หนังสือพิมพ์ The Wall Street Journal รายงานว่าตอนนี้แอปเปิลได้เริ่มเดินสายการผลิต iPad mini อย่างเต็มที่แล้ว โดยจุดประสงค์ของ iPad mini ก็คือการเอามาแข่งกับแท็บเล็ตขนาดเดียวกันที่รันระบบปฏิบัติการ Android

ในรายงานยังยืนยันข้อมูลเดิมตามข่าวลือที่ออกมาก่อนหน้านี้ (ที่ในรอบปีที่ผ่านมาน่าเชื่อถือได้พอสมควร) นั่นก็คือหน้าจอขนาด 7.85 นิ้วที่มาพร้อมกับความละเอียด 1024x768

มีใครแถวนี้รอ iPad mini ตัวนี้หรือไม่ หรือ Nexus หนึ่งเดียวในหัวใจเท่านั้น?

ซัมซุงกำลังยื่นคำร้องต่อศาลขอให้มีการพิจารณาคดีระหว่างซัมซุงกับแอปเปิลใหม่ เมื่อค้นพบว่าหัวหน้าลูกขุน Velvin Hogan เคยถูกฟ้องโดยบริษัทซีเกทจนกระทั่งตัวเขาล้มละลายในปี 1993

Hogan ระบุว่าศาลสอบถามถึงประวัติการมีคดีย้อนหลังไปเพียงสิบปี และคดีในปี 1993 ก็พ้นจากช่วงเวลาที่ศาลกำหนด ตัวซัมซุงเองก็มีโอกาสจะสอบถามประวัติส่วนนี้ในศาลอยู่แล้ว พร้อมกับแสดงข้อสงสัยว่าซัมซุงตั้งใจจะเก็บข้อมูลนี้เอาไว้ และรอจนกว่าผลตัดสินออกมาเป็นลบจึงนำมาใช้หรือไม่

ซัมซุงระบุว่าความสัมพันธ์ระหว่างซัมซุงกับซีเกทนั้นแนบแน่นมาก โดยซัมซุงขายแผนกหนึ่งของบริษัทให้กับซีเกทในปีที่แล้ว ทำให้ตอนนี้ซัมซุงเป็นผู้ถือหุ้นโดยตรงของซีเกทรายใหญ่ที่สุด

เพิ่งมีข่าวลือว่า iPad mini จะเปิดตัววันที่ 17 ตุลาคมนี้ ก็มีชิ้นส่วนที่อ้างว่าเป็น iPad mini หลุดมาอีกชุดใหญ่ (เคยหลุดฝาหลังมา และชิ้นส่วนภายในมาแล้วหนึ่งครั้ง) คราวนี้มาทั้งฝาหลัง กระจกด้านหน้า และพาเนลจอพร้อมกันเลย

จากรูปที่หลุดมา พอสรุปข้อมูลของ iPad mini ได้คร่าวๆ ดังนี้ครับ (ถ้าเป็นของจริงนะ)

• ขอบจอ (bezel) บางลง สเกลหน้าจอยาวขึ้นเข้าใกล้ซีรีส์ iPod touch และ iPhone
• ฝาหลังเป็นอลูมิเนียม มีสีดำแล้ว! (น่าจะเหมือนกับของ iPod touch ตัวใหม่)
• เปลี่ยนไปใช้พอร์ต Lightning ตามคาด
• ใช้ Nano-SIM

ใครที่อยากค้นหาความจริงอื่นๆ อีกลองดูภาพท้ายข่าวครับ

สถิติจากโฆษณาของบริษัท Chitika พบว่าอัตราการอัพเกรด iOS 6 ในหมู่ผู้ใช้ iPhone สูงมาก โดยนับถึงวันที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา ผู้ใช้ iPhone (ที่เข้ามาเยี่ยมชมโฆษณาของ Chitika ผ่านช่องทางต่างๆ) จำนวน 60% เปลี่ยนมาใช้ iOS 6 กันแล้ว

