Apple, Inc.
ปัญหาความไม่ลงรอยระหว่างแอปแปิลและซัมซุงเป็นเรื่องที่ทุกคนรู้ดี แต่ความสัมพันธ์ของสองบริษัทนี้ก็ซับซ้อนเป็นอย่างยิ่งเพราะขณะที่แอปเปืลไม่พอใจซัมซุงเป็นอย่างมาก แต่ก็ต้องพึ่งพิงซัมซุงการผลิตชิ้นส่วนสำคัญๆ แทบทั้งหมด นักวิเคราะห์จาก RBC Capital Markets จึงเสนอบทวิเคราะห์ว่าเป็นไปได้ที่แอปเปิลจะกลับมาใช้ชิป x86 จากอินเทลบนไอแพด
เริ่มมีรายงานว่าร้านค้าจำนวนหนึ่งเริ่มวางขายบัตรเติมเงินออนไลน์สำหรับ iTunes Store แบบที่ไม่ระบุมูลค่าตายตัว แต่สามารถนำไปจ่ายเงินตาม "ช่วง" ราคาที่ระบุไว้หน้าบัตร แล้วนำตัวเงินนั้นไปจ่ายที่แคชเชียร์ เมื่อนำรหัสบัตรไปขึ้นเงินก็จะได้เงินตามที่จ่ายไป
บัตรเติมเงินเป็นช่องทางสำคัญในการทำเงินออนไลน์ แม้แต่ในประเทศที่ใช้บัตรเครดิตมากๆ อย่างสหรัฐฯ หรือชาติในยุโรป จากความสะดวกสบายที่ไม่ต้องผูกบัตรเครดิตเข้ากับบัญชี แต่ปัญหาของบัตรเติมเงินคือการสต็อกของล่วงหน้าที่บัตรมีมูลค่าต่างกันไป ทำให้ขายดีไม่เท่ากัน ต้องมีการคาดเดาความต้องการของตลาดว่าบัตรราคาใดจะขายได้เท่าใดแล้วสต็อกบัตรแต่ละราคาให้พอดีกับความต้องการ
ผู้ใช้สินค้าของแอปเปิลคงคุ้นเคยกับประโยคว่า "Designed by Apple in California – Assembled in China" กันเป็นอย่างดี แต่ล่าสุดมันกลับไม่เป็นอย่างนี้เสมอไปแล้ว
มีผู้ซื้อ iMac รุ่นล่าสุดที่เพิ่งวางขาย และพบว่าข้อความที่สลักอยู่ด้านหลังเครื่องเปลี่ยนจาก Assembled in China มาเป็น Assembled in USA แทนแล้ว
ตามปกติแล้วแอปเปิลจะผลิตสินค้าในสหรัฐเฉพาะเครื่องสั่งพิเศษ (built-to-order) เท่านั้น ครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่พบเครื่องที่ผลิตตามปกติและประกอบในสหรัฐ แต่ยังไม่มีข้อมูลว่า iMac รุ่นใหม่ทุกเครื่องผลิตในสหรัฐหรือเปล่า
วันที่ 1 ธันวาคม วันเอดส์โลก ร้าน Apple Retail Store บางร้านเปลี่ยนแสงไฟโลโก้แอปเปิลหน้าร้านเป็นสีแดง เพื่อเป็นการรณรงค์วันเอดส์โลก และเปลี่ยนสินค้าทุกชิ้นบนชั้นวางของเป็น (PRODUCT) RED
แอปเปิลได้ขายสินค้า (PRODUCT) RED และนำกำไรที่ได้จากการขายสินค้าส่วนหนึ่งส่งไปยังมูลนิธิต่อต้านโรคเอดส์ในแอฟริกา ซึ่งเหล่าสินค้าสีแดงนี้มีทั้ง iPod shuffle, iPod nano, iPod touch, iPad/iPad mini Smart Covers, iPad Smart Case และ iPhone 4S Bumper ซึ่งตั้งแต่มูลนิธิต่อต้านโรคเอดส์ในแอฟริกาได้เริ่มขาย (PRODUCT) RED หลาย ๆ ชิ้น ก็ได้รับเงินทั้งหมด 190 ล้านดอลลาร์ ซึ่ง 50 ล้านดอลลาร์จากทั้งหมด ได้รับมาจากแอปเปิลเพียงบริษัทเดียว
