เมื่อตอนเปิดตัว iOS 11 นั้น Apple ได้เปิดตัวเฟรมเวิร์ค ARKit เพื่อส่งเสริมให้นักพัฒนาเพิ่มฟีเจอร์ AR ให้กับแอพบน iOS แต่ล่าสุดข้อมูลจาก Apptopia เผยว่าเรื่องนี้อาจจะไม่ได้ง่ายนัก เพราะจนถึงตอนนี้มีแอพเพียงแค่ 825 แอพจากทั้งหมดที่ใช้เฟรมเวิร์ค ARKit

Apptopia รายงานว่า แอพบน iOS นั้นมีเพียงแค่ 300 แอพที่ใช้งานเฟรมเวิร์ค ARKit ตั้งแต่เปิดตัว iOS 11 เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา จากนั้นตัวเลขนี้ก็ลดลงมาเรื่อย ๆ อยู่ที่ 205 แอพ ในช่วงเดือนกันยายนถึงตุลาคม และ 152 แอพในช่วงเดือนตุลาคมถึงพฤศจิกายน จากนั้นจึงเริ่มเพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อยที่ 168 แอพในเดือนพฤศจิกายนถึงธันวาคม

Pokemon Go บน iOS อัพเดตใหม่ เพิ่มฟีเจอร์ AR+ แสดงโปเกมอนบนฉากหลังได้สมจริงกว่าเดิม เราจะเห็นโปเกมอนยืนอยู่บนสถานที่จริงตามที่เห็น ถ้าเดินเข้าใกล้ก็จะเห็นโปเกมอนตัวใหญ่ขึ้น ระยะห่างระหว่างเรากับโปเกมอนมีผลต่อการโยนบอลให้สำเร็จ แต่ต้องระวังหากเข้าใกล้มากเกินไป โปเกมอนอาจตื่นตกใจจนหนีไปได้เช่นกัน

ฟีเจอร์นี้เรียกใช้งานเฟรมเวิร์ค ARKit ของระบบปฏิบัติการ iOS 11 สามารถใช้ได้กับ iPhone 6s ขึ้นไป

ที่มา - Pokemon Go Live

ต้องบอกว่าเทคโนโลยี Augmented reality หรือที่เรียกสั้นๆ ว่า AR ตอนนี้กำลังเริ่มเป็นกระแสขึ้นมาเรื่อยๆ ก็ว่าได้ ก่อนหน้านี้เราคงเห็นแอพชื่อดังอย่าง Snapchat ที่นำเจ้า Dancing Hot Dog มาให้ผู้ใช้เล่นจนติดกระแส หรือจะเป็น Pokemon Go ก็ได้นำเทคโนโลยีตัวนี้มาใช้งานได้อย่างลงตัวบริษัทรายใหญ่อย่าง Apple และ Google ก็เล็งเห็นว่า AR ควรเป็นส่วนหนึ่งของมือถือสักที จึงได้พัฒนาส่วน core ของ AR ลงมือถือกันเรียบร้อย ฝั่ง Apple มีสิ่งที่เรียกว่า ARKit ส่วน Google ก็มี ARCore นักพัฒนาก็ไม่ต้องเสียแรงทำ core ของ AR เองอีกต่อไป

กูเกิลเริ่มพัฒนาโครงการด้าน AR ตั้งแต่ปี 2014 ในชื่อว่า Project Tango ที่ต่อมาย่อเหลือ Tango โดยเป็นการพัฒนา AR บนฮารด์แวร์พิเศษเฉพาะตัว และเมื่อกลางปีที่ผ่านมาก็เปิดตัว ARCore ชุดพัฒนา AR สำหรับสมาร์ทโฟน ที่ต่อยอดจาก Tango ล่าสุดกูเกิลประกาศว่าจะโฟกัสที่ ARCore เป็นหลักแล้ว

โดยกูเกิลบอกว่าโครงการ Tango นี้จะปิดตัวตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2018 เนื่องจากกูเกิลจะไปโฟกัสที่การพัฒนา AR บน Android ด้วย ARCore แทน

สุดท้ายกูเกิลขอบคุณชุมชนนักพัฒนาของ Tango ตลอดสามปีที่ผ่านมา ซึ่งช่วยส่งต่องานไปยัง ARCore นั่นเอง