อัตราการอัพเกรดของ iPad ต่ำกว่าคือ 45% ในช่วงเวลาเดียวกัน และตัวเลขของ iPod Touch อยู่ที่ 39%

ที่มา - Chitika

Motorola Mobility ถอนฟ้องสิทธิบัตรแอปเปิล ที่เคยยื่นต่อคณะกรรมการการค้าระหว่างประเทศของสหรัฐ (ITC) โดยไม่ระบุเหตุผล

ในเอกสารของโมโตโรลาระบุแค่ว่าต้องการหยุดคดีนี้ (โมโตโรลาฟ้องแอปเปิลต่อ ITC สองคดี ที่ถอนนี้เฉพาะคดีหลัง) และบอกว่าบริษัทก็ยังไม่บรรลุข้อตกลงใดๆ กับแอปเปิล ซึ่งแอปเปิลเองก็ยืนยันว่าไม่ขัดขวางการถอนฟ้องครั้งนี้

ตามปกติแล้วการถอนฟ้องมักเกิดขึ้นเมื่อคู่กรณีตกลงกันนอกศาลได้ แต่กรณีนี้โมโตโรลาก็ระบุชัดเจนว่ายังไม่บรรลุข้อตกลงใดๆ กับแอปเปิล ที่เหลือก็คงต้องเดากันต่อไปว่าเกิดจากอะไรครับ (เป็นไปได้ทั้งปัญหาเรื่องเอกสาร หรือไม่ก็ตกลงกันได้แล้วแต่ยังไม่เซ็นสัญญาเป็นทางการ)

ผู้ใช้ iPhone 5 รายหนึ่งอีเมลไปถามแอปเปิลถึงปัญหากล้องถ่ายภาพออกมาติดโทนสีม่วงในภาพ โดยเฉพาะจุดที่เป็นแหล่งกำเนิดแสงภายในภาพ (เช่น พระอาทิตย์หรือหน้าต่าง) ซึ่งปัญหานี้ไม่เกิดกับ iPhone 4S (ภาพเปรียบเทียบดูกันเองตามลิงก์)

คำตอบของฝ่าย AppleCare Support คือแสงสีม่วงเป็นเรื่องปกติของกล้อง iPhone 5 (The purple flare in the image provided is considered normal behavior for iPhone 5's camera) และแนะนำให้ลูกค้าถือกล้องให้ห่างหรือหันออกจากแหล่งกำเนิดแสงโดยตรง (angle the camera away)

หลายๆ คนคงคิดถึงประโยคนี้ "You're Holding it Wrong"

ที่มา - Gizmodo

Steve Wozniak ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทแอปเปิล ได้ให้สัมภาษณ์กับเว็บไซต์ Slashdot โดยส่วนใหญ่แล้วคำตอบก็เป็นไปในทางเดียวกันตามวิถีง่ายๆ ของ Woz แต่ว่ามีประเด็นที่น่าสนใจอยู่บ้างดังนี้ครับ

Woz อยากให้ Android มี iTunes

Woz กล่าวว่าแอปเปิล "ผงาด" ขึ้นมาจากส่วนแบ่งตลาดเล็กๆ ที่ใช้งาน Macintosh มาสู่ตลาดขนาดใหญ่ได้ก็เพราะว่า iTunes และ iPod ซึ่งธุรกิจในส่วนนี้ทำให้แอปเปิลนั้นเติบโตขึ้นมาก แอปเปิลก็เคยพอร์ต iTunes มาลง Windows แล้ว ทำไมแอปเปิลถึงไม่พอร์ต iTunes มาลง Android บ้าง

Woz อยากให้แอปเปิลลดสงครามสิทธิบัตรให้น้อยลง

ถ้ายังจำกันได้ หลังจากที่ iPhone 5 เปิดตัวไปนั้น ซัมซุงมีท่าทีชัดเจนว่าเตรียมตัวที่จะเพิ่มชื่อ iPhone 5 ลงในคดีฟ้องสิทธิบัตรระหว่างแอปเปิลแน่นอน แต่ว่าขอเวลาตรวจสอบก่อน ตอนนี้ซัมซุงได้ทำตามสัญญาด้วยการเพิ่ม iPhone 5 ลงในคดีสิทธิบัตรเรียบร้อยแล้ว โดยซัมซุงกล่าวว่า "เรามีทางเลือกไม่มากนักนอกจากปฏิบัติตามขั้นตอนเพื่อปกป้องนวัตกรรมและทรัพย์สินทางปัญญาของเรา"