เมื่อเดือนกันยายนที่เปิดตัว iPhone 5 นั้น แอปเปิลก็ได้โชว์ iTunes 11 ที่ปรับหน้าตาใหม่หมด (ข่าวเก่า) หลังจากเลื่อนมาได้ 1 เดือน วันนี้ แอปเปิลก็ปล่อย iTunes 11 ให้ดาวน์โหลดได้แล้วสำหรับ Mac อัพเดตผ่าน Software Update ได้เลย
(ของ Windows น่าจะอัพเดตพร้อมขึ้นหน้าเว็บทีหลัง) ตอนนี้ Windows โหลดได้แล้วครับ คลิกที่นี่
ที่มา - The Verge
ABI Research ออกมาเผยสถิติส่วนแบ่งตลาดแท็บเล็ตประจำไตรมาสที่สามของปี 2012 ผลคือแอปเปิลยังเป็นเบอร์หนึ่งต่อเนื่องกันมา 10 ไตรมาส แต่ด้วยส่วนแบ่งตลาด (ไม่ใช่ยอดขาย) ที่ลดลงเรื่อยๆ เหลือ 55% แล้ว
ตัวเลข 55% ถือเป็นส่วนแบ่งตลาดแท็บเล็ตที่น้อยที่สุดของแอปเปิล นับตั้งแต่ขาย iPad รุ่นแรกในปี 2010 ส่วนสาเหตุก็มาจากการตีตลาดของฝั่งแอนดรอยด์ทั้งซัมซุง เอซุส และอเมซอน นั่นเอง
ABI วิเคราะห์ว่ายุทธศาสตร์ iPad mini ของแอปเปิลไม่สามารถแย่งตลาดมาจากแอนดรอยด์ได้ แต่จะกลายเป็นแย่งตลาดกับ iPad ขนาดปกติแทน
ที่มา - ABI Research
หากยังจำกันได้ งาน WWDC เมื่อเดือนมิถุนายน แอปเปิลบอกว่า ตอนนี้กำลังทำงานร่วมกับบริษัทรถยนต์ เพื่อให้ใช้งานโหมด Eyes Free ของ Siri ได้ โดยจะรวมเข้ากับระบบสั่งการด้วยเสียงภายในรถยนต์ที่มีอยู่แล้วในบางคัน ซึ่งจะทำให้เราไม่ต้องหันไปมองหน้าจออุปกรณ์ตอนสั่งการ Siri ซึ่งในงาน WWDC นั้น Scott Forstall (อดีต)หัวหน้าฝ่าย iOS ประกาศพันธมิตรค่ายรถยนต์ดังนี้คือ BMW, GM, Mercedes, Land Rover, Jaguar, Audi, Toyota, Chrysler และ Honda
GM ประกาศออกมาแล้วว่า จะนำ Siri รวมเป็นส่วนหนึ่งของระบบ MyLink ของ Chevrolet Spark และ Sonic ในต้นปี 2013 โดยมีรายละเอียดดังนี้
เมื่อเปิดตัว iMac โฉมใหม่แอปเปิลก็บอกแค่ว่า 21.5 นิ้วจะวางขายในเดือนพฤศจิกายน ส่วน 27 นิ้วจะวางขายในเดือนธันวาคม และก็เงียบหายไปนาน จนตอนนี้แอปเปิลก็บอกเสียทีว่า จะวางขาย iMac โฉมใหม่เฉพาะรุ่น 21.5 นิ้ววันศุกร์ที่ 30 พฤศจิกายนนี้เสียที
ส่วน 27 นิ้วสามารถสั่งได้ผ่าน Online Store พร้อมจัดส่งในเดือนธันวาคมนี้
พอจะเดาเวลาเข้าไทยได้แล้วนะครับ
ที่มา - Apple Press
บริษัทวิจัยตลาด Kantar Worldpanel ComTech รายงานยอดขายสมาร์ทโฟนในสหรัฐอเมริกา ช่วง 12 สัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 28 ตุลาคม 2555 ปรากฏว่าแอปเปิลขี่กระแส iPhone 5 กลับมาทวงบัลลังก์ได้สำเร็จ
