Sam Sabri แห่ง WPCentral ได้ทำรายงานสรุปสถานการณ์แอพใน Windows Phone Store ล่าสุด เพื่อดูว่ามีศักยภาพในการแข่งขันเทียบกับแพลตฟอร์มอื่นมากน้อยแค่ไหน โดยการไล่รายชื่อแอพฟรียอดนิยม 25 อันดับแรกใน iOS App Store (ใช้ข้อมูลจาก App Annie) จากนั้นมาดูว่าแอพเหล่านั้นมีหรือไม่มีใน Windows Phone Store ได้ข้อสรุปออกมาว่า
วันนี้ Google ได้ประกาศอย่างเป็นทางการบน Google Apps Updates ว่าทางบริษัทเตรียมจะถอดแอพ Quickoffice ออกจากทั้ง App Store และ Google Play โดย Google บอกว่าผู้ใช้ Quickoffice ก็ยังคงใช้แอพต่อไปได้ แต่จะไม่มีการอัพเดตเพิ่มเติมอีกแล้ว
Google เข้าซื้อ Quickoffice ตั้งแต่กลางปี 2012 โดยมีจุดประสงค์คือการนำเทคโนโลยีมาปรับปรุงแอพของตัวเอง
เหตุผลที่ Google ถอด Quickoffice เนื่องจากทางบริษัทได้รวมฟีเจอร์เข้าไปใน Google Docs, Sheets, Slides เรียบร้อยแล้ว
สำนักข่าวบีบีซีรายงานว่า แอปเปิลปรับนโยบายตรวจสอบแอพขึ้นสโตร์ โดยระบุเพิ่มเติมว่าบริษัทอาจอำนวยความสะดวกให้กับสกุลเงินเสมือนอย่าง Bitcoin ที่ได้รับการรับรอง ตราบเท่าที่สกุลเงินเหล่านั้นผ่านการรับรองตามกฏหมายท้องถิ่นที่แอพทำธุรกรรม จากนโยบายใหม่นี้ทำให้เชื่อกันว่าในอนาคตแอพบนแพลตฟอร์มแอปเปิลจะใช้ Bitcoin ในการทำธุรกรรมได้
การเปลี่ยนแปลงนี้ดูเหมือนจะตรงกันข้ามกับการดำเนินของแอปเปิลต่อแอพที่ใช้ Bitcoin อาทิ การถอด Coinbase แอพซื้อขาย Bitcoin ออกจาก App Store ซึ่งต่างจากกูเกิลที่เปิดกว้างเรื่องสกุลเงินเป็นอย่างมาก
Apple ถอดแอพสำหรับดาวน์โหลดเพลงและดาวน์โหลดไฟล์ลงจากแอพสโตร์ทั้งหมดแล้ว โดย Apple ไม่ได้เป็นฝ่ายถอดแอพลงเอง แต่ขอให้นักพัฒนาแอพนั้นๆ เป็นคนเอาลง คาดว่าเหตุผลเป็นเพราะป้องกันการละเมิดลิขสิทธิ์ และเป็นการดัน iTunes Store และ iTunes Radio ไปในตัว
เมื่อค้นหาในแอพสโตร์ด้วยคำว่า "music download" จะพบกับข้อความเชิญชวนให้ไปใช้ iTunes Radio แล้วจึงจะเป็นผลการค้นหา ซึ่งกลายเป็นแอพสตรีมมิ่งเพลงอย่าง Spotify แทน
การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ คาดว่า Apple ทำไปเพื่อผลักดันให้เกิดการซื้อเพลงจาก iTunes Store รวมไปถึงอาจเป็นสัญญาณเริ่มต้นของการดัน iTunes Radio ภายหลังการเข้าซื้อกิจการ Beats ก็เป็นได้
ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลกลใดก็ตามแต่ ที่ผ่านมาหากว่าผู้ใช้อุปกรณ์ iOS ที่จ่ายเงินซื้อแอพไปแล้วเกิดไม่ถูกใจการใช้งานแอพดังกล่าว ก็สามารถที่จะขอเงินคืนจาก App Store ได้ กระนั้นก็ตามหากยังไม่มีการลบแอพดังกล่าวออกผู้ใช้ยังคงสามารถอัพเดตแอพดังกล่าวได้ตามปกติ หรือแม้ในกรณีที่มีการถอนแอพดังกล่าวออกจากเครื่องก็ยังสามารถติดตั้งมันซ้ำใหม่ได้ ซึ่งแน่นอนว่านี่ถือเป็นช่องทางหนึ่งที่ใครก็อาจถือโอกาสลักไก่ใช้งานแอพแบบไม่ต้องจ่ายเงินได้
หน่วยงานที่คอยกำกับและดูแลการแข่งขันและป้องกันการผูกขาดของประเทศอิตาลี ได้ออกมาบอกว่าแอพพลิเคชันประเภท "ฟรีเมี่ยม" ของ App Store และ Google Play อาจจะผิดกฎหมาย เนื่องจากผู้ขายได้ติดป้ายบอกว่าแอพพลิเคชันเหล่านี้ว่าเป็นแอพ "ฟรี"
หน่วยงานฯ อ้างว่าผู้ใช้งานได้ดาวน์โหลดแอพพลิเคชันเหล่านี้มา แล้วคิดว่าเกมนี้เป็นเกมที่สามารถเล่นได้ฟรี และผู้ใช้ก็ไม่มีทางบอกได้ว่าเกมเหล่านี้มีราคาที่แท้จริงเท่าใด
ถ้าหากแอปเปิลและกูเกิลถูกพบว่ามีเจตนาหลอกลวงลูกค้าจริง จะถูกปรับเป็นเงินมูลค่า 5 ล้านยูโร ซึ่งจริง ๆ แล้ว ก็ไม่ได้กระทบสถานะทางการเงินของกูเกิลหรือแอปเปิลเท่าใดนัก
มีการรายงานถึงปัญหาการอัพเดตแอพพลิเคชันบนอุปกรณ์ iOS โดยผู้ใช้เมื่อทำการอัพเดต จะขึ้นข้อความ "Update unavailable with This Apple ID" (รูปท้ายข่าว) แม้ว่าผู้ใช้งานจะทำการ restart เครื่อง หรือแม้แต่ restore ก็ยังไม่สามารถแก้ปัญหาได้
โดยขณะนี้ 09/05/2557 01:56 ยังไม่มีรายงานถึงวิธีการแก้ปัญหาดังกล่าว
Edit : ตอนนี้มีการแก้ปัญหาเป็นที่เรียบร้อยแล้วโดยยังไม่มีการประกาศถึงปัญหาว่ามาจากสาเหตุใด ส่วนใครที่ยังขึ้นข้อความให้เข้าไปเปลี่ยนพาสเวิร์ดที่นี้
สิ่งหนึ่งที่ Google Play หละหลวมเกินไปตั้งแต่สมัย Android Market นั้น ก็คือไม่มีการตรวจเนื้อหาของแอพพลิเคชันตั้งแต่ต้น และทำให้เกิดเหตุการณ์มัลแวร์ระบาดจนทำให้กูเกิลต้องออก Bouncer ออกมาดักมัลแวร์ รวมถึงติดตั้งตัวสแกนมัลแวร์ไว้ใน Android 4.2 ก่อนจะแยกมารวมไว้ใน Google Play Service ในภายหลัง แต่อีกหนึ่งประเด็นที่ยังไม่มีการแก้ไขให้เห็นก็คือเรื่องของเนื้อหาอนาจาร
เพียงหนึ่งวันหลัง Office for iPad เปิดตัว (รีวิวฉบับ Blognone) ซีอีโอ Satya Nadella ก็โพสต์ทวิตเตอร์ทันทีเมื่อแอพในกลุ่ม Office for iPad 3 ตัว และแอพใกล้เคียงอีก 1 ตัวคือ OneNote for iPad ขึ้นเป็นแอพยอดนิยม 4 อันดับแรกของ iPad App Store กลุ่มแอพฟรี
แอพที่ครองอันดับหนึ่งคือ Word for iPad ตามด้วย Excel, PowerPoint, OneNote ตามลำดับครับ
ที่มา - @satyanadella
