ในรายงานผลประกอบการ Facebook ไตรมาสที่ผ่านมา แม้ภาพรวมตัวเลขจะออกมาเติบโตทุกอย่าง ทั้งผู้ใช้งานรวมแบบ DAUs, MAUs ตลอดจนตัวเลขทางการเงิน ไม่ว่าจะเป็นรายได้และกำไร แต่ก็มีจุดเล็กๆ ที่น่าสนใจ นั่นคือจำนวนผู้ใช้งานแบบเป็นประจำทุกวัน (DAUs - Daily Active Users) เฉพาะภูมิภาคอเมริกาและแคนาดา ที่มีจำนวนลดลงจาก 185 ล้านคน เป็น 184 ล้านคน และถือเป็นครั้งของ Facebook ที่มีตัวเลขผู้ใช้ลดลงแบบนี้ (ปกติเพิ่มขึ้นทุกภูมิภาคในทุกไตรมาส)
นอกจากนี้ถ้าดูการเพิ่มขึ้นของ DAUs จะพบว่าไตรมาส 4/2017 มีตัวเลขเพิ่มขึ้น 33 ล้านคน จากไตรมาส 3/2017 เป็นจำนวนที่น้อยที่สุดในรอบ 2 ปี อีกด้วย
ถึงแม้ DAUs ในอเมริกาจะลดลง แต่หากมองในมุมการเงิน รายได้เฉลี่ยต่อผู้ใช้ของอเมริกาและแคนาดา ก็ยังคงทำสถิติใหม่สูงสุดคือ 26.76 ดอลลาร์ต่อคน จึงบอกได้ว่าปัญหา Facebook ตอนนี้น่าจะเป็นเรื่องการเติบโตของจำนวนผู้ใช้ที่เริ่มอิ่มตัวแล้ว ส่วนรายได้ยังไม่เป็นปัญหา เพราะ Facebook ยังมีแหล่งรายได้ใหม่คือ Instagram, WhatsApp และ Messenger
Sarah Frier จาก Bloomberg ให้ข้อสังเกตว่า ตอนนี้โลกมีผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตแล้ว 3.7 พันล้านคน แต่เมื่อหัก 1.6 พันล้านคนซึ่งอยู่ในจีนออกไป จะเห็นว่าสอดคล้องกับตัวเลข MAUs ของ Facebook 2.1 พันล้านคน จึงเห็นว่าการหาผู้ใช้ใหม่เพิ่มเข้ามาเริ่มยากขึ้น สิ่งที่ Facebook ต้องทำคือการรักษาผู้ใช้งานเดิม ที่อาจเคยสมัครไว้แต่ไม่ใช้งานแล้ว ให้กลับมาใช้งานมากขึ้น
เอกสารของ Facebook ระบุว่าวิธีวัด MAUs นั้นกำหนดว่า ผู้ใช้ต้องล็อกอินหรือแชร์เนื้อหาอย่างน้อยหนึ่งครั้งภายใน 30 วันสุดท้ายของไตรมาส วิธีการหนึ่งที่ Facebook ใช้ก็คือ การพยายามเชื้อเชิญผู้ใช้ที่ไม่ล็อกอินมานาน หรือระงับบัญชี (deactivate) ให้กลับมาใช้งานอีกครั้ง ตัวอย่างเช่น ส่งอีเมลบอกว่า ดูเหมือนคุณกำลังมีปัญหาในการล็อกอินใช้งาน Facebook เป็นต้น
เนื่องจากวิธีการดังกล่าวดูเหมือนเป็นการหลอกล่อเล็กๆ ตัวแทนของ Facebook ก็ได้ชี้แจงยืนยันว่าเจตนาไม่ใช่แบบนั้น และ Facebook เองมีการส่งอีเมลเตือนผู้ใช้ด้วยหลายสาเหตุที่แตกต่างกันไป บางคนอาจได้รับอีเมลแจ้งให้ไปดูการโพสต์ของเพื่อน, แจ้งเตือนครบรอบเหตุการณ์ ฯลฯ
