้ายแรงตาม CVSSv3 ที่ 9.8 คะแนน ทางซิสโก้ออกแพตช์ให้ฟรีสำหรับผู้ใช้ทุกคน

ที่มา - Cisco

Cisco ประกาศอัพเดตฮาร์ดแวร์กลุ่ม Access Point ทั้งตระกูล Catalyst และ Meraki ให้รองรับ Wi-Fi 6 หรือ 802.11ax แม้ตัวมาตรฐานจะยังไม่สมบูรณ์ก็ตาม

ตระกูล Catalyst 9100 ที่รองรับ Wi-Fi 6 มีรุ่นย่อย 3 รุ่น คือ 9115, 9117, และ 9120 ทั้งสามรุ่นรองรับ Bluetooth LE ในตัว ส่วนรุ่น 9120 นั้นรองรับการเชื่อมต่อ IoT อย่าง Zigbee, Thread, และโปรโตคอลอื่นที่สร้างบนฐานของ 802.15.4 เพิ่มมาด้วย

ตระกูล Meraki มีสองรุ่นคือ MR55 รองรับสตรีม 8x8 อัพลิงก์เป็นอีเธอร์เน็ต 5Gbps และรุ่น MR45 รองรับสตรีม 4x4 อัพลิงก์เป็นอีเธอร์เน็ต 2.5Gbps

Cisco ระบุว่าจะเปิด access point ทั้งสองตระกูลให้นักพัฒนาสามารถเข้าไปปรับแต่งความสามารถได้

Cisco รายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 2 ตามปีการเงินบริษัท 2019 (เดือนพฤศจิกายน-มกราคม) มีรายได้รวม 12,446 ล้านดอลลาร์ เติบโต 7% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 2,822 ล้านดอลลาร์

ซีอีโอ Chuck Robbins กล่าวว่า ผลการดำเนินงานในไตรมาสนี้ออกมาแข็งแกร่ง ทีมงานสามารถบรรลุเป้าหมายในการเปลี่ยนผ่านองค์กรไปสู่โมเดลธุรกิจที่เน้นซอฟต์แวร์ ตลอดจนส่งมอบนวัตกรรมได้ตามแผน

กลุ่มธุรกิจหลักของ Cisco แพลตฟอร์มโครงสร้างพื้นฐาน มีรายได้เพิ่มขึ้น 7% เป็น 7,128 ล้านดอลลาร์ ขณะที่กลุ่มแอพพลิเคชันยังคงเติบโตสูงถึง 24% มีรายได้ส่วนนี้ 1,465 ล้านดอลลาร์ และกลุ่มผลิตภัณฑ์ความปลอดภัยโต 18% รายได้ 658 ล้านดอลลาร์

ซิสโก้ออกแพตช์ให้เราท์เตอร์ RV320 และ RV325 แก้ช่องโหว่ CVE-2019-1653 ที่เปิดเผยข้อมูลคอนฟิกของเราท์เตอร์โดยไม่ตรวจสิทธิ์ผู้ใช้ ข้อมูลที่หลุดออกมานั้นรวมถึงชื่อผู้ใช้และค่าแฮชของรหัสผ่านด้วย ซึ่งนำไปสู่การยึดเราท์เตอร์ได้ในที่สุด ผ่านทางช่องโหว่ CVE-2019-1652 ที่เป็นช่องโหว่สำหรับผู้ใช้ที่ล็อกอินแล้ว

ช่องโหว่ถูกโจมตีได้ทางหน้าเว็บ HTTP/HTTPS หากเปิดหน้าเว็บให้เข้าจากอินเทอร์เน็ตได้ความเสี่ยงก็จะมากขึ้น

ซิสโก้ส่งอีเมลแจ้งเตือนพนักงานให้หลีกเลี่ยงการเดินทางเข้าไปยังประเทศจีน หลังแคนาดาจับกุม Meng Wanzhou รองประธานและซีเอฟโอของหัวเหว่ย

อย่างไรก็ดี อีเมลนี้ส่งถึงพนักงานเพียงบางกลุ่มเท่านั้น และหลังจากมีข่าวออกมา โฆษกซิสโก้ประจำฮ่องกงและไต้หวันก็ออกระบุว่ายังมีการเดินทางติดต่อธุรกิจต่อไป

นักวิเคราะห์หลายรายแสดงความเห็นต่างกันไปว่าจีนจะจับกุมผู้บริหารสหรัฐฯ เพื่อเอาคืนหรือไม่

Cisco รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 1 ตามปีการเงินบริษัท 2019 (สิงหาคม-ตุลาคม) มีรายได้รวม 13,072 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น จากช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 3,549 ล้านดอลลาร์

ซีอีโอ Chuck Robbins กล่าวว่าลูกค้ายังคงไว้วางใจเลือก Cisco ในการเปลี่ยนผ่านการทำงานไปสู่โลกของมัลติคลาวด์ และการเปลี่ยนผ่านธุรกิจยุคดิจิทัล ซึ่ง Cisco ก็พร้อมรองรับลูกค้าทั้งแง่ความปลอดภัยที่มากขึ้น, ระบบจัดการอัตโนมัติ และออกแบบโครงสร้างไอทีให้เรียบง่ายมากขึ้น