เรื่องมีอยู่ว่า John Gill ซึ่งปัจจุบันเป็นนักพัฒนาทำงานที่ Amazon เขามีความชื่นชอบสตีฟ จ็อบส์มาก และยอมรับว่าประโยคคำพูดข้อคิดดีๆ จากจ็อบส์นั้นให้แรงบันดาลใจต่อตนเองมาก (เขายกเทียบเคียงกับไบเบิ้ลเลย) เขาจึงรวบรวมคำพูดต่างๆ ของจ็อบส์ มาทำเป็นแอพชื่อ Quoth Steve ซึ่งมีเฉพาะบน iOS เท่านั้น
แอพ Quoth Steve ก็ไม่มีอะไรมาก เป็นการแสดงประโยคคำพูดของจ็อบส์ที่สร้างพลังให้ผู้อ่านแบบสุ่ม และสามารถแชร์ข้อความนี้ต่อได้ แต่น่าเสียดายที่เมื่อเขาส่งแอพนี้ไปกลับถูก App Store ปฏิเสธนำขึ้น Store โดยให้เหตุผลว่า App Store ไม่รับพิจารณาแอพที่มีธีมเกี่ยวกับจ็อบส์ รวมทั้งแนะนำให้เขาทำแอพแนวนี้แต่เป็นบุคคลอื่นแทน
วันนี้ App Store ของแอปเปิล ได้เพิ่มหมวด Sharing Selfies ไว้สำหรับแอพทุกชนิดที่เกี่ยวข้องกับการถ่ายภาพตัวเอง แล้วอัพให้เพื่อนๆ ได้ดูกัน
การแชร์ selfie ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของการใช้ชีวิตควบคุ่กับสมาร์ทโฟน เช่นเดียวกับการถ่ายรูปอาหาร โดยก่อนหน้านี้แม้แต่ประธานาธิบดีโอบาม่าของสหรัฐฯเอง ก็ยังได้ถ่ายรูป selfie ตัวเองคู่กับนายกรัฐมนตรีของอังกฤษ และเดนมาร์กไว้ ที่งานศพของ Nelson Mandela
ที่มา - Engadget
ด้วยความดังของ Flappy Bird ที่แม้ว่าตัวเกมจะถูกเอาออกจาก App Store ไปแล้ว แต่เกมลอกเลียนทั้งหลายก็ยังสามารถขึ้นมาอยู่ในอันดับต้นๆ ของแอพที่คนดาวน์โหลดเยอะได้ ล่าสุดทั้งกูเกิล และแอปเปิลออกมามีมาตรการแก้ไขเรื่องนี้ด้วยการปฏิเสธแอพที่ขึ้นต้นด้วยคำว่า "Flappy" แล้ว
เรื่องเริ่มต้นจากที่นาย Ken Carpenter นักพัฒนาเกมชาวแคนาดาพบว่าแอปเปิลปฏิเสธเกมที่เขาชื่อว่า Flappy Dragon ที่เขาส่งขึ้นไป โดยให้เหตุผลว่าชื่อเกมของนาย Carpenter นั้นตั้งใจทำให้คล้ายกับแอพชื่อดังมากเกินไป ซึ่งอยู่ในกฎข้อที่ 22.2 ของข้อบังคับใช้ใน App Store
หลังจากที่นาย Dong Nguyen ผู้ผลิตแอพเกมชื่อดัง Flappy Bird ได้ถอดตัวเกมออกจาก App Store และ Google Play Store โดยที่ไม่ได้ให้สาเหตุใด ๆ นอกจากการออกมาทวีตว่า “เขาทนไม่ไหวแล้ว” เมื่อสักครู่นี้ เขาได้ออกมาพูดเป็นครั้งแรกถึงเหตุผลที่ต้องถอดเกมนี้ออกผ่านทาง Forbes
เขาบอกว่า สาเหตุที่เขาถอดเกมนี้ออกจากร้านขายแอพทั้งสอง ก็เพราะว่าเกมนี้มันกลายเป็น “สิ่งเสพติด” ไปแล้ว ซึ่งตรงข้ามกับความต้องการของเขาในตอนแรก ที่ต้องการออกแบบเกมแก้เครียด ที่ผู้เล่นจะนำมันมาเล่นไม่กี่นาทีแล้วเลิก
บริษัท King.com ผู้สร้างเกม Candy Crush ได้รับการอนุมัติให้เป็นเจ้าของเครื่องหมายทางการค้าคำว่า "candy" โดยมีผลสำหรับสินค้าเกมและเครื่องแต่งกาย (?) ซึ่งบริษัทได้ยื่นคำขอไปตั้งแต่ปีที่แล้ว
