ตลาดแท็บเล็ตแอนดรอยด์ราคาถูกนับว่าเป็นตลาดที่ดุเดือดมากในปีที่ผ่านมา ค่ายผู้ผลิตรายใหม่ๆ พยายามดันราคาลงอย่างรวดเร็ว ที่งาน IDF อินเทลระบุว่าแท็บเล็ต Bay Trail นั้นกำลังจะวางขายภายในช่วงสิ้นปีนี้ (แสดงว่าเราน่าจะเห็นข่าวเปิดตัวกันเร็วๆ นี้แล้ว) และราคาจะไล่ลงไปจนถึงต่ำสุดเพียง 100 ดอลลาร์

อินเทลระบุว่า Bay Trail จะกินไฟน้อยลงและประมวลผลเร็วขึ้น แม้จะเป็นปกติที่อินเทลจะไม่ให้ทดสอบความเร็วบนสินค้าที่ยังไม่วางขาย แต่วิศวกรของอินเทล Francois Piednoel ก็ทวีตการทดสอบ Cinebench บน Atom Z3770 แสดงคะแนน 1.47 ซึ่งใกล้เคียง AMD A4-5000 ที่ได้ 1.5 คะแนน บนซีพียู 4 คอร์เท่ากัน

ชื่อบริษัทอาจดูคุ้นๆ แต่เป็นคนละบริษัทกับ Synnex ประเทศไทย (ซึ่งถือเป็นบริษัทร่วมทุนของ Synnex Technology International Corp ของไต้หวัน) นะครับ อันนี้เป็นบริษัทชื่อ Synnex Corporation ของอเมริกาที่อยู่ในเครือเดียวกับ Synnex Technology ของไต้หวันเช่นกัน (รายละเอียดเผื่อคนสนใจ)

สำหรับข่าวนี้คือ Synnex Corporation ของอเมริกา ประกาศเข้าซื้อธุรกิจ "รับเอาต์ซอร์สด้านการบริการลูกค้า" (customer care services business - CRM BPO) จากยักษ์สีฟ้า IBM ด้วยมูลค่า 505 ล้านดอลลาร์ เพื่อมาเสริมทัพในส่วนของ BPO ของตัวเอง

รายงานจาก The Next Web บอกว่าในกลุ่มโซเชียลมีเดียของประเทศจีนตอนนี้ มีหลายคนที่ได้ออกมาแสดงความไม่พอใจและผิดหวังกับราคา iPhone 5c ซึ่งก่อนหน้านี้มีข่าวออกมาตลอดว่าจะเป็นไอโฟนรุ่นราคาถูก โดยสมาชิกบางคนได้ออกมาบอกว่า iPhone 5c เป็นมือถือราคาถูกที่แพงที่สุด ในขณะที่สมาชิกบางคนเอาสีของ iPhone 5c ไปเปรียบเทียบกับรองเท้า Crocs (ดูภาพจากที่มา)

ครบรอบหนึ่งปีโครงการ Course Builder ที่กูเกิลเปิดตัวออกมา ตอนนี้โครงการนี้ก็เตรียมจะถูกหยุดพัฒนาเพื่อไปสนับสนุนโครงการ edX ที่มีหน่วยงานการศึกษาร่วมด้วยเยอะกว่าแล้ว

Google Course Builder นั้นเริ่มมาจากการเปิดคอร์ส Power Searching ของกูเกิลเอง ขณะที่ edX นั้นเป็นความร่วมือของมหาวิทยาลัยชั้นนำอย่าง MIT, Havard, Barkeley และมหาวิทยาลัยอื่นๆ

ตัว edX เองเป็นเว็บสำหรับเผยแพร่วิชาต่างๆ ที่มหาวิทยาลัยสมาชิกเข้ามาวางไว้ แต่ความร่วมมือระหว่างกูเกิลและ edX จะเป็นการพัฒนาโค้ดบนเว็บ MOOC เพื่อสร้างแพลตฟอร์มให้มหาวิทยาลัยอื่นๆ นำไปใช้งานได้บนเซิร์ฟเวอร์ตัวเอง

เก็บตกจากงานเปิดตัว iPhone 5c และ iPhone 5s เมื่อคืนวานครับ นอกจาก Nokia UK ขาประจำที่ได้ทวีตกัดแอปเปิลไปแล้ว ในอีกฝั่งหนึ่งทวิตเตอร์ของ Windows Phone เองก็ออกมาสำทับแอปเปิลต่อแบบแสบๆ คันๆ เช่นกัน