Airbnb ประกาศเปิดตัวการนำเทคโนโลยี AR และ VR มาใช้เพื่อเสริมประสบการณ์ท่องเที่ยว และจองห้องพักบนแพลตฟอร์ม ตั้งแต่ก่อนเที่ยวและระหว่างเที่ยว

ในระหว่างการจองที่พักและวางแผนการท่องเที่ยว Airbnb จะใช้ VR เข้ามาเสริมประสบการณ์จำลองห้องพัก ดังนั้นผู้ใช้ไม่ใช่จะเห็นเฉพาะห้องพักจากภาพหรือคำบรรยาย แต่จะเห็นห้องพักในรูปแบบเสมือนจริง รวมถึงจำลองสภาพของเมืองที่จะไปเที่ยวในรูปแบบ 360 องศา เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสประสบการณ์ในระดับหนึ่ง ก่อนนักท่องเที่ยวจะตัดสินใจจองห้องพัก

Amazon เริ่มเข้าสู่สมรภูมิ VR และ AR ด้วย Sumerian เครื่องมือสำหรับนักพัฒนาในการนำโมเดลสามมิติมาใช้กับระบบ VR และ AR โดยมีไลบรารีของวัตถุที่มาพร้อมกับโมเดลเต็มตัวที่สามารถใช้งานได้ทันที กับการรองรับไฟล์ประเภท FBX และ OBJ และยังสามารถนำเข้าข้อมูลจากโปรเจค Unity ได้ด้วย

Sumerian ถูกออกแบบมาเพื่อเน้นกลุ่มนักพัฒนาที่เพิ่งเริ่มพัฒนาระบบสามมิติโดยเฉพาะ เพื่อตอบสนองความต้องการในยุคปัจจุบันที่นักพัฒนาหันมาสนใจการพัฒนาคอนเทนต์เพื่อใช้กับระบบ VR และ AR มากขึ้น โดย Sumerian สามารถสร้างคอนเทนต์เพื่อใช้รันบน HTC Vive, Oculus Rift และ iPhone ได้ และในอนาคต Sumerian จะรองรับการสร้างสภาพแวดล้อม AR สำหรับอุปกรณ์ Android ที่รองรบักับ ARCore ด้วยในอนาคต

Google เปิดตัว Poly แพลตฟอร์มการค้นหาโมเดล 3 มิติสำหรับใช้งานบน AR และ VR ซึ่งรองรับการใช้งานทั้งหมด AR Core ของ Google และ ARKit ของแอปเปิล โดย Poly สามารถใช้งานได้ทั้งบนเบราว์เซอร์และโมบายล์

Poly มีลักษณะเป็นแพลตฟอร์มกลาง เป็นพื้นที่แบ่งที่แบ่งปันโมเดล 3D และไม่เสียค่าใช้จ่ายๆ ใดทั้งสิ้น โดย Google มีการแบ่งหมวดหมู่ในการค้นหาให้ด้วย พร้อมบอกประเภทลิขสิทธิ์ของแต่ละไฟล์ในการนำไปใช้งาน นอกจากนี้ Google ยังมีเครื่องมือสำหรับสร้างโมเดล 3 มิติอย่าง Tilt Brush และ Blocks

ความนิยมใน VR/AR/วิดีโอ 360 องศา ทำให้สิ่งสำคัญที่ต้องตามมาคือระบบเสียงแบบอิงตามพื้นที่ (spatial audio) ซึ่งมีบริษัทหลายรายให้ความสำคัญกับเรื่องนี้

ล่าสุด กูเกิลเปิดตัวโครงการ Resonance Audio เป็นชุด SDK สำหรับช่วยจัดการเสียงรอบทิศทาง สามารถใช้กับแพลตฟอร์มได้หลากหลาย ทั้งเอนจินเกมอย่าง Unity/Unreal, สมาร์ทโฟน Android/iOS และเว็บ มี API ในภาษา C/C++, Objective-C, Java และเว็บ

ฟีเจอร์เด่นของ Resonance Audio คืออัลกอริทึมที่ช่วยจำลองแหล่งกำเนิดเสียงได้เป็นหลักร้อยจุดพร้อมกัน โดยให้คุณภาพเสียงดี แต่ใช้ทรัพยากรไม่เยอะ เพื่อลดการทำงานของซีพียูในระหว่างเล่นเกมหรือวิดีโอ ตัวโครงการเปิดซอร์สโค้ดบน GitHub