สิทธิบัตรที่ว่านี้น่าจะเกี่ยวข้องกับเครือข่าย LTE ซึ่งซัมซุงใช้เวลาไม่ถึง 1 สัปดาห์ในการพิจารณาว่า iPhone 5 นั้นละเมิดสิทธิบัตรของซัมซุงครับ

ที่มา - The Next Web

Fortune รายงานโดยอ้างข้อมูลจากนักลงทุนในแอปเปิล ที่อ้างว่าเขาได้ยินมาจากหลายแหล่งข่าวว่าแอปเปิลเตรียมจัดงานเปิดตัว iPad mini ในวันที่ 17 ตุลาคม โดยจะออกจดหมายเชิญสื่อมวลชนวันที่ 10 ตุลาคม และสินค้าเริ่มวางจำหน่ายวันที่ 2 พฤศจิกายน ซึ่งถือว่านี่เป็นข่าวลือแบบระบุวันที่โดยละเอียดมาก

หลังจากแอปเปิลซื้อ Chomp ซึ่งเป็นบริการค้นหาแอพ และตัดบริการค้นหาแอพแอนดรอยด์ของ Chomp ไปตั้งแต่เดือนเมษายน

หลังจากนั้น แอปเปิลได้ปรับหน้าตา App Store ใน iOS 6 ให้เป็นแนวเดียวกับ Chomp ลบแอพ Chomp ออกจาก App Store และให้หน้าเว็บ Chomp เปลี่ยนเส้นทางไปยังหน้าเว็บ apple.com แทน

วันที่ 30 กันยายน แอปเปิลปิดบริการทั้งหมดของ Chomp แล้ว โดยขึ้นข้อความขอบคุณว่า

Chomp has been discontinued as of September 30. Thanks for being a loyal user.

ที่มา - MacRumors

เหมือนที่ Tim Cook พูดไว้ในงาน All Things D และ iTunes Ping ปิดรับสมาชิกใหม่ ตอนดึก ๆ ของวันที่ 30 กันยายน แอปเปิลก็ได้ปิดบริการ iTunes Ping เป็นที่เรียบร้อย เมนู iTunes Ping จะไม่แสดงทาง Sidebar ของ iTunes อีกแล้ว

iTunes Ping เปิดบริการเมื่อปี 2010 ในฐานะสังคมออนไลน์ที่เกี่ยวกับเพลง เปิดให้ผู้ใช้แชร์เพลงหรือศิลปินที่ชื่นชอบ แต่เสียงตอบรับจากลูกค้าออกมาแย่ Tim Cook จึงบอกว่าจะทิ้งมัน

ที่มา - MacRumors

แอปเปิลขอสิทธิบัตร "ฟังก์ชันของแท่นวางตามลักษณะการวางอุปกรณ์" (ใช้ชื่อภาษาอังกฤษว่า Device Orientation Based Docking Functions) ซึ่งเกี่ยวกับแท่นวางอุปกรณ์พกพาที่มีฟังก์ชันให้ใช้งานได้เอนกประสงค์

ฟังก์ชันที่จะนำมารวมไว้ในแท่นวางตัวนี้ มีทั้งการชาร์จไฟแบบไร้สาย, การโอนถ่ายข้อมูล, การซิงค์ข้อมูล, การตรวจสอบความผิดปกติของอุปกรณ์ และอาจมีฟังก์ชันอื่นๆ เพิ่มขึ้นอีกในภายหลัง โดยทำงานตามลักษณะที่ผู้ใช้วางอุปกรณ์พกพาลงไปบนแท่นวาง ว่าจะวางตามแนวยาว, วางตามขวาง หรือวางตะแคง ฯลฯ