เมื่อได้สิทธิความเป็นเจ้าของทาง King ก็ไม่รอช้า ประสานงานกับแอปเปิลให้ติดต่อนักพัฒนาแอพเลียนแบบแนว candy ทั้งหลายใน App Store ทันที โดย Benny Hsu นักพัฒนาเกมชื่อ All Candy Casino Slots – Jewel Craze Connect: Big Blast Mania Land เปิดเผยว่าแอปเปิลได้อีเมลแจ้งนักพัฒนาเจ้าของแอพซึ่งมีการละเมิดคำว่า candy โดยให้ถอนแอพออกจาก App Store หรือแสดงรายละเอียดว่าไม่ได้พยายามละเมิดหรือสร้างความสับสนกับเกม Candy Crush
สำหรับเพื่อนๆ ที่เคยใช้แอพวิเคราะห์เสียงเพื่อหาชื่อเพลงแล้ว คงจะมีอยู่หลายครั้งที่หยิบมือถือออกมาไม่ทันเพลงก็จบไปซะแล้ว
วันนี้ Shazam แอพวิเคราะห์เสียงเพื่อหาชื่อเพลงชื่อดังได้ออกรุ่นใหม่ 7.3.0 สำหรับ iOS โดยมีฟีเจอร์ "Auto Shazam" ที่สามารถแก้ไขปัญหาที่กล่าวมาข้างต้น โดยการทำงานของมันคือเราสามารถเปิดฟีเจอร์นี้ในหน้าโฮมสกรีนของ Shazam ไว้แล้วสามารถปิดหน้าจอหรือไปใช้งานแอพอื่นได้เลย โดยการแสดงผลการค้นหาชื่อเพลงจะแสดงใน Notification Center และบันทึกเป็นรายการไว้ในหน้า Tags Auto สามารถดาวน์โหลดได้แล้วที่ลิงก์ท้ายข่าวครับ
แอปเปิลเผยสถิติแอพ-เกมยอดนิยมบน App Store ประจำปี 2013 ดังนี้
เกมยอดเยี่ยม (iPad): BADLAND
นอกจากแอพและเกมแล้ว ยังมีรายชื่อสื่อบันเทิงดิจิทัลยอดเยี่ยมบน iTunes Store รางวัลที่สำคัญมีดังนี้
ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม: Gravity
คนที่ติดตามวงการสื่อของประเทศไทยอยู่บ้างคงพอทราบว่า บริษัทสื่อรายใหญ่ๆ ในประเทศไทยรวมตัวกันเป็น "สมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์" ทำหน้าที่พิทักษ์ผลประโยชน์ในแง่การละเมิดลิขสิทธิ์เนื้อหาบนเว็บไซต์ของบริษัทเหล่านี้
กรณีที่ดังหน่อยคือ สมาคมฯ พบว่ามีแอพบน App Store ของแอปเปิลหลายตัวที่ละเมิดลิขสิทธิ์และเครื่องหมายการค้าของบริษัทสมาชิก 8 ราย ซึ่งทางสมาคมฯ ก็แจ้งให้แอปเปิลนำแอพเหล่านี้ออกจาก App Store แต่แอปเปิลก็ไม่ได้ปฏิบัติตาม จนสุดท้ายสมาคมฯ จึงตัดสินใจยื่นฟ้องแอปเปิลเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2556 ในข้อหาละเมิดลิขสิทธิ์และเครื่องหมายการค้าต่อศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ
ใครที่เคยต้องหาแอพใน App Store คงจะรู้กันดีว่าระบบค้นหาของทีนี่นั้นซื่อตรงมากๆ คือถ้าไม่พิมพ์ชื่อแอพถูกเป๊ะ ก็ยากที่จะได้เจอแอพที่ต้องการเลยก็ว่าได้ ข่าวดีคือตอนนี้แอปเปิลได้ปรับปรุงระบบค้นหาของ App Store อย่างเงียบๆ แล้วครับ
