กูเกิลเปิดตัว Chrome Apps แอพแบบออฟไลน์ที่รันบนเดสก์ท็อป (ทั้งบนวินโดวส์และ Chrome OS) เหมือนกับแอพเดสก์ท็อปปกติทุกประการ ต่างไปแค่ว่ามันเขียนด้วย HTML และต้องใช้ Chrome เป็นรันไทม์เพื่อเข้าถึงฮาร์ดแวร์

Chrome Apps ไม่ใช่ของใหม่ เพราะกูเกิลเปิดตัวในหมู่นักพัฒนามาตั้งแต่ Google I/O 2012 แล้ว เพียงแต่ใช้ชื่อว่า Chrome Packaged Apps (ข่าวเก่า) และเพิ่งเปลี่ยนชื่อเป็น Chrome Apps ในวันนี้

กูเกิลออก Chrome 30 Beta ทั้งบนเดสก์ท็อปและบน Android (อ่านไม่ผิดครับ มาถึงเวอร์ชัน 30 แล้ว)

ฟีเจอร์สำคัญบนเดสก์ท็อปคือการคลิกขวาที่รูปภาพ แล้วสั่ง Search Google for this image ได้เลย กูเกิลจะนำภาพนี้ไปค้นในระบบของ Image Search ว่าเป็นรูปภาพเกี่ยวข้องกับอะไร

เวอร์ชันบน Android มีของใหม่เข้ามาหลายอย่าง ที่สำคัญคือ gesture แบบใหม่ที่ช่วยให้เราสลับแท็บได้ง่ายขึ้น วิธีใช้คือ swipe ที่ตำแหน่งทูลบาร์ไปในทิศทางต่างๆ การปาดซ้าย-ขวาเป็นการสลับแท็บ ดึงลงเป็นการแสดงแท็บทั้งหมด และดึงลงที่ปุ่มเมนูเป็นการแสดงเมนู

Chrome เวอร์ชันเดสก์ท็อปออกรุ่น Chrome 29.0.1547.57 บนทุกแพลตฟอร์ม ฟีเจอร์ใหม่ที่สำคัญคือ

• กล่อง Omnibox (URL bar) แนะนำเว็บไซต์โดยให้คะแนนจากเว็บที่เราเข้าล่าสุดมากขึ้น (recency)
• สามารถรีเซ็ตเบราว์เซอร์สู่สถานะตั้งต้นได้แล้ว (อยู่ใน Settings > Advanced) โดยการรีเซ็ตจะไม่กระทบกับข้อมูล bookmark/theme/app ของผู้ใช้
• รองรับ rich notification บนแมคแล้ว

ส่วน Chrome for Android ก็รองรับ WebRTC แล้ว (ข่าวเก่าตอนเป็น Beta) สามารถทดสอบการสนทนาผ่าน WebRTC ได้ที่ AppRTC ครับ

ฟีเจอร์การใช้งานหลายคนพร้อมกันนั้นมีใน Chrome มานานแล้ว แต่ผู้ใช้ทุกคนล้วนมีสิทธิ์เท่ากันทั้งหมด แต่รายงานจาก Browser Fame แสดงภาพใน Chrome รุ่นสำหรับนักพัฒนาเริ่มมีการใส่ฟีเจอร์ "ผู้ใช้แบบถูกควบคุม" (supervised user) แล้ว

ฟีเจอร์นี้ยังอยู่ระหว่างการพัฒนาและต้องเปิดขึ้นมาดูจาก flag พิเศษเท่านั้น โดยจะเพิ่มผู้ใช้ที่ถูกควบคุมนี้ได้ต่อเมื่อเราล็อกอิน Chrome แล้วเท่านั้นโดยหน้าควบคุมจะอยู่ที่ www.chrome.com/manage (ยังใช้งานไม่ได้)

ก่อนหน้านี้ผู้ใช้ Chrome แม้จะแยกผู้ใช้ได้หลายคน แต่ก็ไม่มีกระบวนการป้องกันไม่ให้ผู้ใช้แต่ละคนเข้าใช้บัญชีของคนอื่น กระบวนการผู้ใช้แบบถูกควบคุมนี้จะทำให้ต้องใส่รหัสผ่านเพื่อกลับไปยังผู้ใช้ที่เป็นผู้ควบคุมอีกครั้ง

ที่งาน USENIX 2013 มีการนำเสนองานวิจัยเปรียบเทียบการ "กดผ่าน" หน้าจอเตือนมัลแวร์และการเข้ารหัสที่ผิดพลาดของเบราว์เซอร์สองตัวคือไฟร์ฟอกซ์และ Chrome พบว่าผู้ใช้ Chrome นั้นมีแนวโน้มจะกดผ่านหน้าจอเตือนมากกว่าผู้ใช้ไฟร์ฟอกซ์กว่าสองเท่าตัว