ต้องเกริ่นก่อนว่านี่เป็น "ความเห็น" จากนิตยสาร Fortune เท่านั้นนะครับ

Philip Elmer-DeWitt บรรณาธิการด้านข่าวแอปเปิลของ Fortune แสดงความเห็นว่า Scott Forstall รองประธานฝ่ายซอฟต์แวร์ iOS ที่เป็นขุนศึกข้างกายสตีฟ จ็อบส์ มาตั้งแต่สมัย NeXT และถูกคาดการณ์ว่าจะเป็นซีอีโอคนต่อไปของแอปเปิล อาจกลายเป็นตัวปัญหาของแอปเปิลไปเสียแล้ว

Forstall เพิ่งเดโม Apple Maps บนเวทีไปหมาดๆ ด้วยลีลาที่น่าตื่นตาตื่นใจ เขาโฆษณาผู้ชมถึงความสามารถอันโดดเด่นของ Apple Maps แต่ผลการใช้งานจริงกลับออกมาในทางตรงข้าม ซึ่งเป็นสิ่งที่ขัดกับแนวทางเดิมๆ ของแอปเปิลว่า "โฆษณาให้น้อย ออกผลงานจริงให้ดี"

The New York Times ได้ลงบทความว่าด้วยปัญหาของแผนที่ใน iOS 6 ซึ่งเนื้อหาตอนหนึ่ง มีประเด็นที่น่าสนใจเกี่ยวกับทัศนคติของแอปเปิลต่อโปรแกรมแผนที่ดังนี้ครับ

Apple ออกมาเขียนจดหมายขอโทษกับลูกค้ากรณีแผนที่บน iOS 6 ได้รับเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในแง่ลบเป็นจำนวนมาก โดยแนะนำให้ใช้บริการแผนที่ของรายอื่นไปก่อน และสัญญาว่าจะปรับปรุงบริการแผนที่ของตนเองให้ดีกว่าเดิม

จดหมายฉบับนี้เขียนโดยทิม คุก และมีเนื้อความดังนี้ครับ

To our customers,

At Apple, we strive to make world-class products that deliver the best experience possible to our customers. With the launch of our new Maps last week, we fell short on this commitment. We are extremely sorry for the frustration this has caused our customers and we are doing everything we can to make Maps better.

หลังจากที่ทิม คุก ได้ออกมายอมรับและขอโทษกับลูกค้าที่ใช้อุปกรณ์ iOS เกี่ยวกับบริการแผนที่ของแอปเปิลบน iOS 6.0 ที่มีปัญหาหลาย ๆ เรื่อง วันนี้เว็บ iDaily.de ได้สังเกตเห็นว่าแอปเปิลได้เปลี่ยนแปลงคำอธิบายแอพแผนที่ของตัวเองจากเดิมที่บอกว่าเป็น..

All of which may just make this app *the most beautiful, powerful mapping service ever*

มาเป็น

All in a beautiful vector-based interface that scales and zooms with ease

จากข่าว โมโตโรลายิงแคมเปญโฆษณา #iLost เปรียบเทียบข้อมูลระหว่างแผนที่ของแอปเปิลกับกูเกิล มีประเด็นให้ถกกันต่ออีกแล้วครับ

เรื่องคือมีผู้อ่านเว็บไซต์ AppleInsider คนหนึ่งไปพบว่าที่อยู่ "315 E 15th Street" ในนิวยอร์กที่แสดงในโฆษณา ไม่ใช่ที่อยู่ที่มีอยู่จริง ซึ่งแปลว่าแผนที่ของแอปเปิลไม่ผิดอะไรที่แสดงข้อมูลนี้ไม่ถูกต้อง

ฝั่งเว็บไซต์ VentureBeat แสดงความคิดเห็นในมุมกลับว่า ที่อยู่จริงหรือปลอมไม่ใช่ประเด็น เพราะแผนที่ของกูเกิลจะอ่านคำค้นของผู้ใช้ แล้วพยายามกำหนดพิกัดที่ใกล้เคียงที่สุดมาให้ เช่น บ้านเลขที่ 315 จะอยู่ฝั่งหัวถนนของบล็อค 300 มากกว่าบ้านเลขที่ 380 ที่อยู่ท้ายบล็อค ในขณะที่แผนที่ของแอปเปิลไม่มีความสามารถแบบนี้