แม้จะไม่มีประกาศอย่างเป็นทางการจากแอปเปิล แต่บรรดาสื่อหลายเจ้าก็ยืนยันว่าระบบค้นหาของ App Store นั้นทำงานได้ดีขึ้น จากเดิมที่มีเพียงการแนะนำชื่อแอพให้ ตอนนี้สามารถค้นหาแอพที่ต้องการได้แม้ว่าจะพิมพ์ไม่ถูกต้องเป๊ะๆ เช่นคำที่พิมพ์ผิดบ่อยๆ อย่าง calendar แม้จะพิมพ์ผิดเป็น calender หรือแบบอื่นๆ ผลลัพธ์ของการค้นหาก็ยังจะใกล้เคียงกับการค้นหาด้วยคำว่า calendar อยู่ เช่นเดียวกับชื่อเกมที่มักพิมพ์ผิดด้วยเช่นกัน
Coinbase บริษัทให้บริการซื้อขาย Bitcoin และกระเป๋าเงินดิจิตอลสำหรับการโอนเงินระหว่างบุคคล ถูกถอดแอพพลิเคชั่นออกจาก App Store แล้ว หลังส่งแอพพลิเคชั่นขึ้นไปได้ไม่ถึงเดือน
ทาง Coinbase ยืนยันว่าไม่ได้ถอดแอพพลิเคชั่นออกเอง และยังไม่ได้รับคำชี้แจงจากแอปเปิลว่าทำไมแอพพลิเคชั่นจึงถูกถอดออก แต่ก่อนหน้านี้ Bitcoin Wallet ก็เคยถูกถอดออกเช่นกันเพราะมีฟังก์ชั่นกระเป๋าเงินสำหรับซื้อขายและรับส่งเงิน
Coinbase ยังมีให้ดาวน์โหลดใน Google Play ต่อไป
ราคา Bitcoin ล่าสุดตอนนี้คือ 590 ดอลลาร์ต่อ BTC ขึ้นมาเกือบสี่เท่าในเดือนเดียว
คุณสุทธิชัย สังขมณี อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยต่อสื่อมวลชนว่า กรมสรรพากรกำลังพิจารณาแนวทางที่จะจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจากการดาวน์โหลดแอพพลิเคชันบน Apple App Store และ Google Play ทั้งสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตที่ปัจจุบันนั้นอัตราการเติบโตของตลาดนั้นเพิ่มขึ้นอย่างมาก ซึ่งในเบื้องต้นกรมสรรพากรอ้างว่า จะสามารถทำรายได้ได้สูงถึง 1.4 พันล้านบาทครับ
แอปเปิลได้แจ้งเตือนกับผู้พัฒนาทางอีเมล ว่าจะมีการปรับราคาแอพใน App Store ญี่ปุ่นทั้งหมด อันเนื่องมาจากความผันผวนของค่าเงินเยนเทียบกับสกุลเงินอื่นๆ ในโลก โดยจะมีผลตั้งแต่วันที่ 17 ตุลาคม เป็นต้นไปตามเวลาอเมริกา (ซึ่งมีผลวันนี้ตามเวลาประเทศไทย)
ผลของการปรับราคา ทำให้ราคาแอพ รวมถึง In-App Purchase ต่างๆ ได้ปรับตัวขึ้นไปตามนี้ครับ
• 0.99 ดอลลาร์สหรัฐ ปรับราคาจาก 85 เยน เป็น 100 เยน
• 1.99 ดอลลาร์สหรัฐ ปรับราคาจาก 170 เยน เป็น 200 เยน
• 2.99 ดอลลาร์สหรัฐ ปรับราคาจาก 250 เยน เป็น 300 เยน
• 3.99 ดอลลาร์สหรัฐ ปรับราคาจาก 350 เยน เป็น 400 เยน
• 4.99 ดอลลาร์สหรัฐ ปรับราคาจาก 450 เยน เป็น 500 เยน