ธุรกิจกลุ่มแพลตฟอร์มโครงสร้างพื้นฐานที่ถือเป็นรายได้ส่วนใหญ่ของ Cisco (อุปกรณ์เครือข่ายในศูนย์ข้อมูล) มีรายได้เพิ่มขึ้น 9% เป็น 7,642 ล้านดอลลาร์ ส่วนกลุ่มแอพพลิเคชันเติบโตมากที่สุด 18% เป็น 1,419 ล้านดอลลาร์

เกือบหนึ่งปีหลัง กูเกิลจับมือเป็นพันธมิตรกับ Cisco ทำโซลูชันไฮบริดคลาวด์ ล่าสุดบริการตัวนี้เข้าสถานะ generally available (GA) เรียบร้อยแล้ว มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า Cisco Hybrid Cloud Platform for Google Cloud

ความร่วมมือนี้จะทำให้องค์กรสามารถรันงานตามความเหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นบนคลาวด์ของกูเกิล หรือบนศูนย์ข้อมูลขององค์กรเอง (on premise) ที่ใช้โซลูชันของ Cisco จุดที่น่าสนใจคือการนำแอพพลิเคชันยุคเก่า (legacy) มารันบนคลาวด์ด้วยการครอบ container หรือ API เพื่อให้ scale ได้ง่ายขึ้น

Cisco รายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 4 ตามปีการเงินบริษัท 2018 (เดือนพฤษภาคม-กรกฎาคม) มีรายได้รวม 12,844 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 3,803 ล้านดอลลาร์

ซีอีโอ Chuck Robbins กล่าวว่าผลการดำเนินงานนี้ มาจากการที่ลูกค้ายังคงเลือกใช้นวัตกรรมล่าสุดของ Cisco และมีการเปลี่ยนมาสมัครใช้ซอฟต์แวร์มากขึ้น ทำให้เห็นการเติบโตในทุกกลุ่มธุรกิจและในทุกภูมิภาค นอกจากนี้ Cisco กล่าวว่าบริษัทได้ประโยชน์มากจากการที่องค์กรหันมาปรับโครงสร้างไอที ให้เป็นแบบมัลติคลาวด์ โดยเฉพาะบนความร่วมมือกับกูเกิลและ NetApp

Cisco ประกาศซื้อกิจการบริษัท Duo Security ผู้พัฒนาระบบ Two-Factor Authentication สำหรับตลาดองค์กร ด้วยมูลค่า 2.35 พันล้านดอลลาร์

Duo ก่อตั้งเมื่อ 8 ปีก่อน ปัจจุบันมีพนักงานประมาณ 700 คน ผลิตภัณฑ์ของบริษัทเรียกว่า zero-trust เป็นระบบช่วยยืนยันตัวตนสองปัจจัย Two-Factor Authentication (2FA) ผ่านแอพบนมือถือชื่อ Duo Mobile (รูปแบบคล้ายๆ กับระบบยืนยันการล็อกอินบนมือถือของกูเกิล แต่อันนี้ใช้กับบริการที่ไม่ใช่ของกูเกิลได้ด้วย)

Amazon ออกมาปฏิเสธข่าวลือเมื่อต้นสัปดาห์อย่างเป็นทางการ ที่ระบุว่าบริษัทอาจทำสวิตซ์เครือข่ายเอง เพื่อไว้ขายให้กับลูกค้าของ AWS

โฆษกของ Cisco ยืนยันว่า Chuck Robbins ซีอีโอของ Cisco และ Andy Jassy ซีอีโอของ AWS ได้มีการพูดคุยแล้ว โดยยืนยันว่า AWS ไม่สนใจผลิตสวิตซ์เครือข่ายขาย โดยทั้ง Cisco และ AWS นั้นเป็นทั้งลูกค้าและพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจมายาวนาน ด้านโฆษกของ AWS ก็ยืนยันว่ามีการพูดคุยดังกล่าวเช่นกัน

ทั้งนี้บริษัทด้านเทคโนโลยีขนาดใหญ่ เช่นกูเกิล, Facebook ต่างมีการผลิตอุปกรณ์เครือข่ายเพื่อใช้กันเองภายในศูนย์ข้อมูลอยู่แล้ว แต่ไม่ได้นำออกมาจำหน่ายให้กับบุคคลทั่วไป เนื่องจากมีการปรับแต่งให้เข้ากับการใช้งานของตนโดยเฉพาะ

Cisco ประกาศความร่วมมือ Google Cloud พัฒนาโซลูชันไฮบริดคลาวด์ร่วมกัน ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2017 แต่หลังจากนั้นข่าวของความร่วมมือนี้ก็เงียบหายไป

ในงาน Cisco Live! 2018 เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทั้งสองบริษัทประกาศอัพเดตแผนการนี้ โดย Diane Greene ซีอีโอของ Google Cloud มาร่วมขึ้นเวทีด้วย