จากปัญหาแผนที่ของ iOS 6 ล่าสุด Tim Cook ซีอีโอของแอปเปิลเขียนจดหมายขอโทษลูกค้าอย่างเป็นทางการแล้ว

Cook บอกว่าแอปเปิลต้องการสร้างแผนที่ที่มีฟีเจอร์ครบครัน จึงต้องลงทุนทำระบบแผนที่ใหม่ทั้งหมด แต่ก็ไม่สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ ถึงแม้ยิ่งคนใช้แผนที่เยอะเท่าไร มันจะยิ่งพัฒนาเร็วขึ้นเท่านั้น

Cook ยังบอกว่าระหว่างที่แอปเปิลต้องใช้เวลาพัฒนาแผนที่ให้ดีขึ้น ลูกค้าอาจพิจารณาใช้แอพแผนที่อื่นๆ เช่น Bing, MapQuest, Waze รวมถึงอาจใช้ Google Maps หรือ Nokia Maps ได้ผ่านหน้าเว็บและสร้างเป็นไอคอนบน homescreen

หลังจากเราได้ดูวีดีโอ Drop Test ของ iPhone 5 เพื่อทดสอบความอึด (+ความสะใจส่วนบุคคล) ไปแล้วนั้น วีดีโอการทดสอบล่าสุดที่ถูกโพสลงบน YouTube นั่นก็คือ ใช้ปืนสไนเปอร์ไรเฟิลขนาด 0.50 นิ้ว หรือชื่อเต็มคือ Barret .50 Cal Sniper Rifle มาเป่า iPhone 5 กันจะๆ ครับ (อันนี้คนเทสออกแนวสะใจเล็กน้อยครับ แหะๆ)

ผลก็คือ "นัดเดียวจอดครับ!" เพราะนัดแรกที่ยิงทำให้หน้าจอแตกยับตั้งแต่จุดที่ถูกยิงลงมาถึงกลางหน้าจอ และกล้อง Facetime Camera ก็หลุดออกมาเป็นชิ้นๆ แต่เท่านี้ไม่พอครับ เค้าได้ทำการทดสอบด้วยการยิงซ้ำไปอีก 1 นัด โดยรอบนี้พรุนทั้งข้างหน้า และบอดี้ด้านหลังเลยครับ ใครอยากดูเพื่อความสะใจก็เชิญกันที่ท้ายเบรคครับ แหะๆ

ประธานของกูเกิล Eric Schmidt วันนี้ได้เดินทางไปงานเปิดตัว Nexus 7 ในประเทศเกาหลีใต้ และได้แสดงความเห็นเกี่ยวกับแอปเปิลว่า แอปเปิลเป็นพาร์ทเนอร์ที่ดีมากกับกูเกิล และทั้งสองบริษัทก็ยังคุยกันเกี่ยวกับทุกเรื่องทุก ๆ เวลา ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม เมื่อหันมาพูดเกี่ยวกับเรื่องสิทธิบัตรของแอปเปิล Schmidt ได้บอกว่า "สิ่งที่ดีที่สุดที่เราบอกได้ตอนนี้ก็คือมันมี prior art มากมาย แต่เราไม่อยากพูดมากไปกว่านี้"

เป็นที่ทราบกันดีกว่าพอร์ต Lightning ของแอปเปิลนั้นมีความพิเศษอยู่ตรงที่มันสามารถเสียบใช้งานได้ทั้งสองด้าน ผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องมานั่งเล็งว่าด้านใดเป็นด้านบนหรือด้านล่างอีกต่อไป

ผลสำรวจผู้ใช้ไอโฟน 16,000 คนจากบริษัทวิจัยตลาดมือถือ On Device พบว่าความพึงพอใจต่อ iOS 6 ลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับ iOS 5