การเชื้อเชิญให้คนกลับไปใช้งานนั้น หากเป็นเรื่องส่วนตัวของผู้ใช้ หรือเป็นเรื่องเพื่อนคนใกล้ตัว ก็ย่อมมีผลกระทบดีกว่า นี่จึงอาจเป็นคำอธิบายได้ว่าทำไม Facebook จึงเริ่มกลับมาเน้นโพสต์และเนื้อหาจากเพื่อนมากขึ้นนั่นเอง
Comments
ข้อความแจ้งนี่ confirm ไหม เพราะได้ข้อความนี้ค่อนข้างบ่อย โดยที่ไม่ได้มีปัญหาการ login อะไรเลย
คนอื่นพยายามเข้าบัญชีคุณหรือเปล่าครับ
ต้องให้ Donald Trump โพสต์เฟซบุ๊กแรงเท่าที่ทวีตใน Twitter คนอเมริกันถึงเล่นเยอะขึ้น
ปัญหาผู้ใช้ไม่เข้าไปเล่นเป็นเวลานาน ถ้าในไทย ที่ผมเจอลุงป้าน้าอาและพี่ๆหลายๆคนที่รู้จัก มีมากกว่า 1 บัญชีและไม่ได้เข้าใช้กันเยอะ
เหตุเพราะ ลืมชื่อผู้ใช+รหัส บางคนก็ให้ร้านตู้ทำเฟสให้ไม่รู้ชื่อผู้ใช+รหัส พอเวลามีเหตุเข้าใช้ไม่ได้ หรือลงแอปใหม่ หรือเปลี่ยนเครื่องใหม่ก็ต้องทิ้งเฟสเดิมมาสมัครใหม่ ชื่อผู้ใช้นั้นก็ค้างคาอยู่ในระบบไม่เคยได้กลับไปใช้อีก ถึงเฟสบุคจะส่งเมลไปให้ก็ไม่เป็นผล เพราะท่านเหล่านี้ไม่เคยเปิดหรือบางทีอาจไม่รู้จักอีเมลแอดเดรสตัวเองเลยด้วยซ้ำ
คนที่ท็อปสุดที่ผมรู้จักนี่ทำเฟสใหม่มาแล้วไม่ต่ำกว่า 7 ครั้ง
เจอเหตุการณ์ทำนองนี้เหมือนกันครับ บางทีจดรหัสให้ก็เอาไปไว้ไหนไม่รู้หาไม่เจอ ตอนเปลี่ยนเครื่องจะรีเซ็ทรหัสผ่านก็เข้าเมลไม่ได้อีก โนสนโนแคร์ (ทั้งอีเมลแอดเดรสและรหัสผ่าน) สุดท้ายลงเอยด้วยการสมัครใหม่เพิ่มจำนวนการเติบโตให้ Facebook (ฮา)
Twitter จงเจริญ #ทีมอวย
ผมได้เมลนี้เช่นกัน อยากจะกด report phishing เพราะไม่คิดว่าจะเป็นของจริง บริษัทใหญ่แบบนี้ไม่น่าทำแนวนี้ แต่พอเช็คไปมา อ้าว ของจริงนี่นา
ต้องสมัยยุคแรกๆของ facebook คุณจะพบอีเมลเนื้อหาประมาณ คุณ A เพื่อนคุณได้เปิดใช้งานเฟสบุคแล้ว คุณสนใจจะเปิดใช้งานบ้างหรือไม่
เจอแบบนี้ทุกๆวัน ยิ่งเพื่อนมีเฟสกันมากขึ้นก็ยิ่งมีเมลมามาก
สแปมสุดๆ
ผมกลับไปเล่น twitter มากขึ้นซะอีก - -"
ผมเล่นทวิตเตอร์มากสุด ลำไยเฟซ
อ่านข่าว ติดตาม technololy และกลุ่มที่ชอบอะไรเหมือนๆกัน -> ผมใช้ twitter
ติดตามข่าวสารญาติๆ เพื่อนๆที่ทำงาน viral ต่างๆ -> ผมใช้ facebook
หลังๆเริ่มเปิด twitter มากขึ้นกว่าเดิม
ส่วน IG Snapchat ผมไม่ใช้ครับ