ประเด็นหลักของแผนการนี้คือการเชื่อมต่อระบบคลาวด์แบบ on-premise ที่ใช้โซลูชันของ Cisco เข้ากับบริการ Google Cloud โดยเชื่อมต่อ Cisco Container Platform (CCP) เข้ากับ Google Kubernetes Engine ในระดับของโครงสร้างพื้นฐานด้วย Istio ของกูเกิล เพื่อให้ย้ายแอพที่รันในคอนเทนเนอร์ข้ามไปมาระหว่างกันได้ง่าย

สัปดาห์ที่ผ่านมา Cisco จัดงานสัมมนาประจำปี Cisco Live! 2018 มีเนื้อหาต่อเนื่องมาจากงานปี 2017 ที่เน้นให้วิศวกรเครือข่ายหัดเขียนโปรแกรม

ประกาศสำคัญในงานคือแพลตฟอร์ม Cisco DNA Center (ชื่อเรียก Software-Defined Networking หรือ SDN ของ Cisco) เปิด API ให้เรียกใช้งานแล้วกว่า 100 ตัว โดยมีบริษัทพาร์ทเนอร์หลายราย เช่น ServiceNow, Accenture โชว์เดโมการเข้ามาเชื่อมต่อ API ของ Cisco ในแง่ต่างๆ

Cisco บอกว่าในโลกของ OS บนคอมพิวเตอร์หรือมือถือ เปิดให้นักพัฒนาภายนอกเข้ามาสร้างแอพกันเป็นเรื่องปกติ แต่ในโลกของเครือข่ายเป็นระบบปิดมาโดยตลอด ตอนนี้ถึงเวลาเปลี่ยนมันเป็นระบบเปิดสักที

หลังจาก Cisco Talos เผยแพร่รายงานมัลแวร์ VPNFilter เมื่อวานนี้ วันนี้ทาง FBI ก็ยื่นขอหมายยึดโดเมน toknowall.com ซึ่งเป็นหนึ่งในสามช่องทางสำหรับกระจายมัลแวร์ขั้นที่สอง

VPNFilter มีช่องทางแพร่มัลแวร์ขั้นที่สองด้วยการให้มัลแวร์ขั้นแรกดาวน์โหลดภาพจาก Photobucket หรือเว็บ ToKnowAll.com เมื่อดาวน์โหลดภาพที่ระบุได้แล้ว จะนำค่าไอพีจากใน EXIF มาดาวน์โหลดมัลแวร์ขั้นที่สองอีกครั้ง

Cisco Talos เปิดเผยรายงานวิจัยที่อยู่ระหว่างการศึกษาถึงมัลแวร์ที่ชื่อว่า VPNFilter แพร่ระบาดในอุปกรณ์เน็ตเวิร์คสำหรับสำนักงานขนาดเล็ก เช่น แบรนด์ Linksys, Mikrotik, NETGEAR, TP-Link ไปจนถึงสตอเรจอย่าง QNAP การแพร่กระจายเป็นวงกว้างกระทบอุปกรณ์แล้วกว่า 500,000 ตัวใน 54 ประเทศ โดยยังไม่แน่ชัดว่าตัวมัลแวร์ใช้ช่องโหว่อะไรเจาะเข้าเครื่องเหยื่อ แต่เครื่องที่ตกเป็นเหยื่อมักใช้ซอฟต์แวร์เก่าที่มีช่องโหว่ที่รับรู้โดยทั่วกันอยู่แล้ว

VPNFilter เป็นมัลแวร์ที่ทำงานสองขั้นตอน ขั้นตอนแรกคือการฝังมัลแวร์หลัก ที่ทำงานแม้เครื่องรีบูตไปแล้ว เมื่อฝังมัลแวร์ได้มันจะติดต่อเซิร์ฟเวอร์สั่งการเพื่อขอมัลแวร์ขั้นที่สองมารันต่อไป

Cisco รายงานผลการดำเนินงานประจำไตรมาสที่ 3 ตามปีการเงินบริษัท 2018 (กุมภาพันธ์-เมษายน) มีรายได้รวม 12,463 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีที่แล้ว และมีกำไรสุทธิ 2,691 ล้านดอลลาร์

ซีอีโอ Chuck Robbins กล่าวว่าบริษัทดำเนินงานออกมาได้ดีตามกลยุทธ์ที่วางไว้ ผลิตภัณฑ์ตามแผนก็ออกมาอย่างแข็งแกร่ง และ Cisco พร้อมจะเปลี่ยนผ่านไปสู่ธุรกิจด้านซอฟต์แวร์และ Subscription ให้มากขึ้น

รายได้แยกตามกลุ่มธุรกิจ กลุ่มแพลตฟอร์มโครงสร้างพื้นฐานที่เป็นรายได้หลัก เพิ่มขึ้น 2%, แอพพลิเคชั่น เพิ่มขึ้น 19% และ Security เพิ่มขึ้น 11%