Moto X เคยถูกวางตัวเป็นเรือธงของโมโตโรลามาตั้งแต่อยู่ภายใต้ร่มกูเกิล โดย Moto X 2 รุ่นแรกถือว่าค่อนข้างได้รับเสียงตอบรับที่ค่อนข้างดี โดยเฉพาะในแง่ของเสียงวิจารณ์ ก่อนที่โมโตโรลาจะเริ่มแตกไลน์เป็น 2 รุ่นย่อยใน Moto X รุ่นที่ 3 และซีรีส์นี้หายไปจากไลน์สมาร์ทโฟนโมโตโรลาเมื่อถูก Lenovo เข้าซื้อ
ล่าสุด Lenovo ชุบชีวิตซีรีส์ Moto X อีกครั้งในชื่อ Moto X4 ถูกวางตัวเอาไว้เป็นรุ่นรอง Moto Z และเป็นรุ่นบนของ Moto G อย่างไรก็ตามเอกลักษณ์ดั้งเดิมของโมโตโรลาทีทำเอาไว้ตั้งแต่ Moto X รุ่นแรกๆ โดยเฉพาะเรื่องของดีไซน์และลำโพง ล้วนหายไปนานแล้ว ทำให้ Moto X4 รุ่นนี้ไม่ได้ให้ความรู้สึกแตกต่างจากรุ่นอื่นๆ มากนักนอกจากเรื่องของสเปค

เหล้าใหม่ในขวดใหม่

หนึ่งในความโดดเด่นของ Moto X4 ที่ยังคงเหมือนเดิมคือหน้าจอที่สีสดใส ถึงแม้แพแนลหน้าจอจะเปลี่ยนจาก AMOLED เป็น IPS LCD ก็ตาม

ดีไซน์ดั้งเดิมของ Moto X คือฝาหลังมีความโค้งรับกับอุ้งมือ ช่วยให้มีความรู้สึกกระชับเมื่อถืออยู่ในมือ โดยบอดี้เดิมจะเป็นพลาสติกเป็นหลัก แต่ Moto X4 มีดีไซน์เป็นไปในทิศทางเดียวกับรุ่นอื่นๆ ในปีที่แล้วคือแบนเรียบ ขณะที่บอดี้ก็เปลี่ยนเป็นโลหะร่วมกับกระจก เน้นความเงาและสวยงามแทน

ด้านบนเป็นทั้งลำโพงโทรศัพท์และลำโพงของสื่อบันเทิงต่างๆ ในแง่ของความดังถือว่าใช้ได้

ด้านล่างเป็นเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ ซึ่งก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ “ค่อนข้าง” เร็ว โดยจุดเด่นของเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือของโมโตโรลาที่ทำมาต่อเนื่องคือสามารถใช้ล็อคหน้าจอได้ด้วย เมื่อกดค้างโดยใช้นิ้วไหนก็ได้

กล้อง

กล้องหลัง Moto X4 มาตามสมัยนิยมคือกล้องคู่ 12 ล้าน + 8 ล้านพิกเซล โดยเลนส์ที่เสริมเข้ามาเป็นเลนส์มุมกว้าง ส่วนฟีเจอร์กล้องให้มาค่อนข้างเยอะ ก่อนจะพบว่าใช้งานจริงได้ไม่ไม่กี่ฟีเจอร์เท่านั้น

Moto X4 มีฟีเจอร์ถ่ายหน้าชัดหลังเบลอหรือที่เรียกว่าโหมด Depth ตามสมัยนิยมด้วย สามารถเลือกสเกลได้ว่าพื้นหลังจะเบลอมากเบลอน้อยแค่ไหน แต่ทว่าภาพที่ออกกลับไม่ได้สวยงามขนาดนั้น การเบลอเสมือนเป็นการใส่ฟิลเตอร์เบลอแบบใน Photoshop มากกว่าที่จะเป็นการเบลอตามความระยะของวัตถุกับเลนส์ และที่สำคัญคือการเก็บขอบวัตถุได้ไม่แม่นยำมากนัก