รายงานพบว่าผู้ใช้มีพฤติกรรมต่างกันไปในแต่ละระบบปฎิบัติการ แต่เช่นผู้ใช้ไฟร์ฟอกซ์บนวินโดวส์จะกดผ่านหน้าเตือนมัลแวร์เพียง 7.1% เท่านั้น แต่ผู้ใช้ Chrome กลับกดผ่านหน้าเตือนสูงถึง 23.5% แนวโน้มที่คล้ายกันคือทั้งสองกลุ่มจะมีโอกาสกดผ่านมากขึ้นเรื่อยๆ หากใช้รุ่น "ไม่เสถียร" เช่น เบต้า, และรุ่นสำหรับนักพัฒนา

จากข่าว พบช่องโหว่บน Chrome เผยรหัสผ่านที่ถูกบันทึกไว้, กูเกิลบอกรับทราบแต่ไม่แก้ ทางทีมพัฒนาของ Google Chrome ได้ออกมาชี้แจงเหตุผลแล้ว

หนังสือพิมพ์ The Guardian รายงานว่า มีการค้นพบช่องโหว่ในเบราว์เซอร์ Chrome ที่ยอมให้ใครก็ได้ที่สามารถเข้าถึงคอมพิวเตอร์ได้สามารถดูรหัสผ่านเพื่อการล็อกอินเข้าโปรไฟล์อีเมล เว็บสังคมออนไลน์ ฯลฯ จากหน้าการตั้งค่าได้โดยที่ไม่ต้องระบุตัวตนก่อน

การเรียกดูรหัสผ่านนั้นก็ง่ายแสนง่าย โดยผู้ใช้เพียงไปที่หน้า Settings เลือกมุมมองการตั้งค่าขั้นสูง ไปที่ส่วน Passwords and forms คลิกปุ่ม Manage saved passwords เพื่อเข้าส่วนจัดการรหัสผ่านที่ถูกบันทึกไว้ ถึงแม้รหัสผ่านจะถูกซ่อนไว้ในรูปดอกจัน แต่หากผู้ใช้คลิกที่รหัสผ่านและคลิกปุ่ม Show ก็จะเห็นรหัสผ่านได้เลย

กูเกิลเริ่มเตรียมความพร้อมสำหรับการทำให้ Chrome รองรับการใช้งานแบบสัมผัสเต็มรูปแบบเข้าไปเรื่อยๆ โดยในอัพเดตล่าสุดของ Canary (รหัส 30.0.1587.2 เป็นต้นไป) ได้เพิ่มฟีเจอร์สำหรับรองรับการสัมผัสเข้ามาส่วนหนึ่งแล้ว

ฟีเจอร์ที่เพิ่มเข้ามาในครั้งนี้ยังมีแต่การใช้งานแบบพื้นฐาน อาทิ ปัดนิ้วไปทางซ้ายเพื่อกลับไปหน้าเดิม หรือปัดนิ้วไปทางขวาเพื่อไปยังหน้าต่อไป รวมถึง pinch-to-zoom ที่อยู่ใน Experiment มาพักใหญ่ๆ แล้ว

สำหรับคนที่ใช้ Windows 8 ยังสามารถตั้งค่าให้แสดงคีย์บอร์ดบนหน้าจอเวลาเลือกไปที่กล่องข้อความ หรือแถบ address bar อีกด้วย

ที่มา - The Verge

เหลือเวลาอีกเพียง 2 ชั่วโมง ก็จะเข้าสู่งานเปิดตัว Moto X อย่างเป็นทางการเสียที ล่าสุดโมโตโรลาก็ได้ปล่อยแอพพลิเคชันเสริมเฉพาะ Moto X (และ Droid ปี 2013) ออกมาบนสองแพลตฟอร์มหลักของกูเกิลแล้ว นั่นก็คือ Motorola Connect for Google Chrome และ Motorola Migrate for Android ครับ

โดยแอพพลิเคชัน Motorola Connect จะโฟกัสไปที่การให้ความช่วยเหลือกับผู้ใช้ โดยจะแจ้งให้ผู้ใช้รับทราบว่ามีข้อความสนทนาจาก SMS, Google+ Hangout เข้ามา หรือมีสายเข้า หรือพลาดไม่ได้รับสายอะไรยังไงบ้าง โดยจะแจ้งให้ทราบผ่าน Notification ของ Google Chrome โดยตรง ทั้งนี้ผู้ใช้เองก็สามารถสร้างข้อความใหม่จาก Motorola Connect ได้เช่นกันครับ