Niantic Inc. เจ้าของผลงานเกมดังระดับโลกอย่าง Pokemon Go ประกาศทำเกมใหม่ที่น่าจะดังไม่แพ้กัน Harry Potter: Wizards Unite

จากชื่อก็ชัดเจนว่าเป็นการนำโลกเวทย์มนตร์ของ Harry Potter มาดัดแปลงเป็นเกม AR ที่เล่นตามสภาพแวดล้อมจริง ตอนนี้ยังไม่มีภาพตัวเกมออกมา แต่ Niantic ก็บอกว่าผู้เล่นสามารถร่ายเวทย์มนตร์ ค้นหาและต่อสู้กับสัตว์มหัศจรรย์ และรวมกลุ่มกันเพื่อต่อกรกับศัตรูได้

เกม Harry Potter: Wizards Unite เป็นความร่วมมือระหว่าง Niantic กับ Warner Bros. ซึ่งเป็นเจ้าของสิทธิใน Harry Potter ภาคภาพยนตร์ โดยมีบริษัทในเครืออย่าง Warner Bros. Interactive Entertainment และ WB Games San Francisco เข้ามาช่วยพัฒนาด้วย

ท่ามกลางกระแส VR/AR ที่กำลังมาแรงในตอนนี้ กูเกิลเปิดตัว Poly เว็บไซต์คลังเก็บภาพวัตถุ 3D ที่สามารถดาวน์โหลดไปใช้งานต่อได้ ทั้งในแพลตฟอร์ม VR ต่างๆ, ARCore ของกูเกิลเอง และ ARKit ของแอปเปิล

Poly เป็นคู่แข่งโดยตรงของเว็บ Remix 3D ของไมโครซอฟท์ รูปแบบการใช้งานเหมือนกัน คือผู้ใช้สามารถอัพโหลดโมเดล 3D เพื่อเผยแพร่ให้คนอื่นนำไปใช้งานได้ และมันยังทำงานร่วมกับเว็บแอพวาดภาพ 3D ของกูเกิลทั้ง Blocks และ Tilt Brush วาดเสร็จแล้วสามารถแชร์ไปยัง Poly ได้เลย

ที่มา - Google

Amazon เพิ่มฟีเจอร์ AR View ซึ่งเป็นฟีเจอร์ช้อปปิ้งด้วย AR ในแอพบน iOS โดยฟีเจอร์นี้สามารถพรีวิวสินค้าของ Amazon นับพันชิ้นในรูปแบบสามมิติ ตั้งแต่เครื่องครัว ไปจนถึงของเล่นและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ (และแน่นอนรวมถึงสินค้าของ Amazon ด้วย)

ฟีเจอร์นี้จะใช้งานได้กับ iPhone 6s เป็นต้นไป และตอนนี้ Amazon ยังไม่ได้กล่าวถึงฟีเจอร์นี้บนแอพ Android แต่อย่างใด

ที่มา - Engadget

ในขณะที่ตลาดล่าง ไมโครซอฟท์จับมือกับพาร์ทเนอร์เริ่มวางขายแว่น Mixed Reality ราคาค่อนข้างถูกไปแล้ว ล่าสุดไมโครซอฟท์ก็ขยายตลาดบนของ HoloLens โดยเน้นที่ลูกค้าธุรกิจ โดยวางขายแว่นในยุโรปเพิ่มอีก 29 ประเทศ รวมตอนนี้เป็น 39 ประเทศแล้ว

แว่น HoloLens ยังวางตัวเป็นอุปกรณ์เฉพาะทาง โดยแว่นสำหรับนักพัฒนาขายตัวละ 3,000 ดอลลาร์ และชุดที่ใช้ในธุรกิจ (เพิ่มประกันและระบบรักษาความปลอดภัย) ราคา 5,000 ดอลลาร์

ตัวอย่างพาร์ทเนอร์ของไมโครซอฟท์ที่นำ HoloLens ไปใช้ในทางธุรกิจ ได้แก่ Ford นำไปช่วยในกระบวนการออกแบบรถยนต์ และบริษัทผลิตลิฟต์ thyssenkrupp ใช้ฝึกซ้อมการอบรมซ่อมแซมลิฟต์

Windows Mixed Reality เป็นฟีเจอร์ใหม่ที่มาพร้อมกับ Windows 10 Fall Creators Update แม้ว่าฟีเจอร์นี้ยังไม่น่าจะมีใครได้ลองใช้งานจริง เพราะแว่นเพิ่งเริ่มวางขายในต่างประเทศ แต่ท่าทีของไมโครซอฟท์ก็ชัดเจนว่าต้องการดันเรื่องนี้แบบสุดตัว