สัดส่วนยอดขายสมาร์ทโฟนของ iOS (นับเฉพาะมือถือที่ขายออกไปในช่วงเวลานี้) อยู่ที่ 48.1% พลิกกลับขึ้นมานำ Android ที่ลดลงเหลือ 46.7% ถือเป็นการกลับมานำครั้งแรกของแอปเปิลนับจากช่วงเปิดตัว iPhone 4S เมื่อปีที่แล้ว
ผู้ที่ซื้อ iPhone 5 ในสหรัฐส่วนใหญ่ (62%) เป็นผู้ที่ใช้ iPhone อยู่แล้ว โดยมีผู้ที่ย้ายค่ายมาจากฝั่ง Android 13% และย้ายมาจาก BlackBerry 6%
แม้ว่าแอปเปิลกำลังไล่แก้ปัญหา Maps ของตัวเองต่อไปเรื่อย ๆ แต่ล่าสุดมีรายงานว่า Eddy Cue รองประธานฝ่ายซอฟต์แวร์และบริการทางอินเทอร์เน็ตของแอปเปิลได้สั่งปลด Richard Williamson ผู้จัดการที่รับผิดชอบเรื่องแผนที่บน iOS 6 โดยตรงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
แหล่งข้อมูลเดียวกันนี้ยังระบุอีกว่าตอนนี้ Eddy Cue กำลังสรรหาตัวเลือกอื่น ๆ นอกบริษัทที่จะสามารถเข้ามาช่วยเกี่ยวกับเทคโนโลยีแผนที่ ในขณะเดียวกัน แอปเปิลก็ได้สั่งให้ TomTom NV ผู้ที่แอปเปิลได้ซื้อข้อมูลสถานที่ต่าง ๆ ให้เร่งแก้ข้อมูลที่ไม่ถูกต้องเสีย
สำนักงานสิทธิบัตรและเครื่องหมายการค้าของยุโรปประกาศอย่างเป็นทางการว่า ตอนนี้แอปเปิลได้รับเครื่องหมายการค้า Lightning หมายเลข 011399821/862 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งแอปเปิลได้รับเครื่องหมายการค้านี้มาจากบริษัทผลิตรถมอเตอร์ไซต์ Harley-Davidson ในเอกสารก็ระบุว่าเพิ่งทำสัญญาแลกเปลี่ยนกันเมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายนที่ผ่านมา
ที่มา - Patently Apple
Apple เดินหน้าฟ้อง Samsung เรื่องการละเมิดสิทธิบัตรอย่างต่อเนื่องโดยเพิ่มรายการผลิตภัณฑ์ของ Samsung ที่เกี่ยวข้องอีก 6 รายการ โดยตัวชูโรงอย่าง Galaxy S III และ Galaxy Note II อยู่ในข่ายด้วย
หลังจาก Samsung ร่ำๆ ว่าจะเพิ่มรายการผลิตภัณฑ์ Apple ในคำฟ้องของตน ฟาก Apple ก็จัดการเพิ่มคำฟ้องผลิตภัณฑ์ของ Samsung อีก 6 รายการ โดยนอกเหนือจาก 2 รายการเด่นแล้ว ยังมี Galaxy Tab 8.9 WiFi, Galaxy Tab 2 10.1, Rugby Pro และ the Galaxy S III Mini รวมอยู่ในคำฟ้องครั้งนี้ด้วย
ภายหลังการปะทะอย่างดุเดือดในคดีความเรื่องสิทธิบัตรเป็นต้นมา ความสัมพันธ์ระหว่าง Samsung และ Apple ดูจะระหองระแหง และเริ่มถอยห่างจากกันมากขึ้น ล่าสุด Samsung ก็หยุดการผลิตแบตเตอรี่ให้แก่ทาง Apple แล้ว
Apple หันมาซื้อแบตเตอรี่สำหรับ iPad และ Macbook จากผู้ผลิตในประเทศจีนอย่าง Amperex Technology (ATL) และ Tianjin Lishen Battery แทนการสั่งซื้อจาก Samsung