รายงานจาก Forrester สำหรับบริหารระบบไอทีในองค์กรแนะนำให้องค์กรพิจารณาว่า Chromebook ตรงกับความต้องการขององค์กรหรือไม่

รายงานระบุว่า Chromebook เหมาะกับองค์กรที่พร้อมจะแบ่งส่วนของพนักงาน เพราะพนักงานที่ใช้ Chromebook จะทำงานได้จำกัด, ใช้งาน Gmail หรือ Google Apps อยู่แล้ว, หรือเปิดเครื่องให้กับลูกค้าใช้งานโดยตรง

ข้อได้เปรียบของ Chromebook สำหรับองค์กรคือการบำรุงรักษาที่ค่อนข้างต่ำและเปิดโอกาสให้ทีมโครงสร้างพื้นฐานของบริษัทไปพัฒนาบริการใหม่ๆ ได้มากกว่า และการทำงานผ่าน Chromebook นั้นเปิดโอกาสให้พนักงานทำงานร่วมกันได้มากกว่า (อันนี้เป็นความสามารถของ Google Apps เอง)

หลังจากไมโครซอฟท์ซื้อกิจการ Yammer อดีตบริษัทที่ทำงานด้านธุรกิจเครือข่ายสังคมสำหรับองค์กรมาได้เกือบปีแล้ว วันนี้ไมโครซอฟท์ได้ปล่อย Yammer เวอร์ชันส่วนเสริมของ Google Chrome เป็นที่เรียบร้อย

Yammer นั้นถูกไมโครซอฟท์ปรับปรุงดีไซน์มาได้สักพัก ก่อนเพิ่งจะเปิดตัวเป็นส่วนเสริมของ Google Chrome การทำงานนั้นก็ไม่ยุ่งยาก เมื่อติดตั้งเสร็จสามารถโพสต์ข้อความตอบกลับร่วมกับทีมงานในองค์กรได้จากส่วนเสริม Yammer โดยตรง

ประเด็นคือ เพราะเหตุใดไมโครซอฟท์จึงปล่อย Yammer เวอร์ชันส่วนเสริมให้กับเว็บเบราวเซอร์คู่แข่งอย่าง Google Chrome แทนที่จะเป็น Internet Explorer ของตัวเอง?

ข่าวการเปิดตัว Chromecast ถือว่าเป็นข่าวที่สร้างความกังวลอย่างหนักให้ผู้ใช้ Google TV พอสมควร เพราะมันเป็นการตัดสินใจในการทำธุรกิจฝั่งทีวีที่ดูอาการยังไม่ค่อยแน่นอนเท่าใดนักสำหรับกูเกิล ทั้ง Google TV ที่ล้มเหลวแล้ว Nexus Q ที่ล้มเหลวอีก จึงเป็นการสร้างความลำบากใจให้กับผู้ใช้มากนัก

หลังจากปล่อย Chrome 28 ออกมาเมื่อหลายวันก่อน ทำให้ส่วนเสริมหลายๆ ตัวอัพเดตกันไม่ทันโดยเฉพาะ การรองรับ rich notification ซึ่งแอพสำหรับใช้งานทวิตเตอร์อย่าง TweetDeck ก็โดนปัญหานั้นเข้าไปเพราะไม่ยอมแจ้งเตือน

วันนี้เอง TweetDeck 3.1.4 ใน Google Chrome ได้อัพเดตแก้ไขข้อบกพร่องนั้นแล้ว โดยสามารถแจ้งเตือนขึ้นมาบริเวณมุมล่างขวาของจอครับ แต่เท่าที่ผมลองแล้วก็ยังไม่สมบูรณ์ดีโดยเฉพาะทวิตที่ยาวๆ ภาษาไทยจะมีการเรียงคำทีละบรรทัดเลยทีเดียว อ่านลำบากมาก อีกทั้งหน้าแจ้งเตือนเองไม่สามารถใช้งานฟังก์ชันต่างๆ ของ TweetDeck ได้เลย

François Beaufort นักพัฒนาของกูเกิลออกมาเขียนถึงแพตซ์ล่าสุดของ Chromium ที่เพิ่มแอพพลิเคชั่นแอนดรอยด์ที่ชื่อว่า Chromoting เข้ามา เป็นตัวทดสอบการทำ Chrome Remote Desktop รุ่นแอนดรอยด์