คำถามที่น่าสนใจคือตกลงแล้วคำว่า "Mixed Reality" คืออะไรกันแน่ มันต่างจาก AR/VR ในปัจจุบันอย่างไร โชคดีว่าในเอกสารสำหรับนักพัฒนาของไมโครซอฟท์มีอธิบายเรื่องนี้ไว้ค่อนข้างละเอียด ควรค่าแก่การนำมาถ่ายทอดบอกต่อกัน

เช้าวันนี้อันดับแอพดาวน์โหลดยอดนิยมใน App Store ประเทศไทย แอพ ARZIO ได้ขึ้นอันดับ 1 ในกลุ่มแอพฟรีแล้ว

โดยผู้ที่เข้าร่วมแสดงวามอาลัยวางดอกไม้จันทน์ในสถานที่ต่างๆ ทั่วประเทศเมื่อวานนี้ จะได้รับแผ่นพับที่ระลึกพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ซึ่งผู้ใช้สามารถดาวน์โหลดแอพ ARZIO (iOS และ Android) เมื่อนำสมาร์ทโฟนมาส่องบนแผ่นพับในภาพต่างๆ ก็จะมีเนื้อหาต่างๆ ปรากฏขึ้น รวมทั้ง AR ของพระเมรุมาศจำลอง 3 มิติ

Target ห้างค้าปลีกในอเมริกาได้เพิ่มฟีเจอร์ AR บนเว็บไซต์ Target.com บนมือถือในชื่อว่า See It In Your Space โดยผู้ใช้สามารถทดลองวางเฟอร์นิเจอร์จำลองแบบสามมิติก่อนที่จะตัดสินใจซื้อสินค้าจริง

ผู้ใช้สามารถถ่ายภาพและเลือกรูปภาพที่ต้องการ หรือจะเลือกรูปที่ถ่ายไว้แล้วก็ได้ โดยไม่จำเป็นต้องใช้แอพหรือฮาร์ดแวร์เพิ่มเติม เพียงแค่เปิดเว็บไซต์ Target.com เท่านั้น

See It In Your Space เปิดให้ใช้แล้วกับสินค้าในบ้านแบรนด์ Project 62 จำนวน 200 ชิ้น และในอนาคตฟีเจอร์นี้จะขยายให้รองรับสินค้าอื่น ๆ อีกนับร้อยชิ้นในสิ้นปีนี้ และขยายให้ได้นับพันชิ้นในปี 2018

ที่มา - Target

Mozilla ประกาศพัฒนาระบบเฟรมเวิร์ค mixed reality ซึ่งเป็นการต่อยอดจาก WebVR ใหม่ในชื่อว่า WebXR API

ตอนนี้ Mozilla ได้จัดทำแบบร่าง WebXR API ไว้แล้ว โดยมาตรฐานใหม่นี้ออกมาเพื่อมีจุดประสงค์ให้เป็นมาตรฐานกลางสำหรับ AR และ VR ของเว็บ เพื่อจัดเทคโนโลยีเกี่ยวกับ reality ทั้งหลายที่มีอยู่ในทุกวันนี้ให้เป็นระเบียบแบบแผนให้นักพัฒนาสามารถสร้างเว็บเพียงเดียวใช้งานได้ตามแต่ละแพลตฟอร์มโดยไม่ต้องอิมพลีเมนต์แยก

กูเกิลเปิดตัว ARCore ชุดเครื่องมือพัฒนา AR ไปเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งตอนนั้นมี Pixel และ Galaxy S8 ที่รองรับ SDK ตัวนี้ ล่าสุดในงาน SDC 2017 ซัมซุงประกาศความร่วมมือกับกูเกิลอย่างเป็นทางการในการขยายการรองรับ ARCore

การร่วมมืออย่างเป็นทางการครั้งนี้ทำให้นักพัฒนาที่พัฒนาแอป AR ผ่าน ARCore จะสามารถนำไปรันได้ทั้งบน Google Pixel และ Galaxy S8 / Note 8 ไปจนถึงสมาร์ทโฟนในกลุ่ม Galaxy ในอนาคต