ที่ผ่านมา Apple ได้ซื้อชิ้นส่วนที่สำคัญหลายอย่างจาก Samsung ทั้งหน้าจอ, หน่วยประมวลผล รวมไปถึงหน่วยความจำ แต่จากนี้ไปคงเป็นที่ชัดเจนว่า Apple จะต้องลดการพึ่งพาจาก Samsung ลงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
Harry McCracken แห่ง Technologizer ได้เปิดเผยภาพถ่าย Apple I ของ Paul Terrell
ถ้ายังจำกันได้ ร้านคอมพิวเตอร์ร้านแรก ๆ ของโลก The Byte Shop ที่เปิดตัวโดย Paul Terrell ใน Mountain View รัฐแคลิฟอร์เนียในเดือนธันวาคม 1975 เป็นสถานที่สำคัญแห่งหนึ่งในประวัติศาสตร์ปี 1976 ที่มี geek ด้านคอมพิวเตอร์ 2 คนเกลี้ยกล่อมให้ Terrell นำคอมพิวเตอร์ที่ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ดีของพวกเขาไปขาย
ไม่ใช่ใครอื่น เขาก็คือ Steve Jobs และ Steve Wozniak นั่นเอง พวกเขาเรียกคอมพิวเตอร์ของตนว่า Apple I เป็นชุดเครื่องมือประกอบเอง หรือชุดคิท ผู้ซื้อต้องบัดกรีชิพลงบนแผงวงจร และต้องหาซื้อสิ่งจำเป็นอื่น ๆ มาใช้เอง เช่น ตัวจ่ายไฟ คีย์บอร์ด และหน้าจอ
Patrick B. Gibson อดีตพนักงานของแอปเปิลที่เคยร่วมทีม iPad เขียนบล็อกแนะนำให้แอปเปิลซื้อกิจการทวิตเตอร์เพื่อแก้ปัญหาเรื่องบริการออนไลน์ที่แอปเปิลไม่ค่อยเก่งนัก
เขาบอกว่าปัญหาใหญ่ของแอปเปิลตอนนี้คือ "คู่แข่งสำคัญ" อย่างกูเกิลสามารถพัฒนาตัวเองเรื่องดีไซน์ได้รวดเร็วกว่าที่แอปเปิลเองจะแก้ปัญหาเรื่องบริการออนไลน์
เขายกกรณีอย่าง .Mac, MobileMe, iCloud ว่าแอปเปิลไม่ประสบความสำเร็จมากนัก บริการอย่าง Ping ล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง และเทคโนโลยีด้านเว็บของแอปเปิลที่ใช้ WebObjects ก็เก่าและล้าสมัยแล้ว ทำให้แอปเปิลไม่สามารถปรับปรุงหน้าร้านออนไลน์ของตัวเองโดยไม่ต้องปิดเว็บได้
Samsung เพิ่งจะเพิ่ม iPhone 5 ลงในคำฟ้องคดีสิทธิบัตรต่อ Apple ไปหยกๆ ก็เตรียมยัดผลิตภัณฑ์ล่าสุดของ Apple อีก 3 รายการลงในคำฟ้องด้วย ทั้ง iPad (4th Gen), iPad mini และ iPod touch
ในขณะที่ยังไม่มีข่าวคืบหน้าใดๆ ในการอุทธรณ์คดีของ Samsung ภายหลังคำตัดสินของศาล California ให้ Samsung แพ้คดีฐานละเมิดสิทธิบัตรการออกแบบส่วนติดต่อผู้ใช้งาน และการออกแบบตัวเครื่อง กลับเห็นได้อย่างชัดเจนว่า Samsung พยายามตอบโต้ Apple ทุกช่องทางด้วยการฟ้องร้องเรื่องการละเมิดสิทธิบัตรด้านอื่นๆ และล่าสุด สินค้าใหม่ทุกรายการของ Apple ที่เปิดตัวในปี 2012 นี้ ก็อยู่ในข่ายเพ่งเล็งของ Samsung
ศาลอเมริกามีคำสั่งให้แอปเปิลเปิดเผยสัญญาและข้อตกลงที่ทำไว้กับ HTC ตามที่ Samsung ได้ยื่นเรื่องต่อศาลไปเมื่ออาทิตย์ก่อน โดยสัญญาที่ทำไว้กับ HTC เป็นสัญญาเกี่ยวกับการใช้สิทธิบัตรของทั้งสองบริษัท