วันนี้คงถือเป็นวันดีสำหรับแอปเปิลในการบุกเอเชียตะวันออก เพราะสามารถเจรจากับโอเปอเรเตอร์อันดับหนึ่งของญี่ปุ่น NTT DOCOMO ได้สำเร็จ และฝั่งของจีนเองก็เกือบสิ้นสุดกระบวนการแล้ว

ก่อนหน้านี้แอปเปิลวางขาย iPhone ในจีนกับโอเปอเรเตอร์เบอร์สองและสามคือ China Unicom และ China Telecom มาได้สักระยะแล้ว แต่สำหรับ China Mobile โอเปอเรเตอร์เบอร์หนึ่ง (และถือเป็นรายใหญ่ที่สุดในโลก ลูกค้าเกือบ 750 ล้านคน) การเจรจาก็ยืดเยื้อมานานเพราะต่างฝ่ายก็ถือว่าเป็นเบอร์หนึ่งในวงการของตัวเอง

ปกติแล้วข่าวไอทีจากฝั่งภาครัฐไทยมักมีแต่ข่าวลบๆ พอมีข่าวด้านบวกก็ขอมานำเสนอหน่อยนะครับ

เดิมทีข้อมูลสารสนเทศของหน่วยงานรัฐไทยมักเก็บกันกระจัดกระจาย ต่างคนต่างเก็บ ไม่เชื่อมโยงกัน การประสานงานทำได้ยุ่งยาก แต่ช่วงหลังเราก็เริ่มเห็นการประสานงานระหว่างหน่วยงานรัฐกันมากขึ้น

ความเคลื่อนไหวล่าสุดในเรื่องนี้คือ สำนักงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) หรือ EGA ในฐานะองค์กร CIO ของภาครัฐไทย เข้าไปเป็นตัวกลางประสานงานให้กรมการปกครองและกรมปศุสัตว์ (ซึ่งอยู่คนละกระทรวงกัน) เชื่อมฐานข้อมูลสองฐานเข้าด้วยกัน

กระบวนการดักฟังข้อความแม้มีการเข้ารหัสของ NSA ยังคงเป็นปริศนาว่า NSA มีความสามารถแค่ไหนบ้าง ล่าสุดหนังสือพิมพ์ The New York Times ระบุว่ามีเอกสารจาก Edward Snowden ระบุว่ามาตรฐาน Dual_EC_DRBG ที่ใช้สร้างเลขสุ่มนั้นมีช่องโหว่ที่รู้เฉพาะ NSA อยู่ และ NSA เป็นผู้ผลักดันมาตรฐานนี้ให้กับ NIST (หน่วยงานด้านมาตรฐานเทคโนโลยีสำหรับหน่วยงานรัฐ) เป็นผู้ประกาศมาตรฐาน

ในการเปิดตัวซีพียู Quark ที่งาน Intel Developers Forum (IDF) ประจำปี 2013 ที่ซานฟรานซิสโก Brian Krzanich ซีอีโอคนใหม่ของอินเทล ได้โชว์โน้ตบุ๊กจากเอชพีที่ไม่เคยปรากฏตัวที่ใดมาก่อน (ดูภาพได้ที่ท้ายข่าว)

ถึงแม้ว่าแอปเปิลจะหยุดจำหน่าย iPhone 4 และ iPhone 5 ในทุกตลาดแล้ว แต่ที่ประเทศจีนซึ่งเป็นตลาดพิเศษที่ประชากรจำนวนมากยังไม่สามารถเข้าถึงโทรศัพท์รุ่นใหม่ล่าสุดได้ ด้วยราคาที่ยังคงแพงอยู่

อีกทั้ง iPhone 5c ก็ไม่ได้ราคาถูกตามข่าวลือหรือการคาดการณ์แต่อย่างใด (หักปากกาเซียน) จนทำให้ชาวจีนจำนวนมากที่รอคอย iPhone 5c ราคาถูกต้องจ๋อยกันไป แอปเปิลจึงตัดสินใจจำหน่าย iPhone 4 ความจุ 8 GB ต่อไป

สำหรับตลาดในจีนนั้น iPhone 4 จะมีราคาถูกสุดคือ 2,588 หยวน ($423), iPhone 4s เริ่มที่ 3,288 หยวน ($537), iPhone 5c เริ่มที่ 4,488 ($733) และ iPhone 5s จะเริ่มต้นที่ 5,288 หยวน ($864)