ต่อจากข่าว แอปเปิลเปิดให้ดาวน์โหลดแอพรุ่นเก่าได้แล้ว ถ้าหากว่าเครื่องไม่รองรับ iOS เวอร์ชันใหม่ แอปเปิลได้ปรับนโยบายนี้ต่ออีกหน่อย โดยอนุญาตให้นักพัฒนาเจ้าของแอพสามารถจำกัดว่าจะให้ลูกค้าดาวน์โหลดเวอร์ชันใดได้บ้าง เพื่อลดปัญหาไม่ให้นักพัฒนาแอพต้องกลับมาสนับสนุนแอพเก่าทุกเวอร์ชันนั่นเอง (รวมถึงปิดไม่ให้เข้าถึงแอพเวอร์ชันที่มีบั๊กด้วย)
นักพัฒนาแอพสามารถกำหนดเงื่อนไขเรื่องเวอร์ชันได้จากหน้า Manage Your Apps ใน iTunes Connect และเลือกส่วน Rights and Pricing
ที่มา - TechCrunch
ปกติแอปเปิลจะจำกัดการดาวน์โหลดแอพผ่านเครือข่ายโทรศัพท์ไว้ที่ขนาดหนึ่ง เพื่อกันผู้ใช้ดาวน์โหลดแอพที่มีขนาดไฟล์ใหญ่เกินไปผ่านเครือข่ายและทำให้แพคเกจหมดลงเร็ว โดยก่อนหน้า แอปเปิลจำกัดขนาดไว้ที่ 20MB ต่อแอพ หลังจากเปิดตัว iPad รุ่นที่ 3 แอปเปิลก็ขยายขนาดให้เป็น 50MB ต่อแอพ และตอนนี้ แอปเปิลได้ขยายเป็น 100MB แล้วบน iOS 7
ดังนั้นนักพัฒนาก็น่าจะหายใจโล่งขึ้นบ้าง เพราะการจะทำแอพบน iOS ให้ดาวน์โหลดผ่านเครือข่ายโทรศัพท์ได้ก็เป็นโอกาสทางหนึ่งที่ทำให้ลูกค้าดาวน์โหลดแอพได้มากขึ้นเช่นกัน
ที่มา - MacRumors
จากกรณี CTH ฟ้องแอปเปิลเพราะปล่อยให้มีแอพพลิเคชันละเมิดลิขสิทธิ์อยู่ใน App Store นั้น ล่าสุดกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ DSI ได้ออกมาชี้แจงว่าคงทำได้ยาก ด้วยเหตุผลที่แอปเปิลเป็นบริษัทที่จดทะเบียนในต่างประเทศ เว้นเสียแต่จะมีการนำสัญญาณภาพจาก App Store ไปเผยแพร่เพื่อการค้า
พ.ต.ท.ชินโชติ พุฒิวรรธธาดา ผบ.สำนักคดีทรัพย์สินทางปัญญา กรมสอบสวนคดีพิเศษ ยังระบุด้วยว่า CTH เคยให้ DSI ดำเนินการเอาผิดกับผู้กระทำผิดลิขสิทธิ์มาแล้ว ไม่ว่าจะเป็นร้านค้าหรือโรงแรมรวมถึงกับผู้ที่ซื้อกล่องเคเบิลทีวีในประเทศมาเลเซีย และสิงคโปร์ แล้วนำมารับสัญญาณภาพในประเทศไทยด้วย
CTH ผู้ได้ลิขสิทธิ์ในฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษฤดูกาล 2013-2014 ในไทย ได้ยื่นฟ้องแอปเปิลและผู้พัฒนาแอพพลิเคชัน ฐานปล่อยให้มีแอพพลิเคชันดูบอลได้ผ่านแอพ และจัดจำหน่ายทาง App Store ซึ่งเป็นผลให้ CTH เสียหายหลายล้านบาท จึงได้ทำการฟ้องแอปเปิลต่อศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง
แอพต้นเหตุที่ CTH ฟ้องแอปเปิล คือแอพ Sport Channel ซึ่งมีราคาขายปัจจุบันใน App Store ที่ $19.99 (iPhone) และ $29.99 (iPad) โดยดึงสัญญาณถ่ายทอดฟุตบอลมาจากที่อื่น แต่ไม่ใช่สัญญาณจากทาง CTH ซึ่งศาลรับเรื่องไว้ไต่สวนมูลฟ้องคดีอาญาในวันที่ 18 พฤศจิกายน ส่วนคดีแพ่งศาลนัดไต่สวนพยานในวันที่ 23 ธันวาคม และหากทาง CTH ตรวจพบแอพใดละเมิดลิขสิทธิ์จะระงับสัญญาณแพร่ภาพและดำเนินคดีทันที