Chromoting ยังมีเพียงฟีเจอร์สำหรับทดสอบกระบวนการทำงานขั้นพื้นฐานของ Chrome Remote Desktop เท่านั้น เช่น การล็อกอิน, เข้าตรวจรายชื่อเครื่องบนระบบของ Chromoting, เชื่อมต่อโดยตรงระหว่างเครื่ง

หลังจากที่ทางกูเกิลปล่อยให้คนที่ใช้ Chrome Dev Channel ทดสอบ Chrome App Launcher ไปแล้ว ล่าสุด กูเกิลก็ได้ฤกษ์ปล่อย Chrome App Launcher ตัวจริงให้ผู้ใช้ทั่วไปได้ใช้งานกันแล้ว โดยโปรแกรมนี้ออกแบบให้ทำงานได้ดีบน Windows 7 และ Windows 8 (เนื่องจากมี super bar อยู่แล้ว)

สำหรับผู้ใช้ Windows สามารถดาวน์โหลด Chrome App Launcher ได้แล้วบน Chrome Web Store ครับ ส่วนคนใช้ Mac นั้นยังไม่มีวี่แววว่ามันจะมาหรือไม่

ที่มา: Engadget

Pocket บริการเก็บเนื้อหาจากเว็บไซต์ออกแอพสำหรับ Chrome แล้ว โดยตัวแอพนั้นเขียนขึ้นในรูปแบบ Packaged App ทำงานแยกคนละหน้าต่างกับ Chrome ฟีเจอร์หลักๆ มีดังนี้ครับ

• อ่านเนื้อหาแบบออฟไลน์ได้
• ติดดาว ติดแท็กเนื้อหา
• มุมมองแบบรายการและตาราง
• เลือกดูตามประเภทเนื้อหา (บทความ, รูปภาพ ,วิดีโอ)
• ปรับขนาด, รูปแบบตัวหนังสือและสีพื้นหลัง
• แบ่งปันผ่านอีเมล, ทวิตเตอร์, เฟซบุ๊ก, Buffer
• เบราว์เซอร์ภายในตัวแอพ

สามารถดาวน์โหลดได้ที่ Chrome Web Store ครับ

กูเกิลอัพเดต Chrome for iOS ใหม่โดยฟีเจอร์ที่สำคัญคือการทำงานร่วมกับแอพอื่นๆ ของกูเกิลบน iOS อย่าง Google Maps, YouTube, Google+, Google Drive มากขึ้น

• ผู้ใช้สามารถล็อกอินในแอพเหล่านี้ได้เพียงกดปุ่มครั้งเดียว ไม่ต้องใส่รหัสผ่านเพราะดึงข้อมูลล็อกอินจาก Chrome
• สามารถเลือกเปิด URL ของบริการเหล่านี้ด้วยแอพ แทนที่จะเป็นเว็บแอพได้แล้ว เช่น คลิกลิงก์ Google Maps ก็ให้เปิดด้วยแอพ Google Maps แทน

ฟีเจอร์ใหม่อื่นๆ ได้แก่บริการบีบอัดข้อมูลซึ่งยังมีสถานะเป็น experimental และ Chrome บน iPad สามารถทำงานแบบเต็มหน้าจอได้แล้ว

ที่มา - Google Chrome Blog

Google เตรียมจัดงานที่ซานฟรานซิสโก ในวันที่ 24 กรกฎาคมนี้ โดยเนื้อหาในบัตรเชิญไม่ได้บอกว่าจุดประสงค์ของงานนี้คืออะไรกันแน่

นอกจากเชิญชวนให้มารับประทานอาหารเช้าร่วมกับ Sundar Pichai ผู้ซึ่งดูแล Android และ Chrome โดยงานดังกล่าวจะถ่ายทอดสดผ่าน YouTube ด้วย

ในงานนี้อาจมีการเปิดตัว Android 4.3, Nexus 7 รุ่นใหม่ หรือการอัพเดตของ Chrome OS ก็เป็นได้

ที่มา - Engadget

กูเกิลอัพเดต Chrome Beta for Android เป็นเวอร์ชัน 29.0.1547.23 ซึ่งมีฟีเจอร์ใหม่ที่สำคัญคือรองรับโพรโทคอล WebRTC เรียบร้อยแล้ว ทำให้มีโอกาสสูงที่เราจะเห็นบริการ VoIP หรือ video call ผ่านหน้าเว็บที่ใช้กับ Android ในเร็ววันนี้

ความพยายามผลักดัน WebRTC คงต้องใช้เวลาอีกสักระยะกว่าเบราว์เซอร์รายใหญ่จะรองรับทั้งหมด ตอนนี้ยังมีเพียงแค่ Chrome, Opera ยุค Chromium และ Firefox ส่วนไมโครซอฟท์ยังสงวนท่าที แถมเสนอมาตรฐานอื่นมาแข่งกับ WebRTC ด้วย