• iOS 4 ได้คะแนน 6.93
• iOS 5 ได้คะแนน 7.75
• iOS 6 ได้คะแนน 7.65

On Device ระบุว่าผลสำรวจครั้งนี้น่าสนใจ เพราะเป็นครั้งแรกที่เห็นคะแนนความพึงพอใจลดลงเมื่อเปลี่ยนรุ่นระบบปฏิบัติการมือถือใหม่ (ทั้ง Android/iOS) ซึ่งปัญหาเกิดจาก Maps ของ iOS 6 นั่นเอง (อย่างไรก็ตาม คะแนนของ iOS 6 ยังถือว่าสูงมาก)

ทาง On Device ไม่ได้เปิดเผยคะแนนสำรวจความพึงพอใจของระบบปฏิบัติการอื่นๆ มาให้เปรียบเทียบครับ

ท่ามกลางความสับสนหลังการตอบคำถามเรื่องอนาคต Google Maps บน iOS ของ Eric Schmidt ที่ทางรอยเตอร์รายงานว่ายังไม่ได้ทำอะไรกับเรื่องนี้เลย แต่ในขณะเดียวกันบลูมเบิร์กกลับรายงานในทางตรงกันข้ามว่าส่งแอพไปแล้ว และรอแอปเปิลอนุมัติตามข่าวลือก่อนหน้า ตอนนี้มีอีกข่าวลือหนึ่งจาก The New York Times มาแล้ว

โดย The New York Times อ้างข้อมูลจากแหล่งข่าวไม่เปิดเผยชื่อว่ากูเกิลกำลังพัฒนาแอพ Google Maps และคาดว่าจะเสร็จภายในสิ้นปีนี้ ส่วนเหตุผลที่ล่าช้ามาจากการเพิ่มฟีเจอร์เข้าไปในแอพ Maps อย่างภาพสามมิติที่ใช้ข้อมูลจาก Google Earth จึงต้องใช้เวลามากขึ้นเพื่อรวมบางฟีเจอร์จากสองแอพเข้าด้วยกัน

หลังจากที่หลายคนเรียกร้องให้ทำการทดสอบระหว่าง iPhone 5 กับ Nokia Lumia 920
ในวันนี้ มีคนทำการทดสอบการถ่ายวิดีโอมาให้เราชมกันแล้ว

ผลการทดสอบจะเห็นได้ว่า ถึงระบบกันสั่นของ Lumia 920 จะไม่นิ่งเหมือนในโฆษณา แต่ความนิ่งของภาพก็ถือว่าดีมาก เมื่อเทียบกับกล้องมือถือทั่วๆ ไป

โดยเฉพาะเมื่อเปรียบเทียบกับ iPhone 5 แล้ว คุณภาพต่างกันอย่างเห็นได้ชัด
ทั้งความคมชัด, สีสัน, รายละเอียด และ ความกว้างของภาพ ที่ Lumia 920 เอาชนะ iPhone 5 อย่างเห็นได้ชัด

ที่มา - YouTube, Engadget

ผู้เชี่ยวชาญเผย Apple ได้ปรับปรุงจอแสดงผลใน iPhone 5 ขึ้นไปอย่างมากเมื่อเทียบกับ iPhone 4S โดย จอแสดงผลใน iPhone 5 เป็นจอแสดงผลที่มีความละเอียด 326 ppi เหมือนเดิม แต่จอภาพใน iPhone 5 นั้น ได้ปรับปรุงในด้านของการลดการสะท้อนแสงโดยลดลง 52% เมื่อเทียบกับ iPhone 4S และมีความถูกต้องของสีเพิ่มขึ้น และยังมีองศาการมองดีกว่าจอภาพ OLED

ตารางเปรียบเทียบดูได้หลังเบรคครับ

ตารางที่ 1 เปรียบเทียบประสิทธิภาพโดยรวม ซึ่งพบว่าจอ iPhone 5 มีการปรับปรุงขึ้นมาจากรุ่นก่อนอย่างชัดเจน และมีคุณภาพของสีที่กว่าคู่แข่ง