ก่อนหน้านี้มีข่าวลือเกี่ยวกับสัญญาระหว่างแอปเปิลกับ HTC ว่าแอปเปิลจะได้รับ 6-8 เหรียญต่อเครื่อง แต่ทางด้าน CEO ของ HTC Peter Chou ได้ออกมาแก้ข่าวลือในที่สุด
สัญญานี้อาจจะมีส่วนช่วยให้ Samsung สามารถตอบโต้แอปเปิลกลับไปได้ โดยทางแอปเปิลได้ปฎิเสธการออกความเห็นต่อเหตุการณ์ครั้งนี้
Gene Munster นักวิเคราะห์จากบริษัท Piper Jaffray ซึ่งมีชื่อเสียงด้านวิเคราะห์ข้อมูลบริษัทไอที (โดยเฉพาะแอปเปิล) ออกมาพยากรณ์ว่าแอปเปิลจะเปิดตัวสินค้าใหม่ในปี 2013 ดังนี้ครับ
โฆษณาใหม่ของ iPhone 5 มาอีก 2 ชิ้น รับเทศกาลขอบคุณพระเจ้า ได้แก่ Orchestra และ Turkey
ที่มา - MacRumors
ใกล้ถึงเวลาสำหรับ iTunes 11 เต็มที ศิลปินบางคนได้รับอีเมลแจ้งให้เตรียมพร้อม เนื่องจากแอปเปิลเพิ่งแจ้งเตือนไปยังค่ายเพลงให้ส่งภาพเพื่อรองรับโฉมใหม่ของ iTunes 11
ในอีเมลนี้คืออีเมลของศิลปินจากค่ายเพลงเยอรมัน Feiyr
ที่มา - MacRumors
Shin Jong-kyun หรือ JK Shin ผู้บริหารสูงสุดของซัมซุงฝ่ายมือถือออกมาให้สัมภาษณ์อีกครั้ง โดยให้ความเห็นเรื่องสงครามสิทธิบัตรระหว่างซัมซุงกับแอปเปิลว่า "ความจริงก็คือความจริง นั่นคือถ้าไม่มีสิทธิบัตรของซัมซุงแล้ว ก็เป็นไปไม่ได้เลยที่แอปเปิลจะผลิตโทรศัพท์มือถือขึ้นมาได้ เพราะอย่างที่พวกคุณทราบกันว่าซัมซุงมีรายการสิทธิบัตรด้านการสื่อสารไร้สายในมือที่แข็งแกร่งมาก"
หลังจากที่มีข่าวว่า HTC และแอปเปิลตกลงยุติสงครามสิทธิบัตร โดยตกลงเป็นสัญญาใช้สิทธิบัตรร่วมกันยาวถึง 10 ปี หลังจากนั้นก็มีการวิเคราะห์โดยสื่อว่า HTC จะจ่ายค่าสิทธิบัตรให้กับแอปเปิลมูลค่า 6-8 ดอลล่าร์ต่อการขายอุปกรณ์ที่รันแอนดรอยด์หนึ่งเครื่อง
เนื่องจากเพื่อนผม (@wongmlss) สอย iPod touch (5th generation) มาแล้ว ดังนั้นผมเลยขออาสามารีวิวให้ผู้อ่าน Blognone ทุกท่านครับ
ทางด้าน Technical details, พวกสเปกเครื่องและรายละเอียด รวมถึงข่าวเก่าเชื่อว่าผู้อ่านสามารถหาอ่านได้ทั่วไปอยู่แล้ว ดังนั้นจะไม่พูดถึงเยอะนะครับ
Digitimes รายงานว่ากลุ่มผู้รับช่วงต่อผลิตชิ้นส่วนต่าง ๆ ให้กับแอปเปิลน่าจะมีผลประกอบการที่ดีในช่วงไตรมาสแรกของปีหน้า เพราะว่า iPad และ iPhone ใหม่มีกำหนดวางขายกลางปี 2013 นี้
รายงานนี้ตรงกับรายงานก่อนหน้าจากอีกแหล่งข้อมูล ที่อ้างว่าแอปเปิลต้องการเร่งทดสอบการเดินสายผลิตสำหรับ iPhone 5S ในช่วงปลายปีนี้ไปจนถึงต้นปีหน้า เพื่อที่จะเดินสายผลิตอย่างเต็มที่ในต้นปี 2013