เมื่อเปิดโหมด Depth แถบเลือกสเกลความเบลอจะอยู่ด้านขวาในภาพ

ไม่เปิดโหมด Depth

เปิดโหมด Depth สุด

ส่วนประสิทธิภาพของกล้องตอนกลางวันถือว่าค่อนข้างดี สีค่อนข้างสด ขณะที่ในที่แสงน้อยก็ตามสภาพของกล้อง คือน้อยส์เริ่มเยอะ ภาพเริ่มแตก

เลนส์หลัก

เลนส์ไวด์

นอกจากนี้ Moto X4 ยังมีฟีเจอร์ค้นหาข้อมูลจากรูปผ่านกล้อง ลักษณะเดียวกับ Google Lens ทว่าในแง่การใช้งานจริงยังด้อยกว่ามากๆ ทั้งความช้าและแทบค้นหาอะไรไม่ได้เลย

การใช้งานทั่วไป

ด้วยความเป็นเพียวแอนดรอยด์ ประสบการณ์รวมๆ ก็ถือว่าดีตามมาตรฐาน ไม่มีหน่วง ไม่มีกระตุกและไม่มีแอป bloatware มีเพียง Moto Action ของโมโตโรลาที่มีมาตั้งแต่รุ่นแรกเท่านั้น โดยความสามารถหลักๆ ก็มีการถือ Moto X4 แล้วบิดข้อมือเพื่อเปิดกล้อง, หรือทำท่าสับ (chop) เพื่อเปิดไฟฉาย ไม่รวม Moto Display ที่ตัวเครื่องจะแสดงนาฬิกาพร้อมการแจ้งเตือน เมื่อมีการหยิบเครื่อง หรือมีการเคลื่อนไหวใกล้ๆ ตัวเครื่อง

ในแง่ของแบตเตอรี่ Moto X4 ให้มา 3,000 mAh ซึ่งดูไม่เยอะไม่น้อย แต่เอาเข้าจริงก็พอกล้อมแกล้มที่จะใช้งานได้ทั้งวัน ยกเว้นเล่นเกมหนักๆ หรือเล่นเฟซบุ๊กหนักๆ ก็อาจอยู่ไม่ถึง แต่ก็มีฟีเจอร์ Turbo Power ของโมโตโรลาที่เป็นฟีเจอร์ชาร์จ ชาร์จจาก 0 ขึ้นมาราวๆ 50-60% ภายใน 30-40 นาทีเท่านั้น

อีกหนึ่งความสามารถใหม่ที่เพิ่มเข้ามาคือการกันน้ำกันฝุ่นมาตรฐาน IP68 ซึ่งอาจพอบอกได้ว่าช่วยสร้างความแตกต่างจากสมาร์ทโฟนในระดับเดียวกันที่ไม่ค่อยมีความสามารถนี้

อีกหนึ่งจุดที่ยังเป็นปัญหาสำหรับโมโตโรลาในแง่ของการใช้งานเพียวแอนดรอยด์ คือการอัพเดตแพตช์รายเดือนที่ได้ช้าหรือไม่ได้เลย ข้ามทีหลายเดือน (แพทช์ล่าสุดที่ได้คือพฤศจิกายน) ส่วนแอนดรอยด์ Oreo ที่ประกาศมาตั้งแต่ช่วงกันยายน-ตุลาคม ก็เพิ่งได้รับเมื่อเดือนที่แล้วพร้อมแพทช์เดือนธันวาคม (มกราคมยังไม่ได้)

สรุป

ด้วยความที่ดีไซน์สมาร์ทโฟนของโมโตโรลาแทบจะไม่แตกต่างกันมากในหลายๆ รุ่น ทำให้ส่วนตัวรู้สึกว่าความโดดเด่นอย่างเดียวของ Moto X4 คือ IP68 กันน้ำกันฝุ่นและวัสดุที่เป็นกระจกและโลหะ ที่ค่อนข้างสวยงาม ซึ่งถึงจะเป็นรอยนิ้วมือง่ายแต่ก็ทำความสะอาดง่าย ในส่วนแง่การใช้งานและฟีเจอร์รวมๆ ไม่แตกต่างจากรุ่นอื่นๆ ของโมโตโรลาเท่าไหร่นัก