ที่มา - งาน SDC 2017

การมาถึงของ Windows Mixed Reality (ที่มาพร้อม Windows 10 Fall Creators Update) ถือเป็นจุดเริ่มต้นอย่างเป็นทางการของไมโครซอฟท์ ในการเข้าสู่สมรภูมิ VR/AR ที่กำลังร้อนแรงอยู่ในตอนนี้

ถ้าลองนับผู้เล่นในตลาด VR/AR รายใหญ่ ปัจจุบันมีทั้งหมด 6 ป้อมค่าย ได้แก่ Facebook (Oculus), Valve (SteamVR), Sony (PlayStation VR), Apple (ARKit), Google (Cardboard/Daydream/ARCore) และ Microsoft (Windows Mixed Reality)

สงครามยังเพิ่งเริ่มต้นและยังห่างไกลกับบทสรุป แต่บทความนี้เราจะมาวิเคราะห์สถานการณ์เพื่อดูภาพรวมว่า ค่ายไหนขั้วไหนมีอาวุธอะไร มีพันธมิตรรายไหนอยู่ในสังกัดกันบ้าง

Tim Cook ให้สัมภาษณ์สื่ออังกฤษ The Independent ในประเด็นหลักเกี่ยวกับ AR ว่าจะเป็นเรื่องใหญ่มากในอนาคต โดย ARKit ของแอปเปิลเป็นผู้นำในตลาดนี้ และจะมีนักพัฒนาจำนวนมากแห่กันมาทำแอพ AR ในลักษณะเดียวกับความสำเร็จของ App Store

ประเด็นสำคัญอยู่ที่คำถามว่าแอปเปิลสนใจทำแว่น VR/AR หรือไม่ คำตอบของ Cook คือเทคโนโลยีในปัจจุบันยังไม่ดีพอสำหรับการทำแว่นที่มีคุณภาพ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องมุมมองการแสดงผล (field of view) หรือคุณภาพของหน้าจอ ซึ่งแอปเปิลจะยังไม่ทำแว่นหรือผลิตภัณฑ์ที่เป็น VR/AR ออกมาจนกว่าจะได้คุณภาพระดับที่แอปเปิลต้องการ

Cook บอกว่าแอปเปิลไม่ต้องการเป็นรายแรกที่ทำ แต่ต้องการทำผลิตภัณฑ์ให้ดีที่สุด ตอนนี้ในตลาดยังไม่มีผลิตภัณฑ์ VR/AR ตัวไหนที่ผู้บริโภคพึงพอใจกับมัน

Ford ได้เริ่มโครงการใหม่ คือการพัฒนารถยนต์โดยใช้ HoloLens อุปกรณ์ mixed reality จาก Microsoft

HoloLens นี้จะนำมาเพื่อการพัฒนารถยนต์ของ Ford เพื่อให้นักออกแบบเห็นโมเดลตัวรถเสมือนจริงซึ่งมีขนาดเท่ากับของจริงในสภาพแวดล้อมจำลอง แทนที่จะต้องไปสร้างโมเดลของจริงขึ้นมา และยังสามารถปรับเปลี่ยนเพื่อดูว่าเมื่อใช้วัสดุใดแล้วจะได้ผลเป็นอย่างไรในแบบเรียลไทม์

การใช้ HoloLens สำหรับการออกแบบรถยนต์ Ford ยังอยู่ในขั้นทดลอง โดยการนำอุปกรณ์มาช่วยนี้สามารถลดกระบวนการพัฒนารถยนต์ที่ต้องคอยออกแบบและเปลี่ยนแปลงจากสัปดาห์ลงมาเหลือระดับวันเท่านั้น

ที่มา - TechCrunch

จากงาน WWDC 2017 เมื่อช่วงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา แอปเปิลได้เปิดตัว iOS 11 สำหรับนักพัฒนา มีฟีเจอร์ออกมามากมาย และหนึ่งในความสามารถใหม่ ๆ นั่นคือ ได้ปล่อยชุด ARKit หรือชุดสำหรับใช้พัฒนาแอปประเภท AR (Augmented Reality) ออกมาให้เหล่านักพัฒนาสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับแอปของตนได้ โดยแอปที่จะนำเสนอในวันนี้คือแอป AirMeasure AR จาก Laan Labs

แอป AirMeasure AR เป็นแอปที่ใช้วัดความยาวของวัตถุหรือสิ่งของได้อย่างสมจริง เพียงแค่ยกกล้องแล้วโฟกัสไปยังจุดที่เราจะวัดความยาว โดยแตะจุดเริ่มและจุดสุดท้าย เราก็จะได้ขนาดความยาวของวัตถุออกมา ซึ่งมีความแม่นยำเกือบ 99% เลยทีเดียว