อินเทลเปิดสายการผลิตซีพียูใหม่ในตระกูล Quark ที่เล็กกว่า Atom ลงไปอีกระดับ เทียบชั้นกับ ARM Cortex-M สำหรับใช้งานในคอมพิวเตอร์เพื่อควบคุมเซ็นเซอร์และเครื่องใช้ไฟฟ้า คอมพิวเตอร์สวมใส่ได้

Quark ยังคงเป็นซีพียู x86 แบบ SoC และการเปิดตัวนี้ยังไม่ระบุเวลาวางตลาดจริง โดยอินเทลระบุว่าจะเริ่มส่งมอบชิปตัวอย่างให้กับบริษัทออกแบบได้ในไตรมาสที่สี่ของปีนี้ โดยจะเน้นพันธมิตรที่เป็นกลุ่มอุตสาหกรรม, พลังงาน, และการขนส่ง

ที่มา - Intel

ข่าวการเปิดตัว iPhone 5S และ 5C เมื่อคืนนี้มีทั้งกระแสตอบรับเชิงบวกและเชิงลบ แต่ในสายตาของนักลงทุนในสหรัฐอาจดูไม่ค่อยดีเท่าไรนัก เพราะหุ้นแอปเปิลราคาตกลงจากวันก่อนหน้า 505 ดอลลาร์ ลดมาปิดตลาดที่ 494.64 ดอลลาร์ (ลดลง 2.28%) โดยตกไปต่ำสุดที่ 490.83 ดอลลาร์ก่อนดีดตัวกลับมาช่วงปิดตลาด

Yahoo! Finance วิเคราะห์ว่าปัจจัยสำคัญที่นักลงทุนไม่ชอบใจคือราคาของ iPhone 5C ที่เปิดตัวแพงกว่าที่คาด และเมื่อแอปเปิลเผยราคาของ iPhone 5C ก็ทำให้ราคาหุ้นร่วงทันที

พักหลังมานี้โนเกียทำการตลาดรูปแบบแปลกๆ โดยหลังจากยี่ห้ออื่นเปิดตัวสินค้าใหม่ ไม่ทันไรทวิตเตอร์ของโนเกียก็จะออกมา กัด, แซะ ไปทั่วไม่ว่าจะเป็นซัมซุงหรือโซนี่ รอบล่าสุดจะเป็นใครเสียไม่ได้ แอปเปิลนั่นเอง

แอปเปิลประกาศวันนี้ว่าแอพสร้างบัตรอวยพร Cards สำหรับ iOS จะหยุดให้บริการมีผลทันที รวมทั้งตัวแอพก็ถูกถอดออกจาก App Store แล้ว ทั้งนี้ผู้ใช้งานเดิมสามารถดูบัตรเชิญเก่าที่เคยสร้างไว้ได้ แต่ไม่สามารถสร้างบัตรใหม่ได้ โดยแอปเปิลแนะนำให้เปลี่ยนไปใช้ iPhoto '11 บน Mac สำหรับสร้างบัตรแทน

Cards เปิดตัวในงาน iPhone 4S เมื่อสองปีก่อนซึ่งเป็นบริการสร้างบัตรอวยพรเหมือนกับ iPhoto บน Mac แต่เป็นเวอร์ชัน iOS ผู้ใช้สามารถส่งบัตรอวยพรออนไลน์ได้ฟรี หรือสั่งพิมพ์บัตรออกมาในราคา 2.99 ดอลลาร์สำหรับอเมริกา และ 4.99 ดอลลาร์ สำหรับต่างประเทศ

ฟีเจอร์ที่น่าสนใจที่สุดของ iPhone 5S คงหนีไม่พ้น Touch ID Sensor หรือเซ็นเซอร์ตรวจสอบลายนิ้วมือที่ปุ่ม Home