ที่มา - Chrome Releases

TwitMute เป็นส่วนขยายสำหรับเว็บเบราว์เซอร์ Google Chrome ครับ

หน้าที่ของ TwitMute คือ กรองทวีตของผู้ใช้ที่ไม่พึงประสงค์โดยที่เราไม่ต้อง unfollow ผู้ใช้คนนั้น

TwitMute จะกรองทวีตที่ติดแท็ก ทวีตที่มีข้อความหรือคำที่ไม่พึงประสงค์ออกไปจากหน้าเว็บเพจ Twitter Timeline ของเรา หลังจากติดตั้ง TwitMute แล้วต้อง refresh หน้าเว็บ Twitter ใหม่อีกครั้งเพื่อเริ่มการทำงานของ TwitMute ในครั้งแรก

ติดตั้ง TwitMute

หลังจากกูเกิลออก Chrome 28 บนลินุกซ์ ไปเมื่อเดือนที่แล้ว คราวนี้ก็ถึงคิวของแพลตฟอร์มที่เหลือคือวินโดวส์ แมค และ Chrome Frame ที่จะได้อัพเป็นเวอร์ชัน 28 ด้วย

ฟีเจอร์ใหม่ที่สำคัญคือ Rich Notification ระบบแจ้งเตือนบนเดสก์ท็อป (รายละเอียดในข่าวเก่า) ซึ่งตอนนี้ยังใช้ได้เฉพาะเวอร์ชันวินโดวส์เท่านั้น อีกสักพักเราคงเริ่มเห็นเว็บแอพบางตัวเริ่มรองรับระบบแจ้งเตือนแบบใหม่นี้กันครับ

Chrome เริ่มรองรับแอพที่เรียกว่า Packaged Apps (แอพที่ทำงานแบบออฟไลน์แต่เขียนด้วย HTML/JavaScript และรันอยู่บน Chrome) มาได้สักระยะแล้ว (ข่าวเก่า)

วันนี้กูเกิลก็ประกาศเพิ่มความสามารถใน Chrome Dev ให้แอพกลุ่มนี้สามารถเข้าถึง API ของเครื่อง และ API ของกูเกิลเองมากขึ้น

กูเกิลออก Chrome 28 Stable มีของใหม่ ดังนี้

• เปลี่ยนมาใช้เอนจิน Blink แทน WebKit
• สนับสนุนโพรโตคอล SPDY รุ่น 4 alpha 1
• มีการแก้ไขบั๊กอื่นๆ อีกหลายตัว

ตอนนี้ยังมีแค่เวอร์ชันบน Linux รองรับตั้งแต่ Ubuntu 12.04, Debian 7, OpenSuSE 12.2, Fedora Linux 17 หรือในเวอร์ชันที่สูงกว่าขึ้นไป

Google พัฒนาโค้ด VP9 สำเร็จแล้ว และเตรียมพร้อมจับใส่เป็นเครื่องมือมาตรฐานของเว็บเบราว์เซอร์ของตนเองอย่าง Chrome และเว็บสำหรับดูวิดีโออย่าง YouTube

VP9 คือ เครื่องมือเข้ารหัสและถอดรหัสไฟล์วิดีโอที่ Google พัฒนาขึ้นมาเองต่อจาก VP8 ซึ่งทั้งหมดเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ WebM ที่เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่งาน Google I/O เมื่อ 3 ปีก่อน ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นความพยายามของ Google ที่จะพัฒนาเครื่องมือเข้ารหัสและถอดรหัสไฟล์วิดีโอ โดยหวังจะลดการพึ่งพาซอร์สโค้ดที่มีค่าใช้จ่ายทางด้านลิขสิทธิ์อย่าง H.264 ซึ่งเป็นเครื่องมือเข้ารหัสและถอดรหัสไฟล์วิดีโอที่ได้รับความนิยมมากที่สุดอยู่ในขณะนี้

Chrome Frame เป็นซอฟต์แวร์ของกูเกิลที่ออกเมื่อปี 2009 เพื่อฝังเอนจินแสดงผลของ Chrome ลงใน IE (ข่าวเก่า) เพื่อให้ผู้ใช้ที่จำเป็นต้องใช้ IE เวอร์ชันเก่าๆ (ด้วยเหตุผลด้านแอพหรือนโยบายองค์กร) สามารถเข้าถึงเทคโนโลยีเว็บใหม่ๆ ได้ด้วย