Phil Keslin ซีทีโอของ Niantic ผู้สร้างเกม Pokémon Go พูดในงาน TechCrunch Disrupt ที่ซานฟรานซิสโก เผยเป็นนัยว่าเกมต่อไปของบริษัทจะใช้ระบบเสียงเข้ามาทำงานร่วมกับ AR นำทางผู้เล่นเกมโดยใช้ประโยชน์จากระบบเซนเซอร์

Keslin พูดถึงภาพรวมเกม AR ที่กำลังเป็นเทรนด์ตอนนี้ว่า เกม AR มีปัญหาอย่างหนึ่งคือ ผู้เล่นจะดูไม่เป็นธรรมชาติเวลาเล่นเกม ต้องเอาโทรศัพท์จ่อไปข้างหน้าตลอดเวลา เกมโปเกมอนก็เช่นกัน แต่ผู้เล่นไม่จำเป็นต้องทำอย่างนี้เสมอไปถ้ามีระบบเสียงช่วยนำทางผู้เล่น ทุกวันนี้พฤติกรรมผู้ใช้ทั่วไปติดการใส่หูฟังทำให้เสียงไม่รบกวนผู้อื่น

ในการแข่งขัน MotoGP รายการ San Marino Grand Prix ระหว่างวันที่ 8-10 กันยายน 2017 ทีม Aprilia Racing Team Gresini เปิดตัว DAQRI Smart Helmet หมวกนิรภัยสำหรับช่างแมคคานิคซึ่งพัฒนาโดย Realmore และนำเทคโนโลยี Augmented Reality (AR) มาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเตรียมและซ่อมบำรุงรถในรอบการฝึกซ้อม (ก่อนการแข่งขันในวันอาทิตย์ จะมีการฝึกซ้อมทั้งหมด 3 รอบในวันศุกร์และวันเสาร์)

Google เปิดตัวชุดพัฒนาซอฟต์แวร์หรือ SDK ใหม่สำหรับเทคโนโลยี augmented reality ในชื่อว่า ARCore โดยเทคโนโลยีนี้จะถูกนำไปสู่สมาร์ทโฟน Android ทั้งปัจจุบันและอนาคต

ARCore นั้นเป็นโครงการต่อยอดมาจาก Tango ซึ่งเป็นโครงการพัฒนา AR บนอุปกรณ์พกพาซึ่งก่อตั้งมาสองปีแล้ว ARCore นี้จะพัฒนาอยู่บนพื้นฐานของโครงการดังกล่าว แต่ไม่ต้องใช้ฮาร์ดแวร์พิเศษเพิ่มเติม ซึ่งหมายความว่า ARCore นี้สามารถสเกลให้อยู่ใน Android ได้

อย่างที่ Mark Zuckerberg ซีอีโอของเฟซบุ๊ก บริษัทแม่ Oculus ที่เคยแสดงวิสัยทัศน์ต่อ Augmented Reality ว่าเป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มอนาคตของบริษัท ล่าสุดแนวคิดนี้อาจดูเป็นรูปเป็นร่างมากขึ้นเล็กน้อย หลังฝ่ายวิจัยของ Oculus ยื่นจดสิทธิบัตรหน้าจอแว่น AR ตัวใหม่

หัวข้อที่ Oculus ยื่นจดคือ "หน้าจอแบบท่อนำคลื่น พร้อมสแกนเนอร์ 2 มิติ" (waveguide display with two-dimensional scanner) โดยเนื้อหาคร่าวๆ ในสิทธิบัตรระบุว่า หน้าจอจะแสดงผลเพิ่มเติมจากสภาพแวดล้อมของจริง จากภาพที่ถูกสร้างขึ้นโดยคอมพิวเตอร์ หรืออาจจะอยู่ในลักษณะของกรอบแว่นและแสดงผลไปยังตาของผู้ใช้ ผ่านท่อนำคลื่น ซึ่งเท่ากับว่าตัวแว่นจะยิงแสงเข้าไปยังตาของผู้ใช้โดยตรง แทนที่จะแสดงผลเหมือนหน้าจอทั่วไป ขณะที่ตัวแว่นอาจมีลำโพงติดตั้งมาด้วย