รายละเอียดของเซ็นเซอร์ตัวนี้คือ

• วัสดุชั้นนอกสุดเป็น sapphire crystal ส่วนวงแหวนด้านนอกทำจากสเตนเลส
• ตัวเซ็นเซอร์หนา 170 ไมครอน ความละเอียด 500 ppi สแกนลายนิ้วมือลงลึกถึงชั้นใต้ผิวหนัง
• อ่านลายนิ้วมือได้หลายนิ้ว และอ่านได้จากทุกองศาการวางนิ้ว
• เก็บข้อมูลลายนิ้วมือของผู้ใช้ไว้ในชิป A7 ที่เข้าถึงได้เฉพาะจากฮาร์ดแวร์ Touch ID เท่านั้น ซอฟต์แวร์ตัวอื่นเข้าถึงไม่ได้ และจะไม่ส่งข้อมูลลายนิ้วมือออกนอกตัวโทรศัพท์ เช่น ส่งขึ้นเซิร์ฟเวอร์ของแอปเปิล
• การใช้งานคือปลดล็อคเครื่อง และยืนยันตัวตนก่อนซื้อสินค้าบน iTunes Store, App Store, iBooks Store
• Phil Schiller ยืนยันว่าแอปเปิลจะไม่เปิด Touch ID ให้นักพัฒนาภายนอกเข้าถึงและใช้เป็นการยืนยันตัวตน
• Tim Cook ยังไม่บอกว่าแอปเปิลจะใช้ Touch ID ตัวนี้กับผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ในอนาคตมากแค่ไหน แต่เขาก็ตอบว่าเราน่าจะจินตนาการว่ามันนำไปใช้ต่อได้อีกเยอะมาก

ในงานแถลงข่าวเปิดตัว iPhone 5S/5C แอปเปิลก็ประกาศแนวโน้มของยอดขายรวม iOS ทั้งหมดว่าจะแตะหลัก 700 ล้านเครื่องในเดือนหน้า (ตุลาคม)

ตัวเลขล่าสุดที่แอปเปิลเคยประกาศไว้คือ 600 ล้านเครื่องเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา

ส่วนคู่แข่งอย่าง Android นั้นประกาศยอดเปิดใช้ (activation ซึ่งไม่ใช่ยอดขายทั้งหมด เพราะนับเฉพาะ Google Android) แตะหลัก 1,000 ล้านเครื่องไปเมื่อเดือนที่แล้ว - ข่าวเก่า

ที่มา - TechCrunch

เว็บไซต์ Neowin และ SuperSite for Windows ของ Paul Thurrott คอลัมนิสต์ที่มีชื่อเสียงด้านผลิตภัณฑ์ของไมโครซอฟท์ รายงานสเปคของ Surface 2 แท็บเล็ตตัวถัดไปจาก Surface RT ซึ่งนอกจากข้อมูลที่ตรงกับข่าวก่อนหน้านี้อย่างซีพียู Tegra 4 และขาตั้งรุ่นใหม่ที่ผู้ใช้สามารถปรับมุมได้สองระดับ ยังมีรายละเอียดเพิ่มเติม ดังนี้

ของใหม่ที่สำคัญอีกอย่างของ iPhone 5S/5C คือการรองรับคลื่น LTE ของโอเปอเรเตอร์ทั่วโลกที่ดันใช้ย่านความถี่แตกต่างหลากหลายกันมาก ซึ่ง iPhone 5S/5C รองรับย่านความถี่เพิ่มขึ้นเป็น 17 ย่าน แต่ก็ต้องแบ่งเป็น 4 รุ่นย่อยเพื่อให้ครอบคลุมการใช้งานทั้งโลกครับ

ย่านความถี่ยืนพื้นที่รองรับในทุกรุ่นย่อยคือ 1 (2100 MHz) 2 (1900 MHz) 3 (1800 MHz) 5 (850 MHz) 8 (900 MHz)

ส่วนที่เหลือต่างกันตามรุ่นย่อย

NTT DOCOMO โอเปอเรเตอร์เบอร์หนึ่งของญี่ปุ่นที่ปฏิเสธการขาย iPhone มานานหลายปี วันนี้เขื่อนทลาย ประกาศวางขาย iPhone ทั้งรุ่น 5S และ 5C โดยจะอยู่ในประเทศชุดแรกที่ขาย iPhone คือวันที่ 20 กันยายนนี้

DOCOMO ระบุว่าจะเปิดให้สั่งซื้อล่วงหน้าตั้งแต่วันที่ 13 กันยายนเป็นต้นไป ส่วนราคายังไม่เปิดเผยครับ

ที่มา - Apple, NTT DOCOMO

แอปเปิลประกาศกลางงานเปิดตัว iPhone 5S และ iPhone 5C ว่าแอปเปิลจะแจกแอพพลิเคชั่นตระกูล iWork, iPhoto และ iMovie สำหรับอุปกรณ์ iOS ที่เพิ่งซื้อใหม่ทุกรุ่น (เฉพาะที่ลง iOS 7 มาอยู่แล้ว)

ส่วนผู้ใช้ปัจจุบันอย่างเรา ๆ ก็อดตามระเบียบนะครับ :-P

ที่มา: The Verge

ในงานเปิดตัว iPhone วันนี้มีอัพเดตข้อมูลเกี่ยวกับ iOS 7 เล็กน้อย รวมถึงประกาศวันเปิดให้ดาวน์โหลดอย่างเป็นทางการในวันที่ 18 กันยายนนี้

สำหรับฟีเจอร์ของ iOS 7 ที่ประกาศเพิ่มเข้ามา ส่วนมากทำมาเพื่อรองรับกับฮาร์ดแวร์ใหม่บน iPhone 5S ได้แก่รองรับการประมวลผลแบบ 64 บิตทั้งส่วนระบบปฏิบัติการ แอพ และการรองรับระบบสแกนลายนิ้วมือ Touch ID Sensor นั่นเอง

นอกจากนี้สำหรับผู้ใช้ที่จะซื้ออุปกรณ์ iOS ที่มาพร้อมกับ iOS 7 จะได้สิทธิ์ดาวน์โหลดแอพในชุด iWork ฟรีในระหว่างลงทะเบียนตัวเครื่อง อันได้แก่ Pages, Numbers, iMovie, Keynote และ iPhoto อีกด้วย

แม้ว่าในปีนี้แอปเปิลจะเปิดตัว iPhone รุ่นราคาถูก (ลงนิดนึง) แต่ก็ยังคงประเพณีลดราคารุ่นก่อนหน้าต่อ และเป็น iPhone 4S ที่จะยังขายต่อนั่นเอง

โดยราคาของ iPhone 4S จะลดลงกลายเป็นฟรีแบบติดสัญญาสองปี ส่วนในประเทศไทยราคาลดลงไปอยู่ที่ 14,900 บาทแล้วสำหรับรุ่นความจุ 8GB ในขณะที่ iPhone 5 หายไปจากหน้าเว็บอย่างไร้ร่องรอย ซึ่งก็ไม่แปลกเพราะสเปคใกล้เคียงกับ iPhone 5C ขนาดนั้น

ราคา iPhone 4S แบบลดแล้วยังหนักขนาดนี้ มารอลุ้นราคา iPhone 5C ในประเทศไทยกันดีกว่าครับว่าจะกลายเป็นพลาสติกราคาแพงหรือไม่

ที่มา - The Verge

ต่อเนื่องจาก iPhone 5C แอปเปิลก็เปิดตัว iPhone 5S มาตามคาด โดยเพิ่มสีใหม่เข้ามาอีกสีตามข่าวลือคือสีทองแชมเปญครับ

ด้านการออกแบบ iPhone 5S นั้นยืนพื้นจาก iPhone 5C ทุกประการ จะมีเปลี่ยนแปลงไปบ้างคือรูแฟลชด้านหลังที่ยาวขึ้นเพื่อรับกับฟีเจอร์ใหม่ Dual LED รวมถึงวงแหวนรอบปุ่มโฮมสำหรับสแกนลายนิ้วมือที่แอปเปิลเรียกว่า "Touch ID Sensor"

ส่วนสเปคอื่นๆ มีดังนี้ครับ

เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้วกับ iPhone 5C สมาร์ทโฟนราคาย่อมเยาตัวแรกจากรั้วแอปเปิลที่เผยโฉมมาก่อนใครในงานเปิดตัว iPhone วันนี้

ตัวเครื่องของ iPhone 5C ทำมาจากพลาสติกทั้งชิ้น ไม่มีให้เห็นรอยต่อไม่ว่าจะเป็นมุมใดก็ตาม ตัวเครื่องออกแบบมาโค้งมนตัดกับ iPhone 5 ที่เน้นไปแนวเหลี่ยมๆ เสียมาก

สเปคโดยสรุปมีดังนี้ครับ

หลังจากไปโผล่ใน NCC (กทช. ไต้หวัน) เมื่อสัปดาห์ก่อน ก็มีข่าวคราวของ NVIDIA Tab ออกมาอีกชุด โดยคราวนี้เจ้าแท็บเล็ตที่ว่าไปผ่านการขอใบรับรองที่ FCC ซึ่งเป็นองค์กรคล้ายกันแต่อยู่ฝั่งสหรัฐฯ แทน

รอบนี้มีข้อมูลตัวเครื่องมาให้มากกว่าเดิม โดยจะแบ่งเป็นสองโมเดลคือรุ่นธรรมดา และรุ่นพรีเมียมที่จะเพิ่มฟีเจอร์เข้ามาหลายอย่างได้แก่ พอร์ต mini HDMI, ช่องใส่ micro SD, สไตลัส และกล้องหลัง ส่วนสเปคยืนพื้นมีดังนี้ครับ